คำโปรยห้วงฝันวันรัก :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้'กิรณา' ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ได้เพียงไม่นาน แต่แล้วชีวิตกลับต้องพลิกผันเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง หล่อนได้ข้ามผ่านไปยังช่วงเวลาอนาคต!
ภายใต้ความลึกลับของกาลเวลาที่ชวนพิศวงนั้น ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายไปกว่าการที่หญิงสาวต้องมารับรู้ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของบุพการี โดยไร้ซึ่งต้นสายปลายเหตุ 'ดรัล' ในฐานะเพื่อนบ้านที่แสนดี แม้จะไม่ค่อยถูกชะตากับสาวข้างบ้านอย่างกิรณาตั้งแต่แรกพบเสียเท่าไหร่ แต่จำต้องยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายเงื่อนงำที่เกิดขึ้น
อดีต ปัจจุบัน อนาคต...เหตุการณ์ในช่วงเวลาใดกันแน่ที่มีแต่ความหลอกลวง...
***นิยายรักโรแมนติก แนวไซไฟฆาตกรรมซ่อนเงื่อน***
บทที่ 1:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36562845
บทที่ 2(1) :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36566201
บทที่ 2(2) :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/36569823
บทที่ 3
แม้แดดร่มลงแล้วเพราะจวนเย็นค่ำ หากดรัลไม่ได้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาสักนิด อากาศที่ร้อนระอุมาทั้งวันมีแต่ความอบอ้าวทำให้ชายหนุ่มต้องปาดเหงื่อที่เริ่มซึมตามหน้าผากและใบหน้า เปลี่ยนใจจากที่จะวิ่งออกกำลังกายในหมู่บ้านต่ออีกสักพัก วิ่งกลับมาตามซอยบ้านตัวเองแทน
ยังไม่ทันถึงบ้านดี ดรัลตวัดสายตาไปเห็นรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง รู้สึกคุ้นตา รถคันนั้นจอดอยู่ใต้ต้นไม้บ้านหลังฝั่งตรงข้ามเยื้องจากบ้านเขาไปนิด ดรัลจำได้ว่าเป็นรถของจตุพร...ลูกพี่ลูกน้องเขา แต่เจ้าตัวไม่อยู่ในรถ ถ้าเดาไม่ผิดจตุพรคงมาบ่นเรื่องงานให้ฟังอีกตามเคย
ทว่า...ดรัลต้องประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเห็นจตุพรกำลังยืนคุยอยู่กับกิรณาอย่างสนิทสนมที่หน้าประตูรั้ว !
“ไม่ยักรู้ว่านายรู้จักกับคุณลูกหว้าด้วย”
ดรัลนั่งรออยู่แล้วในบ้าน โพล่งถามขึ้นมาทันทีที่เห็นลูกพี่ลูกน้องโผล่หน้าเข้ามาหาในเวลาถัดมา
ชายหนุ่มร่างสันทัดผมสั้นสีดำขลับในชุดตำรวจซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับดรัล ผิวปากอย่างอารมณ์ดีเดินเข้ามาในบ้านดรัล ด้วยความที่เพิ่งแยกกับกิรณามา จตุพรเห็นอยู่เหมือนกันว่าดรัลกลับมาแล้ว แถมยังเปิดประตูรั้วไว้อ้าซ่าประหนึ่งเชื้อเชิญแต่ไกล จตุพรถึงได้ตามเข้ามา
หากเจ้าของบ้านอย่างดรัลเล่นนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาภายในห้องรับแขก จตุพรเลยยิ้มแซว
“เป็นอะไรมิทราบครับคุณดรัล...ฮันแน่ ถามแบบนี้ หวงสาวข้างบ้านรึไง”
“ตลกแล้วไอ้ผู้กอง เดี๋ยวก็...”
