คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
ไม่ได้ติดตามเรื่องสามก๊กจากเพจต่างๆ เลยค่ะ ขอนำตอนที่ประทับใจมากๆ มาแจม เพราะสะท้อนให้เห็นว่าขงเบ้งอ่านคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
สามก๊ก ตอน สงครามลิ้น ตอนที่ขงเบ้งไปหาซุนกวนเพื่อเจรจาให้ง่อก๊ก (ซุนกวน) ร่วมมือกับจ๊กก๊ก (เล่าปี่) เพื่อรบกับวุยก๊ก (โจโฉ) แน่นอนขุนนางง่อก๊กก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นว่าควรให้ความร่วมมือ กับฝ่ายที่เห็นว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่า
บรรดากุนซือชื่อดังของง่อก๊กออกมาปะทะโวหาร ก็เจอขงเบ้งสวนหงายกลับไปทุกราย เช่น
เตียวเจียว โดนขงเบ้งสั่งสอนว่า
...เรื่องชาติบ้านเมือง เรื่องราชวงศ์ ล้วนจำเป็นต้องอาศัยผู้ปราชญ์เปรื่อง จะมามัวอาศัย พวกที่คุยโวโอ้อวด พวกเล่นลิ้นโต้คารม หรือพวกสรรเสริญตัวเอง เหยียดหยามผู้อื่น พวกดีแต่นั่งโม้คุยโตว่าไม่มีใครเทียบ แต่ต่อเรื่องคับขัน กลับไร้แผนจะแก้ไข ถ้าหากว่า ใช้พวกนี้ โลกคงเยาะเย้ย
ซีหอง โดนตอกหน้าหงาย
... คนเราเกิดมาชาติหนึ่ง ต้องจงรักภักดีกตัญญู ตระกูลโจโฉเป็นอำมาตย์ กินเบี้ยหวัดหลวง แต่ลูกหลานไม่จงรัก กลับคิดคดเป็นกบฏ คิดเป็นโจรชิงราชสมบัติต่อทรราชย์ คนทั่วหล้า ควรร่วมกันปราบ ร่วมกันกำจัดมัน แต่พวกท่าน ซึ่งเป็นอำมาตย์ กลับเป็นกระบอกเสียงให้โจรชั่ว ทำตัวเหมือน เป็นคนไร้พ่อไร้เจ้า คนอย่างนี้ไม่คู่ควร อย่ามาพูดเลย
โต้กับ เหยียมจุ้น
..ข้าไม่ใช่หนอนตำรา นักวิชาการ ที่ท่องคัมภีร์เอามาพูด พวกลอกตำรา จำแต่คำพูดจากคัมภีร์ จะมาสร้างบ้านสร้างเมืองไม่ได้หรอก นับแต่โบราณ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนคัมภีร์ อิอิ๋นเสิงเซียงแห่งราชวงศ์ซาง ตอนแรก ก็เป็นเพียงทาสติดที่นาเท่านั้น เจียงไท่กง ผู้บุกเบิกราชวงศ์จิว เป็นเพียงคนตกปลา ส่วนปราชญ์รุ่นหลังเช่น เตียวเหลียง ตันเป๋งนั้น เก่งกล้าสามารถมากขนาดไหน ก็ไม่เห็นว่าท่านต้องเขียนคัมภีร์อะไรเลย น่าเสียดายที่พวกบัณฑิต อ้าปากปิดปาก อ้างแต่คัมภีร์ ทั้งวันวุ่นวายกับหมึกพู่กัน ข้าเห็นว่าพวกนี้ น่ากลัวทำได้เพียงเล่นขายของ อยู่กับกระดาษเท่านั้น
ปะทะ เทียตก
