เที่ยวน่านนคร 12 เมืองต้องห้ามพลาด +

[CR] เที่ยวน่านนคร 12 เมืองต้องห้ามพลาด +

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง เที่ยวไทย จังหวัดน่าน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เที่ยวเชิงอนุรักษ์

น่าน เป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ที่ ท.ท.ท สนับสนุน ซึ่งพวกเราก็เพิ่งจะมารู้ที่หลัง ฮ่าๆๆ

น่านมีสนามบินเป็นของตัวเองนะครับ ยังใหม่ ๆ อยู่เลย ชื่อสนามบินว่า "ท่าอากาศยานน่านนคร" สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นการพระราชทานนามใหม่ของท่าอากาศยานน่าน

ที่จังหวัดน่านมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายครับ ทั้งวัดวาอาราม ภูเขา ธรรมชาติ อนุรักษ์ Adventure มีหมดครับ แต่เราเก็บไม่หมดครับ ไม่มีเวลาพอ เก็บได้แค่ส่วนนึงเท่านั้น

----------------------

ฝากเพจเล็ก ๆ ที่ทำกันเองชอบกันเอง และไม่ค่อยมีอะไรอัพเดทกัน เพราะขี้เกียจ ฮ่าๆๆ

https://www.facebook.com/OmmMTheAdventure/

----------------------

ไปเที่ยวกันเลย Let' s go

Day 1

ลงสนามบินมา เราก็มาเช่ารถกันครับเพื่อสะดวกการเดินทาง และสามารถควบคุมเวลาการเดินทางได้ เมื่อได้รถแล้ว สถานที่แรกที่เราจะไปคือ อ.ปัว ครับ คือแรกเราจะไปค้างกันที่ อ.ปัว กัน ขับรถออกจากสนามบินถึงตัวเมือง ปัว ผมใช้เวลาขับ 1 ชั่วโมงครับ ขับเรื่อย ๆ ยังไงก็ไม่เกิน 1.30 ชั่วโมง สถานที่แรกที่เราจะไปคือ กาแฟบ้านไทลื้อครับ เป็นร้านกาแฟธรรมดา ๆ ไม่ได้เลิสหรู แต่บรรยากาศ สถานที่ตั้งกินขาดครับ เหมาะสำหรับไปนั่งเล่น พักผ่อน และนอนครับ ฮ่าๆๆๆ เพราะเนื้อที่ของร้านเยอะมาก มีซุ่ม มีศาลาให้เข้าไปอยู่ได้เลย

บรรยากาศ และ วิวของร้านครับ

หลังจากนั้น สถานีต่อไปของเราคือ วังศิลาแลง ครับ ขับรถไม่ไกลจาก กาแฟบ้านไทลื้อ ครับ ซึ่งไม่แน่ใจทางเข้ามีกี่ทาง แต่วันนั้นขับตาม GPS ไปนั้น เป็นทางที่รถวิ่งกันได้แค่เลนเดียวครับ ขับสวนกันไม่ได้เลย ตอนขาออก เจอนักท่องเที่ยวขับเข้ามาต้องถอยรถยาวเลยครับ คนไม่ชำนานก็ระวังกันนะครับ

สำหรับตอนเข้ามาครั้งแรกนั้น ก็งง ๆ ครับ ไม่มีป้ายบอกว่าเราควรจะเดินไปตรงไหน ฮ่าๆๆๆ และไม่มีคนเข้ามาเลยครับ เลยเดินกันไป 2 คนเงียบเฉียบ เส้นทางเดินไม่ได้ลำบากเท่าไหร่ครับ เดินไปหลังที่ปล่อยน้ำ เป็นทางเดินขึ้นไปตามเนินเขาไม่ชันครับ ซึ่งตอนไปน้ำเยอะ ไหลมาก เคยเห็นคนรีวิวสามารถเดินลุยน้ำเข้าไปได้เลย แต่เราคงไม่กล้าครับ เพราะไปกัน 2 คน หายไปไม่มีใครรู้เลย ฮ่าๆๆๆๆ