“เอ้อๆ ไม่ล้อก็ได้” คนถูกเรียกว่าไอ้ผู้กองรีบยกมือยอมแพ้พลางเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกันกับดรัล กลัวอีกฝ่ายลุกมาถีบกระเด็นออกจากบ้านเสียก่อนไม่ใช่อะไร
“นายนี่เหลือเกินจริงๆ จะจริงจังอะไรกับชีวิตนักหนา ฉันก็ตั้งใจจะมาหานายนั่นแหละแต่พอดีเจอคุณลูกหว้ารถเสียอยู่ตรงปากซอย ก็เลยมาส่ง เราเคยเจอกันแล้วครั้งนึงที่โรงพยาบาลนายน่ะ คุณลูกหว้าเธอไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้ที่นั่น นี่ก็เพิ่งรู้ว่าเธออยู่บ้านติดกับนาย ยังไงช่วงนี้นายก็ช่วยดูคุณลูกหว้าเธอหน่อยแล้วกัน ฉันให้ช่างมาลากรถเธอไปซ่อมแล้ว สักสองสามวันคงได้รถคืน”
จตุพรฝากฝังสาวข้างบ้านเป็นชุด ดูเป็นห่วงจนออกนอกหน้า
“ว่าแต่คุณลูกหว้าเธอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอ ตอนฉันพูดถึงนาย บอกว่าเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ ดูเธอพูดเหมือนไม่ค่อยรู้จักนายเท่าไหร่”
“เธอแค่เช่าบ้านเพื่อนอยู่ ไม่ได้อยู่ที่นี่ถาวร” ดรัลบอกห้วนๆ แล้วเอื้อมหยิบรีโมทมาเปิดรายการโทรทัศน์ดูเฉย
“อ้าว ตกลงเป็นบ้านของเพื่อนหรอกเหรอ” จตุพรยังคงถามเรื่องสาวข้างบ้านไม่เลิก
ดรัลนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ เริ่มทำเสียงฮึดฮัดรำคาญอยู่ในที แต่จตุพรเล่นมองมาสายตาคาดคั้น คนรำคาญเลยยอมปริปาก
“บ้านที่คุณลูกหว้าอยู่เดิมทีเพื่อนเขาตั้งใจสร้างเป็นเรือนหอ แต่หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยร้าง คงกลัวบ้านโทรมมั้งเลยให้คุณลูกหว้าย้ายมาอยู่แทน” ดรัลพยายามเล่าสรุปๆ ข้ามๆ ไปตามเรื่อง
ที่จริงแล้วดรัลรู้มากกว่านั้น เพราะอยู่หมู่บ้านนี้มานาน เห็นความเป็นไปของเพื่อนบ้านมาโดยตลอด แต่ไม่จำเป็นจริงๆ ดรัลก็ไม่อยากลงรายละเอียดลึก โดยเฉพาะยิ่งตอนที่กิรณาเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ๆ เพื่อนบ้านในละแวกล้วนต่างซุบซิบนินทากันให้สนุกปาก ลอยเข้าหูดรัลมาก็เยอะทำนองว่า กิรณาเป็นคนรักใหม่ของทิวัตถ์ชายเจ้าของเรือนหอร้างบ้างล่ะ หรือไม่ กิรณาอาจเป็นมือที่สามทำให้ทิวัตถ์กับแฟนสาวต้องเลิกรากัน ไม่อย่างนั้นทิ้งบ้านให้ร้างแค่ไม่กี่เดือนฝ่ายชายไม่มีทางมีใหม่ได้เร็วปานสายฟ้าแลบแบบนี้หรอก หนักเข้าเพื่อนบ้านบางรายถึงขั้นอุปทานไปว่า กิรณาย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กับทิวัตถ์เพื่ออยู่กินกันฉันสามีภรรยา แทนสาวคนรักคนก่อน !