... เมื่อท่านอ้างถึงปราชญ์หยู คงรู้ว่า มีหยูของผู้ดี และหยูของคนถ่อย หยูของผู้ดี จงรักภักดี ยุติธรรม เกลียดความเลว จึงยิ่งใหญ่อยู่ในโลกได้ และยืนยงคงอยู่นิรันดร์ ส่วนหยูคนถ่อยนั้น ต่างออกไป คือมั่วแต่หมึกพู่กัน ประดิษฐ์ประดอยเรื่องเล็ก ตอนหนุ่มเขียนกวี ตอนแก่ก็เขียนคัมภีร์ เขียนได้ทุกอย่างแต่ในอกกลับว่าง ไร้ยุทธศาสตร์ ... ขอให้ท่านเป็นหยูผู้ดี จงรักภักดี อย่าเอาแบบอย่างหยางสง ใช้หยูของคนถ่อยต้องถูกก่นด่าไปชั่วนิจนิรันดร
ใครโดนขงเบ้งด่านี่ กลับไปดื่มน้ำใบบัวบกได้ทุกราย ไม่ใช่เพราะขงเบ้งปากจัด แต่เพราะขงเบ้งรอบรู้ มีฐานข้อมูล รู้จักวิเคราะห์จนผู้อื่นปราศจากข้อโต้แย้ง และในวงการกุนซือ นักปราชญ์ จะไม่มีหลับตามั่ว สีข้างเข้าถู เมื่อแพ้ ก็ต้องยอมรับว่าแพ้
สามก๊ก ตอน สงครามลิ้น ตอนที่ขงเบ้งไปหาซุนกวนเพื่อเจรจาให้ง่อก๊ก (ซุนกวน) ร่วมมือกับจ๊กก๊ก (เล่าปี่) เพื่อรบกับวุยก๊ก (โจโฉ) แน่นอนขุนนางง่อก๊กก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นว่าควรให้ความร่วมมือ กับฝ่ายที่เห็นว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่า
บรรดากุนซือชื่อดังของง่อก๊กออกมาปะทะโวหาร ก็เจอขงเบ้งสวนหงายกลับไปทุกราย เช่น
เตียวเจียว โดนขงเบ้งสั่งสอนว่า
...เรื่องชาติบ้านเมือง เรื่องราชวงศ์ ล้วนจำเป็นต้องอาศัยผู้ปราชญ์เปรื่อง จะมามัวอาศัย พวกที่คุยโวโอ้อวด พวกเล่นลิ้นโต้คารม หรือพวกสรรเสริญตัวเอง เหยียดหยามผู้อื่น พวกดีแต่นั่งโม้คุยโตว่าไม่มีใครเทียบ แต่ต่อเรื่องคับขัน กลับไร้แผนจะแก้ไข ถ้าหากว่า ใช้พวกนี้ โลกคงเยาะเย้ย
ซีหอง โดนตอกหน้าหงาย
... คนเราเกิดมาชาติหนึ่ง ต้องจงรักภักดีกตัญญู ตระกูลโจโฉเป็นอำมาตย์ กินเบี้ยหวัดหลวง แต่ลูกหลานไม่จงรัก กลับคิดคดเป็นกบฏ คิดเป็นโจรชิงราชสมบัติต่อทรราชย์ คนทั่วหล้า ควรร่วมกันปราบ ร่วมกันกำจัดมัน แต่พวกท่าน ซึ่งเป็นอำมาตย์ กลับเป็นกระบอกเสียงให้โจรชั่ว ทำตัวเหมือน เป็นคนไร้พ่อไร้เจ้า คนอย่างนี้ไม่คู่ควร อย่ามาพูดเลย
โต้กับ เหยียมจุ้น
..ข้าไม่ใช่หนอนตำรา นักวิชาการ ที่ท่องคัมภีร์เอามาพูด พวกลอกตำรา จำแต่คำพูดจากคัมภีร์ จะมาสร้างบ้านสร้างเมืองไม่ได้หรอก นับแต่โบราณ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนคัมภีร์ อิอิ๋นเสิงเซียงแห่งราชวงศ์ซาง ตอนแรก ก็เป็นเพียงทาสติดที่นาเท่านั้น เจียงไท่กง ผู้บุกเบิกราชวงศ์จิว เป็นเพียงคนตกปลา ส่วนปราชญ์รุ่นหลังเช่น เตียวเหลียง ตันเป๋งนั้น เก่งกล้าสามารถมากขนาดไหน ก็ไม่เห็นว่าท่านต้องเขียนคัมภีร์อะไรเลย น่าเสียดายที่พวกบัณฑิต อ้าปากปิดปาก อ้างแต่คัมภีร์ ทั้งวันวุ่นวายกับหมึกพู่กัน ข้าเห็นว่าพวกนี้ น่ากลัวทำได้เพียงเล่นขายของ อยู่กับกระดาษเท่านั้น
