คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ผมเคยมีลูกน้องแก่คราวพ่อครับ
ด้วยวัยผมตอนนั้นน่าจะ27-28ปี เขาเป็น Senior Superviseอยู่ในไลน์ ส่วนผมเป็นAsst mgr. เขาDirectผมเลย เนื่องจากผู้จัดการผมไม่อยากปะทะด้วย ลูกน้องฝั่งOfficeหลายคนเตือนผมให้ระวังSSVคนนี้ เนื่องจากตำแหน่งนี้ที่ว่าง เพราะไม่มีใครอยู่ได้นานเกิน 3 เดือน เพราะSSVคนนี้ครับ เขาค่อนข้างคาดหวังจะถีบตัวเองขึ้นมานั่งในออฟฟิศ(ซึ่งจริงๆถ้าใครเป็นเจ้าของบริษัทจะทราบดีว่า บุคลากรที่มีคุณสมบัตินี้ จะมีความสามารถาสูงมากในภาคปฏิบัติ แต่ในแง่ของManagementนั้น สามารถหาคนที่ทำได้ดีกว่า และจะรักษาคนคนนี้ไว้โดยการอัดฉีดเงินเดือนแทน)
ปัญหาหลักๆก็คือ
1. เขาอยู่มานาน ทุกๆคนใต้บังคับบัญชาของเขาคือคนของเขา
2. เขาข้องใจกับความสามารถของเรา(ไม่ใช่ว่าเราเก่งมั้ย แต่ข้องใจว่า เก่งพอที่เขาจะลดตัวมาอยู่ใต้บังคับบัญชาเรามั้ย)
3. จากข้อ 2 เขามักจะไม่ฟังผม และกระทำสวนทาง
4. เมื่อเกิดปัญหา เขาจะไม่บอกผม แต่จะแก้ปัญหาแลัDirect InformationไปยังMGR ผม เพราะเขายังไม่ยอมรับผม
5. เขาจะไม่Supportในแผนงานใดๆของผม ถ้าเขาเล็งเห็นว่านั่นจะเป็นการพยายามเพื่อผมโดยเขาหรือลูกน้องเขาคนใดจะเสียผลประโยชน์
คร่าวๆ 5 ข้อครับ เขาไม่ใช่คนไม่ดีครับ ทุกวันนี้ เมื่อผมมีโอกาสได้ไปAudit บริษัทนี้ที่ผมเคยอยู่ เลิกงานผมไม่เคยได้กลับบ้าน เขาจะพาผมไปเลี้ยงเหล้าต่อเสมอ
สิ่งที่ผมทำในตอนนั้น เพื่อให้ผมสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นนะครับ
1. ผมเป็นคนมือไม้อ่อน ธรรมชาติของผม ผมไหว้ได้ทุกคนอยู่แล้ว ผมไหว้ตั่งแต่รปภ. คนขับรถ แม่บ้าน ยันเจ้าของบริษัท
2. ผมไม่เคยสั่งใคร ทุกๆครั้งที่ผมจะAssignงาน ผมจะใช้คำว่า ขอให้ทำ ขอความช่วยเหลือ ซึ่งเขาจะทำไม่ทำ อย่างน้อยเขาก็ไม่หาว่าผมบ้าอำนาจ
3. ผมไม่เคยโยนความผิด หรือให้เขารับผิดครับ
มีครั้งนึงผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมจ่ายแผนงาน Projectใหม่ พร้อมแผนT0 on tools ไปให้ ซึ่งเขาไม่พูดอะไร ไม่แจ้งปัญหาใดๆกับผม
เมื่อถึงวันกำหนดส่งSample เรียกประชุม เขาเดินขึ้นมาพูดว่ามีปัญหาแบบนั้นแบบนี้ Mgrผมจะแจกใบเตือน(มันมีผลต่อโบนัสและการปรับ
