สวัสดีค่ะเพื่อนๆถนนนักเขียน
ในที่สุดตัวร้ายก็พามาถึงตอนจบของเรื่องราวจนได้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
นักพยายามเขียน ทำสำเร็จได้ 1 เรื่องแล้ว เย่ๆๆ
ต้องขอกำลังใจจากเพื่อๆและคำแนะนำด้วยค่ะ
อ่านเรื่องราวตอนที่ 1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/36607445
ติดตามเรื่องราวตอนที่ 2 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/36610800
ติดตามเรื่องราวตอนที่ 2.1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/36623350
ฝนทิ้งช่วงไปแล้วเหลือไว้เพียงความชื้นแฉะและสายลมเย็นยะเยือก แสงไฟบนถนนยามค่ำคืนสว่างชัดขึ้น ภายในร้านมีลูกค้าที่เข้ามาใหม่ และบางคู่กำลังเช็คบิลออกไป มุกเมษายังนั่งอ่านหนังสือเล่มเล็กที่เคาน์เตอร์บาร์ มือซ้ายเปิดกางหน้าหนังสือมือขวาถือช้อนตักเค้กชิ้นเล็กเข้าปาก นานๆจึงจะมีเสียงร้องเพลงหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม เป็นเสียงเบาๆที่ไม่ไพเราะนัก
เธอนั่งไกวเท้าอย่างสบายอารมณ์ ทันใดนั้น...มุกเมษารู้สึกถึงน้ำหนักการย่ำเท้าที่มั่นคง ใครบางคนกำลังเดินตรงเข้ามาเงียบๆ ณรงค์วิทย์คงคิดหยอกเล่นเหมือนที่เคยทำประจำ เธอจึงตั้งใจหันไปทักทายเขาก่อน
“พี่วิทย์.... ”
เสียงใสกับใบหน้าที่เผยรอยยิ้มกว้างจนตาหยีนั้น แปรเปลี่ยนเป็นมึนงงทันทีเมื่อมองเห็นคนตัวสูงอย่างเต็มตา เสียงช้อนเค้กหล่นกระทบพื้นดังเก๊งงง... เรียกสติกลับคืนสู่ร่างเล็ก
มุกเมษารีบเด้งตัวลงจากเก้าอี้ เพื่อทักทายผู้ที่เพิ่งมาถึงอย่างเป็นทางการ แม้เธอจะไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงปรากฏตัวที่นี่ น้ำเสียงเธอมีความประหม่าเล็กๆ
“สวัสดีค่ะ คุณอานนท์…บังเอิญ จังเลยนะคะ”
หญิงสาวรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเจอเขา คนที่เพิ่งทำให้เธอเสียน้ำตา...ไม่ใช่สิเขาไม่ใช่เป็นคนทำ เป็นเธอที่หลงละเมอไปเองข้างเดียว เธอทำตัวของเธอเองต่างหาก
ภาพเหตุการณ์ยังชัดเจนในความรู้สึก ผู้หญิงที่เขามอบเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอบอุ่นให้ไม่ใช่เธอ
'เขามีคนรักอยู่แล้ว’ แค่คิดถึงคำนี้ก้อนน้ำตาก็จุกแน่นในอก มุกเมษาจำใจยอมรับความจริงและคิดว่าเธอเข้มแข็งพอหากต้องเจอหน้าเขาอีกครั้ง
แต่เอาเข้าจริงเธอกลับต้องสะกดกลั้นตัวเองอย่างหนัก เพื่อตีสีหน้าให้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวได้แต่ภาวนาให้ณรงค์วิทย์มาถึงโดยเร็ว เพื่อช่วยฉุดเธอออกจากสถานการณ์แย่ๆตรงหน้า
“ครับ บังเอิญผมนัดเพื่อนไว้ที่นี่”
อานนท์พยักหน้าน้อยๆยิ้มสุภาพ เขาไม่ได้เอ่ยชื่อณรงค์วิทย์ออกไป เพราะมั่นใจว่าเรื่องที่ณรงค์วิทย์ต้องการพูดคือเรื่องของผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ จะเป็นการดีกว่าหากเธอไม่รับรู้
ชายหนุ่มยังคิดแปลกใจ เพราะเมื่อเปิดประตูเข้ามาเขาควรจะพบกับคนที่นัดหมายไว้ แต่กลับกลายเป็นได้เห็นร่างคุ้นตานั่งอยู่ด้านในสุดของร้าน เขาหันมองไปยังจานเค้กที่เหลืออยู่แวบหนึ่ง
“คุณมานานแล้วหรือครับ”
