ความรักเอย ... เจ้าลอยลมหรือหรือไร
มาดลจิตมาดลใจ ... เสน่หา
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงวัยต้นซึ่งจิ้มลิ้มสวยสะ หน้าที่การงานมั่นคง หลงเข้าสู่วังวน "เสน่หา" อาจะเป็นเพราะความยากได้อยากมี อาจเป็นเพราะตัณหาพาไปอย่างกู่ไม่กลับ หรือ อาจเป็นจิตใจเบื้องลึกที่บิดเบี้ยวมานานจนเกือบชั่วชีวิต " มายด์ " " คารามายด์ " ที่เปลี่ยนไปแล้วเป็น " อิมายด์ " (ฮา) เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกอยู่ในวังวนแห่งนี้ ... เป้าหมายของเธอคือ ดนตร์ ผู้บริหารรุ่นกลางมาแรง เขารูปงาม มีฐานะ มีความสามารถ มีความพรั่งพร้อมบริบูรณ์ ที่มายด์คิดไขว่ขว้าอยากได้
แต่ในความอยากได้ของมายด์ ... อาจจะมองดูแล้วง่าย ๆ ก็เหมือนคนมีกิ๊กเขาเป็นกัน เหมือนเมียน้อยเมียหลวงทั่วไป หากเอาเข้าจริงสิ่งที่มายด์ต้องการมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความต้องการทางวัตถุ เธอไม่ได้ต้องการเขา เพราะอยากจะมีเงินใช้ เธอไม่ได้ต้องการเขาเพื่อหน้าที่การงาน หรือ แม้กระทั่งเพื่ออิ่มเอมเร่าร้อนในเพศรส สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการคือ " ครอบครัว " คนในฝันที่จะคอยอยู่เคียงข้าง และ คน ๆ นั้นไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายคนไหนก็ได้ แม้กระทั่งหมออินที่เคียงข้างมาตลอด เขาแสนดี เขาอบอุ่น เขาพร้อมที่จะอ้าแขนรับมายด์ ดูแลมายด์ไปจนชั่วชีวิต มองดูแล้วน่าจะตอบโจทย์ แบบนั้นก็น่าจะเป็นหนุ่มในฝัน และ แบบนั้นก็น่าจะเป็น "ครอบครัว" ที่ใฝ่หา แต่สำหรับมายด์แล้ว ... ท้ายที่สุดมันก็ยังไม่ใช่ "คนในฝัน" ยังไม่ใช่ "ครอบครัว" คำถามคือ " ทำไม "
เมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็ก ... เธอเคยมีครอบครัวอันอบอุ่น พ่อแม่รักใคร่ลึกซึ้ง ภาพจำเหล่านั้น และ ความรักที่เธอได้รับคงตราตรึงลงในหัวใจ แต่ทั้งที่ยังเด็กนิดเดียวอุบัติเหตุพรากพ่อกับแม่ของเธอจากไป แล้วชีวิตก็ลงเอยในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ... ซึ่งก็ไม่เอื้อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีซักเท่าไหร่ สายตาที่มายด์มองเด็กน้อยที่โดนผู้ใหญ่ตีเอา ๆ ในวัด อาจเป็นข้อมูลที่น้อยนิด แต่ก็สามารถสะท้อนอะไรได้พอควร คงมี "เรื่องราว" บางประการเกิดขึ้น ณ ที่ ๆ มายด์เติบโต มีเหตุการณ์บ่มเพาะความบิดเบี้ยวในตรรกะการคิดและจิตใจแล้วส่งผลออกมาเป็นการกระทำ
" ขาดความรัก " เป็นหนึ่งคำที่ผุดขึ้นมากลางความคิด การจากไปอย่างกะทันหันของพ่อแม่ และ ไม่มีเครือญาติที่ไหนรับไปดูแล อาจทำให้มายด์รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวในโลก โดยเฉพาะมายด์เองเคยได้รับความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่มาแต่ก่อนเก่า การโหยหาความรู้สึกเหล่านั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดา สำทับด้วยการอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่การดูแลเอาใจใส่มีข้อจำกัด ไม่มีทางที่จะเหมือนครอบครัวจริง ๆ ได้ นี่อาจเป็นต้นเหตุให้ความโหยหาทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และ พยายามคิดหาวิธีว่าทำอย่างไรจะได้มันมา ความรัก ความเอื้อเอ็นดู ความอบอุ่นที่ไม่ใช่แค่ฉันคนรัก แต่จะต้องเป็นทั้งคู่ชีวิต เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นพ่อ เห็นมายด์เป็นสิ่งที่มีค่าที่จะประคับประคองดูแล