ปะทะ เทียตก
... เมื่อท่านอ้างถึงปราชญ์หยู คงรู้ว่า มีหยูของผู้ดี และหยูของคนถ่อย หยูของผู้ดี จงรักภักดี ยุติธรรม เกลียดความเลว จึงยิ่งใหญ่อยู่ในโลกได้ และยืนยงคงอยู่นิรันดร์ ส่วนหยูคนถ่อยนั้น ต่างออกไป คือมั่วแต่หมึกพู่กัน ประดิษฐ์ประดอยเรื่องเล็ก ตอนหนุ่มเขียนกวี ตอนแก่ก็เขียนคัมภีร์ เขียนได้ทุกอย่างแต่ในอกกลับว่าง ไร้ยุทธศาสตร์ ... ขอให้ท่านเป็นหยูผู้ดี จงรักภักดี อย่าเอาแบบอย่างหยางสง ใช้หยูของคนถ่อยต้องถูกก่นด่าไปชั่วนิจนิรันดร
ใครโดนขงเบ้งด่านี่ กลับไปดื่มน้ำใบบัวบกได้ทุกราย ไม่ใช่เพราะขงเบ้งปากจัด แต่เพราะขงเบ้งรอบรู้ มีฐานข้อมูล รู้จักวิเคราะห์จนผู้อื่นปราศจากข้อโต้แย้ง และในวงการกุนซือ นักปราชญ์ จะไม่มีหลับตามั่ว สีข้างเข้าถู เมื่อแพ้ ก็ต้องยอมรับว่าแพ้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
วิธีดูคน จากสามก๊ก เป็นความรู้หนึ่งที่ได้จากการอ่านนิยายเรื่องสามก๊ก ซึ่งกล่าวกันว่า คนอ่านสามก๊กจบคบไม่ได้ แต่ ๆ จริง ๆ แล้ว เป็นเพราะในเรื่องสามก๊ก กล่าวถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำให้เป็นคนมีกลยุทธ์ วิธีการ เช่นเดียวกับการดูคน
การดูคนมีอยู่ 7 วิธี คือ
1. ยุแหย่ด้วยเรื่องร้ายดี แล้วสังเกตูซึ่ง "ปณิธาน" (ความตั้งมั่นในร้าย/ดี)
2. ติเตียน/กล่าวโทษให้อับจน แล้วสังเกตดูซึ่ง "ปณิภาณ" (ไหวพริบ การเอาตัวรอด)
3. สอบถามซึ่งกลยุทธ์ แล้วสังเกตดูซึ่ง"ปัญญา"
4. บอกกล่าวซึ่งเคราะห์ภัย แล้วสังเกตดูซึ่ง "ความกล้า"
5. มอมเมาด้วยสุรา แล้วสังเกตซึ่ง"อุปนิสัย"
6. ผูกมัดด้วยอามิสสินจ้าง แล้วสังเกตซึ่ง"ความสุจริต"
7. มอบหมายภาระกิจให้จัดการในเวลาอันจำกัด แล้วสังเกตซึ่ง"สัจจะ"
"จิตมนุษย์ใช่ว่าสุดจะหยั่งคาด สรรพสิ่งสามารถค้นศึกษาได้
เพราะมนุษย์มีอุตตะมะปัญญา ต่างจากสัตว์สาราโดยทั่วไป
อยากรู้ว่าบ้ายึดในอำนาจ............ ลองให้อำนาจก็สิ้นซึ่งสงสัย
อยากรู้จิตคิดโลภประการใด.............. พอให้ต้องเงินตราก็รู้กล
อยากรู้ว่ามั่นคงในศักดิ์ศรี................... ให้ใกล้ชิดสตรีก็เห็นผล
ใคร่รู้ว่าจิตใจใช่หรือคน............ กล่อมสุราและจะดลให้เห็นจริง
