ป่วนใต้หล้า บทที่ 2 : บัณฑิตชุดดำ

สวัสดีครับทุกท่าน อ่านตอนแรกแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง สไตล์เรื่องนี้อาจจะออกแนวประยุกต์ตามใจคนเขียนไปหน่อย ไงก็ลองๆอ่านกันนะครับ เอาตอนที่ 2 มาให้ลองอ่านแล้ว

ตอนที่แล้ว

บทนำ + บทที่ 1 : ชาวต่างแดน
https://ppantip.com/topic/36610308

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทที่ 2 : บัณฑิตชุดดำ


    เหล่าศิษย์ทั้งสิบของสำนักยุทธเอะต่างไม่อาจต่อสู้

    ห้าคนข้อมือขาดด้วน ทรุดกายกุมข้อที่ไร้มือด้วยอาการเจ็บปวด

    อีกห้าคนนอนแน่นิ่งไร้สติ นัยน์ตาเหลือกไม่เหลือสภาพเดิม

    “ท่านทำอะไรพวกมัน” เชสเตอร์หันถามบัณฑิตชุดดำ

    ฮาน เมรันยังไม่ตอบโดยทันที ใบหน้ายังยิ้มแย้มคล้ายไม่ได้ผ่านการต่อสู้ เขายกสองมือที่สวมถุงมือสีดำให้นักดาบดู

    “เห็นถุงมือนี่หรือไม่”

    เชสเตอร์พยักหน้าตอบ

    “นี่แหละอาวุธของข้า ข้าใช้มันจัดการพวกมัน” บัณฑิตบอกต่อด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเคย

    นักดาบต่างแดนคล้ายยังไม่กระจ่างชัด ถามต่อว่า “พลังฝ่ามือหรือ ท่านมีวิชาฝ่ามือเหนือล้ำกว่าพวกมันอย่างนั้นหรือ”

    ฮาน เมรันยิ้ม “จะกล่าวอย่างนั้นก็น่าจะพอได้ แต่วิชาฝ่ามือของเรามิใช่วิชาฝ่ามือที่ใช้พลังภายในหรอก”

    จากนั้นเขาก็เกร็งปราณ พลันปรากฎประกายแสงวูบวาบดังเปรี้ยะขึ้นรอบฝ่ามือ

    มิใช่สิ ต้องกล่าวว่ารอบถุงมือ

    “ไฟฟ้า ท่านสร้างกระแสไฟฟ้าได้หรือ” เชสเตอร์ถาม

    “คงมิใช่เราที่สร้างหรอก หากเป็นถุงมือทมิฬคู่นี้มากกว่า ถุงมือคู่นี้คือ ถุงมือไฟฟ้า เป็นอาวุธที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าแรงสูงจากตัวเราได้ เราใช้ไฟฟ้าที่เราสร้างนี่แหละจัดการพวกมัน” ฮาน เมรันอธิบาย

    “แฟนแทสติค! ข้ามิเคยพบผู้ใดสร้างไฟฟ้าจากฝ่ามือได้เช่นนี้มาก่อน” ชาวต่างแดนมีท่าทางประหลาดใจอย่างชัดเจน

    “แฟน ๆ อะไรนะท่าน” ฮาน เมรันถาม

    “หึ เป็นคำอุทานของชาวต่างแดนอย่างข้านะ ความหมายก็เช่นเดียวกับมหัศจรรย์หรือยอดเยี่ยมนั่นแหละ”

    “ถือเป็นคำที่น่าสนใจ ไว้ข้าจะจำไว้ใช้บ้างดีกว่า”

    ที่แท้แล้วฮาน เมรันใช้ไฟฟ้าเพราะถุงมือสีดำที่สวมใส่ เนื่องจากถุงมือนี้มีวงจรพิเศษสามารถสร้างและเร่งกระแสไฟฟ้าขึ้นมาจากตัวเขาได้

    แต่ใช่ว่าคนทั่วไปสวมใส่ถุงมือนี้แล้วจะใช้ฝ่ามือไฟฟ้าได้เลย ผู้ใช้อาวุธชิ้นนี้ต้องฝึกอย่างหนัก ฝึกฝนให้ร่างกายจนสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นมาได้ โดยการให้รับกระแสไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดไฟฟ้าโดยตรงทีละน้อย และค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกหนึ่งช่วงยาม จนร่างกายคุ้นชิน สามารถรับและกักเก็บกระแสไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดเอาไว้ได้คล้ายเป็นแบตเตอรี่ที่ชาร์จแล้ว

