คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
เรื่องโลก เรื่องจักรวาล เรื่องกำเนิดมนุษย์ ชอบพูดกันว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
ประเด็นเรื่องพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ถูกต้องครับ เรื่องอะไรที่ไม่ช่วยเรื่องการพ้นทุกข์พระพุทธเจ้าไม่สอน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ตรัสถึง เพราะหลายเรื่องที่เราชอบถกเถียงกันพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้เพราะคนสมัยพุทธกาลนั้นก็เคยเถียงกันมาก่อนแล้ว พระพุทธเจ้าจึงตรัสถึงความเชื่อและความจริงเหล่านั้นเพื่อปูเรื่องเข้าไปสู่ธรรมะ
ส่วนเรื่องไม่ใช่ศาสนาพุทธ เรื่องนี้พูดลำบากครับ ขีดเส้นกันตรงไหนว่านี่เป็นพุทธหรือไม่พุทธ เพราะศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าไม่ได้ปฏิเสธการมีอยู่ของสิ่งใด พระองค์เพียงสอนให้ไม่ยึดติด สละทิ้ง เพื่อความหลุดพ้น นั่นคือแม้แต่คำสอนของพระองค์เมื่อหลุดพ้นแล้วก็ไม่ต้องยึดติดเหมือนกัน จะแปลว่าคำสอนของพระพุทธองค์ไม่ใช่พุทธศาสนาด้วยหรือเปล่า
เรื่องโลก เรื่องจักรวาล เรื่องกำเนิดมนุษย์ มีในพระไตรปิฎกเยอะพอสมควร ที่ปรากฏในพระสูตรก็เช่น อัคคัญญสูตร ปาฏิกสูตร และพรหมชาลสูตร หรือในชั้นอรรถกถาก็มีในสัทธัมมปกาสินีซึ่งเป็นอรรถกถาบุพเพนิวาสานุสติญาณนิทเทส ลองหามาอ่านดูกันก่อนครับจะได้ไม่เถียงกันระหว่างคนที่เคยอ่านกับคนที่ไม่เคยอ่านแต่จินตนาการไปเองว่ามันควรเป็นอย่างนั้นควรเป็นอย่างนี้
มีข้อสงสัยด้านบน สงสัยว่าถ้าสวรรค์หรือพรหมถูกทำลาย แล้วเทวดาจะย้ายไปอยู่ที่ไหน
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เทวดานะครับว่าจะไปอยู่ที่ไหน มีปัญหาไปหมดทั้งมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย และสัตว์นรก ด้านล่างนี่ถูกทำลายหมด นรกไม่มี โลกไม่มี เขาจักรวาล เขาสิเนรุ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ไม่มีเหลืออีกแล้ว แม้แต่ด้านบนพรหมโลกบางส่วนก็ถูกทำลายไปด้วย
แต่ก่อนผมเคยเข้าใจว่าก็ย้ายไปเกิดในจักรวาลอื่นสิ แต่อ่านมากๆ เข้ายิ่งน่าตกใจว่าจักรวาลอื่นก็ไม่มีให้เกิด เพราะในเวลานั้นแสนโกฏิจักรวาลก็กำลังถูกทำลายไปพร้อมๆ กัน ถ้าจะไปเกิดจริงๆ ต้องไปให้พ้นแสนโกฏิจักรวาลนี้ ซึ่งไม่เคยอ่านเจอที่ไหนว่าสรรพสัตว์ในแสนโกฏิจักรวาลนี้สามารถย้ายไปเกิดในแสนโกฏิจักรวาลอื่นได้หรือไม่ เจอเพียงว่าจากจักรวาลนี้ไปเกิดในจักรวาลอื่นได้ แต่ก็ยังเป็นจักรวาลใกล้ๆ ในแสนโกฏิจักรวาลเดียวกันนี่แหละ
ถ้าอย่างนั้นมนุษย์และเทวดาจะเป็นอย่างไรกัน
