สวัสดีค่ะ
เราซื้อบ้านหลังนี้มาได้ 1 ปีกว่าๆ ละ โดยมี 2 วงเงินกู้ คือ 1 เงินกู้ซื้อบ้าน 2 เงินประกันของผู้กู้
โดยในการผ่อนนั้น ตีกลมๆ ว่าเดือนละ 10000 บ. (บ้านราคา 1ล้านปลายๆ ค่ะ) เงินก็จะแยกเป็นสำหรับ 2 วงเงินอัตโนมัติ
ซึ่งเงินส่วนที่เกินจำนวนผ่อนชำระ จะเข้าไปหักต้นของตัวเงินประกันโดยอัติโนมัติ ตรงนี้เราเข้าใจไม่มีปัญหาอะไร
ต่อมาเรื่องกำหนดวันชำระ เราต้องชำระทุกวันที่ 6 ของเดือน
บทเรียนที่ 1
การชำระตรงวัน ไม่ได้แปลว่า ยอดที่เข้าไปหักต้น และดอกเบี้ยจะเท่ากันทุกเดือน เพราะแต่ละเดือนมี 30 และ 31 วัน
ดอกเบี้ย จะคิดตามวัน
บทเรียนที่ 2 ต่อเนื่องมาจากอันบนว่า ถ้าอย่างงั้น เราก็จ่ายก่อนสิ กันลืม เราเลยจ่ายตั้งแต่เงินเดือนสามีออก คือวันที่ 30 ก่อนที่จะถึงวันครบรอบชำระ
เราทำแบบนี้ไปประมาณ 2-3 เดือนก็ไม่ได้คิดอะไร มีเดือนนึง เราชอตไม่ทันจ่ายวันที่ 30 แต่ก็คิดว่า ไม่เป็นไร เพราะธนาคารคงเริ่มคิดดอก หลังวันที่ 6 ที่เป็นวันตัดชำระ แต่มันไม่ใช่ พอเราไปจ่ายวันที่ 6 ละสลิปมาตามหลัง เจอว่า ธนาคารคิดดอกเบี้ยเรา 35 วัน เนื่องจากทางธนาคารจะนับยอดวันชำระ "ล่าสุด" เราก็ได้แต่น้ำตารื้นเบาๆ ว่า โอเค เราคงต้องกาปฏิทินละล่ะ ว่าวันไหนที่เราต้องไปจ่ายก่อน 30 วันหลังจากวัน "ล่าสุด" แต่เอาจริงๆ อันนี้โง่เอง เพราะเค้าบอกแล้ว คิดจากวัน "ล่าสุด"
บทเรียนที่ 3 อันนี้เจ็บสุด ความที่คิดว่า จ่ายเร็วๆ มันก้อจะเพิ่มต้น ลดดอก มีเมื่อไหร่ก็ไปจ่าย เพราะคิดว่า ยังไงธนาคารก็คิดดอกจาก "วันชำระล่าสุด"
เราเลยใช้วิธีนับจากวันล่าสุดมา 28 วัน เผื่อมันจะน้อยลง ดังนั้นในปฏิทินวันที่เราชำระมันก็ต้องร่นขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เราชำระวันที่ 25 แล้วเดือนพฤศภาคม เราชำระวันที่ 19 ปรากฎใบเสร็จที่ออกมา ยอดที่เราชำระล่าสุด 19 พฤศภาคม มันไปเข้ายอดประกันทั้งหมด
นั่นแปลว่า ดอกเบี้ยบ้านเรา จนถึงวันนี้ปาเข้าไป 43 วันแล้ว โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย เราจึงโทรไปสอบถามทางธนาคารทั้ง call center ฝ่ายสินเชื่อเอย จนกระทั่งเมื่อเช้าฝ่ายทวงหนี้โทรมา ถามว่าเราชำระรึยัง เราจึงร่ายปัญหาทั้งหมดให้น้องฟัง
สรุปใจความคือ
ทางธนาคาร จะคิดดอกจากวันชำระสุดจริง ซึ่งหากเราชำระ 25/4 ไปแล้ว เดือนถัดมาเราชำระ 25/5 เหมือนเดิม ทางธนาคารจะคิดดอกเรา 30 วัน
แต่บังเอิญเรามีเงินก่อน เราอยากจ่าย เราอยากลดดอก เราเลยไปจ่ายวันที่ 19/5 ซึ่งถ้านับตามวันดอกเบี้ยก็คือ 24 วัน แต่ที่เราไม่รู้เลยคือ
