สวัสดีเพื่อนๆ บนถนนนักเขียนทุกท่าน
ตอนที่สองตามมาแล้วนะคะ ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยน๊าาาา...ก็ต้องรอลุ้นสำหรับเรื่องราวความรักที่ยากลงเอยของ มุกเมษา อานนท์ และ ณรงค์วิทย์ ว่าบทสรุปจะเป็นเช่นใด
เอาใจช่วยตัวละครทั้ง 3 และ 1 ตัวร้ายฯด้วยนะคะ
ต้องขอโทษล่วงหน้าหากยังเจอคำผิด และฝากติชมด้วยค่ะ
อ่านเรื่องราวตอนที่ 1 ได้ที่
https://ppantip.com/topic/36607445
Cr.ภาพจากGoogle
นาฬิกาตั้งโต๊ะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บอกเวลาอีกสิบเจ็ดนาทีจะเริ่มต้นวันใหม่ อานนท์ในชุดนอนสีน้ำเงินยังนั่งอยู่ที่โซฟาเส้นผมเปียกชื้นนั่นเพราะเขาเพึ่งอาบน้ำและกำลังจะเตรียมตัวเข้านอน
อานนท์มองออกไปนอกหน้าต่างที่มีแสงไฟจากถนนส่องเห็นเงาต้นไม้จางๆ มันดึกมากแล้วแต่ยังมีบางเรื่องที่รบกวนจิตใจ เมื่อช่วงบ่ายเขาได้รับสายจากณรงค์วิทย์ ผู้ชายขาวตี๋ที่ทำงานตึกเดียวกันและอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันด้วย เขาเองมีโอกาสได้พูดคุยกับณรงค์วิทย์จริงจังเพียงไม่กี่ครั้ง ส่วนมากแค่ทักทายเมื่อบังเอิญเจอกันเท่านั้น
ในสายตาของผู้ชายด้วยกันบอกได้ทันทีว่าณรงค์วิทย์เป็นคนที่โดดเด่นมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้อานนท์คิดไม่ตกเมื่อเขาบังเอิญเห็นหนุ่มแว่นคนนั้นกับผู้บริหารสาวสวยในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เขาควรก้าวก่ายเลยสักนิด หากแต่มีอีกภาพเกิดขึ้นมาในห้วงความคิด ณรงค์วิทย์หนุ่มแว่นคนนั้นผู้ที่มักจะอยู่เป็นเงาของเธอเสมอ...
“มุกเมษา”
ริมฝีปากหยักเอ่ยรำพึงชื่อเธอเบาๆ พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
อานนท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นิ้วเรียววาดผ่านสลับหน้าจอไปครั้งแล้วครั้งเล่า หากเขานอนไม่หลับสิ่งที่ช่วยให้เขาผ่อนคลายได้ดีคือโทรศัพท์มือถือคู่กายนี่เอง เจ้าแมวอ้วนลายเสือสีส้มเดินอุ้ยอ้ายมาหยุดเอียงคอมองเจ้านายที่เริ่มเผยรอยยิ้มเล็กๆประดับมุมปาก ก่อนกระโดดตุ้บขึ้นไปบนโซฟาแล้วซุกขดตัวนอนลงใกล้ๆ อานนท์เลิกคิ้วสูงวางโทรศัพท์ลง ใช้มือเรียวอุ้มประคองเจ้าแมวลายส้มขึ้นมา มันค่อยๆเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวโดยทำตัวย้วยลงในตักของเขา ชายหนุ่มยกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวทั้งส่ายหน้าอย่างระอา
“อีกหน่อยแกจะโตเท่าลูกวัวหรือเปล่าฮึ"
หนุ่มทาสแมวถามไปทั้งๆที่รู้ว่า “แมวหมู” ไม่ได้สนใจฟังเขาสักนิด แถมยังยกอุ้งเท้าหน้ามาปิดหูปิดตาเยอะเย้ยเขาเสียอีก ชายหนุ่มหัวเราะขำกับท่าทางของมันพลางนึกไปถึงภาพผู้หญิงผมสีน้ำตาลยาวสลวย ผู้หญิงที่นำพาแมวลายส้มเข้ามาในชีวิตพร้อมกับกอบกุมหัวใจเขาไปตั้งแต่แรกเห็น เขางอนิ้วเคาะหน้าผากเจ้า “แมวหมู” เบาๆ มันยังคงหลับตาพริ้มโดยไม่สนใจเจ้านายหนุ่มแม้แต่น้อย
อานนท์เหม่อมองไปด้านนอกอีกครั้ง ผ้าม่านหนาพลิ้วไหวตามสายลมอ่อน เจ้าแมวอ้วนถูกย้ายที่นอนจากตักอุ่นมายังโซฟา ส่วนเขาสาวเท้ายาวมายืนเด่นที่ระเบียงรับลม สายลมอ่อนให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมือนกับวันที่เขาได้พบเธอครั้งแรก....