สิ่งที่มีมายด์ต้องการจะมีจึงไม่ใช่แค่ผู้ชายหล่อรวยสายเปย์ หรือ ผู้ชายหนีเมียมามีกิ๊ก หรือ ผู้ชายโสด ก็ไม่เข้าเค้า มายด์อยากได้ผู้ชายที่เป็นตัวแทนของความเป็น "พ่อ" ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อีกทั้งต้องขึ้นชื่อว่ารักและเอาใจใส่ครอบครัว ดังนั้นเป้าหมายของมายด์ในแต่ละครั้ง คือ "ความสำเร็จรูป" ตรงนี้ แล้วมันจะต้องได้มาอย่างไร คิดว่าคงไม่มีใครบอกกล่าวชี้นำ ... มายด์จึงแก้ปัญหาไปตามประสบการณ์ และ สัญชาตญาณที่มี เธอจึงจัดการล่อลวงพวกเขาเหล่านั้นด้วย แผนการ เรือนร่าง เซ็กส์ และ จิปาถะนานา ซึ่ง ... กับผู้ชายมันก็มีเวลาที่พลั้งเผลอปล่อยกายปล่อยใจไปตามอารมณ์
แต่ก็อีก ... ผู้ชายแบบที่มายด์ต้องการ ความสำเร็จรูปอย่างนั้น ผู้ชายที่บริบูรณ์ด้วยความรัก ความอบอุ่น น่านับถือ มีความเป็นครอบเป็นครัว แผนการ เรือนร่าง กับ เซ็กส์ มันจะหยุดพวกเขาไว้ได้ซักกี่น้ำ เมื่อครอบครัวความรักความเป็นคู่ชีวิตเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง มันไม่ใช่สิ่งที่สำเร็จรูปมาแล้วฉกฉวยเอามาได้ พวกเขาหล่านั้น family man ที่มายด์อยากได้ กว่าจะเป็นแบบนั้นมันไม่ได้ทำคนเดียว เขามีคนที่อยากจะสร้างครอบสร้างครัวด้วย แล้วเขาก็สร้างมันกับผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว คนที่ไม่ใช่มายด์ ความผูกพันที่บ่มเพาะกันมาแบบนั้น ใครจะปล่อยให้มันพังในชั่วข้ามคืน กับดักที่มายด์สร้างก็ฉุดรั้งเอาไว้ได้ก็ชั่วคราวไม่ได้มีความยั่งยืน หรือ แท้จริงอะไรเลย พวกเขาเหล่านั้นก็มีแต่อยากจะดิ้นให้หลุดจากกับดักของมายด์ทั้งนั้นล่ะ
ซึ่งข้อนี้มายด์ก็คงรู้ ... ไม่ใช่ว่าไม่รู้ เพียงแต่กลบฝังมันไว้ และ ไม่อยากจะยอมรับความจริง ว่าหลุมพรางที่บรรจงดักบรรจงล่อลวงหนักข้อขนาดทุ่มตัวเข้าแลกก็ยังได้แค่เปลือก คอยแต่คิดมโนเพ้อพกปลอบใจตัวเองเข้าว่าเอาเถอะเดินไปเรื่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ทุ่มไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเขาก็เห็นใจ เดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน เดี๋ยว ...... อีกเดี๋ยว แต่ไม่ว่าจะกี่เดี๋ยวจะกี่คน ก็กลายเป็นมายด์ที่ปราชัยไปเสียสิ้น จนสุดท้ายก็แลดูว่าแม้กระทั่งแลกด้วยชีวิตผู้ชายเหล่านั้นก็คงไม่สนใจ แล้วมันก็คงเป็นแบบนี้เรื่อยไป ถ้ามายด์ยังคงมี mindset เดิม ๆ ชุดความคิดที่จะฉกฉวยผู้ชายสำเร็จรูป ทั้งที่สิ่งที่มายด์อยากจะได้อยากจะมีเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง ชีวิตของเจ้าหล่อนก็คงจะวนลูปอย่างนี้ต่อไป
