บุกไม่เดี่ยว เที่ยวสีชัง@One Day Trip

จุ๊บๆเมื่อถึงการปิดเทอมอีกครั้งหลังจากการจมอยู่กับกองหนังสือ ก็ถึงเวลาที่เราจะออกเที่ยวแล้วว เม่าดี๊ด๊า
แต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กกทม.ไปเรียนอยู่ย่านบางแสนซึ่งใกล้กับเกาะสีชังนิดเดียว เลยพูดกับเพื่อนไว้ว่าจะไปต้องไปเที่ยวให้ได้ตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้ปีสี่แล้วก็ยังไม่ได้ไป เลยมาคิดว่า เอ้ยยย ไปได้แล้วนะ ใกล้จะจบแล้ว
เราเลยเลือกวันหลังจากการสอบปลายภาคเสร็จเป็นฤกษ์งามยามดีในการเดินทาง
จริงๆทริปนี้เราตั้งใจไปคนเดียวนะคะ แต่พอดีไปบังเอิญไปเจอลุงกับป้าที่รู้จักกันเลยไปร่วมทางเที่ยวกับเขาเลย

เกาะสีชังเป็นเกาะขนาดใหญ่แต่มีความสงบแตกต่างจากฝั่งหญ่และน่ารักในตัว ถึงสถานที่เที่ยวไม่ได้เยอะมากแต่บรรยากาศที่เราได้กลับมาทำให้มีความสุขไปอีกหลายวันเลยค่ะ
เราออกเดินทางจากหอแถวๆบางแสน มาขึ้นรถที่หนองมนตอนเกือบแปดโมงเช้า นั่งรถสองแถวสายสีส้มไปศรีรราชา ลงหน้าท่าเรือจรินทร์ได้เลยค่ะ แต่ก่อนเวลาจะข้ามไปเกาะสีชังต้องไปที่ท่าเรือเกาะลอย แต่ว่าตอนนี้ท่าเรือเกาะลอยปิดปรับปรุงอยู่ อีกซักพักถึงจะเปิดให้บริการ
เรือจะออกจากท่าทุกๆหนึ่งชั่วโมง ไป 50 บาท กลับ 50 บาท เราไปถึงประมาณ 8.30 น.เพราะเราเดินเข้าไปจนสุดท่าเรือเลยใช้เวลานานกว่าคนที่นั่งวินมอไซต์เพราะค่อนข้างไกลเลย555 เรามาวันพฤหัสเลยคนไม่ค่อยเยอะมากแต่ก็มีทั้งคนไทยและต่างชาติที่มาเที่ยวเยอะพอสมควรเลย
ระหว่างนั่งรอเรือออกก็นั่งถ่ายรูปเล่นวนไปค่ะ
พอ 9.00 น. เรือก็ออกจากท่าไปเกาะสีชัง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ระหว่างทางก็นั่งชมวิวไปเรื่อยๆค่ะ แถวๆเกาะจะมีเรือบรรทุกขนส่งสินค้าจอดอยู่ค่อนข้างเยอะ ก็เลยได้อะไรเห็นอะไรที่ดูแปลกตาไปนิดหน่อยจากเกาะอื่นๆที่เคยไปมา
9.45 น. เราก็มาถึงเกาะสีชังกันแล้ววว ด้านหลังจะมีประภาคารสวยๆ โดดเด่นอยู่กลางท่าเรือเลยค่ะ
ตอนแรกเราตั้งใจจะนั่งรถสกายแล็ปที่ชาวบ้านเป็นคนขับพาเที่ยวเพราะเราขับมอเตอร์ไซต์ไม่ค่อยคล่องเพราะไม่ได้ขับนาน แต่ราคาเช่ามอเตอร์ไซต์กับเช่าสกายแล็ปเท่ากันค่ะ คือ 250 เราเลยเช่ามอไซต์เพราะมันน่าจะสะดวกในการแวะถ่ายรูปบวกกับพี่คนที่ให้เช้าบอกว่าทางไม่ค่อยชัน แต่เราขอเตือนค่ะ ใครขับไม่เก่งจริงๆ อย่าเช่ามอไซต์เพราะทางมันน่ากลัวมากในบางจุด เรานี่แทบกรีดร้องออกมาเลย55555

