สำหรับใครที่เคยอ่านวรรณกรรมสามก๊ก หรือภาพยนตร์สามก๊ก ไม่มีใครไม่รู้จักกับบุคคลที่สำคัญกุนซือสำคัญอย่างขงเบ้งสำหรับฝ่ายจ๊กก๊ก และ สุมาอี้สำหรับฝ่ายวุยก๊ก โดยทั้งสองคนเป็นบุคคลที่สำคัญที่สามารถประสบความสำเร็จมีอำนาจในก๊กของเจ้านายตัวเอง มีผลงานพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์
สำหรับขงเบ้งนั้นมีการจัดการ บริหารบ้านเมืองและกองทัพอย่างในลักษณะของการกระตือรือร้น หรือ Active นั่นเอง
แตกต่างจากสุมาอี้ที่มีการจัดการ บริหารบ้านเมืองและกองทัพในลักษณะเชิงตั้งรับ หรือ Passive
ซึ่งดูเหมือนทั้งสองท่านจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่ได้แสดงว่าทั้งสองท่านจะเก่งกาจแตกต่างกัน โดยพบว่าขงเบ้งนั้นพยายามที่จะไปรบเพื่อรวมแผ่นดินให้นายตัวเองหลาย ๆ ครั้งแต่ก็ไม่อาจจะชนะสุมาอี้ ไม่สามารถยึดวุยก๊กได้ ทั้ง ๆที่ต้องยอมรับว่าขงเบ้งนั้นมีทักษะการบริหารกองทัพที่พิสูจน์แล้วเอาชนะทัพต่าง ๆ ได้หลายศึก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือสุมาอี้ทำอย่างไร ให้ขงเบ้งไม่สามารถเอาชนะได้ สิ่งสำคัญที่สุมาอี้ชนะได้นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การจัดการบริหารกองทัพแนวหน้าเท่านั้น แต่มีความน่าสนใจตรงที่สุมาอี้นั้นมีแนวหลังที่คอยสนับสนุนที่ดีในการทำการศึกจากจักรพรรดิของตนเอง ได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนที่มองว่าสุมาอี้ทำการป้องกันประชาชนจากการรุกรานของบงเบ้ง แตกต่างจากชงเบ้งที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจากเล่าเสี้ยนนายของขงเบ้ง อีกทั้งประชาชนมีกระแสต่อต้านจากการที่ทำศึกบ่อยครั้ง เกณฑ์ประชาชนเพื่อไปรบตลอดเวลา ยิ่งการรบยืดเยื้อกระแสตอบรับของประชาชนทั้งสองฝั่งยิ่งมีความแตกต่างกัน ในฝ่ายของจ๊กก๊กที่ต้องการไปรุกรานมีกระแสต่อต้านมหาศาล ยิ่งสุมาอี้สามารถยืดเยื้อไม่ให้ขงเบ้งรุกคืบได้เท่าไหร่ยิ่งได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนฝ่ายตนเองมากขึ้นเท่านั้น
ในบางครั้งการที่สุมาอี้แค่ป้องกันการรุกรานที่ดูเหมือนจะไม่ชนะ แต่จริง ๆ แล้วกลายเป็นว่าสุมาอี้ชนะได้ในระยะยาวเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถปกป้องบ้านเมืองจากการรุกราน
เราสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องการรบระหว่างขงเบ้งกับสุมาอี้ได้อย่างดี บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายเพื่อที่จะชนะ ยิ่งเรากระทำมากเท่าไหร่กลับกลายจะยิ่งแพ้มากขึ้น ทางที่ดีนั้นเราควรที่จะศึกษาก่อนที่จะกระทำอะไรลงไป
สุมาอี้ชนะขงเบ้ง โดยการนิ่งเฉย
สำหรับขงเบ้งนั้นมีการจัดการ บริหารบ้านเมืองและกองทัพอย่างในลักษณะของการกระตือรือร้น หรือ Active นั่นเอง
แตกต่างจากสุมาอี้ที่มีการจัดการ บริหารบ้านเมืองและกองทัพในลักษณะเชิงตั้งรับ หรือ Passive
ซึ่งดูเหมือนทั้งสองท่านจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ไม่ได้แสดงว่าทั้งสองท่านจะเก่งกาจแตกต่างกัน โดยพบว่าขงเบ้งนั้นพยายามที่จะไปรบเพื่อรวมแผ่นดินให้นายตัวเองหลาย ๆ ครั้งแต่ก็ไม่อาจจะชนะสุมาอี้ ไม่สามารถยึดวุยก๊กได้ ทั้ง ๆที่ต้องยอมรับว่าขงเบ้งนั้นมีทักษะการบริหารกองทัพที่พิสูจน์แล้วเอาชนะทัพต่าง ๆ ได้หลายศึก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือสุมาอี้ทำอย่างไร ให้ขงเบ้งไม่สามารถเอาชนะได้ สิ่งสำคัญที่สุมาอี้ชนะได้นั้นไม่ได้มีเพียงแค่การจัดการบริหารกองทัพแนวหน้าเท่านั้น แต่มีความน่าสนใจตรงที่สุมาอี้นั้นมีแนวหลังที่คอยสนับสนุนที่ดีในการทำการศึกจากจักรพรรดิของตนเอง ได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนที่มองว่าสุมาอี้ทำการป้องกันประชาชนจากการรุกรานของบงเบ้ง แตกต่างจากชงเบ้งที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจากเล่าเสี้ยนนายของขงเบ้ง อีกทั้งประชาชนมีกระแสต่อต้านจากการที่ทำศึกบ่อยครั้ง เกณฑ์ประชาชนเพื่อไปรบตลอดเวลา ยิ่งการรบยืดเยื้อกระแสตอบรับของประชาชนทั้งสองฝั่งยิ่งมีความแตกต่างกัน ในฝ่ายของจ๊กก๊กที่ต้องการไปรุกรานมีกระแสต่อต้านมหาศาล ยิ่งสุมาอี้สามารถยืดเยื้อไม่ให้ขงเบ้งรุกคืบได้เท่าไหร่ยิ่งได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนฝ่ายตนเองมากขึ้นเท่านั้น
ในบางครั้งการที่สุมาอี้แค่ป้องกันการรุกรานที่ดูเหมือนจะไม่ชนะ แต่จริง ๆ แล้วกลายเป็นว่าสุมาอี้ชนะได้ในระยะยาวเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถปกป้องบ้านเมืองจากการรุกราน
เราสามารถเรียนรู้ได้จากเรื่องการรบระหว่างขงเบ้งกับสุมาอี้ได้อย่างดี บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายเพื่อที่จะชนะ ยิ่งเรากระทำมากเท่าไหร่กลับกลายจะยิ่งแพ้มากขึ้น ทางที่ดีนั้นเราควรที่จะศึกษาก่อนที่จะกระทำอะไรลงไป