สวัสดีครับทุกท่าน
ผมมีสมมติฐานเกี่ยวกับการกำเนิดกัปท์และการสิ้นไปแแห่งกัปท์ซึ่งทั้งหมดนี้
เกิดขึ้นจากการคาดเดา โดยอาศัยข้อมูลจากพระไตรปิฎก และหลักวิทยาศาสตร์
ลองวางความเชื่อเดิมทั้งหมด แล้วมาอ่านดูน่ะคับ ว่ามีความเป็นไปได้มากหรือน้อยเพียงใด

มาดูที่ภาพประกอบน่ะครรับเป็นกราฟ ในกราฟนี้เริ่มต้นจากยุคพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จนถึงสิ้นอายุศาสนาพระศรีอารย์
กราฟ แบ่งเป้นสองส่วน ส่วนข้างบนคือ ช่วงอายุมนุษย์ขาขึ้น คือ ทุก100ปี มนุษย์ อายุเพิ่มขึ้นจากอายุเฉลี่ย 1 ปี
และช่วงขาลงคือ ทุก 100 ปี มนุษย์ อายุเฉลี่ยลดลง 1 ปี **เราอยู่ในช่วงลด**


ซึ่งจากกราฟพอสรุปได้ดังนี้
1.ผู้คนในช่วงปฐมกัปนับถือศาสนาพราหมณ์ เพราะพรหมมากินง้วนดินจากกายละเอียดเป็นกายหยาบ มีการเสพสมกัน มีลูกมีหลาน
พวกลูกหลานฟังการถ่ายถอดจากประสบการณ์ รุ่นสู่รุ่น ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นพรหม จึงเสาะแสวงหาทางเพื่อกลับไปเป็นพรหม
เหมือนที่ ที่เขาจากมา ซึ่งก็เป็นหลักของศาสนาพราหมณ์ในปัจจุบบันและเป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดของโลก

2.มนุษย์์และไดโนเสาร์เคยมีชีวิตอยู่ร่วมกัน ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่มนุษย์อายุสูงสุดอยู่ที่ 10 ปี มนุษย์เป็นผ้ถูกล่าเป็นอาหาร อยู่ในรูบ้างในถำ้บ้าง
ซึ่งรูปร่างมนุษย์ช่วงนั้นอาจมีขนาดรูปร่างเท่าขวดนำ้ปลา ซึ่งผมได้แนวคิดมาจาก ความคิดเห็นของสมาชิกท่านหนึ่งที่ว่า

                          สัตว์ในโลกยุคดึกดำบรรพ์ (ไดโนเสาร์) นั้น เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดเกิดขึ้นในช่วงที่โลกกำลังประสพกับภาวะความเสื่อมทราม
ทางจิตใจเป็นอย่างมากแล้ว ที่เรียกกันว่า "กลียุค" หรือ "มิคสัญญี" (มาจากคำว่า มิค แปลว่า เนื้อ และสัญญีซึ่งแปลว่า
การจำได้หมายรู้ (ในที่นี้หมายถึง การมองเห็น) รวมความแล้วจึงเป็นยุคที่หมู่มนุษย์และเหล่าสัตว์ต่างมองเห็นกัน
เป็นประหนึ่งดั่งสัตว์ป่า) ซึ่งเป็นยุคที่มีแต่การรบราฆ่าฟันกันโดยถ่ายเดียว