จะพยายามอีกกี่ครั้งมันก็ไม่พ้นเป็นแบบเดิม ๆ .... ถ้าใจยังอยู่ใน "กับดัก" เช่นนี้
กับดักเสน่หา (กึ่งวิเคราะห์) : Mind in the trap
มาดลจิตมาดลใจ ... เสน่หา
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงวัยต้นซึ่งจิ้มลิ้มสวยสะ หน้าที่การงานมั่นคง หลงเข้าสู่วังวน "เสน่หา" อาจะเป็นเพราะความยากได้อยากมี อาจเป็นเพราะตัณหาพาไปอย่างกู่ไม่กลับ หรือ อาจเป็นจิตใจเบื้องลึกที่บิดเบี้ยวมานานจนเกือบชั่วชีวิต " มายด์ " " คารามายด์ " ที่เปลี่ยนไปแล้วเป็น " อิมายด์ " (ฮา) เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกอยู่ในวังวนแห่งนี้ ... เป้าหมายของเธอคือ ดนตร์ ผู้บริหารรุ่นกลางมาแรง เขารูปงาม มีฐานะ มีความสามารถ มีความพรั่งพร้อมบริบูรณ์ ที่มายด์คิดไขว่ขว้าอยากได้
แต่ในความอยากได้ของมายด์ ... อาจจะมองดูแล้วง่าย ๆ ก็เหมือนคนมีกิ๊กเขาเป็นกัน เหมือนเมียน้อยเมียหลวงทั่วไป หากเอาเข้าจริงสิ่งที่มายด์ต้องการมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความต้องการทางวัตถุ เธอไม่ได้ต้องการเขา เพราะอยากจะมีเงินใช้ เธอไม่ได้ต้องการเขาเพื่อหน้าที่การงาน หรือ แม้กระทั่งเพื่ออิ่มเอมเร่าร้อนในเพศรส สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการคือ " ครอบครัว " คนในฝันที่จะคอยอยู่เคียงข้าง และ คน ๆ นั้นไม่ใช่ว่าเป็นผู้ชายคนไหนก็ได้ แม้กระทั่งหมออินที่เคียงข้างมาตลอด เขาแสนดี เขาอบอุ่น เขาพร้อมที่จะอ้าแขนรับมายด์ ดูแลมายด์ไปจนชั่วชีวิต มองดูแล้วน่าจะตอบโจทย์ แบบนั้นก็น่าจะเป็นหนุ่มในฝัน และ แบบนั้นก็น่าจะเป็น "ครอบครัว" ที่ใฝ่หา แต่สำหรับมายด์แล้ว ... ท้ายที่สุดมันก็ยังไม่ใช่ "คนในฝัน" ยังไม่ใช่ "ครอบครัว" คำถามคือ " ทำไม "
เมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็ก ... เธอเคยมีครอบครัวอันอบอุ่น พ่อแม่รักใคร่ลึกซึ้ง ภาพจำเหล่านั้น และ ความรักที่เธอได้รับคงตราตรึงลงในหัวใจ แต่ทั้งที่ยังเด็กนิดเดียวอุบัติเหตุพรากพ่อกับแม่ของเธอจากไป แล้วชีวิตก็ลงเอยในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ... ซึ่งก็ไม่เอื้อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีซักเท่าไหร่ สายตาที่มายด์มองเด็กน้อยที่โดนผู้ใหญ่ตีเอา ๆ ในวัด อาจเป็นข้อมูลที่น้อยนิด แต่ก็สามารถสะท้อนอะไรได้พอควร คงมี "เรื่องราว" บางประการเกิดขึ้น ณ ที่ ๆ มายด์เติบโต มีเหตุการณ์บ่มเพาะความบิดเบี้ยวในตรรกะการคิดและจิตใจแล้วส่งผลออกมาเป็นการกระทำ
" ขาดความรัก " เป็นหนึ่งคำที่ผุดขึ้นมากลางความคิด การจากไปอย่างกะทันหันของพ่อแม่ และ ไม่มีเครือญาติที่ไหนรับไปดูแล อาจทำให้มายด์รู้สึกเหมือนตัวคนเดียวในโลก โดยเฉพาะมายด์เองเคยได้รับความรักความเอาใจใส่จากพ่อแม่มาแต่ก่อนเก่า การโหยหาความรู้สึกเหล่านั้นย่อมเป็นเรื่องธรรมดา สำทับด้วยการอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่การดูแลเอาใจใส่มีข้อจำกัด ไม่มีทางที่จะเหมือนครอบครัวจริง ๆ ได้ นี่อาจเป็นต้นเหตุให้ความโหยหาทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และ พยายามคิดหาวิธีว่าทำอย่างไรจะได้มันมา ความรัก ความเอื้อเอ็นดู ความอบอุ่นที่ไม่ใช่แค่ฉันคนรัก แต่จะต้องเป็นทั้งคู่ชีวิต เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นพ่อ เห็นมายด์เป็นสิ่งที่มีค่าที่จะประคับประคองดูแล
