ก่อนเราจะบอกเล่าถึงอาหารในเมืองเราจะมาเริ่มเล่าถึงจิ๋วเฟิ้นหรือเมืองโบราณจิ๋วเฟิ้นที่ไทเปกันก่อน หลายคนอาจจะเคยได้ยินจากสถานที่ที่มีโคมไฟแดงเหมือนกับการ์ตูนของStudio Ghibli เรื่อง Spirited away นั้นเอง ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้มีจุดเด่นแค่เพียงโคมไฟแดงเท่านั้น แต่อาหารของที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมของดีจากไต้หวันให้เราได้ลิ้มลองกันอีกด้วย งั้นตามกันมาเลยดีกว่าาาาา

เราเริ่มต้นการเดินทางโดยการนั่งรถบัสมาลงที่จิ๋วเฟิ้น ส่วนจะมายังไงนั้นเราขอข้ามไปเลยละกันค่ะ เพราะกระทู้อื่นน่าจะมีมากพอแล้ว 55555 ซอรี่
พอเราลงจากรถเดินไล่ขึ้นมาตามทางเราจะพบกับุดชมวิวก่อนเลย แต่อันนั้นอาจจะไม่ใช่จุดประสงค์หลักของเรา เนื่องจากหิวมากกกกกก เราก็เดินเลยเข้ามาในซอยที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาหารกันเลยดีกว่า ทางเข้า เมื่อเราเดินเข้ามาเราก็จะเจอกับกาแฟดั้งเดิม แต่ลองถามคนที่กินกาแฟเค้าบอกว่าไม่อร่อยกัน 555555 เพราะงั้นเราจะข้ามไป

ตลอดทางที่เราเดินเข้ามา อารมณ์จะคล้ายกับจตุจักรเลย คือสองข้างทางจะมีร้านค้าแต่ในนี้เข้าจะรวมอาหารและของใช้ไว้ในซอยเดียวกันเลย โอเค เราจะเจาะไปที่อาหารกันเลยดีกว่า ส่วนพิกัดแต่ละที่นั้นเราก็ไม่แน่เหมือนกัน 5555555555 แต่ถ้าคุณเดินตามทางนี้มาก็ต้องเจออยุแล้วแน่นอน

ของกินอย่างแรกที่ได้ลิ้มลองจริงก็คือ โรตีผักชี แต่จริงๆไม่ได้กินหรอก ซื้อให้คนอื่นกินมากกว่า 555555 บอกตรงๆว่าไม่กล้า เราเลยไปกินอาหารเด็กๆของเราต่อไป นั้นก็คือโดรายากิสอดไส้ไอศกรีม นี่เลยยยยยย ต้องบอกว่าธรรมดา 555555555 หมายถึงเมนูไม่ได้แปลกอะไร แต่อร่อยดีนะ ข้ามไปดีกว่า 55555

เมนูถัดไปนั้นก็คือ เห็ดย่างงงงง แต่ไม่ใช่เห็ดธรรมดานะ มันคือเห็ดยักษ์ที่ใหญ่เท่ามือเลย ใหญ่กว่าด้วยซ้ำ

ต่อกันเลยยย นี่เลย หอยสังฆ์
มาถึงอีกอย่างที่เป็นซิกเนเจอร์ของไต้หวันคือไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตามจะต้องงได้กลิ่นละเห็นอยู่บ่อยครั้งแน่ๆ
นัน้ก็คือออออออ ไข่พะโล้ เราคิดว่ารสชาตน่าจะเหมือนในเซเว่นนั้นละ
อันนี้คือรูปในเซเว่นเค้ามีขายทั้งแบบลูกเดียวและแบบแพคเลยนะ
อันนี้น่าจะคล้ายๆกับขนมกุ๋ยช่ายของจีนมั้ง เราก็ไม่แน่ใจ แต่ก็น่าทานเลยทีเดียวนะ