ก่อนที่จักรวาลจะถูกทำลาย ข่าวนี้เทวดาและพระพรหมที่รู้ล่วงหน้าได้ประกาศบอกกล่าวให้เตรียมตัวกันเป็นแสนปี มนุษย์และเทวดาก็พยายามรักษาศีลเจริญพรหมวิหารกันใหญ่ แล้วก็ยกระดับตัวเองขึ้นไปเกิดบนชั้นพรหมโลกได้ พวกสัตว์เดรัจฉานหรือสัตว์นรกที่พ้นกรรมมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดาทีหลังมารู้ข่าวบ้างก็เร่งเจริญพรหมวิหารกันอีกแล้วก็ไปเกิดในพรหมโลกเป็นลำดับ
แต่ท้ายสุดก็ยังเหลือพวกที่พวกที่ขึ้นไปด้วยความสามารถของตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถขึ้นไปด้วยอาการที่น่าจะเรียกว่าปล่อยผี คือหลุดขึ้นไปอออยู่ในพรหมโลกชั้นต่ำสุดที่ไม่ถูกทำลาย
และท้ายของท้ายสุด พวกที่ไปไม่ไหวจริงๆ ไม่แน่ใจว่าพูดถึงในพระสูตรหรืออรรถกถาไหน มีข้อความเพียงบรรทัดเดียวบอกไว้ว่า สัตว์บางส่วนถูกเผาไหม้อยู่หลังจักรวาล (หรือถ้าถูกทำลายด้วยน้ำหรือลมก็อยู่ในน้ำหรือลมนั่นแหละ)
ประเด็นเรื่องพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ถูกต้องครับ เรื่องอะไรที่ไม่ช่วยเรื่องการพ้นทุกข์พระพุทธเจ้าไม่สอน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ตรัสถึง เพราะหลายเรื่องที่เราชอบถกเถียงกันพระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้เพราะคนสมัยพุทธกาลนั้นก็เคยเถียงกันมาก่อนแล้ว พระพุทธเจ้าจึงตรัสถึงความเชื่อและความจริงเหล่านั้นเพื่อปูเรื่องเข้าไปสู่ธรรมะ
ส่วนเรื่องไม่ใช่ศาสนาพุทธ เรื่องนี้พูดลำบากครับ ขีดเส้นกันตรงไหนว่านี่เป็นพุทธหรือไม่พุทธ เพราะศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าไม่ได้ปฏิเสธการมีอยู่ของสิ่งใด พระองค์เพียงสอนให้ไม่ยึดติด สละทิ้ง เพื่อความหลุดพ้น นั่นคือแม้แต่คำสอนของพระองค์เมื่อหลุดพ้นแล้วก็ไม่ต้องยึดติดเหมือนกัน จะแปลว่าคำสอนของพระพุทธองค์ไม่ใช่พุทธศาสนาด้วยหรือเปล่า
เรื่องโลก เรื่องจักรวาล เรื่องกำเนิดมนุษย์ มีในพระไตรปิฎกเยอะพอสมควร ที่ปรากฏในพระสูตรก็เช่น อัคคัญญสูตร ปาฏิกสูตร และพรหมชาลสูตร หรือในชั้นอรรถกถาก็มีในสัทธัมมปกาสินีซึ่งเป็นอรรถกถาบุพเพนิวาสานุสติญาณนิทเทส ลองหามาอ่านดูกันก่อนครับจะได้ไม่เถียงกันระหว่างคนที่เคยอ่านกับคนที่ไม่เคยอ่านแต่จินตนาการไปเองว่ามันควรเป็นอย่างนั้นควรเป็นอย่างนี้
มีข้อสงสัยด้านบน สงสัยว่าถ้าสวรรค์หรือพรหมถูกทำลาย แล้วเทวดาจะย้ายไปอยู่ที่ไหน
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เทวดานะครับว่าจะไปอยู่ที่ไหน มีปัญหาไปหมดทั้งมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย และสัตว์นรก ด้านล่างนี่ถูกทำลายหมด นรกไม่มี โลกไม่มี เขาจักรวาล เขาสิเนรุ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ไม่มีเหลืออีกแล้ว แม้แต่ด้านบนพรหมโลกบางส่วนก็ถูกทำลายไปด้วย
