รัก ... นี้จริงจากใจหรือเปล่า
หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแค่เพียงแต่แลตา
ยั่วอุราให้หลงลำพอง
" มายด์รักอินเถอะนะ " ได้ไหม ... คำสารภาพรักกึ่งอ้อนวอนออกจากปากของหมออินมุ่งตรงเข้าสู่โสตประสาทของมายด์ ฉันคิดว่าหมออินลึก ๆ แล้วก็คงรู้อยู่ในใจว่าสิ่งที่ตามมานับจากนี้คืออะไร แต่ก็ยังจะลองเสี่ยงแต่ก็ยังอยากจะเชื่อมั่นว่าความรักและปรารถนาดีอย่างไร้ขอบเขตของตัวเอง หรือ ที่ฉันอยากจะเรียกมันว่าความรักของ "อวิชชา" นั้นจะฉุดรั้งจิตใจของมายด์เอาไว้ได้ คิดไม่ใช่ในฐานะของแพทย์ ไม่ได้ใช้วิจารณญาณอย่างแพทย์ แต่คิดอย่างคนที่แชร์ชีวิตส่วนหนึ่งร่วมกันมา ชีวิตที่หล่อหลอมให้อินทัชคิดว่า "ชีวิตนี้" จะอุทิศเพื่อมายด์ไม่ว่าทางใด
การปลอบโยนทุกครั้งที่เห็นมายด์ทุกข์ทน กลับมาทุกครั้งที่มายด์เรียกหาก อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ในเวลาที่มายด์ไม่ต้องการ บางครั้งฉันก็คิดว่าหมอเองก็คงมีอาการอะไรเก็บกดอยู่ข้างใน แอบคิดไปว่าหมอคงเป็นมาโซคิสไม่ใช่เพียงทางร่างกายรวมถึงด้านอารมณ์ คนปกติคงไม่เป็นเช่นนี้มานานนับสิบปี ไม่ว่าถูกทำร้ายแค่ไหนก็ยังจะกลับมา และ ไม่ว่าจะถูกปฏิเสธแค่ไหนก็ยังเชื่อ มีข้อความหนึ่งผ่านตาฉันไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประมาณว่า " ผู้คนที่ยังยึดติดกับคนที่ไม่ใช่ใส่ใจพวกเขา เพราะว่าความรักทำให้คนเรานั้นมีหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง "
สำหรับหมออินคงเป็นแบบนั้น ทั้งที่รู้ว่ามายด์เป็นอะไร และ ทางที่ถูกที่ควรมันน่าจะเป็นอย่างไร แต่ "ความรัก" ก็ทำให้หมออินคิดว่าอะไร ๆ น่าจะเปลี่ยนแปลง ทุกหยาดหยดความรักความเอาใจใส่ ทุกอย่างที่ทำให้ ทุกคำอ้อนวอนที่เพียรบอกกล่าวจะทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง มายด์คงรักอินได้ซักวัน มายด์คงจะผูกติดอยู่กับอินได้ในวันไหนวันหนึ่ง
มาคิดดูแล้ว ... มายด์กับอินในจดนี้ก็ไม่ได้ต่างกัน ซ้อนทับความคิดได้ราวกับมีความคิดอย่างเดียวกัน ความต้องการของมายด์อาจดูโหดร้ายแหลมคม เป็นการแย่งยื้อผู้ชายสำเร็จรูปมาไว้กับตัว หากสิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองคน คือ เมื่อรักแล้วก็มีความหวัง หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงได้ จากความรู้สึกของใครคนใดคนหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว มายด์ปรนเปรอผู้ชายทุกคนด้วยสิ่งที่คิดว่าผูกใจและกายไว้ให้ได้นานที่สุด นั่นคือ ร่างกาย คือ เซ็กส์ คืออะไรก็แล้วแต่ที่ส่อไปในความสำเริงสำราญในเพศรส
การ "ให้ และ ปรนเปรอ" ของทั้งสองอาจอยู่ในมุมที่แตกต่าง หากสิ่งที่เหมือนกัน คือ สิ่งไรก็ตามที่ไหนได้ก็ทุ่มเทไปทั้งชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ใคร ไม่รู้ผิดชอบ ไม่รู้จริงเท็จ ไม่รู้ผิดถูก หมอทั้งที่รู้ว่ามายด์ผิดซ้ำซาก ผิดในผิด ผิด inception หมอก็ยังปกป้อง และ ปัดเป่าทุกร้อนอุปสรรคทั้งหมดออกไปจากมายด์ ใครจะเดือดร้อน ใครจะนอนโรงพยาบาล โดยขับรถชน พวกนั้นก็ยังเป็นคนที่ผิด อย่างน้อยก็คือผิดมากกว่ามายด์ สำหรับมายด์ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเหมือนมายด์จะรู้จักการให้อยู่อย่างเดียว นั่นคือ เซ็กส์ ทั้งทุ่มทั้งให้จนหมดตัวและหัวใจ ราวกับคิดไม่ออกอีกแล้วว่าจะให้อะไรเพราะนั่นคือสิ่งที่คิดว่ามีค่ามีราคาที่สุดแล้วในชีวิตของมายด์
