ความเคลื่อนไหวของแผนก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องการทำให้สำเร็จภายใต้การบริหารงานของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม และคณะผู้บริหาร สภากรรมการ
ซึ่งการขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมาดำเนินการก่อสร้างนั้น มีขั้นตอน และระเบียบในการพิจารณาใช้ที่ดิน ที่จะต้องได้รับอนุมัติตามชั้นลำดับ และมีระยะเวลาในการดำเนินการ โดยสมาคมได้มีการลงสำรวจพื้นที่ ใกล้หมู่บ้านหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้ส่งหนังสือขอใช้พื้นที่ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมด้วย นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคม และคณะทำงาน เดินทางมาร่วมการประชุม เพื่อทำประชาสังคมกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทับใต้ เพื่อชี้แจงข้อมูลโครงการทันที หลังสภาเทศบาลเมืองชะอำได้มีมติเห็นชอบการขออนุญาตใช้พื้นที่บ้านหนองพรานพุก เพื่อจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้กล่าวกับชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านหนองพรานพุก ว่า หากได้รับการเห็นชอบ และได้เกิดโครงการนี้ขึ้นจากการสนับสนุนของท้องถิ่น เราจะนำสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน และระดับประเทศมาที่นี่ ซึ่งการก่อสร้างศูนย์ฝึก ไม่ได้สร้างมลพิษ ไม่ได้เป็นการสร้างสิ่งปฏิกูล แต่สร้างความมั่นคงให้กับชุมชน เกิดการจ้างงาน การอุดหนุนสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น การจัดกิจกรรมฟุตบอลระดับพื้นฐานและเยาวชนในศูนย์ฝึก ชุมชนจะต้องขยายเพื่อรองรับจำนวนผู้คนที่จะมาเข้าร่วมจากทั่วประเทศ
“ในปัจจุบันนี้ สมาคมฯ ยังต้องเช่าโรงแรม สนามซ้อม ให้กับทีมชาติไทย ซึ่งบางครั้งอาจจะขาดความเป็นส่วนตัว ต่างจากประเทศชั้นนำในฟุตบอล หรือแม้กระทั้งประเทศเพื่อนบ้านที่ได้เดินหน้าในเรื่องเหล่านี้มานานแล้ว
หากเรามีศูนย์ฝึกที่มีมาตรฐาน ทีมชาติไทยทุกชุด เราจะมีสถานที่ฝึกซ้อม เก็บตัว ที่พัก และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการพัฒนาศักยภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งฟุตบอล ฟุตซอล ฟุตบอลชายหาด ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากประชาชนในชุมชนแห่งนี้ มันคือจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ เป็นก้าวสำคัญต่อความสำเร็จในภายภาคหน้าของฟุตบอลไทย” บิ๊กอ๊อดกล่าว
ด้าน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เปิดเผยว่า ขอเรียนให้ทราบว่าการขอใช้ที่ดิน เพื่อก่อสร้างศูนย์ฝึกนั้นมีขั้นตอน ซึ่งสมาคมคอยติดตามอย่างใกล้ชิด และทันทีที่ทราบว่าจะมีการทำประชาสังคม เพื่อฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ จึงได้เดินทางเข้ามาร่วมให้ข้อมูลทันที ทั้งนี้ เพื่อให้ท้องถิ่นได้ทราบว่า การสร้างศูนย์ฝึกนั้นนอกจากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาฟุตบอลแล้ว ยังก่อให้เกิดการพัฒนา เติบโตทั้งเศรษฐกิจ การจ้างงาน สังคมที่ได้ขับเคลื่อนด้วยกีฬาในชุมชน รวมไปถึงพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนหย่อม ที่ออกกำลังกาย ที่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
“นี่คือสิ่งที่สมาคมต้องการให้เกิดขึ้น และคงไว้ ส่งต่อการพัฒนาฟุตบอลในระยะยาว ไม่ว่าผู้บริหารของสมาคมจะเปลี่ยนผ่านไปอย่างไรในอนาคต โดยหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาระดับอำเภอ จังหวัด และสู่กระทรวงมหาดไทย เพื่ออนุมัติต่อไป” นายพาทิศกล่าวปิดท้าย
สำหรับ ศูนย์ฝึกฟุตบอลครบวงจร ถือเป็นหนึ่งในโครงการตามแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ต้องการผลักดันวงการลูกหนังเมืองไทย และพัฒนาฟุตบอลไทยทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับรากหญ้า เยาวชน ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน นักกายภาพบำบัด ไปจนถึงนักวิทยาศาสตร์การกีฬาฟุตบอล
cr. มติชนออนไลน์
รอมา 3 ปี หลังจากเซ็น MOU กับคิงส์พาวเวอร์ ในที่สุดสมาคมก็หาที่ดินได้แล้วครับ จากนี้ไปก็รอดูว่าศูนย์ฝึกจะเริ่มก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างเมื่อไหร่ แม้จะเป็นก้าวเล็กๆแต่เป็นก้าวสำคัญของฟุตบอลไทยจริงๆ
หาที่ได้แล้ว! ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติผ่านประชาสังคมเตรียมสร้างที่หัวหิน