อย่าว่าแต่เรื่องที่เพื่อนบ้านนินทาเลย ดรัลเองก็เคยเห็นทิวัตถ์มาดูบ้านกับหญิงสาวคนรักอยู่หลายครั้งเหมือนกัน แต่จู่ๆ ทั้งสองก็หายหน้าไปปล่อยให้บ้านรกร้างเสียอย่างนั้น กระทั่งเขาเห็นทิวัตถ์กลับมาอีกทีพร้อมควงผู้หญิงคนใหม่มาด้วย ซึ่งก็คือกิรณานั่นเอง คำติฉินนินทาพวกนั้นจึงลอยตามมา หากแต่ภายหลังที่ค่อยๆ เงียบหายไป เพราะเจ้าหล่อนมีบิดามารดาย้ายมาอยู่ด้วย
เรื่องนี้กิรณาคงไม่รู้ตัว แต่สำหรับดรัลแล้ว คำซุบซิบนินทาของเพื่อนบ้านยังอยู่ในหัวสมอง ยิ่งคราวก่อนตอนไปช่วยจำรัส เขาเห็นทิวัตถ์นั่งรออยู่ในบ้านสาวเจ้าด้วย เลยค่อนข้างที่จะมองสาวข้างบ้านกับทิวัตถ์ในแง่ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ เหตุนี้ดรัลจึงไม่อยากบอกลูกพี่ลูกน้องให้เสียความรู้สึกเปล่าๆ เป็นฝ่ายเบี่ยงประเด็นเสียเอง
“ตกลงนายมาบ้านฉัน มีธุระอะไรรึเปล่า ถ้าจะมาเพื่อซักไซ้ประวัติสาวข้างบ้านฉัน โน่น อยากรู้อะไรก็ไปถามกันเอาเอง”
“นายก็พูดไป” จตุพรยิ้มขื่นๆ
“ฉันมีเรื่องอยากปรึกษานายต่างหาก ก็เดิมๆ นั่นแหละ คดีอะไรต่อมิอะไรไม่รู้อีรุงตุงนังไปหมด ล่าสุดนี่ก็มีเพื่อนฉันมาขอร้องให้ช่วยตามหาน้องสาวให้ เห็นว่าจนป่านนี้แล้วยังติดต่อไม่ได้เลย”
จตุพรบ่นไปอย่างนั้นก็หันมามองอีกฝ่าย
“ตกลงคุณลูกหว้ายังโสดอยู่แน่นะ”
“โอ๊ย ไอ้จั๊ด ยังอุตส่าห์วกกลับมาเรื่องนี้อีกเหรอ”
“ก็นายตอบไม่เคลียร์นี่หว่า” จตุพรยังคงทู่ซี่
“นายต้องลองได้พูดคุยกับคุณลูกหว้าอย่างจริงจัง แล้วจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก”
จตุพรพร่ำเพ้อถึงสาวข้างบ้านแล้วเผลอยิ้มกับตัวเองออกมา รอยยิ้มสดใสของสาวเจ้าเมื่อยามแรกเจอยังติดตรึงในหัวใจ เล่นเอาดรัลปวดหัวตุบ กลุ้มใจในอาการเพ้อขั้นรุนแรงของลูกพี่ลูกน้อง
ห้วงฝันวันรัก --- บทที่ 3
บทที่ 1: [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 2(1) : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 2(2) : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แม้แดดร่มลงแล้วเพราะจวนเย็นค่ำ หากดรัลไม่ได้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาสักนิด อากาศที่ร้อนระอุมาทั้งวันมีแต่ความอบอ้าวทำให้ชายหนุ่มต้องปาดเหงื่อที่เริ่มซึมตามหน้าผากและใบหน้า เปลี่ยนใจจากที่จะวิ่งออกกำลังกายในหมู่บ้านต่ออีกสักพัก วิ่งกลับมาตามซอยบ้านตัวเองแทน
ยังไม่ทันถึงบ้านดี ดรัลตวัดสายตาไปเห็นรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง รู้สึกคุ้นตา รถคันนั้นจอดอยู่ใต้ต้นไม้บ้านหลังฝั่งตรงข้ามเยื้องจากบ้านเขาไปนิด ดรัลจำได้ว่าเป็นรถของจตุพร...ลูกพี่ลูกน้องเขา แต่เจ้าตัวไม่อยู่ในรถ ถ้าเดาไม่ผิดจตุพรคงมาบ่นเรื่องงานให้ฟังอีกตามเคย
ทว่า...ดรัลต้องประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเห็นจตุพรกำลังยืนคุยอยู่กับกิรณาอย่างสนิทสนมที่หน้าประตูรั้ว !