ฤดูหนาวปีนั้นยาวนานกว่าปกติ ทั้งๆที่เป็นต้นเดือนมีนาคมลมหนาวก็ยังพัดปะทะผิวกายจนทำให้หลายคนต้องห่อตัวซุกมือไว้ในเสื้อตัวหนา อานนท์ที่มักจะวิ่งออกกำลังกายในยามว่างต้องชะลอฝีเท้าลง เพราะกระดาษที่ตกอยู่ตรงหน้าเขา เมื่อหยิบมาดูจึงพบว่าเป็นใบปลิวตามหาบ้านให้แมวผอมแกร็นหน้าตาน่าชังตัวหนึ่ง เขาไม่ต้องเสียเวลาหาที่มาของกระดาษใบนั้นนานนัก เพียงแค่เบนสายตาออกไปก็พบสาวน้อยผมยาวสลวยในชุดลำลองคลุมทับด้วยเสื้อโค้ทตัวใหญ่กำลังยืนแจกใบปลิวอยู่ตรงหัวมุมถนน ริมฝีปากเล็กน่ารักนั้นมีรอยยิ้มตลอดเวลา แว่นกลมใสทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น แดดยามเช้าส่องลอดใบไม้เป็นลำแสงทำให้เบื้องหน้าดูงดงามดุจภาพวาด...
"ม๊าววววว.."
แมวอ้วนร้องเรียกความสนใจ ทั้งเดินมาถูสีข้างกับขาของเขา อานนท์ยิ้มอ่อนเอ่ยตอบเจ้าแมวเหมือนเข้าใจภาษา
"ก็ได้...ไปนอนกัน"
ชายหนุ่มหยุดความคิดที่ล่องลอยออกไป ตอนนี้มันเลยเวลาพักผ่อนมามากแล้ว และพรุ่งนี้เขายังมีนัดสำคัญ
เขาก็มีบางเรื่องที่อยากคุย...กับหนุ่มแว่นคนนั้นเช่นกัน
"ณรงค์วิทย์"
.......................................................................................................................................................................................................................
ณ ขณะนี้...ที่หัวใจ ❤💖 ตอนที่ 2 🌸🌸🌸
ตอนที่สองตามมาแล้วนะคะ ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อยน๊าาาา...ก็ต้องรอลุ้นสำหรับเรื่องราวความรักที่ยากลงเอยของ มุกเมษา อานนท์ และ ณรงค์วิทย์ ว่าบทสรุปจะเป็นเช่นใด
เอาใจช่วยตัวละครทั้ง 3 และ 1 ตัวร้ายฯด้วยนะคะ
ต้องขอโทษล่วงหน้าหากยังเจอคำผิด และฝากติชมด้วยค่ะ
อ่านเรื่องราวตอนที่ 1 ได้ที่ https://ppantip.com/topic/36607445
Cr.ภาพจากGoogle
นาฬิกาตั้งโต๊ะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บอกเวลาอีกสิบเจ็ดนาทีจะเริ่มต้นวันใหม่ อานนท์ในชุดนอนสีน้ำเงินยังนั่งอยู่ที่โซฟาเส้นผมเปียกชื้นนั่นเพราะเขาเพึ่งอาบน้ำและกำลังจะเตรียมตัวเข้านอน
อานนท์มองออกไปนอกหน้าต่างที่มีแสงไฟจากถนนส่องเห็นเงาต้นไม้จางๆ มันดึกมากแล้วแต่ยังมีบางเรื่องที่รบกวนจิตใจ เมื่อช่วงบ่ายเขาได้รับสายจากณรงค์วิทย์ ผู้ชายขาวตี๋ที่ทำงานตึกเดียวกันและอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันด้วย เขาเองมีโอกาสได้พูดคุยกับณรงค์วิทย์จริงจังเพียงไม่กี่ครั้ง ส่วนมากแค่ทักทายเมื่อบังเอิญเจอกันเท่านั้น
ในสายตาของผู้ชายด้วยกันบอกได้ทันทีว่าณรงค์วิทย์เป็นคนที่โดดเด่นมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้อานนท์คิดไม่ตกเมื่อเขาบังเอิญเห็นหนุ่มแว่นคนนั้นกับผู้บริหารสาวสวยในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เขาควรก้าวก่ายเลยสักนิด หากแต่มีอีกภาพเกิดขึ้นมาในห้วงความคิด ณรงค์วิทย์หนุ่มแว่นคนนั้นผู้ที่มักจะอยู่เป็นเงาของเธอเสมอ...
