สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวถนนนักเขียน ตัวร้ายฯเพิ่งว่างจากภารกิจแจกสลากนำโชคค่ะ แฮร่ๆ
ได้มานิดหน่อยขอมาวางก่อน กลัวเพื่อนๆจะลืมเค้าอะ กรุบกริบๆเนอะ ^^
ว่าแต่ใครอยู่ทีมไหนเชียร์ใครกันเอ่ย...ระหว่างตี๋แว่นแสนดีอย่างณรงค์วิทย์ กับ หล่ออุ่นๆแบบอานนท์ ???
อ่านเรื่องราวตอนที่ 1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/36607445
ติดตามเรื่องราวตอนที่ 2 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/36610800
Cr.Google
หยาดฝนโปรยลงมาในช่วงเย็น ทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยเมฆหนา ทำให้วันนี้ดูเหมือนจะมืดเร็วกว่าปกติ ฝนในฤดูร้อนให้ความรู้สึกสดชื่นและแฝงด้วยความเหงา พายุที่พัดผ่านยืนยันความแน่นอนที่เหมือนไม่แน่นอน ฤดูร้อนก็มีพายุไม่ต่างกับชีวิต... หลายคนรอให้มีฝนเพื่อจะได้คลายความอบอ้าว หลายคนไม่ชอบฝนเพราะนอกจากความแฉะชื้นแล้วยังมีสภาพรถติด และอาจเกิดการระบายน้ำไม่ทันจนเกิดน้ำท่วมขังในบางจุด แน่นอนว่าวันนี้มุกเมษาอยู่ในกลุ่มหลัง
มุกเมษาไม่ใช่ไม่ชอบฝนซะทีเดียว เพราะถ้าหากไม่มีนัดกับณรงค์วิทย์ วันหยุดฝนโปรยเช่นนี้เธอจะซุกตัวในผ้าห่มและเลือกชมรายการทีวีอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้เธอต้องมองเม็ดฝนผ่านหน้าต่างใสของร้านอาหารและเบเกอรี่เล็กๆ ที่ตกแต่งสไตล์วินเทจน่ารัก ซึ่งถือเป็นร้านประจำของเธอเลยก็ว่าได้
ณรงค์วิทย์เคยพาเธอมาเลี้ยงต้อนรับที่นี่เมือตอนเริ่มเข้าเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทฯ มุกเมษาชอบร้านนี้เพราะเดินทางสะดวกบรรยากาศเป็นกันเอง ถ้าฝนไม่ตกเธอจะเลือกนั่งชมสวนที่มุมระเบียงด้านนอก ที่ร้านยังมีบริการหนังสืออ่านเล่นให้เลือกหลากหลายอีกด้วย
ภายในร้านมีลูกค้าวัยรุ่น และหนุ่มสาวนั่งคุยกันเป็นคู่ดูน่าอิจฉาพวกเขาช่างมีเวลาแสนอบอุ่นน่าจดจำแม้ในยามฝนตกเช่นนี้ มุกเมษาใจลอยคิดถึงใครบางคนแล้วเผยยิ้มหม่น เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาสดๆเมื่อวานนี้เอง ถึงเธอจะหาเรื่องกลบเกลื่อนอย่างไรภาพเหล่านั้นก็เข้ามาในสมองได้อยู่ดี ความรู้สึกอ่อนแอวิ่งปะทะจนล้าเหลือเกิน...เธอคิดอยากได้อะไรหวานๆมากลบความขมในใจยิ่งนัก
เมื่อไม่อยากนั่งโดดเดี่ยวที่โต๊ะ มุกเมษาจึงเลือกนั่งตรงเค้าน์เตอร์บาร์ ที่จัดไว้เกือบด้านในสุดของร้าน เธอเขย่งเท้าขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงสีพาสเทล รูปทรงเก๋จะกลมก็ไม่กลมจะรีก็ไม่รี พอดูๆแล้วมันก็น่ารักดีและนั่งสบายเสียด้วย
