หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] One Day Trip ตำนานแห่งความรัก ณ “เกาะสีชัง” จ. ชลบุรี
กระทู้รีวิว
เกาะสีชัง
จังหวัดชลบุรี
บันทึกนักเดินทาง
ว่ากันว่าที่เกาะสีชังเนี่ยเป็นเกาะแห่งรัก เต็มไปด้วยเรื่องราวตำนานแห่งความรัก หากผู้ใดต้องการเสริมดวงชะตาด้านความรักให้กับชีวิต ผู้นั้นจะต้องไปรับพลังจากแสงอรุณแรกแย้ม ณ ปลายสะพานแห่งรัก และอธิษฐานขอพร ณ กลางช่องเขาในยามพระอาทิตย์ตกดินซึ่งทั้งสะพานแห่งรักและช่องเขาดังกล่าวนั้นต่างก็อยู่บนพื้นที่ของเกาะสีชัง
ก่อนอื่นเลยเราต้องเปิด Google Maps ไป “ท่าเรือเกาะลอย” กันหลงเอาไว้ก่อน 555555 ซึ่งตอนนี้ปิดปรับปรุงอยู่ แต่มีอีกท่าเรือนึงอยู่ใกล้ๆกันเราก็ชับไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงแล้วมันจะมีป้ายเล็กป้ายน้อยบอกทางไปท่าเรือ ก็ขับไปตามป้ายเลย พอถึงแล้วก็เลี้ยวเข้าไปได้จอดรถตรงท่าเรือได้เลย ไม่มีค่าจอดรถนะ เรือจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 06.00-20.00 น.
สำหรับคนที่มารถสาธารณะ ที่ท่าเรือมีรถตุ๊กตุ๊กให้บริการเพียบ
พอมาถึงท่าเรือก็ทำการซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือไปเกาะสีชังประมาณ 30-45 นาที แล้วก็แถวท่าเรือจะมีของกินขายเยอะแยะเลย จะซื้อไปบนเรือเลยก็ได้ ที่สำคัญญญ! ส้มตำแซ่บมากกก สิบสิบไปเลยจ้า
ใกล้ถึงแล้ววววว
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกาะสีชัง
พอมาถึงเกาะสีชังให้เราเดินไปเรื่อยๆก็จะมีให้เช่ามอเตอร์ไซค์-เช่าสกายแลป หรือจะใช้บริการพี่วินมอไซก็ได้
เราเลือกเช่าสกายแลป เขาก็จะพาทัวร์รอบเกาะ พาไปเที่ยว ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ (วัดจีน), จุดชมวิวเขาขาด, วังเก่า ร.5, หาดทรายถ้ำพัง ในราคา 250 บาท แต่เราไม่ได้ไปเที่ยววัดจีนนะเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก
Let's Gooooo!!
จุดชมวิวเขาขาด (ช่องอิศริยาภรณ์)
ตรงนี้เราไม่ได้ขึ้นไปเพราะว่าขึ้นไปนิดนึงเจอกิ้งกือเต็มเลย แล้วตัวใหญ่มากกกก ขอบายดีกว่า 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วคิดภาพตามนะ กิ้งกือตัวประมาณนี้เดินเต็มพื้นไปหมดอ่ะ แค่เห็นขาก็อ่อนแรงแล้ว TT
เดินเข้าไปเรื่อยๆไปที่ “สะพานวชิราวุธ” วิวสวย มองเห็นทะเล ภูเขา มีมุมให้ถ่ายรูปชิคๆเพียบบบ
ระหว่างทางไปเนี่พระบรมรูป ร.5 จะเห็นหมูป่าอยู่ข้างทางเยอะมาก ใครที่เช่ามอเตอร์ไซค์ขับก็อย่าขับเร็วกันนะ ตัวเราอาจจะเป็นอันตรายได้
พี่คนขับเล่าว่า เมื่อก่อนที่นี่เขาเลี้ยงหมูเป็นสัตว์เลี้ยงกัน แต่เคยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วขับรถชนหมูจนเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต ตัวเจ้าของเองก็ไม่มีเงินมากพอจะไปจ่ายให้เขาได้ ก็เลยปล่อยหมูคืนสู่ธรรมชาติกัน ที่นี่มีหมูป่าเยอะมาก ประมาณ 600-800 ตัว
