[SR] Okja - หนังสะเทือนขวัญเกี่ยวกับ "หมูและอาหาร GMO"


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ผมเพิ่งไปดู Okja ของ Netflix มา หลังจากที่มันเพิ่งเปิดตัวได้ประมาณ 2-3 วันที่แล้ว (รีวิวยาวหน่อยนะ แต่ไม่มีสปอยล์แน่นอน)

ถือว่าเป็นหนังหมูๆของคนหมูๆจริงๆ เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่หมูและเด็กสาวผู้เลี้ยงหมูคนหนึ่งในใจกลางป่าชนบทของเกาหลีใต้ในยุคที่อาหารบนโลกเริ่มขาดแคลน โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับความเลวร้ายของระบบทุนนิยม นายทุน และกระแสอาหาร GMO (อาหารที่ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรม) มาเป็นกลไกสำคัญในการเล่าเรื่อง

หนังได้เปิดเรื่องมาที่ฉากแนะนำบริษัท Mirando ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lucy (แสดงโดย Tilda Swinton) ที่มีทั้งลูกเล่น และกราฟฟิคสวยใสสะดุดตาน่าสนใจแทรกเข้ามาให้ดูเป็นระยะๆ ช่วง 3-4 นาทีแรกของหนัง (เป็นหนังแนวดราม่าที่ถือว่ามีฉากเปิดตัวดี หลากสีสัน ไม่แพ้หนังของสตูดิโอ Marvel)

ที่น่าประทับใจที่สุดคือ งานถ่ายภาพของหนังเรื่องนี้ คือทำออกมาได้สดใส ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มืดไม่ครึ้ม และไม่สว่างจนเกินไป

ฉากที่เป็นฉากในป่า ฉากน้ำตก ลำธาร คือดูเขียวขจี สบายตา มองแล้วแลดูสดชื่นเหมือนได้กลิ่นอายของธรรมชาติและความเป็นพื้นที่ชายป่าจริงๆ (มีทั้งเสียงน้ำใหล และเสียงวี่แววของความเป็นป่า รวมๆคือมันใช่เลยอะ)

เอ้อ อย่างสำคัญเลย Okja ในที่นี้เนี่ยเป็นชื่อหมู (หมูตัวเมีย) นะครับ (และยังเป็น หมู CG อีกด้วย)

หมู Okja เป็นโมเดลที่ทำออกมาได้สวย และสมจริงเหมือนสัตว์มีชีวิตจริงๆเอามากๆทั้งในเรื่องของหน้าตา ผิวหนัง แววตา แขน ขา

(ถ้าจะมีอะไรที่ไม่ค่อยสมจริงในงาน CG ครั้งนี้ก็คือ การเคลื่อนไหวในบางครั้งของ Okja นี่แหละ ที่มันดูขัดๆบ้าง ในบางฉาก และบางฉากก็ทำเหมือนฉากวิ่งไล่กันในการ์ตูน Tom & Jerry หรือพวก Looney Tunes มากเกินไป)

Costume กับ Make-up ก็ดี คือชุดของ Swinton ในบทเจ้าแม่และ CEO นี่คืออลังการ ดูแพง มีความเป็นบอสใหญ่ของบริษัทมากเลย (ทรงผมก็เช่นกัน ทำให้ลุคส์ของ Swinton ในหนัง Okja ออกมาเป็นผู้นำ มีพลัง กล้าคิดกล้าทำผิดกับในบท Ancient One จาก Doctor Strange ที่ออกจะดูเรียบๆ ตามสไตล์นักบวช นักพรตไปลิบลับเลย)

สิ่งที่ช่วยการันตีความเป๊ะของฝ่าย Make-up ในหนังนี้อีกข้อก็คือ การเก็บรายละเอียดที่ยาวไปถึงมือไม้ และเล็บของตัวละครที่เดินทางเข้ามาในป่า ก็ยังมีรอยขี้ดินดำๆติดอยู่ที่ในซอกเล็บให้เห็นอีกด้วย

สำหรับ storyline และ theme การนำเสนอของหนังผมยกให้เป็น highlight ที่สุดของหนังเรื่องนี้ไปเลย มันดูน่าสนใจ แตกต่างหลากหลาย
มีความเป็นตัวของตัวเอง แม่ว่ามันจะมีจุดเด่นของหนังเรื่องอื่นหลายๆเรื่องผสมปนเปคลุกอยู่ข้างใน แต่มันกลับสามารถนำเสนอออกมาอย่างลงตัว น่าติดตาม และไม่ออกแนวเลอะเทอะ ล้นๆเกินๆแบบ Transformers เมื่อสัปดาห์ก่อน