แต่ก่อนผมเคยเข้าใจว่าก็ย้ายไปเกิดในจักรวาลอื่นสิ แต่อ่านมากๆ เข้ายิ่งน่าตกใจว่าจักรวาลอื่นก็ไม่มีให้เกิด เพราะในเวลานั้นแสนโกฏิจักรวาลก็กำลังถูกทำลายไปพร้อมๆ กัน ถ้าจะไปเกิดจริงๆ ต้องไปให้พ้นแสนโกฏิจักรวาลนี้ ซึ่งไม่เคยอ่านเจอที่ไหนว่าสรรพสัตว์ในแสนโกฏิจักรวาลนี้สามารถย้ายไปเกิดในแสนโกฏิจักรวาลอื่นได้หรือไม่ เจอเพียงว่าจากจักรวาลนี้ไปเกิดในจักรวาลอื่นได้ แต่ก็ยังเป็นจักรวาลใกล้ๆ ในแสนโกฏิจักรวาลเดียวกันนี่แหละ
ถ้าอย่างนั้นมนุษย์และเทวดาจะเป็นอย่างไรกัน
ก่อนที่จักรวาลจะถูกทำลาย ข่าวนี้เทวดาและพระพรหมที่รู้ล่วงหน้าได้ประกาศบอกกล่าวให้เตรียมตัวกันเป็นแสนปี มนุษย์และเทวดาก็พยายามรักษาศีลเจริญพรหมวิหารกันใหญ่ แล้วก็ยกระดับตัวเองขึ้นไปเกิดบนชั้นพรหมโลกได้ พวกสัตว์เดรัจฉานหรือสัตว์นรกที่พ้นกรรมมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดาทีหลังมารู้ข่าวบ้างก็เร่งเจริญพรหมวิหารกันอีกแล้วก็ไปเกิดในพรหมโลกเป็นลำดับ
แต่ท้ายสุดก็ยังเหลือพวกที่พวกที่ขึ้นไปด้วยความสามารถของตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถขึ้นไปด้วยอาการที่น่าจะเรียกว่าปล่อยผี คือหลุดขึ้นไปอออยู่ในพรหมโลกชั้นต่ำสุดที่ไม่ถูกทำลาย
และท้ายของท้ายสุด พวกที่ไปไม่ไหวจริงๆ ไม่แน่ใจว่าพูดถึงในพระสูตรหรืออรรถกถาไหน มีข้อความเพียงบรรทัดเดียวบอกไว้ว่า สัตว์บางส่วนถูกเผาไหม้อยู่หลังจักรวาล (หรือถ้าถูกทำลายด้วยน้ำหรือลมก็อยู่ในน้ำหรือลมนั่นแหละ)
แสดงความคิดเห็น
กำเนิดโลกมนุษย์ อธิบายในทางพุทธศาสนา
ถาม: ..... ?
ตอบ: ก่อนที่จะกำเนิดเป็นมนุษย์ขึ้นมา สภาพจิตของเขาเทียบเท่า อาภัสราพรหม คือ พรหมชั้นที่ ๖ จะมีความสว่างไสว มีความมั่นคง แน่วแน่
ถือว่าเล่านิทานให้ฟังแล้วกัน เมื่อโลกจะกำเนิดใหม่ จะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลกเก่าก่อน ซึ่งทฤษฎีนี้ฝรั่งเรียกว่า "บิ๊กแบงก์" (Big Bang) คือดวงอาทิตย์จะขยายตัว จนระเบิดออกมากลืนดาวเคราะห์ทั้งหมดไป ลักษณะแบบนี้ทางพระเรียกว่า "ไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก"
หลังจากนั้นจะเกิดฝนตกลงมา ดินที่โดนเผาจนสุกพอโดนน้ำฝนใหม่ ๆ กลิ่นจะหอมมาก กลิ่นนี้ลอยสูงขึ้นไป อาภัสราพรหม คือพรหมที่อยู่ข้างบนได้กลิ่น ก็อยากรู้อยากเห็น เลยลงมาลองชิม ลองกินดู เมื่อตัวเองอยู่ด้วยความเป็นทิพย์ กินของหยาบเข้าไปเลยทำให้ร่างกายหยาบ ไม่สามารถที่จะเหาะกลับได้ แสงสว่างที่เคยมีอยู่ก็หมดไป กลายเป็นต้นกำเนิดมนุษย์ขึ้นมา
เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็จะต้องมีการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงชีพตัวเอง จึงเกิดการทำในสิ่งที่ถูกต้องตามศีลธรรมก็มี ผิดพลาดไม่เป็นไปตามศีลธรรมก็มี นรกสวรรค์ก็เลยจำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อรองรับการกระทำของพวกเขา จริง ๆ แล้วจะเห็นว่า นรกสวรรค์นั้นเกิดจากการกระทำของตัวเราเองแท้ ๆ เลย