การตัดสินใจครั้งนี้ เกิดจากปัญหาหลายๆเร่ืองที่เข้ามาพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน โดยแยกเป็นเรื่องๆ ก็จะมี เรื่องงาน เรื่องความรัก และเรื่องที่ไม่ควรจะนำมาเป็นปัญหา แต่ตัวเราเองก็นำมาคิด จนสภาพคือ ไม่สามารถนอนหลับได้ กินอะไรไม่ได้นอกจากน้ำ (พอกินอาหารก็จะอ้วก) แถมครั้งนี้คือ เราร้องไห้ ตลอดเวลา โดยไม่มีสาเหตุ โทษตัวเองทุกเรื่อง คิดแต่เรื่องเดิมซ้ำๆ
ก่อนที่เราจะตัดสินใจไปหาหมอ เราพยายามทั้ง สวดมนต์ อ่านบทความดีๆ อ่านข้อเขียนประสบการณ์ จากคนที่เป็นโรคนี้ แต่ความรู้สึกเศร้า นอนไม่หลับ กินอะไรไม่ได้ ก็ยัง อยู่ เป็นอย่างนี้ เกือบสัปดาห์ จากคนที่เคยปั่นจักรยาน เดิน วิ่ง สวนสาธารณะ ช่วงเวลาเลิกงาน เรารู้สึกว่าเราไม่อยากไป จากคนที่เคยดูหนัง ละคร หัวเราะได้ เราปิดทีวี ปิดไฟ พยายามนอน แต่ก็ไม่หลับแล้วก็กลับมาร้องไห้ ซ้ำๆ (ขณะที่เราพิมพ์เราก็ยังมีอาการ น้ำตาซึม โดยไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำ)
จนเมื่อวาน เราตัดสินใจคุยกับแฟน และขอร้องให้เขาพาเราไปหาหมอ เถอะ ถ้าเราเป็นแบบนี้ต่อไป ตัวเราเองก็จะไม่ไหว แล้วอาจจะลามไปถึงตัวเขาเอง เราตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลเอกชน ได้เวลานัดช่วงบ่าย ตอนเช้า เราก็ยังมีอาการร้องไห้ เศร้า ปวดหัว และก่อนไป เราตัดสินใจบอกปัญหา เรื่อง ความสัมพันธ์ ที่เรามีกับแฟน ว่าเราเครียดตรงไหน เพราะอะไร **** ซึ่งถ้าบางคนอาจจะคิดว่าเป็นปัญหาเล็กๆ แต่สำหรับผู้หญิงธรรมดาอย่างเรา เราเครียดมาก (ขอไม่บอกตรงนี้นะคะ )
ส่วนเรื่องงาน ที่เครียดเพราะเราทำงาน ฟรีแลนซ์ ช่วงนี้ งานไม่มี นั้นหมายถึงรายได้เราก็ไม่คงที่ แม้ว่าแฟนเราจะบอกว่าอย่าเครียดเรื่องนี้ เขาสามารถช่วยได้ แต่ต้องบอกว่าภาระการเงินของเขาเองก็ มีมากเช่นกัน เราไม่อยากให้เขาต้องรับภาระมากขึ้นกว่าเดิม การที่ ไม่มีงานก็ทำให้เกิดภาวะที่สะสมความเครียดของเราขึ้นไปอีก
ก่อนไปพบหมอเราตัดสินใจเล่าทุกๆเรื่องให้เพื่อนสนิทคนหนึ่ง ให้เขาฟังทางข้อความเฟสบุ๊คและได้โทรเล่าเรื่องต่างๆกับเขา คำแนะนำของเขาช่วยทำให้เราได้สติขึ้น แต่อาการร้องไห้ ซ้ำๆคิดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ก็ยังไม่หายไป
เมื่อวานเราตัดสินใจ เข้าโรงพยาบาลด้านจิตเวชโดยเฉพาะ ซึ่งหลายๆคนอาจจะมีความคิดว่า บ้าหรือเปล่า ให้พูดตรงๆ เราคิดว่าตัวเองไม่บ้านะ แต่เราต้องการบุคคลที่ สามารถคุยได้ทุกเรื่อง และ ต้องการยา เพื่อรักษาอาการ ของเรา เพราะถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ เราจะไม่สามารถทำงานได้ และความเครียดของเราอาจจะทำให้ แฟนเรา เครียดมากขึ้นกว่าเดิม
ก้าวแรกที่เข้าโรงพยาบาล *** โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่อนข้างเงียบ เราเจอข้อมูลโรงพยาบาลนี้จากการอ่านพันทิป
เราลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยใหม่ และมี บุรุษพยาบาล มาวัดน้ำหนัก ส่วนสูง และ ความดันให้เรา (จากการชั่งน้ำหนัก น้ำหนักเราหายไป 3 กิโล จากอาการที่เกิดขึ้น) ความดันค่อนข้างสูง ก่อนถึงคิวเรา พยาบาลแจ้งว่า คุณหมอติดคนไข้ สองท่าน เราก็เลยนั่งรอ ประมาณ 15 นาที ก็ถึงคิวเรา คิดในใจ ทำไมสองท่านแรก เร็วจังเลย
คุณหมอที่เราพบเป็น หมอผู้หญิง ยิ้มแย้มตลอดเวลา เราเริ่มเล่าปัญหาให้คุณหมอฟังทีละประเด็นๆ แล้วก็ร้องไห้บอกว่าเรานอนไม่ได้เลย เราไม่อยากอยู่ภาวะแบบนี้ เราใช้เวลาคุยกับคุณหมอ และทำแบบทดสอบที่คุณหมอให้เราตอบ (ตอบไม่ได้เลย ความจำเริ่มสับสน) รวมๆ เวลา เกือบๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง
เรารู้สึกว่าความรู้สึกอึดอัดไม่มีใครคุยด้วยนั้นเราได้ระบายออกมา และได้คำแนะนำ กลับมา พร้อมทั้งยา คุณหมอจ่ายยา มาแค่ตัวเดียว Mianserin พร้อมกับนัดครั้งต่อไปเดือนหน้า
พอกลับมา และทานยาตามที่หมอสั่ง ตอนทานแรกๆรู้สึกเบลอๆ แล้วเราก็หลับยาวจนถึงเช้า โดยไม่ตื่นกลางดึก เลย ซึ่งมันช่วยทำให้ร่างกายเราได้พักผ่อนเยอะเลย แต่อาการ ซึมเรายังคงมีอยู่บ้าง และยังคงมีเรื่องกวนใจ แต่ในความรู้สึกเรา มันคงไม่เห็นผล ง่ายๆ เราพยายามคิดตามคำพูด คำแนะนำหมอ
การเป็นคนไข้จิตเวช ไม่มีอาไรแย่ในความรู้สึกเรา มันทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น กว่าเดิม
นี้คือครั้งแรก ของเรา เลยอยากจะเขียนลง ในนี้ เพื่อเราเอง และ คนอื่นๆ ถ้าใครมีปัญหา ถามมาได้นะคะ
ส่วนเรื่อง อาการจะดีขึ้นไหม ต้องขอทานยาไปเรื่อยๆ ดูก่อน
ตัดสินใจไปพบจิตแพทย์
ก่อนที่เราจะตัดสินใจไปหาหมอ เราพยายามทั้ง สวดมนต์ อ่านบทความดีๆ อ่านข้อเขียนประสบการณ์ จากคนที่เป็นโรคนี้ แต่ความรู้สึกเศร้า นอนไม่หลับ กินอะไรไม่ได้ ก็ยัง อยู่ เป็นอย่างนี้ เกือบสัปดาห์ จากคนที่เคยปั่นจักรยาน เดิน วิ่ง สวนสาธารณะ ช่วงเวลาเลิกงาน เรารู้สึกว่าเราไม่อยากไป จากคนที่เคยดูหนัง ละคร หัวเราะได้ เราปิดทีวี ปิดไฟ พยายามนอน แต่ก็ไม่หลับแล้วก็กลับมาร้องไห้ ซ้ำๆ (ขณะที่เราพิมพ์เราก็ยังมีอาการ น้ำตาซึม โดยไม่รู้สาเหตุด้วยซ้ำ)
จนเมื่อวาน เราตัดสินใจคุยกับแฟน และขอร้องให้เขาพาเราไปหาหมอ เถอะ ถ้าเราเป็นแบบนี้ต่อไป ตัวเราเองก็จะไม่ไหว แล้วอาจจะลามไปถึงตัวเขาเอง เราตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลเอกชน ได้เวลานัดช่วงบ่าย ตอนเช้า เราก็ยังมีอาการร้องไห้ เศร้า ปวดหัว และก่อนไป เราตัดสินใจบอกปัญหา เรื่อง ความสัมพันธ์ ที่เรามีกับแฟน ว่าเราเครียดตรงไหน เพราะอะไร **** ซึ่งถ้าบางคนอาจจะคิดว่าเป็นปัญหาเล็กๆ แต่สำหรับผู้หญิงธรรมดาอย่างเรา เราเครียดมาก (ขอไม่บอกตรงนี้นะคะ )