ใคร่รู้น้ำใจซื่อหรือว่าคด.............. ให้ลองบทพนันเล่นเห็นทุกสิ่ง
5 ประการกลหยั่งใจได้ตามจริง รู้ให้ยิ่งกระจ่างไว้เพื่อใช้คน"
สร้างสถานการณ์ หวังดูคน
ไกล แสร้ง ใกล้
ใกล้ แสร้ง ไกล
พิเคราะห์นรลักษณ์ ดูจิตใจ
พิเคราะห์ท่าทาง ดูความสง่า
พิเคราะห์วาจา ดูคุณธรรม
หยั่งปฎิธาน ดูความคิด
หยอกล้อ ดูความหนักแน่น
ยั่วยุ ดูความตั้งมั่น
เยินยอ ดูสติ
นิ่งเฉย ดูความเคลื่อนไหว
]การแบ่งคุณภาพของคน [เหมาะสำหรับผู้บริหาร]
โบราณกล่าวไว้ว่า คุณภาพของคน แบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ
1.ประเภท ฉลาด และขยัน เขาบอกว่า
ให้เลี้ยงไว้ ถ้าส่งเสริมให้ดีแล้วต่อไปภายภาคหน้าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ ใช้เป็นแม่ทัพได้
2.ประเภท ฉลาด แต่ขี้เกียจ เขาบอกว่า
ไม่เป็นไร ให้ทำงานในเรื่องที่เกี่ยวกับหัวคิด หรือวางแผน จะเหมาะที่สุด ถ้าเป็นทหารก็ให้เป็นทหารฝ่ายเสนาธิการ
3.ประเภท โง่ และขี้เกียจ เขาบอกว่า
ก็ไม่เป็นไรอีก เพียงแต่ต้องคอยจับตาดูหรือคอยแนะนำให้ทำตามเท่านั้น ปล่อยให้ทำเองไม่ได้ ถ้าเป็นทหารก็เป็นได้แค่พลทหาร มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
4.ประเภท โง่ แต่ขยัน
พวกนี้เป็นพวกที่เขาบอกว่า “มีอันตราย” ไม่ว่าจะให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใด ก็ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนได้ง่าย พวกที่จัดอยู่ในประเภทหลังนี้ เลี้ยงไว้ไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อหน่วยงานหรือสังคม ควรกำจัดทิ้ง
ขอขอบคุณ
https://www.youtube.com/watch?v=hOYONyvhhGQ
https://swhappinessss.blogspot.com/2014/06/blog-post_24.html
วิธีดูคน จากสามก๊ก เป็นความรู้หนึ่งที่ได้จากการอ่านนิยายเรื่องสามก๊ก ซึ่งกล่าวกันว่า คนอ่านสามก๊กจบคบไม่ได้ แต่ ๆ จริง ๆ แล้ว เป็นเพราะในเรื่องสามก๊ก กล่าวถึงกลยุทธ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ทำให้เป็นคนมีกลยุทธ์ วิธีการ เช่นเดียวกับการดูคน
การดูคนมีอยู่ 7 วิธี คือ
1. ยุแหย่ด้วยเรื่องร้ายดี แล้วสังเกตูซึ่ง "ปณิธาน" (ความตั้งมั่นในร้าย/ดี)
2. ติเตียน/กล่าวโทษให้อับจน แล้วสังเกตดูซึ่ง "ปณิภาณ" (ไหวพริบ การเอาตัวรอด)
3. สอบถามซึ่งกลยุทธ์ แล้วสังเกตดูซึ่ง"ปัญญา"
4. บอกกล่าวซึ่งเคราะห์ภัย แล้วสังเกตดูซึ่ง "ความกล้า"