พนักงานยื่นเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้ด้วยความกระฉับกระเฉง เขาดูจะไฮเปอร์หน่อยๆ มุกเมษาไม่ได้ยื่นมือไปรับเมนูอาหารจากพนักงาน ด้วยอารมณ์สีเทาในตอนนี้เธอเพียงยกยิ้มที่มุมปากให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ช็อคโกแลตร้อนเพิ่มวิป กับเค้กมะพร้าวอ่อนค่ะ” เหมือนสมองถูกป้อนโปรแกรมไว้แล้ว เธอสั่งออกไปโดยไม่ลังเลเนื่องจากซ็อคโกแลตและเค้กของที่นี่ เธอรีวิวไว้ที่ความอร่อยระดับห้าดาวเลยทีเดียว
“ได้คร๊าฟฟฟฟ..คุณผู้หญิง” หนุ่มน้อยหน้าทะเล้นรับออเดอร์ด้วยความสดใสพร้อมก้มคำนับทำท่าทางเหมือนว่าเธอคือหญิงสูงศักดิ์
มุกเมษาหัวเราะคิก ความหม่นเทาเมื่อครู่เริ่มจางหายไป เธอนึกสนุกกระโดดลงมายกแขนเหมือนจับกระโปรง เอียงคอ แล้วไขว้เท้าย่อตัวรับคำนับของเขาเช่นกัน หนุ่มน้อยยิ้มร่าเริงให้เธอก่อนหันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เธอมาร้านนี้หลายครั้งจึงคุ้นหน้าคุ้นตากับพนักงานที่นี่เป็นอย่างดี
ดนตรีบอสซ่าเบาๆ กับช็อคโกแลตแก้วโปรดนำรอยยิ้มแห่งความสุขกลับมาสู่ใบหน้ารูปไข่อีกครั้ง เพียงแค่ได้ลิ้มรสความอร่อยก็พร้อมที่จะลืมทุกสิ่งจนหมดสิ้น มุกเมษาแกว่งเท้าเล็กๆไปมา วางศอกทั้งสองบนบาร์และประคองมือถือถ้วยช็อคโกแลตอุ่น เพลิดเพลินกับการละเลียดจิบซ็อคโกแลตข้นหวานมันอย่างสบายอารมณ์ ถ้าฟ้าจะถล่มลงมาตอนนี้เธอก็ยินดีที่จะตายอย่างสงบสุข
รอยคิ้วย่นเล็กน้อยปรากฏขึ้นเมื่อเกิดความลังเลที่จะทานเค้กชิ้นที่น่าเย้ายวนนั้น เธอควรจะรอณรงค์วิทย์ก่อนดีมั้ย สีหน้าครุ่นคิดปรากฏบนใบหน้าเล็กๆเพียงแวบเดียว ก็ได้ผลสรุป....
วันนี้เธอใช้เวลาเลือกของขวัญให้เขาไปครึ่งค่อนวัน แถมมาถึงร้านก่อนเกือบชั่วโมงให้นั่งหิ้วท้องรออย่างนั้นหรือ...ไม่มีทางซะหรอก
คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
สักครู่มุกเมษาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโหมดบันทึกภาพ แม้ช็อคโกแลตจะมีร่องรอยการซดไปเกือบครึ่ง และเค้กจะมีรอยแหว่งไปแล้ว แต่เธอไม่ได้ให้ราคากับมัน
“ไม่รอนะ”
ข้อความถูกส่งไปก่อนตามด้วยภาพช็อคโกแลตและเค้ก ปิดท้ายด้วยสติ๊กเกอร์สีหน้ากวนใจอีกตัว ภาพและข้อความถูกส่งไปถึงไอดีไลน์ที่ถูกบันทึกชื่อไว้ว่า “พี่แว่น”
“ตึ๋ง ๆ”
มุกเมษาไม่ทันได้ปิดหน้าจอโทรศัพท์ ภาพสติ๊กเกอร์ที่ “พี่แว่น” ส่งมาจึงส่งเสียงดังแหวกบรรยากาศรื่นรมย์นั้นอย่างช่วยไม่ได้
“ไอ้อ้วนนน...ไอ้อ้วนนน..”