แล้วการเล่าเรื่องยังมีลักษณะที่เป็นธรรม ยุติธรรมกับทุกตัวละครทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย คือมันสามารถเล่าให้เห็นภาพของความเลวร้ายที่ตัวเอกของแต่ละฝ่ายเองก็มีเหมือนกัน (อยู่ในโซนเทาๆเหมือนกัน ทั้งฝ่ายกลุ่มผู้รักสัตว์ และฝ่ายทุนนิยม/นายทุน) โดยไม่ได้เล่าให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มีความดีหรือเลวไปหมด 100% แข็งๆแบบหนัง Superheroes หรือหนัง Action บางเรื่อง ที่ตัวเอกต้องเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ แล้วตัวร้ายต้องมืดดำชั่วเสมอไป (แต่ Okja สามารถเล่าให้มันออกมาในโทนที่ดูเหมือนว่าทุกฝ่าย แค่ต้องการทำหน้าที่และ function ของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้เลวหรือดีโดยบริสุทธิ์ 100%)

จะมีข้อเสียอยู่บ้างก็คือ มันยังเล่าถึงโลกแบบ Dystopia ที่สถานการณ์ด้านอาหาร/ทรัพยากรบนโลกขาดแคลนไม่ค่อยชัด เพราะมัวเน้นให้เวลากับการเสียดสีให้เห็นพวกด้านมืดของระบบบริษัท ทุนนิยม วิทยาศาสตร์โภชนาการ การตลาดเพื่อสังคม รวมถึงกลุ่มผู้รักสัตว์/มังสวิรัติอย่างเดียวซะส่วนใหญ่ (แต่ก็ยังโอเค เพราะยังสามารถตอบโจทย์หลักของหนังได้)

เพลง/ดนตรีประกอบก็ดี คือมันสัมพันธ์ไปกับอารมณ์ในฉาก ไม่ว่าจะฉากตื่นเต้น ฉากดราม่า ฉากสดใส มันไปด้วยกันได้กับการตัดต่อภาพและมุมกล้อง (ข้อนี้ผมไม่มีไรจะติเลย)

บทเรื่องนี้ผมมองว่ามันค่อนข้างปานกลางๆนะ มันน่าสนใจ มันสนุก น่ารัก
ดราม่า มีหลายอารมณ์ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ดีเลิศเลออะไร แถมยังมีหลุดบางช่วงบางตอนที่มันไม่ค่อยสมเหตุสมผล หรือเวอร์ไปบ้างด้วย

ตัวอย่างเช่น บทของ Mija (แสดงโดย An Seo-Hyun เป็นนางเอก) คือแม้ว่าบทมันจะดี จะสมจริง หลากอารมณ์ มีหลายมิติ คือทั้งเป็นเด็กที่กล้าหาญ ดื้อดึง ดันทุรัง มุทะลุ ใจร้อน อันนี้คือทำออกมาดี ตีบทแตกได้น่ารักปนน่าหมั่นไส้สุดๆ

แต่บทมันไม่ค่อยสมดุลเท่าไร ในทิศทางที่มันออกจะเวอร์ๆซะหน่อย คือบทเขียนไว้ให้เด็กมันทำอะไรบ้าๆ อยากได้อะไรจะเอาให้ได้ เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห แต่บางทีมันทำออกมาเวอร์เกินจริง จนเกิน limit แบบ 'เด็กๆ' ไปเลยอะ (อันนี้ต้องไปดูเอง) มันทำซะดูไม่เป็นธรรมชาติเอาซะเลย

ส่วนบทของ Jake Gyllenhaal ที่เล่นเป็น Dr. Johnny Wilcox ก็เช่นกัน อันนี้คือดูปัญญาอ่อนมาก แบบไร้สาระเกินไป คือบทมันพยายามจะสร้างให้เป็น character ที่กวนตีน บ้าๆบอๆและตลกๆ แต่มันกลับไม่ตลก และดูน่ารำคาญอะ

(ผมไม่แน่ใจว่าผิดที่ Gyllenhaal หรือบทที่เขียนแล้ว cast ให้ Gyllenhaal แสดง)

มันดูมีความพยายามที่จะสร้าง character ที่เลียนแบบ Jim Carrey (ใครเคยดูพวก The Mask, Bruce Almighty หรือพวก Ace Ventura มาคงจะพอนึกภาพออก) แต่มันเทียบกันไม่ติดอะ (ทั้งไม่ตลก และไม่สามารถสร้างแม้แต่กลิ่นอายของความอารมณ์ขัน)

และเหนือสิ่งอื่นใด คือ Joon Ho ทำให้ตัวละครนี้มันมีลักษณะของความเป็น "การ์ตูน" มากไป ไม่เหมาะที่จะปล่อยให้ character แบบนี้ปรากฏขึ้นมาในจอหนัง live-action โดยไม่ได้ปรับหรือแก้ไขอะไรให้มันดู balance สมจริงกับเวอร์ชั่นคนแสดงมากขึ้น

ผมว่าบทและการแสดงของ Gyllenhaal ในหนัง Okja นี่คือพัง และดูไม่เป็นธรรมชาติสุดๆแล้วล่ะ (wannabe มากๆด้วย)

สำหรับบทของ Paul Dano กับ Steven Yeun และ Lily Collins ในฐานะกลุ่มองค์กรลับพิทักษ์สัตว์โลกนั้น แม้จะออกแนวๆเหมือนพวกตัวประกอบ แต่ก็เป็นตัวละครสำคัญที่เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดโปงความเลวร้ายของบริษัท Mirando ร่วมกับ Okja