"ถ้าชำระก่อนหน้าวันตัดยอด (ทุกวันที่ 6 ของทุกเดือน) 15 วัน ยอดชำระนั้นจะไม่ถือว่าเป็นยอดชำระรายเดือน จะแยกออกไปเป็นยอดโปะ"
นั่นแปลว่าสุดท้ายแล้ว ทางธนาคารยังไงก็พยายามให้เราชำระดอกเบี้ยที่ 30 วันให้ได้ เพราะหากเราร่นวันขึ้นมาจากวันที่ 25/5 เดือนถัดมาเป็น 23/6 เดือนถัดมาเป็น 22/7 พอมาเป็นของเดือน 7 ปุ้บ ยอดที่เราเข้าใจว่าเป็นรายเดือน มันจะกลายเป็นยอดโปะทันที แล้วเราก็ต้องมาจ่ายวันที่ 23 อีกครั้งเพื่อให้เป็นยอดรายเดือน แล้วธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยเราที่ 30 วันเหมือนเดิม
สรุป (อีกที)
หากต้องการลดต้น เราต้องไปชำระ 2 รอบต่อเดือน โดยรอบที่ 1 นั้น จะต้องชำระก่อนวันที่ 6 แต่ห้ามชำระก่อนหน้า 15 วัน แล้วในช่วงก่อนหน้า 15 วันนั้น ไปชำระอีกรอบ เพื่อให้เป็นการลดต้นหรือที่เรียกว่า โปะ นั่นเอง
เอาจริงๆ เราเองเราก็ไม่รู้ว่าที่เราทำนี่เราทำตัวเองให้ยุ่งยากเองรึเปล่า T_T เราแค่อยากหาวิธีที่เราชำระต้นเยอะๆ ดอกน้อยๆ ให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง
หากท่านไหนมีคำแนะนำใหม่ๆ ยังไงชี้แนะด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
อุทาหรณ์ความพยายามลดดอกเบี้ยบ้านด้วยตัวเอง
เราซื้อบ้านหลังนี้มาได้ 1 ปีกว่าๆ ละ โดยมี 2 วงเงินกู้ คือ 1 เงินกู้ซื้อบ้าน 2 เงินประกันของผู้กู้
โดยในการผ่อนนั้น ตีกลมๆ ว่าเดือนละ 10000 บ. (บ้านราคา 1ล้านปลายๆ ค่ะ) เงินก็จะแยกเป็นสำหรับ 2 วงเงินอัตโนมัติ
ซึ่งเงินส่วนที่เกินจำนวนผ่อนชำระ จะเข้าไปหักต้นของตัวเงินประกันโดยอัติโนมัติ ตรงนี้เราเข้าใจไม่มีปัญหาอะไร
ต่อมาเรื่องกำหนดวันชำระ เราต้องชำระทุกวันที่ 6 ของเดือน
บทเรียนที่ 1
การชำระตรงวัน ไม่ได้แปลว่า ยอดที่เข้าไปหักต้น และดอกเบี้ยจะเท่ากันทุกเดือน เพราะแต่ละเดือนมี 30 และ 31 วัน
ดอกเบี้ย จะคิดตามวัน
บทเรียนที่ 2 ต่อเนื่องมาจากอันบนว่า ถ้าอย่างงั้น เราก็จ่ายก่อนสิ กันลืม เราเลยจ่ายตั้งแต่เงินเดือนสามีออก คือวันที่ 30 ก่อนที่จะถึงวันครบรอบชำระ
เราทำแบบนี้ไปประมาณ 2-3 เดือนก็ไม่ได้คิดอะไร มีเดือนนึง เราชอตไม่ทันจ่ายวันที่ 30 แต่ก็คิดว่า ไม่เป็นไร เพราะธนาคารคงเริ่มคิดดอก หลังวันที่ 6 ที่เป็นวันตัดชำระ แต่มันไม่ใช่ พอเราไปจ่ายวันที่ 6 ละสลิปมาตามหลัง เจอว่า ธนาคารคิดดอกเบี้ยเรา 35 วัน เนื่องจากทางธนาคารจะนับยอดวันชำระ "ล่าสุด" เราก็ได้แต่น้ำตารื้นเบาๆ ว่า โอเค เราคงต้องกาปฏิทินละล่ะ ว่าวันไหนที่เราต้องไปจ่ายก่อน 30 วันหลังจากวัน "ล่าสุด" แต่เอาจริงๆ อันนี้โง่เอง เพราะเค้าบอกแล้ว คิดจากวัน "ล่าสุด"