“ห๋าาา.... “
มุกเมษาอ้าปากเหวอ หันไปมองพนักงานที่กลั้นอมยิ้ม เธอได้แต่ส่งยิ้มแหยแก้เขิน แล้วหันมองไปยังโต๊ะอื่นๆโชคดีที่ไม่มีใครสนใจ เธอถอนใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
จากนั้นสงครามสติ๊กเกอร์ก็พลันอุบัติขึ้น ความจริงเธอไม่ได้โกรธเขาเลยสักนิดเพราะเธอก็อยากจะอวบอิ่มแบบสาวแม็กซิมบนหน้าปกหนังสือที่กำลังเลือกอ่านอยู่นะ แต่การมีกิจกรรมระหว่างรอคงดีกว่าปล่อยจิตใจให้ฟุ้งซ่านเป็นไหนๆ หรือแท้จริงแล้วคนตัวเล็กมีสัญชาตญาณในการเอาชนะกันแน่
ต่างฝ่ายต่างงัดสติ๊กเกอร์ในคลังมาเกทับกันจนสุดท้ายกลายเป็น “พี่แว่น” ที่ส่งภาพยกธงขาวขอสงบศึก มุกเมษายิ้มกว้างรับชัยชนะ เธอยังไม่ทันจะส่งข้อความตอบกลับไป บนหน้าจอมือถือก็เด้งข้อความใหม่ตามมาอีกครั้ง
“รอนะครับ ใกล้ถึงแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
มุกอันดา
กรกฎา 60
ติดตามตอนจบได้ที่
https://m.ppantip.com/topic/36630283?
ปล.มุกเมษานี่นางอารมณ์ขึ้นๆลงว่ามะ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเศร้า
แต่คนมีความรักมันก็ประมาณนี้แหละมั้ง ตัวร้ายรู้...ตัวร้ายเคยเป็น ^^
ณ ขณะนี้...ที่หัวใจ ❤💖 ตอนที่ 2.1 🌸🌸🌸
ได้มานิดหน่อยขอมาวางก่อน กลัวเพื่อนๆจะลืมเค้าอะ กรุบกริบๆเนอะ ^^
ว่าแต่ใครอยู่ทีมไหนเชียร์ใครกันเอ่ย...ระหว่างตี๋แว่นแสนดีอย่างณรงค์วิทย์ กับ หล่ออุ่นๆแบบอานนท์ ???
อ่านเรื่องราวตอนที่ 1 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/36607445
ติดตามเรื่องราวตอนที่ 2 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/36610800
Cr.Google
ณ ขณะนี้...ที่หัวใจ
หยาดฝนโปรยลงมาในช่วงเย็น ทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยเมฆหนา ทำให้วันนี้ดูเหมือนจะมืดเร็วกว่าปกติ ฝนในฤดูร้อนให้ความรู้สึกสดชื่นและแฝงด้วยความเหงา พายุที่พัดผ่านยืนยันความแน่นอนที่เหมือนไม่แน่นอน ฤดูร้อนก็มีพายุไม่ต่างกับชีวิต... หลายคนรอให้มีฝนเพื่อจะได้คลายความอบอ้าว หลายคนไม่ชอบฝนเพราะนอกจากความแฉะชื้นแล้วยังมีสภาพรถติด และอาจเกิดการระบายน้ำไม่ทันจนเกิดน้ำท่วมขังในบางจุด แน่นอนว่าวันนี้มุกเมษาอยู่ในกลุ่มหลัง
มุกเมษาไม่ใช่ไม่ชอบฝนซะทีเดียว เพราะถ้าหากไม่มีนัดกับณรงค์วิทย์ วันหยุดฝนโปรยเช่นนี้เธอจะซุกตัวในผ้าห่มและเลือกชมรายการทีวีอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้เธอต้องมองเม็ดฝนผ่านหน้าต่างใสของร้านอาหารและเบเกอรี่เล็กๆ ที่ตกแต่งสไตล์วินเทจน่ารัก ซึ่งถือเป็นร้านประจำของเธอเลยก็ว่าได้
