ในจักรวาลของจุฑาเทพและเทวพรหม
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร จุฑาเทพ เป็นพ่อของ หม่อมหลวงฉัตรเกล้า จุฑาเทพ
นอกเหนือในละครที่เป็นพ่อลูก บทบาทของนักแสดงที่แสดงทั้งสองตัวละคร
ก็เหมือนส่งต่อกันจากพ่อสู่ลูก บนเส้นทางการแสดงของ เจมส์ จิ และ ไมกี้
ถ้าไม่ไกล้กันก็ต้องเกี่ยวเนื่องกัน เหมือนเป็นมรดกตกทอดของสถานี
นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ได้แสดงเรื่องแรกเหมือนกันในละครชุด
มาจากถิ่นกำเนิดก็ไม่ได้ไกลกันมาก หนุ่ม พิจิตร และ ละอ่อนเมืองลำปาง
อยู่ในสังกัดผู้จัดการคนเดียวกัน เรียนมหาวิทยาลัยรังสิตเหมือนกันแต่คนละคณะ
และมีพรีเซนเตอร์ตัวแรก ๆ ก็เหมือนส่งต่อกันอย่าง รองเท้า baoji
ในเรื่องบทบาทการแสดงที่ได้รับก็ไม่รู้ทำไมมันจะคล้ายกัน
เหมือนกัน บังเอิญหรือตั้งใจให้เป็นได้ขนาดนี้
พุฒิภัทร กับ ฉัตรเกล้า
เพียงแค่เขาทั้งสองคนสวมแว่น ไม่ว่าหน้าตาจะเหมือนหรือต่างกันขนาดไหน
เขาก็กลายเป็น พ่อ ลูก ที่แสดงออก dna บนใบหน้าแบบสำเนาถูกต้อง
อิทธิฤทธิ์ กับ คธา
ทั้งสองเป็นนักแสดงในสถานีไม่กี่คนที่ได้รับบทนักศึกษาในช่วงวัยที่ตรงกับตัวเอง
รับแสดงทั้งที่ละครเรื่องแรกของตัวเองก็ยังไม่ได้ออกอากาศทั้งคู่
เป็นละครที่ออกอากาศตอนปลายปีต่อจากละครชุดในปีเดียวกัน
เด็กนักศึกษาที่ดันมาหลงรักสาวรุ่นพี่ทั้งคู่ บนเงื่อนไขที่ต่างกันตามเรื่อง
มีอาวุธประจำกายคือ กีตาร์คู่ใจเอาไปแอ๊วพี่สาวในเรื่อง และตกมัมหมีที่ดูได้ดูละคร
และทั้งสองก็ฝาก single ในเวอร์ชั่น cover ในเรื่องที่แสดงทั้งคู่
กลัวมันจะไม่ครบในชีวิตนักศึกษาตัวละคร คธา ก็เข้าสู่หลักสูตรเร่งรัด
จากผู้นำนักศึกษาก็พาเข้าสู่โลกมืดเป็นหนุ่มแว่น อตว. น้องแท่ง
เด็กโฮสสู้ชีวิตที่ชีวิตสู้กลับ และเกือบจะสู่ขิตแล้วเพราะต้องเอนอัพ
เรียกว่าเรื่องที่สองของนายปณิธาน ก็เอามาถึงจุดนี้เลย
ส่วนตัวพ่ออยู่มาจะ 10 ปีถึงตัดสินใจที่จะสวมบทบาทนี้กับตัวละครมานะ
ที่ได้ทะลุกรอบการแสดง และ ต้องแลกกับดราม่าอะไรหลาย ๆ อย่างที่เกิดกับบทนี้ด้วย
และบทบาททั้งสองก็อยู่ในมือผู้จัดอย่าง แอน ทอง ทั้งคู่ด้วย
ส่วนเรื่องต่อไปของทั้งสองคน
จะได้กลับพบกันแบบพี่เขยกับน้องเมียไหม ก็ได้ภาวนากันไป
เพราะคงจะอีกสักพัก ร้านเวทมนตร์จะเปิดทำการอีกครั้ง
และในที่สุดก็เดินทางมาถึงวันที่
คุณพ่อพุฒิภัทรที่ในวันพฤหัสหน้า กำลังขยับสถานะของตัวเองไปอีกขั้นหนึ่ง
คุณลูกฉัตรเกล้าที่จบการศึกษาเตรียมออกมาสู่โลกบันเทิงอย่างเต็มตัว