เงินเดือน) ผมบอกกับMgr ผมว่า ปัญหานี้ มันควรจะมาถึงผมก่อน และผมควรจะแก้ปัญหา ปัญหาทั้งหมด มันเกิดจากผมไม่ลงไปเพื่อทราบ
ปัญหาหน้างานก่อนAssignงาน ถ้าจะให้ใบเตือน ควรให้ผมเพียงคนเดียว และผมจะไปขอโทษลูกค้าและรับแผนใหม่มาเพื่อทำการส่งSample
สรุปในตอนนั้น ผมไม่ได้ใบเตือนครับ เพราะ Mgrผมเขาทราบดีไม่ใช่ความผิดผม เพียงแต่ผมต้องรับผิดชอบ
4. ผมไม่เคยเกี่ยงงานเล็กงานน้อย ผมไม่เคยกลัวซอกเล็บจะดำ ผมสามารถลงไปCNCงานแม่พิมพ์เอง ผมสามารถเอาS50Cที่กัดแม่พิมพ์
TemporaryไปFlameด้วยมือผมเอง ผมสามารถตั้งแม่พิมพ์เอง ในขณะที่เขาแจ้งว่าลูกน้องเขาไม่ว่าง
5. ผมไม่อายที่จะขอความรู้ ผมไม่ใช่พระเจ้าผมไม่สามารถรู้ทุกอย่างได้แต่เกิด ผมไม่อายที่จะลงไปหน้างาน ลงไปยกมือไหว้ถือM150ถุงโต
ลงไปแจก ยกมือไหว้คนหน้างานถามถึงปัญหาการผลิตในดีไซน์ต่างๆ
6. ผมไม่เคยอารมณ์เสียและเหวี่ยงใส่ผู้ใตบังคับบัญชา ผมมักจะใช้เหตุผลเสมอ หลายครั้งที่ผมโมโหมาก แต่ต้องเก็บไว้ หนีลงไปสูบบุหรี่คนเดียว
เพื่อปรับอารมณ์และมาคุยต่ออย่างใจเย็น
7. ผมไม่อายที่จะบอกกับในที่ประชุมเมื่องานเสร็จว่า ผลงานนี้ ผมได้รับการอนุเคราะห์จากใคร ได้ความช่วยเหลือจากใคร แม้เขาจะไม่เต็มใจช่วย
ผมก็ตาม
ผมใช้เวลาพักใหญ่ครับ หลังจากทำแบบนี้ อยู่ๆวันนึง ในขณะที่ผมกำลังSetแม่พิมพ์อยู่นั้น พี่คนนี้ ก็เดินมา ยื่นคาราบาวแดงให้ผมแล้วบอกว่า
"อะ แก้เหนื่อย"
แล้วเขาก็เอาลูกน้องมาทำทั้งหมดครับ หลังจากนั้น ผมก็ได้ใจเขามาโดยที่ผมไม่ได้คาดหวังแต่แรก เป็นที่แปลกใจมากที่ จากคนที่หยิ่ง แข็ง มาวันนึง ก็เดินเข้ามาถาม ปรึกษา วางแผน และรับฟังเด็กอายุไม่ถึง30อย่างผม(ในตอนนั้น)
ทั้งหมดที่ผมทำ ไม่ได้หวังจะกำราบเขาครับ ผมทำ เพราะ พ่อแม่ผมสอนไว้ ซึ่งมันเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่า
ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ไม่เกี่ยงงาน ไม่แย่งโอกาสคนอื่นและการมีสัมมาคาราวะ มันทำให้ได้ผลอื่นๆตามมา