ณรงค์วิทย์เคยพาเธอมาเลี้ยงต้อนรับที่นี่เมือตอนเริ่มเข้าเป็นเด็กฝึกงานที่บริษัทฯ มุกเมษาชอบร้านนี้เพราะเดินทางสะดวกบรรยากาศเป็นกันเอง ถ้าฝนไม่ตกเธอจะเลือกนั่งชมสวนที่มุมระเบียงด้านนอก ที่ร้านยังมีบริการหนังสืออ่านเล่นให้เลือกหลากหลายอีกด้วย
ภายในร้านมีลูกค้าวัยรุ่น และหนุ่มสาวนั่งคุยกันเป็นคู่ดูน่าอิจฉาพวกเขาช่างมีเวลาแสนอบอุ่นน่าจดจำแม้ในยามฝนตกเช่นนี้ มุกเมษาใจลอยคิดถึงใครบางคนแล้วเผยยิ้มหม่น เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาสดๆเมื่อวานนี้เอง ถึงเธอจะหาเรื่องกลบเกลื่อนอย่างไรภาพเหล่านั้นก็เข้ามาในสมองได้อยู่ดี ความรู้สึกอ่อนแอวิ่งปะทะจนล้าเหลือเกิน...เธอคิดอยากได้อะไรหวานๆมากลบความขมในใจยิ่งนัก
เมื่อไม่อยากนั่งโดดเดี่ยวที่โต๊ะ มุกเมษาจึงเลือกนั่งตรงเค้าน์เตอร์บาร์ ที่จัดไว้เกือบด้านในสุดของร้าน เธอเขย่งเท้าขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ตัวสูงสีพาสเทล รูปทรงเก๋จะกลมก็ไม่กลมจะรีก็ไม่รี พอดูๆแล้วมันก็น่ารักดีและนั่งสบายเสียด้วย
พนักงานยื่นเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้ด้วยความกระฉับกระเฉง เขาดูจะไฮเปอร์หน่อยๆ มุกเมษาไม่ได้ยื่นมือไปรับเมนูอาหารจากพนักงาน ด้วยอารมณ์สีเทาในตอนนี้เธอเพียงยกยิ้มที่มุมปากให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า
“ช็อคโกแลตร้อนเพิ่มวิป กับเค้กมะพร้าวอ่อนค่ะ” เหมือนสมองถูกป้อนโปรแกรมไว้แล้ว เธอสั่งออกไปโดยไม่ลังเลเนื่องจากซ็อคโกแลตและเค้กของที่นี่ เธอรีวิวไว้ที่ความอร่อยระดับห้าดาวเลยทีเดียว
“ได้คร๊าฟฟฟฟ..คุณผู้หญิง” หนุ่มน้อยหน้าทะเล้นรับออเดอร์ด้วยความสดใสพร้อมก้มคำนับทำท่าทางเหมือนว่าเธอคือหญิงสูงศักดิ์
มุกเมษาหัวเราะคิก ความหม่นเทาเมื่อครู่เริ่มจางหายไป เธอนึกสนุกกระโดดลงมายกแขนเหมือนจับกระโปรง เอียงคอ แล้วไขว้เท้าย่อตัวรับคำนับของเขาเช่นกัน หนุ่มน้อยยิ้มร่าเริงให้เธอก่อนหันไปทำหน้าที่ของตัวเอง เธอมาร้านนี้หลายครั้งจึงคุ้นหน้าคุ้นตากับพนักงานที่นี่เป็นอย่างดี
ดนตรีบอสซ่าเบาๆ กับช็อคโกแลตแก้วโปรดนำรอยยิ้มแห่งความสุขกลับมาสู่ใบหน้ารูปไข่อีกครั้ง เพียงแค่ได้ลิ้มรสความอร่อยก็พร้อมที่จะลืมทุกสิ่งจนหมดสิ้น มุกเมษาแกว่งเท้าเล็กๆไปมา วางศอกทั้งสองบนบาร์และประคองมือถือถ้วยช็อคโกแลตอุ่น เพลิดเพลินกับการละเลียดจิบซ็อคโกแลตข้นหวานมันอย่างสบายอารมณ์ ถ้าฟ้าจะถล่มลงมาตอนนี้เธอก็ยินดีที่จะตายอย่างสงบสุข
รอยคิ้วย่นเล็กน้อยปรากฏขึ้นเมื่อเกิดความลังเลที่จะทานเค้กชิ้นที่น่าเย้ายวนนั้น เธอควรจะรอณรงค์วิทย์ก่อนดีมั้ย สีหน้าครุ่นคิดปรากฏบนใบหน้าเล็กๆเพียงแวบเดียว ก็ได้ผลสรุป....
