หลงรักคนที่ตายไปนานกว่า65 ปีแล้ว
เราหลงรักคนที่ตายไปแล้วกว่า 65ปีค่ะ เรารู้จักเขาเพราะไปบ้านเพื่อน แล้วเพื่อนก็เอารูปคุณตาทวดของเพื่อนมาให้เราดู ตอนนั้นแหละที่เรารู้สึกสะกิดใจกับคนในรูปภาพนั้นคนนึง เราก็เลยถามว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆคุณตาทวดนั้นเป็นใคร เพื่อนก็เลยไปถามคุณตาทวดให้ คุณตาทวดก็เลยบอกว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของคุณตาทวดเอง หน้าตาก็ดี เรียนเก่ง นิสัยก็ดี แต่ว่าเขาเสียชีวิตเพราะโดนรถชนตั้งแต่ตอนอายุ25 เรารู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆอย่างบอกไม่ถูก แล้วเราก็กลับมาที่บ้านของเราค่ะ คืนนั้นเราฝันเห็นเขาด้วย เราฝันว่าเหมือนเราได้ย้อนกลับไปในสมัยช่วงปี 2490+ แล้วเราไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เราไปนั่งเรียนด้วยนะ แล้วเราเห็นโต๊ะตัวหนึ่งไม่มีคนนั่ง เราก็เลยเดินไปที่โต๊ะตัวนั้นแล้วก้มลงมองในลิ้นชักใต้โต๊ะ เราเห็นกระดาษแผ่นนึง เป็นจดหมายที่เขาเขียนถึงคุณตาทวดของเพื่อนเรา แล้วก็ลงท้ายด้วยชื่อ .. ขอไม่เอ่ยนามนะคะ เราจำข้อความในจดหมายฉบับนั้นได้หมดทุกคำ พอเราตื่นเราก็รีบไปบ้านเพื่อนทันที แล้วถามคุณตาทวดว่า มีจดหมายที่เขาเขียนถึงคุณตาทวดไหมคะ คุณตาทวดก็หัวเราะแล้วบอกว่ามีสิ เดี๋ยวจะเอาให้ดู หลังจากนั้นแกก็เปิดลิ้นชักที่หัวเตียงนอนของแก แล้วก็หยิบจดหมายฉบับนั้นออกมาให้เราดู เชื่อไหมคะว่าข้อความในจดหมายมันตรงกับที่เราเห็นในฝันทั้งหมดเลย เราเริ่มอึ้ง ณ ตอนนั้น เราคิดว่าเราคงหมกมุ่นมากเกินไป หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ เราก็ฝันเห็นเขาอีก ฝันว่าเจอเขาอยู่ที่ริมทะเลที่หัวหิน ในฝันเรามีโอกาสได้พูดคุยกับเขาส่วนตัว เรารู้สึกและสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ความสุขุม และความสุภาพที่เขามีให้เรา ในฝันนั้นเรารู้สึกว่าเขาคือผู้ชายแบบในฝันของผู้หญิงหลายคนจริงๆ แล้วเขาก็ปั่นจักรยานแล้วชวนให้เราขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย เรารู้สึกดีใจมาก แล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนเหมือนเราเล่าถึงสถานที่ใดสักแห่งให้เขาฟังนี่แหละ เขาก็เลยหันหน้ามาถามเราว่า แล้วอยากไปไหมล่ะ จะพาไป เรายังไม่ทันได้ตอบ อยู่ดีๆก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้ววันนั้นเราก็ไปหาคุณตาทวดที่บ้านเพื่อนอีก เราก็ถามว่าคุณตาทวดแกเคยไปหัวหินไหม แกก็บอกว่าเคยไปตอนหนุ่มๆ มีรูปด้วยนะจะดูไหมล่ะ เราก็เลยบอกว่าดูค่ะ แล้วแกก็หยิบรูปออกมาจากลิ้นชักหัวเตียงนอนที่เดิม ยื่นรูปให้เราดู แล้วก็มีรูปของเขาติดอยู่ด้วย ที่น่าทึ่งก็คือ ทุกคนในรูปภาพนั้นมีจักรยานกันคนละคันค่ะ และการแต่งตัวของเขาก็เหมือนกับในความฝันที่เราเห็นทุกอย่าง เหมือนแม้กระทั่งทรงผม เราเริ่มคิดว่าเราอาจจะเพ้อเจ้อมากเกินไปอีกหรือเปล่า ครั้งที่สามถัดจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน เราฝันเห็นเขาอีกแล้ว เหมือนเดิมค่ะ คือได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาในฝัน จำได้ขึ้นใจว่าประโยคสุดท้ายที่เขาพูดก็คือ วันนี้ก็เป็นวันเกิดของฉันแล้ว