Paul Dano แม้จะแสดงออกมาได้ดูจิตๆ หน้านิ่งๆและดูแข็งๆไปหน่อย แต่ผมคิดว่าคงเป็นเพราะ character หัวหน้าทีมที่ต้องดูขรึมๆและขลังๆหน่อย จะได้เสริมบารมีเวลาคุมองค์กรลับของเขา

ส่วน Steven Yeun นี่แววตามันเป็นเอกลักษณ์มากขนาดใส่ไอ้โม่งผมยังจำได้เลยว่าเป็น Steven Yeun แววตาที่คุ้นเคยจากใน The Walking Dead กลับมาให้เห็นได้ใน Okja แล้ว

แต่ Lily Collins นี่คือเงียบมากๆในเรื่องนี้ มาพูดแค่ไม่กี่ประโยค แล้วก็หมดหน้าที่

สุดท้าย คือ Tilda Swinton ในบทฝาแฝดพี่น้อง CEO บริษัท Mirando นั้นสุดยอดมาก มันมี 2 characters อะครับ คือ character ที่สุขุม เงียบขรึม ใจเย็น ฉลาด เหนือชั้น มีบารมี มีพลัง (แฝดพี่) และอีก character คือตัวแฝดน้อง จะมีลักษณะเฮฮา ยิ้มแย้มแจ่มใส ฉลาด ทะเยอทะยาน แต่ไม่รอบคอบ

เป็น 2 แฝดที่มีลักษณะค่อนข้างต่างกัน แต่ Swinton ก็ยังสามารถปรับอารมณ์ และเปลี่ยนไปเล่นอีกบทให้คนดุรู้สึกว่ามันเป็นคนละคนกันได้อะ

(เออ มีลักษณะอย่างนึงที่ 2 แฝดนี้มีร่วมกัน คือ ทั้งคู่มี character เหมือนพวกแม่มดใจร้ายในการ์ตูนจำพวกเจ้าหญิง Disney สมัยก่อนมากๆ)

เรื่อง cast นักแสดงอันนี้ผมชอบนางเอกมาก คือเด็กที่ cast เข้ามาเป็นนางเอก (Seo-Hyun) เป็นเด็กอวบ (แต่ไม่ถึงกับอ้วน) แก้มป่องๆ หน้ากลมๆ แก้มแดงๆ ตากลมๆซื่อๆ กับทรงผมบ๊อบ มันทั้งดูน่ารักปนๆไปกับความใสซื่ออะ มันสมกับบทบาทที่ได้รับมากๆ โดยเฉพาะเวลาโกรธแล้วเพ่งแววตาจ้องเขม็งไปที่คนอื่นแบบเคียดแค้นอะ มันได้อารมณ์ดี

สำหรับตอนจบของหนัง คือดูแล้วเศร้า หดหู่มากถึงมากที่สุด มันมีทั้งอารมณ์สะเทือนใจ และสะเทือนขวัญไปในเวลาเดียวกันอะ ใครที่รักสัตว์มาเห็นฉากนี้อาจจะน้ำตาคลอได้ มันเป็นความ Happy Ending ที่อยู่บนความโศกเศร้าอะ (ต้องไปดูเองนะครับ)

ตอนแรกในฉากเกือบสุดท้ายของหนังผมคิดว่า หนังจะตัดบทหาทางลงให้จบง่ายๆ แบบโลกสวยซะแล้ว แต่มันดันกลายเป็นว่า ผู้กำกับเขาสับขาหลอกคนดูให้รู้สึกโล่งอกก่อน แล้วก็ตีเข้าซ้ำด้วยภาพที่น่าหดหู่หัวใจกว่าในฉากรองสุดท้ายก่อนหนังจบ

เรียกได้ว่าเป็นความเรียบง่ายที่เป็นบันไดนำไปสู่ความสะเทือนขวัญจริงๆ เหมือนมัน build มาเพื่อฉากนั้นจริงๆอะ

ฉาก Post-Credit ก็ทำออกมาได้ความหมายดี คือ ทำออกมาเหมือนจะกำลังบอกเป็นนัยๆว่า เรื่องราวการต่อสู้มันยังมีต่อจากนี้อีกนะ (แต่เป็น Off-screen)

ซึ่งถือว่าจบได้ทิ้งทวน และสวยงามทีเดียวเลย (อย่าได้คิดจะทำภาคต่อเชียว กลัวพัง)

ถ้าอ่านแล้วชอบก็เรียนเชิญมากดไลค์ที่เพจผมได้นะครับ https://www.facebook.com/critiquesofeverything/


__________________________________________________

ขอวิจารณ์ต่ออีกนิดนึง คือตรงนี้มี spoil แทรกอยู่นะ ถ้าอ่านถึงตรงนี้ละยังไม่ได้ดูหนัง แล้วไม่อยากโดน spoil แนะนำให้ปิดได้เลยครับ ไปดูหนังมาก่อนละค่อยกลับมาอ่านตรงนี้ก็ได้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



#Netflix
#Okja
#Drama
#Action
#Adventure
#Korea
#Hollywood
#Pigs
ชื่อสินค้า:   Okja
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่