สถานที่แรกที่เราจะไปคือ เจ้าพ่อเขาใหญ่ มีให้ไปไหว้สักการะเจ้าพ่อและเจ้าแม่กวนอิมและแก้ปีชงค่ะ ข้างบนวิวสวยนะคะ ลองขึ้นไปทดสอบกำลังขากันได้
โลกนี้ค่อนข้างกลมเลยไม่แปลกที่จะมาเจอคนรู้จักที่นี่ค่ะ พอดีเจอลุงกับป้ากับพี่ๆน้องๆรวม 5 คนที่ขายก๋วยเตี่ยวอยู่ข้างหอแล้วเราเป็นลูกค้าประจำ ลุงกับป้าเลยชวนไปเที่ยวพร้อมกัน เราก็เลยไปด้วยเพราะจากที่เห็นทางตอนขึ้นไปตรงเจ้าพ่อ เราก้เริ่มหวาดหวั่นใจ เสียวจะไปดริปแถวนั้นแล้วไม่ได้กลับบ้านพอดี5555

จากนั้นพวกเราก็เลยไปต่อที่มณฑปรอยพระพุทธบาทซึ่งเลยมาจากศาลเจ้าพ่อนิดหน่อยจะอยู่เหนือศาลเจ้าพ่อ ทางขึ้นที่นี่ เราคิดว่าน่ากลัวที่สุดในเกาะแล้วค่ะ ทางขับตรงนี้ได้ชิวๆก็สบายใจเลยค่ะ คุณรอดแล้ว5555 ข้างบนวิวสวยมากๆค่ะ เห็นได้ทั้งทะเลและท่าเรือเลย
ที่เกาะสีชังจะมีต้นดอกหญ้า(น่าจะใช่555)ขึ้นอยู่เยอะมาก ถ้าใครชอบถ่ายรูปแนวฮิปๆ คูลๆ ที่นี่คือทางของคุณเคยค่ะ
หลังจากสักการะรอยพระพุทธบาทกันแล้ว เราก้ไปกันที่จุดชมวิวช่องเขาขาด ซึ่งจะเห็นวิวทะเลด้านหลังของเกาะและด้านล่างจะมีสะพานให้ลงไปถ่ายรูป แต่พอดีเราไม่ได้ลงไป ถ้าใครจะไปแนะนำให้ลงนะคะ ข้างล่างวิวสวยมาก เค้าล้อเล่น
เจอเจ้าถิ่นกันลงสวีทกันไม่ได้เกรงใจคนโสดแม้แต่น้อย
พอลงมาจากจุดชมวิวก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราเลยไว้แวะพักท้องและเล่นน้ำกันที่หาดถ้ำพังเพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้องและร่างกายต้องการทะเลอย่างที่สุด
หาดถ้ำพังเป็นหาดเดียวบนเกาะที่เล่นน้ำได้  หาดนี้ส่วนมากจะเห็นแต่ชาวต่างชาติมาเล่นน้ำ อาจเป็นเพราะวันธรรมดาเลยไม่ค่อยมีคนไทยเยอะ เลยมีแค่แก๊งค์เราที่เล่นน้ำ ที่นี่หินเยอะ เวลาเดินต้องระวังนะคะ มันเจ็บ น้ำทะเลที่นี่ใสมากลงไปจะมิดหัวก็ยังเห็นเท้า ทุกๆคนคงรู้ว่าน้ำบางแสนเป็นยังไง เราเลยตื่นเต้นมากที่ได้เห็นน้ำทะเลสวยๆแบบนี้555
ตรงที่ติดป้ายอันตรายไว้ เนื่องจากเป็นโขดหินเลยทำให้มีคนไปลื่นและเกิดอุบัติเหตุตรงนั้นบ่อยๆ
ของใครวางไว้ไม่รู้เลยเนียนถ่ายมา5555
เจ้าถิ่นอีกรายนอนอาบแดดสบายๆ
หลังจากเติมพลังและเล่นน้ำเสร็จแล้ว พระอาทิตย์ก็เริ่มคล้อยลงจะลาลับขอบฟ้า หาดถ้ำพังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้นะคะ แต่ว่าเราไม่ได้อยู่ต่อ รูปนี้เราถ่ายแสงที่สะท้อนกับน้ำทะเล ดูสวยดีแบบไม่ต้องปรับแต่งอะไรเลย
หาดถ้ำพังมุมสูง
คุณลุงที่ไปด้วยกันชวนไปแหลมถ้ำพัง อยู่เลยหาดถ้ำพังไปนิดเดียวเองค่ะ เป็นแหลมหินที่ชาวบ้านนิยมมาตกปลา ตกหมึกกัน แนะนำว่าให้เดินกันด้วยความระมัดระวังค่ะ เพราะตกทะเลไปนี่รู้สึกจะช่วยยาก ว่ายน้ำเป็นก็ดีไปแต่ต้องว่ายไปขึ้นเกือบถึงหาดถ้ำพัง ซึ่งก็ไกลถ้าเป็นการว่ายน้ำ