ข้างในลมไม่ค่อยมี ไม่ร้อนเพราะแดดครับ แต่เหงือออกเยอะ

จากนั้นเราก็เข้าที่พักกันก่อนครับ พักผ่อน อากาศร้อนมากมาย เย็น ๆ ค่อยออกไปใหม่ ที่พักของเราคือ ตูบนาโฮมสเตย์ครับ เป็นที่พักเล็ก ๆ มีไม่กี่หลัง แต่บรรยรกาศดีจริง ๆ ครับ ถ้าไปช่วงเดือน กันยายน นาข้าวจะเขียวขจีสวย ถ้าไปเดือน ตุลาคม นาข้าวก็จะเหลือง ชอบแบบไหนก็ไปกันได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ปลายปีอากาศจะดีกว่าครับ ส่วนตัวเราไป พฤษภาคม ครับ

บรรยากาศที่พักของเรา

หลังจากแดดร่มลมตก แล้วเราก็เข้าไปในเมืองหาอะไรทาน และแวะ วัดภูเก็ตครับ

ภายในโบสท์ วัดภูเก็ต

วิวภายนอกวัด ถ้ามาข้าว เขียว ๆ คงสวยกว่าที่ผมถ่ายได้มานะครับ ฮ่าๆๆๆ

จากนั้นก็นอนพักผ่อนครับ

----------------------------

Day 2

ตื่นเช้ามาก็รับประทานอาหาร อาหารของที่นี่ เป็นอาหารเช้าง่าย ๆ ข้าวต้ม ขนมปัง กาแฟ โอวันติน แล้วเรายังสามารถทอดไข่ได้เองเลยครับ แปลกไปอีกแบบ กินข้าวอิ่มก็ถ่ายรูป สถานที่พักครับ

ทอดไข่ครับ

ห้องพักเรา เนื่องจากเรานั่งเรื่อยเปือยเพลิน ประกอบกับตื่นสาย ฮ่าๆๆ แดดจึงร้อนถ่ายได้ไม่กี่รูปก็ไม่ไหวครับ

Check Out ออก เราก็ตั้งใจขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองน่านเลยครับ ขากลับแฟนเห็น หอศิลป์ริมน่านพอดีก็เลยแวะ ครับ ถนนเส้นนี้ ขาไปขากลับมีเส้นนี้เส้นเดียวครับ วิ่งตรงยาวเลย ถ้ามาจากสนามบินไปปัว ก็ต้องเห็นหอศิลป์ครับ อยู่ขวามือ ขากลับเข้าเมืองก็ต้องเห็นครับอยู่ซ้ายมือ

ค่าเข้าสถานที่ไม่แพงครับ ใครที่ชอบแนวนี้เข้าไปเถอะครับ เซ็นชื่อเข้าได้โปสการ์ดด้วย

หลังจากแวะหอศิลป์แล้ว เราก็ได้เข้าตัวเมืองจริง ๆ ซะที ที่แรกที่เราจะไปคือ วัดภูมินทร์ ครับ เป็นวัดดังในจังหวัดน่านเลย ที่ดังเพราะมีจิตกรรมฝาพนังครับ ใครไปน่านแล้วไม่ได้มาที่วัดภูมินทร์นี้ ถือว่ามาไม่ถึงครับ และต้องถ่ายภาพจิตกรรมฝาพนังนี้ด้วยนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ เดี๋ยวเค้าไม่รู้ว่ามา

หน้าวัดครับ

1 ไฮไลท์สำคัญครับ ภาพจิตกรรมฝาพนัง "ปู่ม่

านย่าม่าน"

ออกจากวัดภูมินทร์ เราตั้งใจจะแวะไปหาอะไรทานกันก่อนครับ ก่อนจะไปจากจุดนั้น คนไปควรซึมซับบรรยากาศ โดยรอบ ๆ วัด ภายนอกวัด ซึ่ง โซนรอบ ๆนั้น เป็นโซนที่ทางจังหวัดน่านเค้าอนุรักษ์ไว้ครับ เป็นโซนเมืองเก่า สภาพแวดล้อม ถนน สะอาดตามากครับ ตอนเย็นเราจะมาเดินถนนคนเดินกันที่นี่ครับ บรรยากาศดีสุด ๆ