ด้วยวัยผมตอนนั้นน่าจะ27-28ปี เขาเป็น Senior Superviseอยู่ในไลน์ ส่วนผมเป็นAsst mgr. เขาDirectผมเลย เนื่องจากผู้จัดการผมไม่อยากปะทะด้วย ลูกน้องฝั่งOfficeหลายคนเตือนผมให้ระวังSSVคนนี้ เนื่องจากตำแหน่งนี้ที่ว่าง เพราะไม่มีใครอยู่ได้นานเกิน 3 เดือน เพราะSSVคนนี้ครับ เขาค่อนข้างคาดหวังจะถีบตัวเองขึ้นมานั่งในออฟฟิศ(ซึ่งจริงๆถ้าใครเป็นเจ้าของบริษัทจะทราบดีว่า บุคลากรที่มีคุณสมบัตินี้ จะมีความสามารถาสูงมากในภาคปฏิบัติ แต่ในแง่ของManagementนั้น สามารถหาคนที่ทำได้ดีกว่า และจะรักษาคนคนนี้ไว้โดยการอัดฉีดเงินเดือนแทน)
ปัญหาหลักๆก็คือ
1. เขาอยู่มานาน ทุกๆคนใต้บังคับบัญชาของเขาคือคนของเขา
2. เขาข้องใจกับความสามารถของเรา(ไม่ใช่ว่าเราเก่งมั้ย แต่ข้องใจว่า เก่งพอที่เขาจะลดตัวมาอยู่ใต้บังคับบัญชาเรามั้ย)
3. จากข้อ 2 เขามักจะไม่ฟังผม และกระทำสวนทาง
4. เมื่อเกิดปัญหา เขาจะไม่บอกผม แต่จะแก้ปัญหาแลัDirect InformationไปยังMGR ผม เพราะเขายังไม่ยอมรับผม
5. เขาจะไม่Supportในแผนงานใดๆของผม ถ้าเขาเล็งเห็นว่านั่นจะเป็นการพยายามเพื่อผมโดยเขาหรือลูกน้องเขาคนใดจะเสียผลประโยชน์
คร่าวๆ 5 ข้อครับ เขาไม่ใช่คนไม่ดีครับ ทุกวันนี้ เมื่อผมมีโอกาสได้ไปAudit บริษัทนี้ที่ผมเคยอยู่ เลิกงานผมไม่เคยได้กลับบ้าน เขาจะพาผมไปเลี้ยงเหล้าต่อเสมอ
สิ่งที่ผมทำในตอนนั้น เพื่อให้ผมสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นนะครับ
1. ผมเป็นคนมือไม้อ่อน ธรรมชาติของผม ผมไหว้ได้ทุกคนอยู่แล้ว ผมไหว้ตั่งแต่รปภ. คนขับรถ แม่บ้าน ยันเจ้าของบริษัท
2. ผมไม่เคยสั่งใคร ทุกๆครั้งที่ผมจะAssignงาน ผมจะใช้คำว่า ขอให้ทำ ขอความช่วยเหลือ ซึ่งเขาจะทำไม่ทำ อย่างน้อยเขาก็ไม่หาว่าผมบ้าอำนาจ
3. ผมไม่เคยโยนความผิด หรือให้เขารับผิดครับ
มีครั้งนึงผมจำได้ว่า ตอนนั้นผมจ่ายแผนงาน Projectใหม่ พร้อมแผนT0 on tools ไปให้ ซึ่งเขาไม่พูดอะไร ไม่แจ้งปัญหาใดๆกับผม
เมื่อถึงวันกำหนดส่งSample เรียกประชุม เขาเดินขึ้นมาพูดว่ามีปัญหาแบบนั้นแบบนี้ Mgrผมจะแจกใบเตือน(มันมีผลต่อโบนัสและการปรับ
เงินเดือน) ผมบอกกับMgr ผมว่า ปัญหานี้ มันควรจะมาถึงผมก่อน และผมควรจะแก้ปัญหา ปัญหาทั้งหมด มันเกิดจากผมไม่ลงไปเพื่อทราบ
ปัญหาหน้างานก่อนAssignงาน ถ้าจะให้ใบเตือน ควรให้ผมเพียงคนเดียว และผมจะไปขอโทษลูกค้าและรับแผนใหม่มาเพื่อทำการส่งSample