พระบรมรูป ร.5, สะพานอัษฎางค์, พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์
ทั้งหมดนี้จะอยู่โซนเดียวกันหมดเลย จริงๆมีเรือนไม้ริมทะเล หรือ เรือนไม้สีเขียวด้วย แต่รูปมันเบลอมากเลยตัดทิ้งไป ตรงโซนนี้เหมือนสวนสาธารณะเล็กๆ มีม้านั่งให้นั่งชมทะเล วิวภูเขา บรรยากาศร่มรื่นมากต้นไม้เต็มไปหมดเลย ที่นี่มีแมลงหวี่เยอะเหมือนกัน จะรู้สึกรำคาญหน่อยๆ
พระบรมรูป ร.5
จะตั้งอยู่บนเนินเขา เดินขึ้นมานิดหน่อยก็จะพบพระองค์ท่านนั่งไขว่ห้าง ด้านข้างก็จะมีร้านขายดอกไม้ ธูป เทียนอยู่สามารถซื้อตรงจากตรงนั้น
สะพานอัษฎางค์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานนี้ขึ้นมาและพระราชทานนามว่า “สะพานอัษฎางค์”
ด้านข้างสะพานอัษฎางค์ ตรงบริเวณนี้สามารถเล่นน้ำได้นะ คลื่นไม่แรงมากและค่อนข้างสะอาด
พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯมาวางศิลาฤกษ์พระที่นั่งองค์ใหญ่ในพระจุฑาธุชราชฐานเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2435 พร้อมกับพระราชทานนามพระที่นั่งองค์ใหญ่นี้ว่า พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ และในวันเดียวกันนี้ก็มีพระราชพิธีอีก 2 พิธีคือ พิธีสมโภชน์เดือนพระราชกุมาร และพระราชทานนามพระราชกุมารว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิรกฯ” และพิธีพระราชทานนามพระราชฐานว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ ใช้เป็นที่ประทับอิริยาบถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสนำเรือรบเข้ามาในน่านน้ำไทยและได้ต่อสู้กับทหารเรือที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า มีการปิดอ่าวไทยและมีทหารส่วนหนึ่งขึ้นมาบนเกาะสีชัง ทำให้ไม่เป็นการปลอดภัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯมาประทับที่เกาะสีชัง จึงเสด็จฯกลับกรุงเทพฯ ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 หลังจากเสด็จฯกลับจากประพาสยุโรป ได้เสด็จฯประพาสหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก ทรงทอดพระเนตรเห็นพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์รกร้างอยู่ จึงมีพระบรมราชโองการจัดการรื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์มาสร้างในพระราชวังสวนดุสิต กรุงเทพมหานครฯและทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “พระที่นั่งวิมานเมฆ”
ขอบคุณข้อมูลจาก phrachudadhuj.com
ตรงแถวๆพระที่นั่งก็จะเป็นสวนหย่อมเล็กๆให้เราได้พักผ่อนกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นอีกที่ที่เหมาะกับการนั่งกินลมชมวิว นั่งมองทะเลกับภูเขาเพลินๆ ดีงามมมม
ตรงนี้ไม่มั่นใจว่าเล่นน้ำได้หรือเปล่านะ น้ำค่อนข้างใสแต่เศษขยะจะเยอะนิดนึง
พักผ่อนกันเสร็จแล้วอย่าลืมไปทิ้งขยะให้ถูกจุดนะคะ ข้อนี้สำคัญมากๆเลย
มาต่อกันที่สุดท้ายยยย!!