“ไม่ยักรู้ว่านายรู้จักกับคุณลูกหว้าด้วย”
ดรัลนั่งรออยู่แล้วในบ้าน โพล่งถามขึ้นมาทันทีที่เห็นลูกพี่ลูกน้องโผล่หน้าเข้ามาหาในเวลาถัดมา
ชายหนุ่มร่างสันทัดผมสั้นสีดำขลับในชุดตำรวจซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับดรัล ผิวปากอย่างอารมณ์ดีเดินเข้ามาในบ้านดรัล ด้วยความที่เพิ่งแยกกับกิรณามา จตุพรเห็นอยู่เหมือนกันว่าดรัลกลับมาแล้ว แถมยังเปิดประตูรั้วไว้อ้าซ่าประหนึ่งเชื้อเชิญแต่ไกล จตุพรถึงได้ตามเข้ามา
หากเจ้าของบ้านอย่างดรัลเล่นนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนโซฟาภายในห้องรับแขก จตุพรเลยยิ้มแซว
“เป็นอะไรมิทราบครับคุณดรัล...ฮันแน่ ถามแบบนี้ หวงสาวข้างบ้านรึไง”
“ตลกแล้วไอ้ผู้กอง เดี๋ยวก็...”
“เอ้อๆ ไม่ล้อก็ได้” คนถูกเรียกว่าไอ้ผู้กองรีบยกมือยอมแพ้พลางเข้ามานั่งโซฟาตัวเดียวกันกับดรัล กลัวอีกฝ่ายลุกมาถีบกระเด็นออกจากบ้านเสียก่อนไม่ใช่อะไร
“นายนี่เหลือเกินจริงๆ จะจริงจังอะไรกับชีวิตนักหนา ฉันก็ตั้งใจจะมาหานายนั่นแหละแต่พอดีเจอคุณลูกหว้ารถเสียอยู่ตรงปากซอย ก็เลยมาส่ง เราเคยเจอกันแล้วครั้งนึงที่โรงพยาบาลนายน่ะ คุณลูกหว้าเธอไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้ที่นั่น นี่ก็เพิ่งรู้ว่าเธออยู่บ้านติดกับนาย ยังไงช่วงนี้นายก็ช่วยดูคุณลูกหว้าเธอหน่อยแล้วกัน ฉันให้ช่างมาลากรถเธอไปซ่อมแล้ว สักสองสามวันคงได้รถคืน”
จตุพรฝากฝังสาวข้างบ้านเป็นชุด ดูเป็นห่วงจนออกนอกหน้า
“ว่าแต่คุณลูกหว้าเธอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอ ตอนฉันพูดถึงนาย บอกว่าเราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ ดูเธอพูดเหมือนไม่ค่อยรู้จักนายเท่าไหร่”
“เธอแค่เช่าบ้านเพื่อนอยู่ ไม่ได้อยู่ที่นี่ถาวร” ดรัลบอกห้วนๆ แล้วเอื้อมหยิบรีโมทมาเปิดรายการโทรทัศน์ดูเฉย
“อ้าว ตกลงเป็นบ้านของเพื่อนหรอกเหรอ” จตุพรยังคงถามเรื่องสาวข้างบ้านไม่เลิก
ดรัลนั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ เริ่มทำเสียงฮึดฮัดรำคาญอยู่ในที แต่จตุพรเล่นมองมาสายตาคาดคั้น คนรำคาญเลยยอมปริปาก
“บ้านที่คุณลูกหว้าอยู่เดิมทีเพื่อนเขาตั้งใจสร้างเป็นเรือนหอ แต่หลังจากนั้นก็ถูกปล่อยร้าง คงกลัวบ้านโทรมมั้งเลยให้คุณลูกหว้าย้ายมาอยู่แทน” ดรัลพยายามเล่าสรุปๆ ข้ามๆ ไปตามเรื่อง
ที่จริงแล้วดรัลรู้มากกว่านั้น เพราะอยู่หมู่บ้านนี้มานาน เห็นความเป็นไปของเพื่อนบ้านมาโดยตลอด แต่ไม่จำเป็นจริงๆ ดรัลก็ไม่อยากลงรายละเอียดลึก โดยเฉพาะยิ่งตอนที่กิรณาเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ๆ เพื่อนบ้านในละแวกล้วนต่างซุบซิบนินทากันให้สนุกปาก ลอยเข้าหูดรัลมาก็เยอะทำนองว่า กิรณาเป็นคนรักใหม่ของทิวัตถ์ชายเจ้าของเรือนหอร้างบ้างล่ะ หรือไม่ กิรณาอาจเป็นมือที่สามทำให้ทิวัตถ์กับแฟนสาวต้องเลิกรากัน ไม่อย่างนั้นทิ้งบ้านให้ร้างแค่ไม่กี่เดือนฝ่ายชายไม่มีทางมีใหม่ได้เร็วปานสายฟ้าแลบแบบนี้หรอก หนักเข้าเพื่อนบ้านบางรายถึงขั้นอุปทานไปว่า กิรณาย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กับทิวัตถ์เพื่ออยู่กินกันฉันสามีภรรยา แทนสาวคนรักคนก่อน !