สรุปในตอนนั้น ผมไม่ได้ใบเตือนครับ เพราะ Mgrผมเขาทราบดีไม่ใช่ความผิดผม เพียงแต่ผมต้องรับผิดชอบ
4. ผมไม่เคยเกี่ยงงานเล็กงานน้อย ผมไม่เคยกลัวซอกเล็บจะดำ ผมสามารถลงไปCNCงานแม่พิมพ์เอง ผมสามารถเอาS50Cที่กัดแม่พิมพ์
TemporaryไปFlameด้วยมือผมเอง ผมสามารถตั้งแม่พิมพ์เอง ในขณะที่เขาแจ้งว่าลูกน้องเขาไม่ว่าง
5. ผมไม่อายที่จะขอความรู้ ผมไม่ใช่พระเจ้าผมไม่สามารถรู้ทุกอย่างได้แต่เกิด ผมไม่อายที่จะลงไปหน้างาน ลงไปยกมือไหว้ถือM150ถุงโต
ลงไปแจก ยกมือไหว้คนหน้างานถามถึงปัญหาการผลิตในดีไซน์ต่างๆ
6. ผมไม่เคยอารมณ์เสียและเหวี่ยงใส่ผู้ใตบังคับบัญชา ผมมักจะใช้เหตุผลเสมอ หลายครั้งที่ผมโมโหมาก แต่ต้องเก็บไว้ หนีลงไปสูบบุหรี่คนเดียว
เพื่อปรับอารมณ์และมาคุยต่ออย่างใจเย็น
7. ผมไม่อายที่จะบอกกับในที่ประชุมเมื่องานเสร็จว่า ผลงานนี้ ผมได้รับการอนุเคราะห์จากใคร ได้ความช่วยเหลือจากใคร แม้เขาจะไม่เต็มใจช่วย
ผมก็ตาม
ผมใช้เวลาพักใหญ่ครับ หลังจากทำแบบนี้ อยู่ๆวันนึง ในขณะที่ผมกำลังSetแม่พิมพ์อยู่นั้น พี่คนนี้ ก็เดินมา ยื่นคาราบาวแดงให้ผมแล้วบอกว่า
"อะ แก้เหนื่อย"
แล้วเขาก็เอาลูกน้องมาทำทั้งหมดครับ หลังจากนั้น ผมก็ได้ใจเขามาโดยที่ผมไม่ได้คาดหวังแต่แรก เป็นที่แปลกใจมากที่ จากคนที่หยิ่ง แข็ง มาวันนึง ก็เดินเข้ามาถาม ปรึกษา วางแผน และรับฟังเด็กอายุไม่ถึง30อย่างผม(ในตอนนั้น)
ทั้งหมดที่ผมทำ ไม่ได้หวังจะกำราบเขาครับ ผมทำ เพราะ พ่อแม่ผมสอนไว้ ซึ่งมันเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่า
ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ไม่เกี่ยงงาน ไม่แย่งโอกาสคนอื่นและการมีสัมมาคาราวะ มันทำให้ได้ผลอื่นๆตามมา
แสดงความคิดเห็น
อยากฟังเสียงของเจ้านายที่มีลูกน้องอายุมากกว่าว่าอึดอัดหรือมีปัญหาอะไรไหม
กลัวว่าจะทำงานด้วยลำบาก
ใครที่เป็นหัวหน้างานแล้วมีลูกน้องอายุมากกว่าบ้างครับ อยากให้ช่วยแชร์ประสบการณ์ว่ามีปัญหาอะไรมากมาย
หรือเปล่า หรือมีวิธีบริหารอย่างไร โดยส่วนตัวก็เคยมีลูกน้องที่อายุมากกว่า เราก็พูดคุยสั่งงานตามปกติ
ใช้ภาษาทางการหน่อย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร เลยอยากทราบมุมมองของคนอื่นๆบ้างครับ