ส่วนเรื่องงาน ที่เครียดเพราะเราทำงาน ฟรีแลนซ์ ช่วงนี้ งานไม่มี นั้นหมายถึงรายได้เราก็ไม่คงที่ แม้ว่าแฟนเราจะบอกว่าอย่าเครียดเรื่องนี้ เขาสามารถช่วยได้ แต่ต้องบอกว่าภาระการเงินของเขาเองก็ มีมากเช่นกัน เราไม่อยากให้เขาต้องรับภาระมากขึ้นกว่าเดิม การที่ ไม่มีงานก็ทำให้เกิดภาวะที่สะสมความเครียดของเราขึ้นไปอีก
ก่อนไปพบหมอเราตัดสินใจเล่าทุกๆเรื่องให้เพื่อนสนิทคนหนึ่ง ให้เขาฟังทางข้อความเฟสบุ๊คและได้โทรเล่าเรื่องต่างๆกับเขา คำแนะนำของเขาช่วยทำให้เราได้สติขึ้น แต่อาการร้องไห้ ซ้ำๆคิดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ก็ยังไม่หายไป
เมื่อวานเราตัดสินใจ เข้าโรงพยาบาลด้านจิตเวชโดยเฉพาะ ซึ่งหลายๆคนอาจจะมีความคิดว่า บ้าหรือเปล่า ให้พูดตรงๆ เราคิดว่าตัวเองไม่บ้านะ แต่เราต้องการบุคคลที่ สามารถคุยได้ทุกเรื่อง และ ต้องการยา เพื่อรักษาอาการ ของเรา เพราะถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ เราจะไม่สามารถทำงานได้ และความเครียดของเราอาจจะทำให้ แฟนเรา เครียดมากขึ้นกว่าเดิม
ก้าวแรกที่เข้าโรงพยาบาล *** โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน ค่อนข้างเงียบ เราเจอข้อมูลโรงพยาบาลนี้จากการอ่านพันทิป
เราลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยใหม่ และมี บุรุษพยาบาล มาวัดน้ำหนัก ส่วนสูง และ ความดันให้เรา (จากการชั่งน้ำหนัก น้ำหนักเราหายไป 3 กิโล จากอาการที่เกิดขึ้น) ความดันค่อนข้างสูง ก่อนถึงคิวเรา พยาบาลแจ้งว่า คุณหมอติดคนไข้ สองท่าน เราก็เลยนั่งรอ ประมาณ 15 นาที ก็ถึงคิวเรา คิดในใจ ทำไมสองท่านแรก เร็วจังเลย
คุณหมอที่เราพบเป็น หมอผู้หญิง ยิ้มแย้มตลอดเวลา เราเริ่มเล่าปัญหาให้คุณหมอฟังทีละประเด็นๆ แล้วก็ร้องไห้บอกว่าเรานอนไม่ได้เลย เราไม่อยากอยู่ภาวะแบบนี้ เราใช้เวลาคุยกับคุณหมอ และทำแบบทดสอบที่คุณหมอให้เราตอบ (ตอบไม่ได้เลย ความจำเริ่มสับสน) รวมๆ เวลา เกือบๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง
เรารู้สึกว่าความรู้สึกอึดอัดไม่มีใครคุยด้วยนั้นเราได้ระบายออกมา และได้คำแนะนำ กลับมา พร้อมทั้งยา คุณหมอจ่ายยา มาแค่ตัวเดียว Mianserin พร้อมกับนัดครั้งต่อไปเดือนหน้า
พอกลับมา และทานยาตามที่หมอสั่ง ตอนทานแรกๆรู้สึกเบลอๆ แล้วเราก็หลับยาวจนถึงเช้า โดยไม่ตื่นกลางดึก เลย ซึ่งมันช่วยทำให้ร่างกายเราได้พักผ่อนเยอะเลย แต่อาการ ซึมเรายังคงมีอยู่บ้าง และยังคงมีเรื่องกวนใจ แต่ในความรู้สึกเรา มันคงไม่เห็นผล ง่ายๆ เราพยายามคิดตามคำพูด คำแนะนำหมอ
การเป็นคนไข้จิตเวช ไม่มีอาไรแย่ในความรู้สึกเรา มันทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น กว่าเดิม
นี้คือครั้งแรก ของเรา เลยอยากจะเขียนลง ในนี้ เพื่อเราเอง และ คนอื่นๆ ถ้าใครมีปัญหา ถามมาได้นะคะ
ส่วนเรื่อง อาการจะดีขึ้นไหม ต้องขอทานยาไปเรื่อยๆ ดูก่อน