สิ่งที่มีมายด์ต้องการจะมีจึงไม่ใช่แค่ผู้ชายหล่อรวยสายเปย์ หรือ ผู้ชายหนีเมียมามีกิ๊ก หรือ ผู้ชายโสด ก็ไม่เข้าเค้า มายด์อยากได้ผู้ชายที่เป็นตัวแทนของความเป็น "พ่อ" ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อีกทั้งต้องขึ้นชื่อว่ารักและเอาใจใส่ครอบครัว ดังนั้นเป้าหมายของมายด์ในแต่ละครั้ง คือ "ความสำเร็จรูป" ตรงนี้ แล้วมันจะต้องได้มาอย่างไร คิดว่าคงไม่มีใครบอกกล่าวชี้นำ ... มายด์จึงแก้ปัญหาไปตามประสบการณ์ และ สัญชาตญาณที่มี เธอจึงจัดการล่อลวงพวกเขาเหล่านั้นด้วย แผนการ เรือนร่าง เซ็กส์ และ จิปาถะนานา ซึ่ง ... กับผู้ชายมันก็มีเวลาที่พลั้งเผลอปล่อยกายปล่อยใจไปตามอารมณ์
แต่ก็อีก ... ผู้ชายแบบที่มายด์ต้องการ ความสำเร็จรูปอย่างนั้น ผู้ชายที่บริบูรณ์ด้วยความรัก ความอบอุ่น น่านับถือ มีความเป็นครอบเป็นครัว แผนการ เรือนร่าง กับ เซ็กส์ มันจะหยุดพวกเขาไว้ได้ซักกี่น้ำ เมื่อครอบครัวความรักความเป็นคู่ชีวิตเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง มันไม่ใช่สิ่งที่สำเร็จรูปมาแล้วฉกฉวยเอามาได้ พวกเขาหล่านั้น family man ที่มายด์อยากได้ กว่าจะเป็นแบบนั้นมันไม่ได้ทำคนเดียว เขามีคนที่อยากจะสร้างครอบสร้างครัวด้วย แล้วเขาก็สร้างมันกับผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว คนที่ไม่ใช่มายด์ ความผูกพันที่บ่มเพาะกันมาแบบนั้น ใครจะปล่อยให้มันพังในชั่วข้ามคืน กับดักที่มายด์สร้างก็ฉุดรั้งเอาไว้ได้ก็ชั่วคราวไม่ได้มีความยั่งยืน หรือ แท้จริงอะไรเลย พวกเขาเหล่านั้นก็มีแต่อยากจะดิ้นให้หลุดจากกับดักของมายด์ทั้งนั้นล่ะ
ซึ่งข้อนี้มายด์ก็คงรู้ ... ไม่ใช่ว่าไม่รู้ เพียงแต่กลบฝังมันไว้ และ ไม่อยากจะยอมรับความจริง ว่าหลุมพรางที่บรรจงดักบรรจงล่อลวงหนักข้อขนาดทุ่มตัวเข้าแลกก็ยังได้แค่เปลือก คอยแต่คิดมโนเพ้อพกปลอบใจตัวเองเข้าว่าเอาเถอะเดินไปเรื่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ ทุ่มไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเขาก็เห็นใจ เดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน เดี๋ยว ...... อีกเดี๋ยว แต่ไม่ว่าจะกี่เดี๋ยวจะกี่คน ก็กลายเป็นมายด์ที่ปราชัยไปเสียสิ้น จนสุดท้ายก็แลดูว่าแม้กระทั่งแลกด้วยชีวิตผู้ชายเหล่านั้นก็คงไม่สนใจ แล้วมันก็คงเป็นแบบนี้เรื่อยไป ถ้ามายด์ยังคงมี mindset เดิม ๆ ชุดความคิดที่จะฉกฉวยผู้ชายสำเร็จรูป ทั้งที่สิ่งที่มายด์อยากจะได้อยากจะมีเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง ชีวิตของเจ้าหล่อนก็คงจะวนลูปอย่างนี้ต่อไป