ตู้โทรศัพท์ ข้าง ๆ วัดภูมินทร์

หลังจากนั้นก็หาอะไรทานครับ ร้านที่เราไปคือร้าน Workboxes cafe' ครับ เป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ มีเค้กเบเกรี่ ร้านน่ารักครับ ***
แนะนำ***คนชอบช็อกโกแลต ต้องสั่ง ช็อกโกแลตลาวา ครับ ส่วนตัวผมชอบมากกกกกกกก ฮ่าๆๆ อร่อยครับ จนอีกวันต้องกลับมากินอีกรอบ ฮ่าๆๆ

กินเสร็จ สถานที่ ๆ เราจะไปต่อคือวัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นวัดประจำปี เถาะ ใครเกิดปีเถาะ หรือปีกระต่ายสักครั้งนึงควรมาสักการะครับ ส่วนปีอื่น ๆ ก็มาได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นปีกระต่าย

เมื่อไหว้พระเสร็จเรียบร้อย สถานนีต่อไปคือ โฮงเจ้าฟองคำ เป็นบ้านของเจ้าล้านนาไทย สมัยก่อนครับ โฮงหมายถึงคุ้มครับ เป็นสถานที่ผมก็แนะนำให้มาครับ เป็นสถานที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำผ้าฝ้าย และยังให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติตัวบ้านด้วยครับ ทั้งหมดนี้มีไกด์แนะนำให้ตลอดครับ ในการเยี่ยมชม

ถ่ายรูปมาน้อยครับ

สถานีต่อไปวัดพระธาตุเขาน้อย เป็นวัดที่ไม่ไกลจากที่พักเรา จึงเลือกไว้ก่อนจะเค้าที่พัก

อันนี้เป็นรูปข้างทางครับ ไม่รู้ตรงนั้นเรียกว่าอะไร เห็นสวยดีก็ลงไปถ่ายเก็บไว้

้เข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า แล้วไปวัดภูมินทร์ เพื่อเดินถนนคนเดินกันต่อครับ

บรรยากศหน้าวัดภูมินทร์ วันที่มีถนนคนเดินครับ บรรยากาศดีมากครับ คนเดินซื้อของมานั่งกินหน้าวัดกัน ถนนคนเดินน่าน ถึงแม้ไม่ใหญ่สู้ ของเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ไม่ได้ แต่บรรยากาศ วิวรอบข้างไม่แพ้จังหวัดใหญ่ ๆ แน่นอนครับ ชอบมาก

หลังจากเดินกันเสร็จก็กลับที่พักครับ

--------------------

Day 3

ตื่นเช้าทานข้าวแล้วก็ออกเลยครับ ฮ่าๆๆ

หน้าตาที่พักเรา ดูสะอาดสะอาน เรียบร้อยดีครับ

วันนี้เราขับรถไปที่ปัวอีกทีนึงครับ เราจะกลับไปเก็บที่ วังน้ำปัว กันครับ ก็ห่างจากปัวไม่เท่าไหร่ครับ แต่ทางขึ้นอาจจะลำบากนิดนึงครับ

วังน้ำปัว เป็นธารน้ำไหลผ่านเล็ก ๆ ครับ สามารถลงไปเล่นน้ำได้ครับ ตอนไปคนไม่เยอเแต่ก็มีคนลงไปเล่นกัน

หลังจาก วังน้ำปัวเสร็จ ก็ขับกลับเข้าตัวเมืองน่านเหมือนเดิมครับ สถานีต่อไปก็ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านครับ สามารถเข้าไปชมได้นะครับ คนไม่ค่อยเข้าไปกัน ส่วนใหญ่ถ่ายแต่รูปซุ้มต้นลีลาวดีหรือต้นลั่นทม กันด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ครับ ส่วนด้านในทางเจ้าหน้าที่จะเปิดชมวีดีทัศน์ให้เราชมกัน ** ส่วนตัวมีอะไรให้ชมน้อยไปหน่อยครับ ชมวีดีทัศน์ก็มีสาระดีครับ แต่ออกจะหน้าง่วงนอนไปหน่อย