5. มอมเมาด้วยสุรา แล้วสังเกตซึ่ง"อุปนิสัย"
6. ผูกมัดด้วยอามิสสินจ้าง แล้วสังเกตซึ่ง"ความสุจริต"
7. มอบหมายภาระกิจให้จัดการในเวลาอันจำกัด แล้วสังเกตซึ่ง"สัจจะ"
"จิตมนุษย์ใช่ว่าสุดจะหยั่งคาด สรรพสิ่งสามารถค้นศึกษาได้
เพราะมนุษย์มีอุตตะมะปัญญา ต่างจากสัตว์สาราโดยทั่วไป
อยากรู้ว่าบ้ายึดในอำนาจ............ ลองให้อำนาจก็สิ้นซึ่งสงสัย
อยากรู้จิตคิดโลภประการใด.............. พอให้ต้องเงินตราก็รู้กล
อยากรู้ว่ามั่นคงในศักดิ์ศรี................... ให้ใกล้ชิดสตรีก็เห็นผล
ใคร่รู้ว่าจิตใจใช่หรือคน............ กล่อมสุราและจะดลให้เห็นจริง
ใคร่รู้น้ำใจซื่อหรือว่าคด.............. ให้ลองบทพนันเล่นเห็นทุกสิ่ง
5 ประการกลหยั่งใจได้ตามจริง รู้ให้ยิ่งกระจ่างไว้เพื่อใช้คน"
สร้างสถานการณ์ หวังดูคน
ไกล แสร้ง ใกล้
ใกล้ แสร้ง ไกล
พิเคราะห์นรลักษณ์ ดูจิตใจ
พิเคราะห์ท่าทาง ดูความสง่า
พิเคราะห์วาจา ดูคุณธรรม
หยั่งปฎิธาน ดูความคิด
หยอกล้อ ดูความหนักแน่น
ยั่วยุ ดูความตั้งมั่น
เยินยอ ดูสติ
นิ่งเฉย ดูความเคลื่อนไหว
]การแบ่งคุณภาพของคน [เหมาะสำหรับผู้บริหาร]
โบราณกล่าวไว้ว่า คุณภาพของคน แบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ
1.ประเภท ฉลาด และขยัน เขาบอกว่า
ให้เลี้ยงไว้ ถ้าส่งเสริมให้ดีแล้วต่อไปภายภาคหน้าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ ใช้เป็นแม่ทัพได้
2.ประเภท ฉลาด แต่ขี้เกียจ เขาบอกว่า
ไม่เป็นไร ให้ทำงานในเรื่องที่เกี่ยวกับหัวคิด หรือวางแผน จะเหมาะที่สุด ถ้าเป็นทหารก็ให้เป็นทหารฝ่ายเสนาธิการ
3.ประเภท โง่ และขี้เกียจ เขาบอกว่า
ก็ไม่เป็นไรอีก เพียงแต่ต้องคอยจับตาดูหรือคอยแนะนำให้ทำตามเท่านั้น ปล่อยให้ทำเองไม่ได้ ถ้าเป็นทหารก็เป็นได้แค่พลทหาร มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
4.ประเภท โง่ แต่ขยัน
พวกนี้เป็นพวกที่เขาบอกว่า “มีอันตราย” ไม่ว่าจะให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใด ก็ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนได้ง่าย พวกที่จัดอยู่ในประเภทหลังนี้ เลี้ยงไว้ไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อหน่วยงานหรือสังคม ควรกำจัดทิ้ง
ขอขอบคุณ
https://www.youtube.com/watch?v=hOYONyvhhGQ
https://swhappinessss.blogspot.com/2014/06/blog-post_24.html