ไม่ใช่เฉพาะมุกเมษาที่เกิดอาการประหม่า เขาเองก็ไม่รู้จะวางตัวเช่นไรหรือชวนเธอคุยเรื่องอะไรดี มีแต่คำถามโง่ๆที่เขาเพิ่งเอ่ยออกไปเท่านั้น
“ค่ะ”
“สักพักนึงแล้ว”
มุกเมษาตอบสั้นๆ เธอกลัวเขาจะจับน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมจะร้องไห้ตลอดเวลาของเธอได้ เธอคิดอยากหายตัวไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด เพราะคำว่า “เพื่อน” ที่เขาเอ่ยถึง จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากผู้หญิงคนนั้น เธอไม่เข้มแข็งพอจะเห็นภาพบาดใจอีก
“เอ่อ...ฉันลืมไปเลยว่าต้องรีบกลับ ขอตัวก่อนนะคะ”
เธอคว้าโทรศัพท์และเรียกพนักงานเพื่อเก็บเงินจึงสังเกตเห็นข้อความจาก “พี่แว่น” สีหน้าขุ่นข้องใจเกิดขึ้นในไม่กี่วินาทีต่อมา เมื่อเธอเลื่อนอ่านข้อความจนถึงบรรทัดสุดท้าย
'สัปดาห์หน้าชั้นสิบเอ็ดจะย้ายสำนักงาน'
'ขอโทษที่พี่เห็นแก่ตัว แต่คงทำให้มุกได้เท่านี้'
'โอกาสสุดท้ายของมุกแล้วนะ'
'ขอให้โชคดี'
นี่พี่วิทย์เล่นสนุกอะไรกัน สำหรับเธอแล้วมันไม่สนุกสักนิด โอกาสสุดท้ายหรือ? ช่างตลกร้ายเสียจริง มันไม่มีคำว่าโอกาสสำหรับเธออีกแล้ว พี่วิทย์ทำแบบนี้เพื่อให้เธอตัดใจจากเขาอย่างนั้นหรือ?
คำถามมากมายพร่างพรายในความเงียบ มุกเมษานึกเอะใจเธอรีบวิ่งออกไปหน้าร้านเพื่อมองหาเจ้าของข้อความ แต่กลับไม่เจอแม้เงา
…………………….........................................................................................................................……………………………………………………….
ณ ขณะนี้...ที่หัวใจ ❤💖 ตอนที่ 3 (จบ) 🌸🌸🌸
ในที่สุดตัวร้ายก็พามาถึงตอนจบของเรื่องราวจนได้ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ
นักพยายามเขียน ทำสำเร็จได้ 1 เรื่องแล้ว เย่ๆๆ
ต้องขอกำลังใจจากเพื่อๆและคำแนะนำด้วยค่ะ
อ่านเรื่องราวตอนที่ 1 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/36607445
ติดตามเรื่องราวตอนที่ 2 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/36610800
ติดตามเรื่องราวตอนที่ 2.1 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/36623350
ณ ขณะนี้...ที่หัวใจ
ฝนทิ้งช่วงไปแล้วเหลือไว้เพียงความชื้นแฉะและสายลมเย็นยะเยือก แสงไฟบนถนนยามค่ำคืนสว่างชัดขึ้น ภายในร้านมีลูกค้าที่เข้ามาใหม่ และบางคู่กำลังเช็คบิลออกไป มุกเมษายังนั่งอ่านหนังสือเล่มเล็กที่เคาน์เตอร์บาร์ มือซ้ายเปิดกางหน้าหนังสือมือขวาถือช้อนตักเค้กชิ้นเล็กเข้าปาก นานๆจึงจะมีเสียงร้องเพลงหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากจิ้มลิ้ม เป็นเสียงเบาๆที่ไม่ไพเราะนัก
เธอนั่งไกวเท้าอย่างสบายอารมณ์ ทันใดนั้น...มุกเมษารู้สึกถึงน้ำหนักการย่ำเท้าที่มั่นคง ใครบางคนกำลังเดินตรงเข้ามาเงียบๆ ณรงค์วิทย์คงคิดหยอกเล่นเหมือนที่เคยทำประจำ เธอจึงตั้งใจหันไปทักทายเขาก่อน
“พี่วิทย์.... ”
เสียงใสกับใบหน้าที่เผยรอยยิ้มกว้างจนตาหยีนั้น แปรเปลี่ยนเป็นมึนงงทันทีเมื่อมองเห็นคนตัวสูงอย่างเต็มตา เสียงช้อนเค้กหล่นกระทบพื้นดังเก๊งงง... เรียกสติกลับคืนสู่ร่างเล็ก