วันนี้เธอใช้เวลาเลือกของขวัญให้เขาไปครึ่งค่อนวัน แถมมาถึงร้านก่อนเกือบชั่วโมงให้นั่งหิ้วท้องรออย่างนั้นหรือ...ไม่มีทางซะหรอก
คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
สักครู่มุกเมษาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโหมดบันทึกภาพ แม้ช็อคโกแลตจะมีร่องรอยการซดไปเกือบครึ่ง และเค้กจะมีรอยแหว่งไปแล้ว แต่เธอไม่ได้ให้ราคากับมัน
“ไม่รอนะ”
ข้อความถูกส่งไปก่อนตามด้วยภาพช็อคโกแลตและเค้ก ปิดท้ายด้วยสติ๊กเกอร์สีหน้ากวนใจอีกตัว ภาพและข้อความถูกส่งไปถึงไอดีไลน์ที่ถูกบันทึกชื่อไว้ว่า “พี่แว่น”
“ตึ๋ง ๆ”
มุกเมษาไม่ทันได้ปิดหน้าจอโทรศัพท์ ภาพสติ๊กเกอร์ที่ “พี่แว่น” ส่งมาจึงส่งเสียงดังแหวกบรรยากาศรื่นรมย์นั้นอย่างช่วยไม่ได้
“ไอ้อ้วนนน...ไอ้อ้วนนน..”
“ห๋าาา.... “
มุกเมษาอ้าปากเหวอ หันไปมองพนักงานที่กลั้นอมยิ้ม เธอได้แต่ส่งยิ้มแหยแก้เขิน แล้วหันมองไปยังโต๊ะอื่นๆโชคดีที่ไม่มีใครสนใจ เธอถอนใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
จากนั้นสงครามสติ๊กเกอร์ก็พลันอุบัติขึ้น ความจริงเธอไม่ได้โกรธเขาเลยสักนิดเพราะเธอก็อยากจะอวบอิ่มแบบสาวแม็กซิมบนหน้าปกหนังสือที่กำลังเลือกอ่านอยู่นะ แต่การมีกิจกรรมระหว่างรอคงดีกว่าปล่อยจิตใจให้ฟุ้งซ่านเป็นไหนๆ หรือแท้จริงแล้วคนตัวเล็กมีสัญชาตญาณในการเอาชนะกันแน่
ต่างฝ่ายต่างงัดสติ๊กเกอร์ในคลังมาเกทับกันจนสุดท้ายกลายเป็น “พี่แว่น” ที่ส่งภาพยกธงขาวขอสงบศึก มุกเมษายิ้มกว้างรับชัยชนะ เธอยังไม่ทันจะส่งข้อความตอบกลับไป บนหน้าจอมือถือก็เด้งข้อความใหม่ตามมาอีกครั้ง
“รอนะครับ ใกล้ถึงแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
มุกอันดา
กรกฎา 60
ติดตามตอนจบได้ที่
https://m.ppantip.com/topic/36630283?
ปล.มุกเมษานี่นางอารมณ์ขึ้นๆลงว่ามะ เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวเศร้า
แต่คนมีความรักมันก็ประมาณนี้แหละมั้ง ตัวร้ายรู้...ตัวร้ายเคยเป็น ^^