แล้วเราก็สะดุ้งตื่นค่ะ รีบหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูวันที่เลย ตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายน ค่ะ เราก็เลยไปถามคุณตาทวดอีกเช่นเคย ว่าเพื่อนของคุณตาทวดเกิดวันนี้หรือเปล่าคะ แกก็บอกว่ารู้ได้ยังไง แกไม่เคยเล่าให้ใครฟัง มีแค่เพื่อนในกลุ่มแกเท่านั้นที่รู้ เราก็เลยโกหกแกไปว่า เราเดาเองเองน่ะค่ะ แกก็ไม่ได้ว่าอะไร เราก็เลยถามว่า แล้ววันตายของเขาคือวันไหน แกก็บอกว่า 5 มิถุนายน 2495 เราก็ขอบคุณแกสำหรับทุกอย่าง แล้วก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำบุญให้เขา และเราก็เพิ่งทำบุญให้เขาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาค่ะ สุดท้ายแล้วขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ เราเล่าเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเก่งค่ะ อาจจะอ่านแล้วไม่ลื่นไหล มีงงบ้างก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ปัจจุบันนี้คุณตาทวดของเพื่อนเรายังมีชีวิตอยู่และอายุ 90ปีแล้วค่ะ แกยังแข็งแรงอยู่เลย ใครจะหาว่าเราบ้า เราเพ้อเจ้อหรือฝันเฟื่องก็ได้นะคะ ทุกวันนี้เราก็ยังนึกถึงเขาเสมอ เรารู้สึกผูกพันกับเขา เรื่องนี้เราเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เพื่อนก็บอกว่า คนเราถ้ามันมาเจออะไรแบบนี้ แสดงว่าก็ต้องเคยเจอกันมาก่อนนั่นแหละ เรารู้ว่าเราต้องอยู่กับความเป็นจริง ถึงแม้บางครั้งใจของเราจะเป็นทุกข์เพราะความนึกถึงเขาก็ตาม บางทีเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นมันก็ยากที่จะอธิบาย อย่างน้อยเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเป็นความทรงจำที่ดีของเราตลอดไปค่ะ ขออภัยหากเราแท็กห้องและกระทู้ผิดนะคะ
หลงรักคนที่ตายไปนานกว่า 65ปี
เราหลงรักคนที่ตายไปแล้วกว่า 65ปีค่ะ เรารู้จักเขาเพราะไปบ้านเพื่อน แล้วเพื่อนก็เอารูปคุณตาทวดของเพื่อนมาให้เราดู ตอนนั้นแหละที่เรารู้สึกสะกิดใจกับคนในรูปภาพนั้นคนนึง เราก็เลยถามว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆคุณตาทวดนั้นเป็นใคร เพื่อนก็เลยไปถามคุณตาทวดให้ คุณตาทวดก็เลยบอกว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของคุณตาทวดเอง หน้าตาก็ดี เรียนเก่ง นิสัยก็ดี แต่ว่าเขาเสียชีวิตเพราะโดนรถชนตั้งแต่ตอนอายุ25 เรารู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆอย่างบอกไม่ถูก แล้วเราก็กลับมาที่บ้านของเราค่ะ คืนนั้นเราฝันเห็นเขาด้วย เราฝันว่าเหมือนเราได้ย้อนกลับไปในสมัยช่วงปี 2490+ แล้วเราไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เราไปนั่งเรียนด้วยนะ แล้วเราเห็นโต๊ะตัวหนึ่งไม่มีคนนั่ง เราก็เลยเดินไปที่โต๊ะตัวนั้นแล้วก้มลงมองในลิ้นชักใต้โต๊ะ เราเห็นกระดาษแผ่นนึง เป็นจดหมายที่เขาเขียนถึงคุณตาทวดของเพื่อนเรา แล้วก็ลงท้ายด้วยชื่อ .. ขอไม่เอ่ยนามนะคะ เราจำข้อความในจดหมายฉบับนั้นได้หมดทุกคำ พอเราตื่นเราก็รีบไปบ้านเพื่อนทันที แล้วถามคุณตาทวดว่า มีจดหมายที่เขาเขียนถึงคุณตาทวดไหมคะ คุณตาทวดก็หัวเราะแล้วบอกว่ามีสิ เดี๋ยวจะเอาให้ดู หลังจากนั้นแกก็เปิดลิ้นชักที่หัวเตียงนอนของแก แล้วก็หยิบจดหมายฉบับนั้นออกมาให้เราดู เชื่อไหมคะว่าข้อความในจดหมายมันตรงกับที่เราเห็นในฝันทั้งหมดเลย เราเริ่มอึ้ง ณ ตอนนั้น เราคิดว่าเราคงหมกมุ่นมากเกินไป หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ เราก็ฝันเห็นเขาอีก ฝันว่าเจอเขาอยู่ที่ริมทะเลที่หัวหิน ในฝันเรามีโอกาสได้พูดคุยกับเขาส่วนตัว เรารู้สึกและสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ความสุขุม และความสุภาพที่เขามีให้เรา ในฝันนั้นเรารู้สึกว่าเขาคือผู้ชายแบบในฝันของผู้หญิงหลายคนจริงๆ แล้วเขาก็ปั่นจักรยานแล้วชวนให้เราขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย เรารู้สึกดีใจมาก แล้วก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนเหมือนเราเล่าถึงสถานที่ใดสักแห่งให้เขาฟังนี่แหละ เขาก็เลยหันหน้ามาถามเราว่า แล้วอยากไปไหมล่ะ จะพาไป เรายังไม่ทันได้ตอบ อยู่ดีๆก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา แล้ววันนั้นเราก็ไปหาคุณตาทวดที่บ้านเพื่อนอีก เราก็ถามว่าคุณตาทวดแกเคยไปหัวหินไหม แกก็บอกว่าเคยไปตอนหนุ่มๆ มีรูปด้วยนะจะดูไหมล่ะ เราก็เลยบอกว่าดูค่ะ แล้วแกก็หยิบรูปออกมาจากลิ้นชักหัวเตียงนอนที่เดิม ยื่นรูปให้เราดู แล้วก็มีรูปของเขาติดอยู่ด้วย ที่น่าทึ่งก็คือ ทุกคนในรูปภาพนั้นมีจักรยานกันคนละคันค่ะ และการแต่งตัวของเขาก็เหมือนกับในความฝันที่เราเห็นทุกอย่าง เหมือนแม้กระทั่งทรงผม เราเริ่มคิดว่าเราอาจจะเพ้อเจ้อมากเกินไปอีกหรือเปล่า ครั้งที่สามถัดจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน เราฝันเห็นเขาอีกแล้ว เหมือนเดิมค่ะ คือได้มีโอกาสพูดคุยกับเขาในฝัน จำได้ขึ้นใจว่าประโยคสุดท้ายที่เขาพูดก็คือ วันนี้ก็เป็นวันเกิดของฉันแล้ว
แล้วเราก็สะดุ้งตื่นค่ะ รีบหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูวันที่เลย ตรงกับวันที่ 20 พฤศจิกายน ค่ะ เราก็เลยไปถามคุณตาทวดอีกเช่นเคย ว่าเพื่อนของคุณตาทวดเกิดวันนี้หรือเปล่าคะ แกก็บอกว่ารู้ได้ยังไง แกไม่เคยเล่าให้ใครฟัง มีแค่เพื่อนในกลุ่มแกเท่านั้นที่รู้ เราก็เลยโกหกแกไปว่า เราเดาเองเองน่ะค่ะ แกก็ไม่ได้ว่าอะไร เราก็เลยถามว่า แล้ววันตายของเขาคือวันไหน แกก็บอกว่า 5 มิถุนายน 2495 เราก็ขอบคุณแกสำหรับทุกอย่าง แล้วก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำบุญให้เขา และเราก็เพิ่งทำบุญให้เขาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาค่ะ สุดท้ายแล้วขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ เราเล่าเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเก่งค่ะ อาจจะอ่านแล้วไม่ลื่นไหล มีงงบ้างก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ปัจจุบันนี้คุณตาทวดของเพื่อนเรายังมีชีวิตอยู่และอายุ 90ปีแล้วค่ะ แกยังแข็งแรงอยู่เลย ใครจะหาว่าเราบ้า เราเพ้อเจ้อหรือฝันเฟื่องก็ได้นะคะ ทุกวันนี้เราก็ยังนึกถึงเขาเสมอ เรารู้สึกผูกพันกับเขา เรื่องนี้เราเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง เพื่อนก็บอกว่า คนเราถ้ามันมาเจออะไรแบบนี้ แสดงว่าก็ต้องเคยเจอกันมาก่อนนั่นแหละ เรารู้ว่าเราต้องอยู่กับความเป็นจริง ถึงแม้บางครั้งใจของเราจะเป็นทุกข์เพราะความนึกถึงเขาก็ตาม บางทีเรื่องเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นมันก็ยากที่จะอธิบาย อย่างน้อยเรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเป็นความทรงจำที่ดีของเราตลอดไปค่ะ ขออภัยหากเราแท็กห้องและกระทู้ผิดนะคะ