อย่าว่าแต่เรื่องที่เพื่อนบ้านนินทาเลย ดรัลเองก็เคยเห็นทิวัตถ์มาดูบ้านกับหญิงสาวคนรักอยู่หลายครั้งเหมือนกัน แต่จู่ๆ ทั้งสองก็หายหน้าไปปล่อยให้บ้านรกร้างเสียอย่างนั้น กระทั่งเขาเห็นทิวัตถ์กลับมาอีกทีพร้อมควงผู้หญิงคนใหม่มาด้วย ซึ่งก็คือกิรณานั่นเอง คำติฉินนินทาพวกนั้นจึงลอยตามมา หากแต่ภายหลังที่ค่อยๆ เงียบหายไป เพราะเจ้าหล่อนมีบิดามารดาย้ายมาอยู่ด้วย
เรื่องนี้กิรณาคงไม่รู้ตัว แต่สำหรับดรัลแล้ว คำซุบซิบนินทาของเพื่อนบ้านยังอยู่ในหัวสมอง ยิ่งคราวก่อนตอนไปช่วยจำรัส เขาเห็นทิวัตถ์นั่งรออยู่ในบ้านสาวเจ้าด้วย เลยค่อนข้างที่จะมองสาวข้างบ้านกับทิวัตถ์ในแง่ไม่ค่อยดีเสียเท่าไหร่ เหตุนี้ดรัลจึงไม่อยากบอกลูกพี่ลูกน้องให้เสียความรู้สึกเปล่าๆ เป็นฝ่ายเบี่ยงประเด็นเสียเอง
“ตกลงนายมาบ้านฉัน มีธุระอะไรรึเปล่า ถ้าจะมาเพื่อซักไซ้ประวัติสาวข้างบ้านฉัน โน่น อยากรู้อะไรก็ไปถามกันเอาเอง”
“นายก็พูดไป” จตุพรยิ้มขื่นๆ
“ฉันมีเรื่องอยากปรึกษานายต่างหาก ก็เดิมๆ นั่นแหละ คดีอะไรต่อมิอะไรไม่รู้อีรุงตุงนังไปหมด ล่าสุดนี่ก็มีเพื่อนฉันมาขอร้องให้ช่วยตามหาน้องสาวให้ เห็นว่าจนป่านนี้แล้วยังติดต่อไม่ได้เลย”
จตุพรบ่นไปอย่างนั้นก็หันมามองอีกฝ่าย
“ตกลงคุณลูกหว้ายังโสดอยู่แน่นะ”
“โอ๊ย ไอ้จั๊ด ยังอุตส่าห์วกกลับมาเรื่องนี้อีกเหรอ”
“ก็นายตอบไม่เคลียร์นี่หว่า” จตุพรยังคงทู่ซี่
“นายต้องลองได้พูดคุยกับคุณลูกหว้าอย่างจริงจัง แล้วจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก”
จตุพรพร่ำเพ้อถึงสาวข้างบ้านแล้วเผลอยิ้มกับตัวเองออกมา รอยยิ้มสดใสของสาวเจ้าเมื่อยามแรกเจอยังติดตรึงในหัวใจ เล่นเอาดรัลปวดหัวตุบ กลุ้มใจในอาการเพ้อขั้นรุนแรงของลูกพี่ลูกน้อง