ส่วนสถานที่ต่อไปที่เราไปกันคือ บังกะโลศรีพิษณุ คุณลุงคุณป้าเคยมาพักที่นี่ สองสามครั้งแล้วบอกว่า วิวสวยมากเลยอยากให้มาดูเลยไปขออนุญาตเจ้าของบังกะโลซึ่งพี่เค้าไม่ว่า เราเลยลงไปถ่ายได้ ยอมรับเลยค่ะสวยจริงๆและไม่มีคนอื่นเลยเพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลของบังกะโล
มีทางลงไปข้างล่างด้วยนะคะ จริงๆ ตรงหาดนี้ลงไปเล่นน้ำได้เลย แต่คงต้องระวังขยะกับหินและจงหวะน้ำขึ้นน้ำลงด้วย แต่คนที่จะมาเล่นได้คงมีแต่คนที่มาพักในบังกะโลนี้ค่ะ
แต่ข้างล่าบรรยากาศดีและถ่ายรูปสวยจริงๆค่ะ
ตอนนี้เราก็มาถึงจุดหมายที่สุดท้ายของเราแล้วคือ พระจุฑาธุชราชฐาน ที่มีสะพานอัษฎางค์ สะพานไม้เทียบเรือสีขาวที่ทอดยาวลงไปในทะเลเป็นแลนมาร์คอีกที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมกันค่ะ แต่ตอนเราไปถึงแสงค่อนข้างน้อยแล้ว ถ้าใครจะมาแนะนำให้ไปตอนเที่ยงๆถึงแดดจะร้อนแต่ถ่ายรูปจะสวยมากค่ะ
เราอยู่ที่นี่จนฟ้ามืดเลยค่ะ ก็ได้บรรยากากาศไปอีกแบบ จากนั้นก็ถึงเวลาต้องกลับ เราทันเรือเที่ยวสุดท้ายตอน 19.00 น. แล้วก็กลับหออย่างปลอดภัยคร้าา
ประภาคารที่เราเห็นตอนเช้า ตอนกลางคืนจะมีไฟและเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ

จบแล้วคร้าาสำหรับทริปที่ไม่ค่อยจะได้วางแพลนมาเท่าไหร่ ถ้าปีใหม่ใครอยากหาที่เที่ยวที่สงบๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพ ค่าครองชีพก็ไม่ค่อยแพง แนะนำที่เกาะสีชังนะคะ แถมเกาะนี้ยังเหมาะกับการถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นพรีเวดดิ้ง ถ่ายนอกรอบรับปริญญา ถ่ายรูปเล่นชิคๆคูลๆ มีมุมดีๆให้ถ่ายเพียบเลยค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามรับชมกันจนจบนะคะ ฝากกระทู้นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจหลายๆคนด้วยน้าา
ส่วนกระทู้อื่นๆของเราก็มีนะคะ

[Backpack] THE FIRST TRIP : Singapore Around Me
https://ppantip.com/topic/35230630
ย้อนรอยแบ้งค์ชาติกับ "วังบางขุนพรหม"
https://ppantip.com/topic/36577101
รีวิว เที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์ ฉบับคนเหงา2017
https://ppantip.com/topic/36600258

หวังว่ากระทู้เหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนมีแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จุ๊บๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่