ระหว่างทางไปอ่าวอัษฎางค์ก็ขอแชะพี่คนขับซะหน่อย พี่เขาเฟรนลี่มากก เล่นมุกอะไรพี่เขาก็รับได้หมด 55555
สถานีต่อไปปปป >> อ่าวอัษฎางค์
หาดทรายถ้ำพัง หรือ อ่าวอัษฎางค์
เป็นหาดที่มีคนนิยมมาเล่นน้ำกันที่นี่ น่าจะเพราะมีที่พัก ร้านอาหาร มีเตียงผ้าใบให้นั่ง-นอนกันได้ แต่ตอนที่เราไปคือตอนเย็นกะจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินเล๊ยยย แต่ฟ้าครึ้มทั้งวัน โชคดีมากที่ฝนไม่ตก TT
ค่าเช่าเตียงผ้าใบ จันทร์-ศุกร์ ฟรี!! เสาร์-อาทิตย์ ตัวละเท่าไหร่ไม่รู้มีคนจ่ายให้ 555555
ราคาค่าอาหารที่นี่ค่อนข้างแพง เพราะด้วยการขนส่งที่ลำบากอะไรหลายๆอย่างก็แพงตามไปด้วย
กลับแล้วจ้าาาาา ขากลับแวะถ่ายรูปประภาคารสักภาพสองภาพ ระหว่างรอเรือออก
อัษฎางค์ประภาคาร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างอัษฎางค์ประภาคารขึ้นเพื่อใช้ส่องสัญญาณไฟนำทางให้แก่เรือต่างๆที่ออกเรือประมงตกปลา ตกหมึกในยามค่ำคืน เนื่องจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสีชังมีศิลาสัมปันยื้อกีดขวางเส้นทางเดินเรือ และอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่เรือประมงที่แล่นเข้า – ออก บริเวณประภาคาร
เนื่องจากอัษฎางค์ประภาคารตั้งอยู่บริเวณส่วนปลายสุดของ “แหลมวัง” ชาวบ้านบนเกาะสีชังจึงนิยมเรียกประภาคารแห่งนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า “ประภาคารแหลมวัง”
ค่าเรือขากลับ 60 บาท เพราะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ทำให้รอบ 19.00 น. ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 60 บาท
สรุปค่าเสียหาย (ไม่รวมค่าน้ำมันและค่ากิน) ราคาต่อคน
- ค่าเรือขาไป 50 บาท
- ค่าเรือขากลับ 60 บาท (ถ้ารอบก่อน 19.00 น. ก็ 50 บาทตามเดิม)
- ค่าเช่าสกายแลป 250 บาท
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ
ขอบคุณค่าาา
Fanpage :
https://www.facebook.com/fairytraveller/
ชื่อสินค้า:
เกาะสีชัง
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
One day trip around Koh Sichang เที่ยวทั่วรอบเกาะสีชังใน 1 วัน
ซัมเมอร์ร้อนๆแบบนี้หนีร้อนไปทะเลกันดีกว่า ครั้งนี้เราจะเดินทางไปกันที่ เกาะสีชัง จังวัดชลบุรี เกาะที่อยู่ใกล้กรุงเทพม้ากกกมากกก เราจะพาไปดูความสวยงามของน้ำทะเลสีฟ้าๆ และทุ่งหญ้าสีทอง อีกทั้งยังได้ไปทำ
สมาชิกหมายเลข 2173035
เกาะช้างกรุงเทพเดินรถขึ้นรถกลับตรงไหน
จองกลับจากท่าเรือแหลมศอกไปหมอชิต ต้องขึ้นตรงไหนถามแต่ละที่ตอบไม่เหมือนกันเลย อีกคนบอกไปสองแถวที่บขสตราด อีกคนบอกให้รอบริษัทเรือที่มาเลยมีรถตู้จอดรอรับ อีกคนบอกตรงท่าเรือแหลมศอก ถ้ารอตรงท่าเรือรอตรงจุด
สมาชิกหมายเลข 8508231
สหายร่วมทริป พิชิต"เกาะสีชัง"
การไปเกาะสีชังของพวกผมในครั้งนี้เราจะเน้นไปที่ถูกประหยัดและคุ้มค่า และด้วยความโชคดีสมาชิกในกลุ่มผมคนนึงเป็นคนศรีราชาทำให้การเดินทางจากกรุงเทพนั้นง่ายขึ้นมาก โดยที่เราทั้ง 4 คนจะติดรถเพื่อนไปลงที่บ้านใ
สมาชิกหมายเลข 2613512
เกาะล้าน นานมาแล้ว...