“มุกเมษา”
ริมฝีปากหยักเอ่ยรำพึงชื่อเธอเบาๆ พร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
อานนท์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา นิ้วเรียววาดผ่านสลับหน้าจอไปครั้งแล้วครั้งเล่า หากเขานอนไม่หลับสิ่งที่ช่วยให้เขาผ่อนคลายได้ดีคือโทรศัพท์มือถือคู่กายนี่เอง เจ้าแมวอ้วนลายเสือสีส้มเดินอุ้ยอ้ายมาหยุดเอียงคอมองเจ้านายที่เริ่มเผยรอยยิ้มเล็กๆประดับมุมปาก ก่อนกระโดดตุ้บขึ้นไปบนโซฟาแล้วซุกขดตัวนอนลงใกล้ๆ อานนท์เลิกคิ้วสูงวางโทรศัพท์ลง ใช้มือเรียวอุ้มประคองเจ้าแมวลายส้มขึ้นมา มันค่อยๆเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลวโดยทำตัวย้วยลงในตักของเขา ชายหนุ่มยกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวทั้งส่ายหน้าอย่างระอา
“อีกหน่อยแกจะโตเท่าลูกวัวหรือเปล่าฮึ"
หนุ่มทาสแมวถามไปทั้งๆที่รู้ว่า “แมวหมู” ไม่ได้สนใจฟังเขาสักนิด แถมยังยกอุ้งเท้าหน้ามาปิดหูปิดตาเยอะเย้ยเขาเสียอีก ชายหนุ่มหัวเราะขำกับท่าทางของมันพลางนึกไปถึงภาพผู้หญิงผมสีน้ำตาลยาวสลวย ผู้หญิงที่นำพาแมวลายส้มเข้ามาในชีวิตพร้อมกับกอบกุมหัวใจเขาไปตั้งแต่แรกเห็น เขางอนิ้วเคาะหน้าผากเจ้า “แมวหมู” เบาๆ มันยังคงหลับตาพริ้มโดยไม่สนใจเจ้านายหนุ่มแม้แต่น้อย
อานนท์เหม่อมองไปด้านนอกอีกครั้ง ผ้าม่านหนาพลิ้วไหวตามสายลมอ่อน เจ้าแมวอ้วนถูกย้ายที่นอนจากตักอุ่นมายังโซฟา ส่วนเขาสาวเท้ายาวมายืนเด่นที่ระเบียงรับลม สายลมอ่อนให้ความรู้สึกเย็นสบาย เหมือนกับวันที่เขาได้พบเธอครั้งแรก....
ฤดูหนาวปีนั้นยาวนานกว่าปกติ ทั้งๆที่เป็นต้นเดือนมีนาคมลมหนาวก็ยังพัดปะทะผิวกายจนทำให้หลายคนต้องห่อตัวซุกมือไว้ในเสื้อตัวหนา อานนท์ที่มักจะวิ่งออกกำลังกายในยามว่างต้องชะลอฝีเท้าลง เพราะกระดาษที่ตกอยู่ตรงหน้าเขา เมื่อหยิบมาดูจึงพบว่าเป็นใบปลิวตามหาบ้านให้แมวผอมแกร็นหน้าตาน่าชังตัวหนึ่ง เขาไม่ต้องเสียเวลาหาที่มาของกระดาษใบนั้นนานนัก เพียงแค่เบนสายตาออกไปก็พบสาวน้อยผมยาวสลวยในชุดลำลองคลุมทับด้วยเสื้อโค้ทตัวใหญ่กำลังยืนแจกใบปลิวอยู่ตรงหัวมุมถนน ริมฝีปากเล็กน่ารักนั้นมีรอยยิ้มตลอดเวลา แว่นกลมใสทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น แดดยามเช้าส่องลอดใบไม้เป็นลำแสงทำให้เบื้องหน้าดูงดงามดุจภาพวาด...
"ม๊าววววว.."
แมวอ้วนร้องเรียกความสนใจ ทั้งเดินมาถูสีข้างกับขาของเขา อานนท์ยิ้มอ่อนเอ่ยตอบเจ้าแมวเหมือนเข้าใจภาษา
"ก็ได้...ไปนอนกัน"
ชายหนุ่มหยุดความคิดที่ล่องลอยออกไป ตอนนี้มันเลยเวลาพักผ่อนมามากแล้ว และพรุ่งนี้เขายังมีนัดสำคัญ
เขาก็มีบางเรื่องที่อยากคุย...กับหนุ่มแว่นคนนั้นเช่นกัน
"ณรงค์วิทย์"
.......................................................................................................................................................................................................................