    แน่นอนว่าถุงมือไฟฟ้าคู่นี้ไม่ใช่อาวุธปกติธรรมดา ถือเป็นสุดยอดอาวุธนอกสารบบที่น้อยคนจะเคยพบเห็น ซึ่งไม่รู้ว่าเหตุใดฮาน เมรันถึงได้ครอบครองอาวุธพิสดารเช่นนี้

    ตอนนี้เหล่าศิษย์ของสำนักยุทธเอกะที่โดนทำร้ายลากกายอันบาดเจ็บ และให้คนนำร่างของผู้ที่แน่นิ่งหนีออกจากที่นี่แล้ว

    เชสเตอร์มองบะหมี่ชามใหม่ที่สั่งมาเพิ่ม มันยังร้อนอยู่ จากนั้นค่อยหันจ้องบัณฑิตชุดดำที่ใช้ถุงมือไฟฟ้า ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยบอกว่า

    “ดูเหมือนท่านคงไม่ใช่แค่บัณฑิตธรรมดา”

    ฮาน เมรันยิ้มรับไม่ตอบทันที จู่ ๆ เขากลับพูดว่า “เรามาที่นี่เพื่อตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง”

    นักดาบต่างแดนเลิกคิ้ว “ผู้ใด”

    “เป็นคนสำคัญของผู้มีอำนาจกว่าเรา เราได้รับคำสั่งให้ตามหานาง เราเห็นว่าเมืองนี้มีหญิงสาวถูกพาตัวไปยังหมู่ตึกของหัวหน้าสาขาสำนักยุทธเอกะมากหลาย คิดว่าหญิงสาวที่เราตามหาอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้”

    เชสเตอร์พยักหน้าเล็ก ๆ หันกลับมองชามบะหมี่อีกครั้ง ไอร้อนในชามระอุขึ้นโดนใบหน้า เขาลองเอาสองนิ้วจุ่มลงในน้ำบะหมี่ ทว่าก็ต้องเอานิ้วขึ้น เพราะมันยังคงร้อนอยู่

    จากนั้นค่อยบอกว่า “แล้วท่านจะไปตามหาที่หมู่ตึกนั่นหรือ”

    “ใช่ คืนนี้เราตั้งใจว่าจะลอบเข้าไป คงหาทางเลี่ยงไม่ปะทะโดยตรง ไม่อยากประมือกับหัวหน้าสาขาถ้าไม่จำเป็น”

    “ท่านว่าไม่อยากประมือกับหัวหน้าสาขา ไยท่านต้องกลัว อานุภาพของฝ่ามือไฟฟ้า ท่านจำเป็นต้องกลัวด้วยหรือ” เชสเตอร์ถาม

    “บางคราเราจำเป็นต้องกลัว หากกระทำแล้วก่อความยุ่งยากขึ้นหลายเท่า เรายอมกลัวดีกว่า” ฮาน เมรันบอก “เราได้ยินมาว่าหัวหน้าสาขาผู้นี้ตอนนี้แรกไม่ได้อยู่สำนักยุทธเอกะ แต่หลังจากที่มันฝากตัวเป็นศิษย์ สร้างวีรกรรม เข้าหาผู้ใหญ่ในสำนัก ยอมลดศักดิ์ศรี ใช้ชิวหาเลียรองเท้าเพื่อความก้าวหน้า จนสุดท้ายได้รับตำแหน่งหัวหน้าสาขาที่นี่ ซึ่งมีผู้เล่ากันว่า พื้นเพมันเป็นคนต่างแดน พกพาอาวุธมีคมพริ้วไหวดุจอสรพิษ”

    พอเชสเตอร์ได้ยินคำว่า คนต่างแดน อาวุธมีคมพริ้วไหว ก็ครุ่นคิดหลายอย่างในใจ คล้ายกับว่าผู้มีคุณสมบัติสองอย่างนี้ตนรู้จัก

    “มันชื่อว่าอะไร”

    “เรารู้แค่ชื่อว่าที่มันใช้หลังจากอยู่ในสำนักยุทธเอกะ มันชื่อว่า ไทยาชิ”

    นักดาบต่างแดนครุ่นคิดต่ออีกครู่หนึ่ง ค่อยบอกต่อว่า

    “ข้าขอร่วมลอบเข้าสำนักสาขากับท่านได้หรือไม่”

    “ท่านจะไปด้วยย่อมเป็นเรื่องดี เราจะมีกำลังเสริม แต่ว่าทำไมท่านถึงต้องการเข้าไปด้วยเหมือนกันล่ะ”

    “ข้าเองก็กำลังตามหาคนอยู่เช่นกัน” เชสเตอร์ตอบ จากนั้นก็ก้มมองบะหมี่ ลองเอานิ้วจุ่มน้ำบะหมี่อีกครั้ง แล้วคีบเส้นบะหมี่ขึ้นมารับประทาน


(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่