สวัสดีครับ เกาะล้านเป็นอีกสถานที่ ที่อยากไปเที่ยวซ้ำ สงสัยปิดเทอมนี้ต้องจัดซะแล้วครับ วันนี้เอาบรรยากาศบนเกาะล้านมาฝาก (นานพอสมควร) ที่อยู่ : เกาะล้าน อำเภอบางละมุง จังหวัดชล
สมาชิกหมายเลข 7580351
บันทึกแห่งการเดินทางของสาวสองวัย: ศรีราชา & เกาะสีชัง Ep.3
ศรีราชา & เกาะสีชัง Ep.3 By Auntie & Yayee กาลครั้งหนึ่ง @ เกาะสีชัง Ep. 2 เช้าวันนี้เริ่มต้นทัวร์เกาะ จากโรงแรมโนโวเทล เกาะสีชัง เจ้
สมาชิกหมายเลข 4994670
บุกไม่เดี่ยว เที่ยวสีชัง@One Day Trip
:* เมื่อถึงการปิดเทอมอีกครั้งหลังจากการจมอยู่กับกองหนังสือ ก็ถึงเวลาที่เราจะออกเที่ยวแล้วว แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กกทม.ไปเรียนอยู่ย่านบางแสนซึ่งใกล้กับเกาะสีชังนิดเดียว เลยพูดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปต้อง
Pataweekarn_Soft
พักสมอง...ล่องเรือไปเกาะสีชัง 10-11 Sep 16
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวทริปไปเที่ยวเกาะสีชังครั้งแรก หลายคนอาจจะเคยไปแล้วแต่ยังไงเราจะมารีวิวสถานที่ที่ไปเที่ยวมาฝาก เผื่อเพื่อนคนไหนอยากจะเดินทางไปเที่ยวอีก>>>> ขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์
goynineteen
หาที่พักหลักร้อยแถวหาดน้ำใสเพื่อรอข้ามไปเกาะแสมสารตอนเช้า
ไม่มีรถส่วนตัวค่ะ เลยคิดว่าจะหาที่พักค้างคืนใกล้ท่าเรือข้ามไปเกาะแสมสาร เพื่อรอขึ้นเรือรอบเช้าสุด คิดว่าถ้ามีที่พักแถวหาดน้ำใส น่าจะใกล้ท่าเรือมากที่สุด ใครพอจะแนะนำที่พักราคาประหยัดแถวนั้น สำหรับนักเ
สมาชิกหมายเลข 1032258
รีวิว โรงแรม Novotel Marina Sriracha & Koh Si Chang
Novotel Marina Sriracha & Koh Si Chang โนโวเทล มารีนา ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง โรงแรมอยู่ใกล้ๆ ตลาด, ร้านอาหารริมทาง, Lotus’s
สมาชิกหมายเลข 2940819
++ น้ำท่วม เกาะลอย เกาะสีชังไหมครับ ++
เห็นข่าวน้ำท่วมพัทยา วางแผนจะไปเที่ยวเกาะสีชัง อยากทราบว่า 1. ยังจอดรถที่เกาะลอย ข้ามคืนได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้ควรจอดที่ไหนครับ 2. ช่วงนี้แถวนั้นน้ำท่วมไห
สมาชิกหมายเลข 6989736
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เกาะสีชัง
จังหวัดชลบุรี
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 166
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] One Day Trip ตำนานแห่งความรัก ณ “เกาะสีชัง” จ. ชลบุรี
ก่อนอื่นเลยเราต้องเปิด Google Maps ไป “ท่าเรือเกาะลอย” กันหลงเอาไว้ก่อน 555555 ซึ่งตอนนี้ปิดปรับปรุงอยู่ แต่มีอีกท่าเรือนึงอยู่ใกล้ๆกันเราก็ชับไปเรื่อยๆจนใกล้ถึงแล้วมันจะมีป้ายเล็กป้ายน้อยบอกทางไปท่าเรือ ก็ขับไปตามป้ายเลย พอถึงแล้วก็เลี้ยวเข้าไปได้จอดรถตรงท่าเรือได้เลย ไม่มีค่าจอดรถนะ เรือจะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 06.00-20.00 น.