มุกเมษารีบเด้งตัวลงจากเก้าอี้ เพื่อทักทายผู้ที่เพิ่งมาถึงอย่างเป็นทางการ แม้เธอจะไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงปรากฏตัวที่นี่ น้ำเสียงเธอมีความประหม่าเล็กๆ
“สวัสดีค่ะ คุณอานนท์…บังเอิญ จังเลยนะคะ”
หญิงสาวรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเจอเขา คนที่เพิ่งทำให้เธอเสียน้ำตา...ไม่ใช่สิเขาไม่ใช่เป็นคนทำ เป็นเธอที่หลงละเมอไปเองข้างเดียว เธอทำตัวของเธอเองต่างหาก
ภาพเหตุการณ์ยังชัดเจนในความรู้สึก ผู้หญิงที่เขามอบเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอบอุ่นให้ไม่ใช่เธอ 'เขามีคนรักอยู่แล้ว’ แค่คิดถึงคำนี้ก้อนน้ำตาก็จุกแน่นในอก มุกเมษาจำใจยอมรับความจริงและคิดว่าเธอเข้มแข็งพอหากต้องเจอหน้าเขาอีกครั้ง
แต่เอาเข้าจริงเธอกลับต้องสะกดกลั้นตัวเองอย่างหนัก เพื่อตีสีหน้าให้ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หญิงสาวได้แต่ภาวนาให้ณรงค์วิทย์มาถึงโดยเร็ว เพื่อช่วยฉุดเธอออกจากสถานการณ์แย่ๆตรงหน้า
“ครับ บังเอิญผมนัดเพื่อนไว้ที่นี่”
อานนท์พยักหน้าน้อยๆยิ้มสุภาพ เขาไม่ได้เอ่ยชื่อณรงค์วิทย์ออกไป เพราะมั่นใจว่าเรื่องที่ณรงค์วิทย์ต้องการพูดคือเรื่องของผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ จะเป็นการดีกว่าหากเธอไม่รับรู้
ชายหนุ่มยังคิดแปลกใจ เพราะเมื่อเปิดประตูเข้ามาเขาควรจะพบกับคนที่นัดหมายไว้ แต่กลับกลายเป็นได้เห็นร่างคุ้นตานั่งอยู่ด้านในสุดของร้าน เขาหันมองไปยังจานเค้กที่เหลืออยู่แวบหนึ่ง
“คุณมานานแล้วหรือครับ”
ไม่ใช่เฉพาะมุกเมษาที่เกิดอาการประหม่า เขาเองก็ไม่รู้จะวางตัวเช่นไรหรือชวนเธอคุยเรื่องอะไรดี มีแต่คำถามโง่ๆที่เขาเพิ่งเอ่ยออกไปเท่านั้น
“ค่ะ”
“สักพักนึงแล้ว”
มุกเมษาตอบสั้นๆ เธอกลัวเขาจะจับน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมจะร้องไห้ตลอดเวลาของเธอได้ เธอคิดอยากหายตัวไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด เพราะคำว่า “เพื่อน” ที่เขาเอ่ยถึง จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากผู้หญิงคนนั้น เธอไม่เข้มแข็งพอจะเห็นภาพบาดใจอีก
“เอ่อ...ฉันลืมไปเลยว่าต้องรีบกลับ ขอตัวก่อนนะคะ”
เธอคว้าโทรศัพท์และเรียกพนักงานเพื่อเก็บเงินจึงสังเกตเห็นข้อความจาก “พี่แว่น” สีหน้าขุ่นข้องใจเกิดขึ้นในไม่กี่วินาทีต่อมา เมื่อเธอเลื่อนอ่านข้อความจนถึงบรรทัดสุดท้าย
'สัปดาห์หน้าชั้นสิบเอ็ดจะย้ายสำนักงาน'
'ขอโทษที่พี่เห็นแก่ตัว แต่คงทำให้มุกได้เท่านี้'
'โอกาสสุดท้ายของมุกแล้วนะ'
'ขอให้โชคดี'
นี่พี่วิทย์เล่นสนุกอะไรกัน สำหรับเธอแล้วมันไม่สนุกสักนิด โอกาสสุดท้ายหรือ? ช่างตลกร้ายเสียจริง มันไม่มีคำว่าโอกาสสำหรับเธออีกแล้ว พี่วิทย์ทำแบบนี้เพื่อให้เธอตัดใจจากเขาอย่างนั้นหรือ?
คำถามมากมายพร่างพรายในความเงียบ มุกเมษานึกเอะใจเธอรีบวิ่งออกไปหน้าร้านเพื่อมองหาเจ้าของข้อความ แต่กลับไม่เจอแม้เงา
…………………….........................................................................................................................……………………………………………………….