ความเคลื่อนไหวของแผนก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องการทำให้สำเร็จภายใต้การบริหารงานของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม และคณะผู้บริหาร สภากรรมการ
ซึ่งการขอใช้พื้นที่จากหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมาดำเนินการก่อสร้างนั้น มีขั้นตอน และระเบียบในการพิจารณาใช้ที่ดิน ที่จะต้องได้รับอนุมัติตามชั้นลำดับ และมีระยะเวลาในการดำเนินการ โดยสมาคมได้มีการลงสำรวจพื้นที่ ใกล้หมู่บ้านหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้ส่งหนังสือขอใช้พื้นที่ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมด้วย นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคม และคณะทำงาน เดินทางมาร่วมการประชุม เพื่อทำประชาสังคมกับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ทับใต้ เพื่อชี้แจงข้อมูลโครงการทันที หลังสภาเทศบาลเมืองชะอำได้มีมติเห็นชอบการขออนุญาตใช้พื้นที่บ้านหนองพรานพุก เพื่อจัดตั้งศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้กล่าวกับชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านหนองพรานพุก ว่า หากได้รับการเห็นชอบ และได้เกิดโครงการนี้ขึ้นจากการสนับสนุนของท้องถิ่น เราจะนำสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน และระดับประเทศมาที่นี่ ซึ่งการก่อสร้างศูนย์ฝึก ไม่ได้สร้างมลพิษ ไม่ได้เป็นการสร้างสิ่งปฏิกูล แต่สร้างความมั่นคงให้กับชุมชน เกิดการจ้างงาน การอุดหนุนสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น การจัดกิจกรรมฟุตบอลระดับพื้นฐานและเยาวชนในศูนย์ฝึก ชุมชนจะต้องขยายเพื่อรองรับจำนวนผู้คนที่จะมาเข้าร่วมจากทั่วประเทศ
“ในปัจจุบันนี้ สมาคมฯ ยังต้องเช่าโรงแรม สนามซ้อม ให้กับทีมชาติไทย ซึ่งบางครั้งอาจจะขาดความเป็นส่วนตัว ต่างจากประเทศชั้นนำในฟุตบอล หรือแม้กระทั้งประเทศเพื่อนบ้านที่ได้เดินหน้าในเรื่องเหล่านี้มานานแล้ว หากเรามีศูนย์ฝึกที่มีมาตรฐาน ทีมชาติไทยทุกชุด เราจะมีสถานที่ฝึกซ้อม เก็บตัว ที่พัก และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการพัฒนาศักยภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งฟุตบอล ฟุตซอล ฟุตบอลชายหาด ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนจากประชาชนในชุมชนแห่งนี้ มันคือจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ เป็นก้าวสำคัญต่อความสำเร็จในภายภาคหน้าของฟุตบอลไทย” บิ๊กอ๊อดกล่าว
ด้าน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เปิดเผยว่า ขอเรียนให้ทราบว่าการขอใช้ที่ดิน เพื่อก่อสร้างศูนย์ฝึกนั้นมีขั้นตอน ซึ่งสมาคมคอยติดตามอย่างใกล้ชิด และทันทีที่ทราบว่าจะมีการทำประชาสังคม เพื่อฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ จึงได้เดินทางเข้ามาร่วมให้ข้อมูลทันที ทั้งนี้ เพื่อให้ท้องถิ่นได้ทราบว่า การสร้างศูนย์ฝึกนั้นนอกจากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาฟุตบอลแล้ว ยังก่อให้เกิดการพัฒนา เติบโตทั้งเศรษฐกิจ การจ้างงาน สังคมที่ได้ขับเคลื่อนด้วยกีฬาในชุมชน รวมไปถึงพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนหย่อม ที่ออกกำลังกาย ที่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
“นี่คือสิ่งที่สมาคมต้องการให้เกิดขึ้น และคงไว้ ส่งต่อการพัฒนาฟุตบอลในระยะยาว ไม่ว่าผู้บริหารของสมาคมจะเปลี่ยนผ่านไปอย่างไรในอนาคต โดยหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาระดับอำเภอ จังหวัด และสู่กระทรวงมหาดไทย เพื่ออนุมัติต่อไป” นายพาทิศกล่าวปิดท้าย
สำหรับ ศูนย์ฝึกฟุตบอลครบวงจร ถือเป็นหนึ่งในโครงการตามแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ต้องการผลักดันวงการลูกหนังเมืองไทย และพัฒนาฟุตบอลไทยทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับรากหญ้า เยาวชน ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน นักกายภาพบำบัด ไปจนถึงนักวิทยาศาสตร์การกีฬาฟุตบอล
cr. มติชนออนไลน์
รอมา 3 ปี หลังจากเซ็น MOU กับคิงส์พาวเวอร์ ในที่สุดสมาคมก็หาที่ดินได้แล้วครับ จากนี้ไปก็รอดูว่าศูนย์ฝึกจะเริ่มก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างเมื่อไหร่ แม้จะเป็นก้าวเล็กๆแต่เป็นก้าวสำคัญของฟุตบอลไทยจริงๆ