เมื่อมนุษย์จิตใจเสื่อมทรามลง ด้วยอกุศลกรรมบถ 10 ประการ ไปเรื่อยๆ จนถึงยุคๆ หนึ่ง กระแสบาปจะไปทำให้สัตว์ทั้งหลาย
ที่มีอยู่เกิดการกลายพันธุ์ โดยกิ้งก่าขนาดเล็ก ออกลูกมาจะกลายเป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นไดโนเสาร์
แล้วกรรมไปเอาลูกที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มาจากไหน ก็มาจาก สัตว์นรกที่ถูกลงโทษในมหานรก ที่ใกล้จะพ้นกรรม ซึ่งตัวใหญ่โตมาก
เดิมทีก็จะต้องรับโทษไปตามขั้นตอน แต่เมื่อแรงบาปในเมืองมนุษย์มีมากพอ จนเหมาะเจาะกับสภาวะกรรมของมหานรกได้
กรรมนั้นก็จะดึงดูดสัตว์นรกนั้นๆ มาเกิดในเมืองมนุษย์ จึงมีร่างกายใหญ่โตไปทั้งสิ้น
แล้วมีมนุษย์อยู่หรือไม่ ต้องมีสิครับ โดยมนุษย์จะตัวเล็กๆ คล้ายๆ ลิง แต่ไม่ใช่ลิง
(เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ทาง Discovery ตีพิมพ์การขุดพบซากมนุษย์ตัวเล็กคล้ายลิง มีอายุซากหลายพันล้านปีก่อน
ตอนแรกคิดว่าเป็นลิง แต่พอค้นพบหลักฐานอื่นว่า รู้จักใช้หินมาทำเป็นเครื่องไม้เครื่องมือ รู้จักใช้ไฟ
ซึ่งสุดปัญญาที่ลิงจะทำเช่นนั้นได้ ก็เลยเชื่อว่าเป็นมนุษย์) หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้า แล้วค่อยๆ ตั้งใจมารักษาศีล
พอเริ่มตั้งใจมารักษาศีลกันมากๆ ผลบุญโดยรวมก็เกิดขึ้น เป็นกำลังบุญโดยรวม ทำให้ไดโนเสาร์ต่างๆ ค่อยๆ
กลายพันธุ์กลับไปเอง เช่น กิ้งก่าตัวโต ก็ออกลูกมาเป็นกิ้งก่าตัวเล็กลงไปเอง จนมาเป็นปรกติ

ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่า นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย ยังต้องงมเข็มไปอีกนาน ในการค้นหาว่า
ไดโนเสาร์มาจากไหน และทำไมถึงสูญพันธุ์จากโลกมนุษย์ไปจนหมด มีนักคิดมากมายบอกว่า
สภาพอุกาบาตชนโลกทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ (เพราะมันไม่จริง)

**********แล้วเมื่อมนุษย์มีศีลธรมก้อเเข้าสู่ยุคอายุขาขึ้นมาเรื่อยๆแล้วรอช่วงเวลาที่พระพุทธเจ้ามาชี้นำหนทางที่หลุดพ้นที่แท้จริง
ศาสนาพราหมณ์ก็ยังคงอยู่กับช่วงของงอายุมนุษย์ทุกช่วงจนถึงงปัจจุบัน

3.เมื่อสิ้นยุคขอองพระศรีอารย์ โลกจะถูกทำลายล้างด้วยไฟบรรลัยกัลป์ ซึ่งในความคิดของมน่าจะเป็น ซูเปอร์โนวา ดวงอาทิตย์เกิดการระเบิด***ลองวางคำทำนายของนาซ่าก่อนน่ะคับว่าดวงอาทิตย์จะเป็นแค่ดาวยักษ์แดงไม่มีการระเบิด  เพราะคำทำนายอาจจะไมม่เที่ยงก็ได้ อีกกี่พันล้านปีอะไรจะเกิดขึ้นใครจะไปรู้*** เมื่อดวงอาทิตย์จะเบิด จะเกิดเป็นเนบิวล่า เนบิวล่านั้นสามารถรวมตัวกันขึ้นได้อีกครั้ง  อาจจะเป็นดวงอาทิตย์ของอีกกัปต่อไป เกิดดาวเคราะห์โลกขึ้นอีกครั้ง พรหม มากินง้วนดินอีก เป็นวัฏจักรสืบต่อกันไป สู่กัปท์ใหม่ออีกครั้ง......

       ปล.ข้อมูลบางอันอาจจะไม่ตรงกับตำราเดิมน่ะครับเพราะผมจำมาไม่ได้ก็อบมาวาง
และอย่าว่าผมบ้าเลยน่ะครับ ถ้าเราจะศรัทธาอะไรซักอย่างนึงเราต้องหาเหตุผลมารองรับ ซึ่งสมมติฐานนี้จะจริงหรือไม่ก็ช่าง
ที่ผมเชื่อแบบนี้เพราะว่า การที่พระพุทธเจ้าลอยถาดแล้วไปซ้อนกับถาดเดิมของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนทั้งสาม  
ผมจึงเชื่อว่า พระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์จะมาอุบัติที่โลกนี้ทุกพระองค์ ในภัทรกัปนี้