และแล้วเราก็เดินกันมาถึง จุดพ้อยที่สำคัญของที่นี่ นั้นก็คืออออ
หลังจากเรามาถึงที่นี่ เราก็นั่งพักกก่อนจะเดินทางกลับ ต้องบอกเลยว่าขากลับนินรกดีๆนี่เองง 55555555 เพราะรอรถนานมากกกกกกกกกกกก ยืนรอนะคะ เนื่องจากเป็นัวนอาทิตย์ก็จะเยอะทั้งคนไต้หวันและชาวต่างชาติอย่างเราๆ แล้วแถวต่อรถก็หายากได้อีกก เพราะคนเยอะจนไม่รู้ว่าแถวไหนกลับไทเปเลย รวมเวลารอทั้งหมดเกือบ1ชม.เต็มๆ สำหรับใครที่ไม่อยากต้องมารอรถก็เหมาแท็กซี่กลับไปได้เลยค่า แต่ค่ารถก็จะแพงกว่าหลายเบอร์แค่นั้นเองง 5555

ส่งท้ายเราจะบอกถึงอาหารที่ต้องห้ามพลาดใดใดทั้งปวงในไทเป
Top1ต้องบอกก่อนว่าไม่มีรูปเพราะอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กล้านตัวว เนื้อย่าง100TWDนั้นเองงง มีทุกตลาด คือแย่งกันกินทุกครั้งจนไม่เคยได้ถ่ายรูปเลย หารูปได้ที่กระทู้อื่นๆได้เลยนะคะ

Top1ที่ต้องพลาดไม่ได้อีกอันก็คือ ชาบูมาล่านั้นเองงงงงง อันนั้นใครไม่มากินก็ไปไม่ถึงไต้หวันอีกเช่นกัน
มีทั้งเนื้อทุกส่วนที่อร่อยๆ lamb อาหารทะเล ไอติมฮาเก้นดาส ที่มีเกือบทุกรสชาติ เบียร์ไต้หวันไม่อัน ส่วนน้ำซุปก็เลือกได้สองแบบ และน้ำจิ้มนี่อื้อหื้อไม่แพ้กัน สามารถผสมได้เอง มีหลายแบบและทุกแบบ อาจจะยกเว้นแค่จิ้มแจ่วบ้านเรา 55555 สวรรค์ดีดีนี่เอง
ราคาตอนช่วงเที่ยงกับเย็นๆจะไม่เท่ากันนะ ถ้าใครจะไปก็เช็คดีดีละ

Top1อันดับสุดท้ายคือ ซูชิตลาดปลาไทเป นอกจากซูชิยังอร่อยราคาไม่แพงแล้ว อีกเมนูที่แนะนำเลย คือ ปลาหิมะ บอกเลยว่าเด็ดดวง อร่อยจนขอสองกันเลยทีเดียววว ตบท้ายด้วยของหวาน ชีสเค้กกกกกกกกก ต้องบอกว่าเป็นมื้อที่เลิศเว่อร์ค่าา
รูปมีไม่ครบต้องขออภัย แต่ตามหาได้ไม่ยากเลยค่าาา เสิจโล้ดดด

มาถึงชานมไข่มุกกก เจ้านี้ต้องไปจัดคะ ใครพลาดนิจะต้องร้องไห้

เห็นรีวิวไต้หวันเบียร์หลายรสมาก็มากทั้งองุ่น ฮันนี่(อะไรสักอย่าง) เราก็เลยลองรสใหม่(?)รสสับปะรด อันนี้บอกเลยว่าคอเบียร์ต้องไม่ชอบแน่ๆ เพราะมันเหมาะสำหรับคนไม่ชอบเบียร์ขมๆแบบเรา 5555555555 มันรสชาตเหมือนน้ำผลไม้ที่มีรสเบียร์ 5555 จะว่าแบบนั้นก็ได้ รสสำหรับผู้หญิงใสใส

เราฝากการรีวิวไทเปตามใจฉันไว้แค่นี้ีกว่าาา เพิ่งได้ลองเขียนรีวิวเที่ยว(?) ไม่รู้ว่าจะดีไม๊แต่อยากจะลอง ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็กราบงามๆเลยนะคะ ส่วนรูปนั้น มีทั้งจากกล้องและมือถือคะ ก็อาจจะไม่ได้สวยมากกกกก 555555 จริงๆอยากรีวิวถ่ายภาพอาหารให้สวยๆ แต่เป็นคนตละกะคะ 55555 เลยไม่เคยถ่ายได้ทันเลยจริงๆ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ขอลาก่อน บั้ยบายยย