แสดงความคิดเห็น
บุคคล 5 แบบที่ขงเบ้งไม่ให้เข้าใกล้
ในตำราพิชัยสงครามขงเบ้งนั้นมีอยู่บทหนึ่งได้กล่าวถึงการขจัดความชั่วของบ้านเมือง โดยจัดคนไว้ห้าแบบเรียกว่า "ห้าชั่ว" ซึ่งขงเบ้งได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขจัดคนเหล่านี้เอาไว้ว่า
"คนเหล่านี้ คือ คนเจ้าเล่ห์ขายชาติ เลวทรามต่ำช้า ไร้ศีลสัตย์ ควรปลีกตัวออกห่างให้ไกล อย่าได้เข้าใกล้ชิดสนิทสนมเป็นอันขาด"
กองทัพจะพ่ายแพ้ บ้านเมืองจะล่มจมเพราะมีห้าชั่ว ได้แก่
1. แบ่งพรรคแบ่งพวก
คนพวกนี้ ชอบตั้งสมัครพรรคพวกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย แบ่งพรรคแบ่งพวก สมคบคิดกัน เฝ้าจงใจหาเรื่องใส่ร้ายคนดีมีปัญญาให้เสียหาย หาประโยชน์ใส่ตัวและกลุ่มของตนเองด้วยการทำลายผู้อื่น
2. ประพฤติเหลวแหลก
คือคนที่ประพฤติตนผิดขนบธรรมเนียม สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา ดำรงชีวิตด้วยความฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลือง ชอบแต่งกายให้ดูผิดแปลกแตกต่างไปจากผู้คนทั้งหลาย คิดแต่จะได้หน้าได้ตาให้คนสนใจเพราะสิ่งเหล่านี้
3. ล่อลวง
คนที่ขยายเรื่องราว สร้างเรื่องที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ปลุกผีร่ายมนต์เผยแพร่ไสยเวท เพื่อให้คนทั้งหลายเข้าใจผิด ชอบคุยโวโอ้อวด สร้างข่าวลือที่เป็นเท็จให้แพร่หลาย
4. เฝ้าจับผิด
คนที่จงใจฟื้นฝอยหาตะเข็บ คอยจับผิด และยุยงให้คนแตกแยกกัน ก่อให้เกิดความสับสนในหมู่คน คิดแค้นผู้อื่นด้วยเรื่องส่วนตัว
5. สอพลอ
คนปลิ้นปล้อน ประจบสอพลอ คอยเอาใจใส่แต่ผลประโยชน์ส่วนตัว จนถึงขั้นแอบคบค้าสมาคมกับข้าศึกอย่างลับ ๆ ไม่สนใจความเป็นตายของชาติ
คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่ถึงพร้อมไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ไร้ศีลไร้สัตย์
กับคนทั้งห้าประเภทนี้ พึงปลีกตัวอยู่ให้ห่าง ระมัดระวังอย่าให้ได้ใกล้ชิดสนิทสนม หรือหลงไปไว้เนื้อเชื่อใจเป็นอันขาด
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.samkok911.com/2017/04/5-bad-guy-kongming-said-not-to-close.html?m=1
**** เนื่องจากไม่ได้เป็นแฟนพันธ์แท้สามก๊กเท่าไหร่เลยเลยขออนุญาต copy มาทั้งหมดคนับ
แต่อ่านๆ ดูแล้ว ประเทศแถวๆภูมิภาคนึงเขาเรียกคน 5 แบบนี้ว่าคนดีรึเปล่าคนับ