ตู้เย็น Hitachi Inverter รุ่น R-VG350PZ 2ประตู ใช้มาได้ 1 ปี 2 เดือน มีเสียงดังคล้ายน้ำยารั่วจากคอมเฟรสเซอร์ ดังแล้วหยุดเป็นระยะหลังจากนั้นความเย็นก็ไม่มี จึงได้ดึงปลั๊กออก เริ่มมีอาการวันที่ 9 พ.ค.60 ช่วงหัวค่ำ รุ่งขึ้นวันที่ 10 โทรเข้าศูนย์บริการแจ้งอาการให้ทราบ วันที่ 11 ได้รับการติดต่อว่าช่างมีคิวให้วันที่ 16 ช่วงบ่าย 3-4 โมง
วันที่ 16 ช่างมาตามนัด มาด้วยกัน 2 คน แล้วผมก็เล่าอาการให้ฟัง ช่างก็เลื่อนตู้เย็นออกมารื้อแผงวงจรข้างหลังตู้เย็น แล้วก็เอาเครื่องมือมานั่งจิ่มตรงโนนตรงนี้ของแผงวงจร สักพักก็บอกว่าสาเหตุที่เสียว่าถ้าไม่เป็นที่แผงวงจรก็เป็นที่คอมเฟรสเซอร์ (แบบนี้ไม่ต้องเรียกช่างมาก็ได้ผมก็วิเคราะห์ได้เพราะตู้เย็นมันก็มีอยู่แค่ 2 ส่วนนี้ที่จะมีปัญหา) ผมก็เลยถามว่าแล้วต้องทำยังไง ช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนทั้งคอมและแผงวงจร โดยมีค่าใช้จ่ายคือค่าคอมเฟรสเซอร์เปลี่ยนให้ฟรีเพราะประกัน 10 ปี แต่ลูกค้าต้องเสียค่าเดินระบบน้ำยา 2,500 บาท ส่วนค่าแผงวงจรทางศูนย์จะเสนอราคาให้ทราบภายหลัง ผมถามว่าหลังจากซ่อมแล้วรับประกันนานไหม ช่างบอก 3 เดือน ผมก็เลยบอกว่าถ้าผมใช้เกิน 3 เดือนแล้วเสียอีกก็ต้องเสียค่าซ่อมแบบนี้อีกใช่ไหม ช่างบอกใช่ครับ
วันนี้ทาง Hitachi เสนอราคาค่าแผงวงจร 2,200 บาท เท่ากับว่าผมต้องเสียค่าซ่อม 4,700 บาท โดยได้รับความคุ้มครองแค่ 3 เดือน แล้วถ้าเลย 3 เดือนแล้วตู้เย็นเสียผมก็ต้องจ่ายอีก 4,700 บาท
ประเด็นคือ
1. ทำไมช่างของ Hitachi ถึงไม่รู้ว่าเสียที่แผงวงจรหรือที่คอมฯ เพราะถ้าเปลี่ยนเพียงตัวใดตัวหนึ่งลูกค้าก็ไม่ต้องเสียบเงินถึง 4,700 บาท
2. หรือนี่เป็นนโยบายของ Hitachi หรือเปล่าว่าต้องให้ลูกค้าเปลี่ยนทั้ง 2 อย่าง เพื่อขายอะไหล่หรือถ้าคิดในแง่ลบกว่านั้นเอาอะไหล่ที่เปลี่ยนออกจากของผมซึ่งจะต้องมีตัวใดตัวหนึ่งไม่เสีย เอาไปเปลี่ยนใส่ให้ลูกค้าท่านอื่นแล้วคิดราคาอะไหล่ใหม่
ผมปรึกษากับแฟนแล้วว่าไม่ซ่อมเพราะถ้าซ่อมเมื่อหมดประกันแล้วก็ต้องเสียค่าซ่อมอีก ซึ่งรวมกันก็น่าจะซื้อตู้เย็นใหม่ได้สบาย และที่สำคัญคือพอทีกับตู้เย็นระบบ Inverter และที่ขอลาขาดตลอดชีวิตคือเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Hitachi ชื่อนี้จะอยู่ในใจเราและคนใกล้ชิดตลอดไป