บทเรียนที่ 3 อันนี้เจ็บสุด ความที่คิดว่า จ่ายเร็วๆ มันก้อจะเพิ่มต้น ลดดอก มีเมื่อไหร่ก็ไปจ่าย เพราะคิดว่า ยังไงธนาคารก็คิดดอกจาก "วันชำระล่าสุด"
เราเลยใช้วิธีนับจากวันล่าสุดมา 28 วัน เผื่อมันจะน้อยลง ดังนั้นในปฏิทินวันที่เราชำระมันก็ต้องร่นขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เราชำระวันที่ 25 แล้วเดือนพฤศภาคม เราชำระวันที่ 19 ปรากฎใบเสร็จที่ออกมา ยอดที่เราชำระล่าสุด 19 พฤศภาคม มันไปเข้ายอดประกันทั้งหมด
นั่นแปลว่า ดอกเบี้ยบ้านเรา จนถึงวันนี้ปาเข้าไป 43 วันแล้ว โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย เราจึงโทรไปสอบถามทางธนาคารทั้ง call center ฝ่ายสินเชื่อเอย จนกระทั่งเมื่อเช้าฝ่ายทวงหนี้โทรมา ถามว่าเราชำระรึยัง เราจึงร่ายปัญหาทั้งหมดให้น้องฟัง
สรุปใจความคือ
ทางธนาคาร จะคิดดอกจากวันชำระสุดจริง ซึ่งหากเราชำระ 25/4 ไปแล้ว เดือนถัดมาเราชำระ 25/5 เหมือนเดิม ทางธนาคารจะคิดดอกเรา 30 วัน
แต่บังเอิญเรามีเงินก่อน เราอยากจ่าย เราอยากลดดอก เราเลยไปจ่ายวันที่ 19/5 ซึ่งถ้านับตามวันดอกเบี้ยก็คือ 24 วัน แต่ที่เราไม่รู้เลยคือ
"ถ้าชำระก่อนหน้าวันตัดยอด (ทุกวันที่ 6 ของทุกเดือน) 15 วัน ยอดชำระนั้นจะไม่ถือว่าเป็นยอดชำระรายเดือน จะแยกออกไปเป็นยอดโปะ"
นั่นแปลว่าสุดท้ายแล้ว ทางธนาคารยังไงก็พยายามให้เราชำระดอกเบี้ยที่ 30 วันให้ได้ เพราะหากเราร่นวันขึ้นมาจากวันที่ 25/5 เดือนถัดมาเป็น 23/6 เดือนถัดมาเป็น 22/7 พอมาเป็นของเดือน 7 ปุ้บ ยอดที่เราเข้าใจว่าเป็นรายเดือน มันจะกลายเป็นยอดโปะทันที แล้วเราก็ต้องมาจ่ายวันที่ 23 อีกครั้งเพื่อให้เป็นยอดรายเดือน แล้วธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยเราที่ 30 วันเหมือนเดิม
สรุป (อีกที)
หากต้องการลดต้น เราต้องไปชำระ 2 รอบต่อเดือน โดยรอบที่ 1 นั้น จะต้องชำระก่อนวันที่ 6 แต่ห้ามชำระก่อนหน้า 15 วัน แล้วในช่วงก่อนหน้า 15 วันนั้น ไปชำระอีกรอบ เพื่อให้เป็นการลดต้นหรือที่เรียกว่า โปะ นั่นเอง
เอาจริงๆ เราเองเราก็ไม่รู้ว่าที่เราทำนี่เราทำตัวเองให้ยุ่งยากเองรึเปล่า T_T เราแค่อยากหาวิธีที่เราชำระต้นเยอะๆ ดอกน้อยๆ ให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง
หากท่านไหนมีคำแนะนำใหม่ๆ ยังไงชี้แนะด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