สำหรับคนที่มารถสาธารณะ ที่ท่าเรือมีรถตุ๊กตุ๊กให้บริการเพียบ
พอมาถึงท่าเรือก็ทำการซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือไปเกาะสีชังประมาณ 30-45 นาที แล้วก็แถวท่าเรือจะมีของกินขายเยอะแยะเลย จะซื้อไปบนเรือเลยก็ได้ ที่สำคัญญญ! ส้มตำแซ่บมากกก สิบสิบไปเลยจ้า
ใกล้ถึงแล้ววววว
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกาะสีชัง
พอมาถึงเกาะสีชังให้เราเดินไปเรื่อยๆก็จะมีให้เช่ามอเตอร์ไซค์-เช่าสกายแลป หรือจะใช้บริการพี่วินมอไซก็ได้
เราเลือกเช่าสกายแลป เขาก็จะพาทัวร์รอบเกาะ พาไปเที่ยว ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ (วัดจีน), จุดชมวิวเขาขาด, วังเก่า ร.5, หาดทรายถ้ำพัง ในราคา 250 บาท แต่เราไม่ได้ไปเที่ยววัดจีนนะเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก
Let's Gooooo!!
จุดชมวิวเขาขาด (ช่องอิศริยาภรณ์)
ตรงนี้เราไม่ได้ขึ้นไปเพราะว่าขึ้นไปนิดนึงเจอกิ้งกือเต็มเลย แล้วตัวใหญ่มากกกก ขอบายดีกว่า 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดินเข้าไปเรื่อยๆไปที่ “สะพานวชิราวุธ” วิวสวย มองเห็นทะเล ภูเขา มีมุมให้ถ่ายรูปชิคๆเพียบบบ
ระหว่างทางไปเนี่พระบรมรูป ร.5 จะเห็นหมูป่าอยู่ข้างทางเยอะมาก ใครที่เช่ามอเตอร์ไซค์ขับก็อย่าขับเร็วกันนะ ตัวเราอาจจะเป็นอันตรายได้
พี่คนขับเล่าว่า เมื่อก่อนที่นี่เขาเลี้ยงหมูเป็นสัตว์เลี้ยงกัน แต่เคยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวแล้วขับรถชนหมูจนเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิต ตัวเจ้าของเองก็ไม่มีเงินมากพอจะไปจ่ายให้เขาได้ ก็เลยปล่อยหมูคืนสู่ธรรมชาติกัน ที่นี่มีหมูป่าเยอะมาก ประมาณ 600-800 ตัว
พระบรมรูป ร.5, สะพานอัษฎางค์, พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์
ทั้งหมดนี้จะอยู่โซนเดียวกันหมดเลย จริงๆมีเรือนไม้ริมทะเล หรือ เรือนไม้สีเขียวด้วย แต่รูปมันเบลอมากเลยตัดทิ้งไป ตรงโซนนี้เหมือนสวนสาธารณะเล็กๆ มีม้านั่งให้นั่งชมทะเล วิวภูเขา บรรยากาศร่มรื่นมากต้นไม้เต็มไปหมดเลย ที่นี่มีแมลงหวี่เยอะเหมือนกัน จะรู้สึกรำคาญหน่อยๆ
พระบรมรูป ร.5
จะตั้งอยู่บนเนินเขา เดินขึ้นมานิดหน่อยก็จะพบพระองค์ท่านนั่งไขว่ห้าง ด้านข้างก็จะมีร้านขายดอกไม้ ธูป เทียนอยู่สามารถซื้อตรงจากตรงนั้น
สะพานอัษฎางค์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานนี้ขึ้นมาและพระราชทานนามว่า “สะพานอัษฎางค์”
ด้านข้างสะพานอัษฎางค์ ตรงบริเวณนี้สามารถเล่นน้ำได้นะ คลื่นไม่แรงมากและค่อนข้างสะอาด
พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯมาวางศิลาฤกษ์พระที่นั่งองค์ใหญ่ในพระจุฑาธุชราชฐานเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2435 พร้อมกับพระราชทานนามพระที่นั่งองค์ใหญ่นี้ว่า พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ และในวันเดียวกันนี้ก็มีพระราชพิธีอีก 2 พิธีคือ พิธีสมโภชน์เดือนพระราชกุมาร และพระราชทานนามพระราชกุมารว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิรกฯ” และพิธีพระราชทานนามพระราชฐานว่า “พระจุฑาธุชราชฐาน” พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ ใช้เป็นที่ประทับอิริยาบถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสนำเรือรบเข้ามาในน่านน้ำไทยและได้ต่อสู้กับทหารเรือที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า มีการปิดอ่าวไทยและมีทหารส่วนหนึ่งขึ้นมาบนเกาะสีชัง ทำให้ไม่เป็นการปลอดภัยที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯมาประทับที่เกาะสีชัง จึงเสด็จฯกลับกรุงเทพฯ ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 หลังจากเสด็จฯกลับจากประพาสยุโรป ได้เสด็จฯประพาสหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันออก ทรงทอดพระเนตรเห็นพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์รกร้างอยู่ จึงมีพระบรมราชโองการจัดการรื้อพระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์มาสร้างในพระราชวังสวนดุสิต กรุงเทพมหานครฯและทรงพระราชทานนามใหม่ว่า “พระที่นั่งวิมานเมฆ”
ขอบคุณข้อมูลจาก phrachudadhuj.com
ตรงแถวๆพระที่นั่งก็จะเป็นสวนหย่อมเล็กๆให้เราได้พักผ่อนกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นอีกที่ที่เหมาะกับการนั่งกินลมชมวิว นั่งมองทะเลกับภูเขาเพลินๆ ดีงามมมม
ตรงนี้ไม่มั่นใจว่าเล่นน้ำได้หรือเปล่านะ น้ำค่อนข้างใสแต่เศษขยะจะเยอะนิดนึง
พักผ่อนกันเสร็จแล้วอย่าลืมไปทิ้งขยะให้ถูกจุดนะคะ ข้อนี้สำคัญมากๆเลย
มาต่อกันที่สุดท้ายยยย!!
ระหว่างทางไปอ่าวอัษฎางค์ก็ขอแชะพี่คนขับซะหน่อย พี่เขาเฟรนลี่มากก เล่นมุกอะไรพี่เขาก็รับได้หมด 55555
สถานีต่อไปปปป >> อ่าวอัษฎางค์
หาดทรายถ้ำพัง หรือ อ่าวอัษฎางค์
เป็นหาดที่มีคนนิยมมาเล่นน้ำกันที่นี่ น่าจะเพราะมีที่พัก ร้านอาหาร มีเตียงผ้าใบให้นั่ง-นอนกันได้ แต่ตอนที่เราไปคือตอนเย็นกะจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินเล๊ยยย แต่ฟ้าครึ้มทั้งวัน โชคดีมากที่ฝนไม่ตก TT
ค่าเช่าเตียงผ้าใบ จันทร์-ศุกร์ ฟรี!! เสาร์-อาทิตย์ ตัวละเท่าไหร่ไม่รู้มีคนจ่ายให้ 555555
ราคาค่าอาหารที่นี่ค่อนข้างแพง เพราะด้วยการขนส่งที่ลำบากอะไรหลายๆอย่างก็แพงตามไปด้วย
กลับแล้วจ้าาาาา ขากลับแวะถ่ายรูปประภาคารสักภาพสองภาพ ระหว่างรอเรือออก
อัษฎางค์ประภาคาร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อสร้างอัษฎางค์ประภาคารขึ้นเพื่อใช้ส่องสัญญาณไฟนำทางให้แก่เรือต่างๆที่ออกเรือประมงตกปลา ตกหมึกในยามค่ำคืน เนื่องจากทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสีชังมีศิลาสัมปันยื้อกีดขวางเส้นทางเดินเรือ และอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่เรือประมงที่แล่นเข้า – ออก บริเวณประภาคาร
เนื่องจากอัษฎางค์ประภาคารตั้งอยู่บริเวณส่วนปลายสุดของ “แหลมวัง” ชาวบ้านบนเกาะสีชังจึงนิยมเรียกประภาคารแห่งนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า “ประภาคารแหลมวัง”
ค่าเรือขากลับ 60 บาท เพราะไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ ทำให้รอบ 19.00 น. ราคาตั๋วจะอยู่ที่ 60 บาท
สรุปค่าเสียหาย (ไม่รวมค่าน้ำมันและค่ากิน) ราคาต่อคน
- ค่าเรือขาไป 50 บาท
- ค่าเรือขากลับ 60 บาท (ถ้ารอบก่อน 19.00 น. ก็ 50 บาทตามเดิม)
- ค่าเช่าสกายแลป 250 บาท
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ
ขอบคุณค่าาา
Fanpage : https://www.facebook.com/fairytraveller/