ทั้งคู่ต่างหลงวนเวียนอยู่ในกับดักที่ตัวเองสร้างขึ้นโดยไม่คิดถึงทางรักษาเยียวยา ถึงภายนอกการกระทำจะดูต่างกัน แต่แก่นแท้แทบจะแกะกันออกมาไม่ผิดเพี้ยน การให้ ให้ ให้ และ ยัดเยี่ยดให้ ในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ ไขว่ขว้าในสิ่งที่ตัวเองอยากได้โดยผิดวิธี ก็ไม่มีความสุขอันยั่งยืนแท้จริงให้สัมผัส ความรักไม่ใช่สิ่งที่จะยัดเยียดได้และยิ่งไม่ใช่สิ่งที่ต้องไขว่คว้า ความรักเป็นสิ่งที่คนสองคนใจสองดวงที่จะต้องบ่มเพาะ ผ่านการขัดเกลาของเวลา การบีบอัดของประสบการณ์ เพื่อเติบโต มั่นคง แข็งแรงไปด้วยกัน
เพราะแบบนั้นด้วยหลักคิดสุดโต่งของดินและมายด์ เส้นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคดที่ทั้งสองคิดว่าแสนจะยาวไกลและเหน็ดเหนื่อยแท้จริงแล้วก็ไม่ได้ยาวไกลซักเท่าใด .... มันก็วนเวียนอยู่ในวงกตที่ใจของตัวเองสร้างขึ้น ไม่เคยหลุดพ้น .... เหมือนกับพระอาทิตย์ที่เดินทางในม่านหมอกแห่งความมืด .... จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต ที่ทั้งสองต่างร่วงหล่นลงในกับดักของตัวเอง
น่าเสียดายเหมือนกันที่กว่าจะรู้ว่าชีวิตของตัวเองมีค่าสำหรับใคร
กว่าจะรู้ว่าความรักในทางที่ถูกที่ควรมันจะเป็นอย่างไร
ก็สายเกินไปเสียแล้ว
กับดักเสน่หา (กึ่งวิเคราะห์) : อินกับมายด์ ... midnight sun journey
หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแค่เพียงแต่แลตา
ยั่วอุราให้หลงลำพอง
" มายด์รักอินเถอะนะ " ได้ไหม ... คำสารภาพรักกึ่งอ้อนวอนออกจากปากของหมออินมุ่งตรงเข้าสู่โสตประสาทของมายด์ ฉันคิดว่าหมออินลึก ๆ แล้วก็คงรู้อยู่ในใจว่าสิ่งที่ตามมานับจากนี้คืออะไร แต่ก็ยังจะลองเสี่ยงแต่ก็ยังอยากจะเชื่อมั่นว่าความรักและปรารถนาดีอย่างไร้ขอบเขตของตัวเอง หรือ ที่ฉันอยากจะเรียกมันว่าความรักของ "อวิชชา" นั้นจะฉุดรั้งจิตใจของมายด์เอาไว้ได้ คิดไม่ใช่ในฐานะของแพทย์ ไม่ได้ใช้วิจารณญาณอย่างแพทย์ แต่คิดอย่างคนที่แชร์ชีวิตส่วนหนึ่งร่วมกันมา ชีวิตที่หล่อหลอมให้อินทัชคิดว่า "ชีวิตนี้" จะอุทิศเพื่อมายด์ไม่ว่าทางใด
การปลอบโยนทุกครั้งที่เห็นมายด์ทุกข์ทน กลับมาทุกครั้งที่มายด์เรียกหาก อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ในเวลาที่มายด์ไม่ต้องการ บางครั้งฉันก็คิดว่าหมอเองก็คงมีอาการอะไรเก็บกดอยู่ข้างใน แอบคิดไปว่าหมอคงเป็นมาโซคิสไม่ใช่เพียงทางร่างกายรวมถึงด้านอารมณ์ คนปกติคงไม่เป็นเช่นนี้มานานนับสิบปี ไม่ว่าถูกทำร้ายแค่ไหนก็ยังจะกลับมา และ ไม่ว่าจะถูกปฏิเสธแค่ไหนก็ยังเชื่อ มีข้อความหนึ่งผ่านตาฉันไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ประมาณว่า " ผู้คนที่ยังยึดติดกับคนที่ไม่ใช่ใส่ใจพวกเขา เพราะว่าความรักทำให้คนเรานั้นมีหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลง "
สำหรับหมออินคงเป็นแบบนั้น ทั้งที่รู้ว่ามายด์เป็นอะไร และ ทางที่ถูกที่ควรมันน่าจะเป็นอย่างไร แต่ "ความรัก" ก็ทำให้หมออินคิดว่าอะไร ๆ น่าจะเปลี่ยนแปลง ทุกหยาดหยดความรักความเอาใจใส่ ทุกอย่างที่ทำให้ ทุกคำอ้อนวอนที่เพียรบอกกล่าวจะทำให้อะไรเปลี่ยนแปลง มายด์คงรักอินได้ซักวัน มายด์คงจะผูกติดอยู่กับอินได้ในวันไหนวันหนึ่ง
มาคิดดูแล้ว ... มายด์กับอินในจดนี้ก็ไม่ได้ต่างกัน ซ้อนทับความคิดได้ราวกับมีความคิดอย่างเดียวกัน ความต้องการของมายด์อาจดูโหดร้ายแหลมคม เป็นการแย่งยื้อผู้ชายสำเร็จรูปมาไว้กับตัว หากสิ่งที่เหมือนกันของทั้งสองคน คือ เมื่อรักแล้วก็มีความหวัง หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงได้ จากความรู้สึกของใครคนใดคนหนึ่งเพียงฝ่ายเดียว มายด์ปรนเปรอผู้ชายทุกคนด้วยสิ่งที่คิดว่าผูกใจและกายไว้ให้ได้นานที่สุด นั่นคือ ร่างกาย คือ เซ็กส์ คืออะไรก็แล้วแต่ที่ส่อไปในความสำเริงสำราญในเพศรส
การ "ให้ และ ปรนเปรอ" ของทั้งสองอาจอยู่ในมุมที่แตกต่าง หากสิ่งที่เหมือนกัน คือ สิ่งไรก็ตามที่ไหนได้ก็ทุ่มเทไปทั้งชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ใคร ไม่รู้ผิดชอบ ไม่รู้จริงเท็จ ไม่รู้ผิดถูก หมอทั้งที่รู้ว่ามายด์ผิดซ้ำซาก ผิดในผิด ผิด inception หมอก็ยังปกป้อง และ ปัดเป่าทุกร้อนอุปสรรคทั้งหมดออกไปจากมายด์ ใครจะเดือดร้อน ใครจะนอนโรงพยาบาล โดยขับรถชน พวกนั้นก็ยังเป็นคนที่ผิด อย่างน้อยก็คือผิดมากกว่ามายด์ สำหรับมายด์ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งเหมือนมายด์จะรู้จักการให้อยู่อย่างเดียว นั่นคือ เซ็กส์ ทั้งทุ่มทั้งให้จนหมดตัวและหัวใจ ราวกับคิดไม่ออกอีกแล้วว่าจะให้อะไรเพราะนั่นคือสิ่งที่คิดว่ามีค่ามีราคาที่สุดแล้วในชีวิตของมายด์
ทั้งคู่ต่างหลงวนเวียนอยู่ในกับดักที่ตัวเองสร้างขึ้นโดยไม่คิดถึงทางรักษาเยียวยา ถึงภายนอกการกระทำจะดูต่างกัน แต่แก่นแท้แทบจะแกะกันออกมาไม่ผิดเพี้ยน การให้ ให้ ให้ และ ยัดเยี่ยดให้ ในสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ ไขว่ขว้าในสิ่งที่ตัวเองอยากได้โดยผิดวิธี ก็ไม่มีความสุขอันยั่งยืนแท้จริงให้สัมผัส ความรักไม่ใช่สิ่งที่จะยัดเยียดได้และยิ่งไม่ใช่สิ่งที่ต้องไขว่คว้า ความรักเป็นสิ่งที่คนสองคนใจสองดวงที่จะต้องบ่มเพาะ ผ่านการขัดเกลาของเวลา การบีบอัดของประสบการณ์ เพื่อเติบโต มั่นคง แข็งแรงไปด้วยกัน
เพราะแบบนั้นด้วยหลักคิดสุดโต่งของดินและมายด์ เส้นทางลดเลี้ยวเคี้ยวคดที่ทั้งสองคิดว่าแสนจะยาวไกลและเหน็ดเหนื่อยแท้จริงแล้วก็ไม่ได้ยาวไกลซักเท่าใด .... มันก็วนเวียนอยู่ในวงกตที่ใจของตัวเองสร้างขึ้น ไม่เคยหลุดพ้น .... เหมือนกับพระอาทิตย์ที่เดินทางในม่านหมอกแห่งความมืด .... จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต ที่ทั้งสองต่างร่วงหล่นลงในกับดักของตัวเอง
กว่าจะรู้ว่าความรักในทางที่ถูกที่ควรมันจะเป็นอย่างไร
ก็สายเกินไปเสียแล้ว