ที่กำลังเปลี่ยนแปลงและไม่เหมือนเดิมที่ต้องต่อสู้และยืดหยัดต่อไปให้ได้
จากพุฒิภัทรสู่ฉัตรเกล้า บนเส้นทางที่คล้ายกันของ เจมส์ จิ และ ไมกี้
หม่อมราชวงศ์พุฒิภัทร จุฑาเทพ เป็นพ่อของ หม่อมหลวงฉัตรเกล้า จุฑาเทพ
นอกเหนือในละครที่เป็นพ่อลูก บทบาทของนักแสดงที่แสดงทั้งสองตัวละคร
ก็เหมือนส่งต่อกันจากพ่อสู่ลูก บนเส้นทางการแสดงของ เจมส์ จิ และ ไมกี้
ถ้าไม่ไกล้กันก็ต้องเกี่ยวเนื่องกัน เหมือนเป็นมรดกตกทอดของสถานี
นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ได้แสดงเรื่องแรกเหมือนกันในละครชุด
มาจากถิ่นกำเนิดก็ไม่ได้ไกลกันมาก หนุ่ม พิจิตร และ ละอ่อนเมืองลำปาง
อยู่ในสังกัดผู้จัดการคนเดียวกัน เรียนมหาวิทยาลัยรังสิตเหมือนกันแต่คนละคณะ
และมีพรีเซนเตอร์ตัวแรก ๆ ก็เหมือนส่งต่อกันอย่าง รองเท้า baoji
ในเรื่องบทบาทการแสดงที่ได้รับก็ไม่รู้ทำไมมันจะคล้ายกัน
เหมือนกัน บังเอิญหรือตั้งใจให้เป็นได้ขนาดนี้
พุฒิภัทร กับ ฉัตรเกล้า
เพียงแค่เขาทั้งสองคนสวมแว่น ไม่ว่าหน้าตาจะเหมือนหรือต่างกันขนาดไหน
เขาก็กลายเป็น พ่อ ลูก ที่แสดงออก dna บนใบหน้าแบบสำเนาถูกต้อง
ทั้งสองเป็นนักแสดงในสถานีไม่กี่คนที่ได้รับบทนักศึกษาในช่วงวัยที่ตรงกับตัวเอง
รับแสดงทั้งที่ละครเรื่องแรกของตัวเองก็ยังไม่ได้ออกอากาศทั้งคู่
เป็นละครที่ออกอากาศตอนปลายปีต่อจากละครชุดในปีเดียวกัน
เด็กนักศึกษาที่ดันมาหลงรักสาวรุ่นพี่ทั้งคู่ บนเงื่อนไขที่ต่างกันตามเรื่อง
มีอาวุธประจำกายคือ กีตาร์คู่ใจเอาไปแอ๊วพี่สาวในเรื่อง และตกมัมหมีที่ดูได้ดูละคร
และทั้งสองก็ฝาก single ในเวอร์ชั่น cover ในเรื่องที่แสดงทั้งคู่
จากผู้นำนักศึกษาก็พาเข้าสู่โลกมืดเป็นหนุ่มแว่น อตว. น้องแท่ง
เด็กโฮสสู้ชีวิตที่ชีวิตสู้กลับ และเกือบจะสู่ขิตแล้วเพราะต้องเอนอัพ
เรียกว่าเรื่องที่สองของนายปณิธาน ก็เอามาถึงจุดนี้เลย
ส่วนตัวพ่ออยู่มาจะ 10 ปีถึงตัดสินใจที่จะสวมบทบาทนี้กับตัวละครมานะ
ที่ได้ทะลุกรอบการแสดง และ ต้องแลกกับดราม่าอะไรหลาย ๆ อย่างที่เกิดกับบทนี้ด้วย
และบทบาททั้งสองก็อยู่ในมือผู้จัดอย่าง แอน ทอง ทั้งคู่ด้วย
จะได้กลับพบกันแบบพี่เขยกับน้องเมียไหม ก็ได้ภาวนากันไป
เพราะคงจะอีกสักพัก ร้านเวทมนตร์จะเปิดทำการอีกครั้ง
และในที่สุดก็เดินทางมาถึงวันที่
คุณพ่อพุฒิภัทรที่ในวันพฤหัสหน้า กำลังขยับสถานะของตัวเองไปอีกขั้นหนึ่ง
คุณลูกฉัตรเกล้าที่จบการศึกษาเตรียมออกมาสู่โลกบันเทิงอย่างเต็มตัว
ที่กำลังเปลี่ยนแปลงและไม่เหมือนเดิมที่ต้องต่อสู้และยืดหยัดต่อไปให้ได้