ปล. หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยในการตัดสินใจสำหรับคนที่กำลังมองหาตู้เย็นไว้ใช้ ถ้าไม่อยากเจออย่างผมก็ห่างๆ ยี่ห้อนี้ไว้ครับ
Hitachi ห่วยทั้งตู้เย็นห่วยทั้งช่างศูนย์
วันที่ 16 ช่างมาตามนัด มาด้วยกัน 2 คน แล้วผมก็เล่าอาการให้ฟัง ช่างก็เลื่อนตู้เย็นออกมารื้อแผงวงจรข้างหลังตู้เย็น แล้วก็เอาเครื่องมือมานั่งจิ่มตรงโนนตรงนี้ของแผงวงจร สักพักก็บอกว่าสาเหตุที่เสียว่าถ้าไม่เป็นที่แผงวงจรก็เป็นที่คอมเฟรสเซอร์ (แบบนี้ไม่ต้องเรียกช่างมาก็ได้ผมก็วิเคราะห์ได้เพราะตู้เย็นมันก็มีอยู่แค่ 2 ส่วนนี้ที่จะมีปัญหา) ผมก็เลยถามว่าแล้วต้องทำยังไง ช่างบอกว่าต้องเปลี่ยนทั้งคอมและแผงวงจร โดยมีค่าใช้จ่ายคือค่าคอมเฟรสเซอร์เปลี่ยนให้ฟรีเพราะประกัน 10 ปี แต่ลูกค้าต้องเสียค่าเดินระบบน้ำยา 2,500 บาท ส่วนค่าแผงวงจรทางศูนย์จะเสนอราคาให้ทราบภายหลัง ผมถามว่าหลังจากซ่อมแล้วรับประกันนานไหม ช่างบอก 3 เดือน ผมก็เลยบอกว่าถ้าผมใช้เกิน 3 เดือนแล้วเสียอีกก็ต้องเสียค่าซ่อมแบบนี้อีกใช่ไหม ช่างบอกใช่ครับ
วันนี้ทาง Hitachi เสนอราคาค่าแผงวงจร 2,200 บาท เท่ากับว่าผมต้องเสียค่าซ่อม 4,700 บาท โดยได้รับความคุ้มครองแค่ 3 เดือน แล้วถ้าเลย 3 เดือนแล้วตู้เย็นเสียผมก็ต้องจ่ายอีก 4,700 บาท
ประเด็นคือ
1. ทำไมช่างของ Hitachi ถึงไม่รู้ว่าเสียที่แผงวงจรหรือที่คอมฯ เพราะถ้าเปลี่ยนเพียงตัวใดตัวหนึ่งลูกค้าก็ไม่ต้องเสียบเงินถึง 4,700 บาท
2. หรือนี่เป็นนโยบายของ Hitachi หรือเปล่าว่าต้องให้ลูกค้าเปลี่ยนทั้ง 2 อย่าง เพื่อขายอะไหล่หรือถ้าคิดในแง่ลบกว่านั้นเอาอะไหล่ที่เปลี่ยนออกจากของผมซึ่งจะต้องมีตัวใดตัวหนึ่งไม่เสีย เอาไปเปลี่ยนใส่ให้ลูกค้าท่านอื่นแล้วคิดราคาอะไหล่ใหม่
ผมปรึกษากับแฟนแล้วว่าไม่ซ่อมเพราะถ้าซ่อมเมื่อหมดประกันแล้วก็ต้องเสียค่าซ่อมอีก ซึ่งรวมกันก็น่าจะซื้อตู้เย็นใหม่ได้สบาย และที่สำคัญคือพอทีกับตู้เย็นระบบ Inverter และที่ขอลาขาดตลอดชีวิตคือเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Hitachi ชื่อนี้จะอยู่ในใจเราและคนใกล้ชิดตลอดไป
ปล. หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยในการตัดสินใจสำหรับคนที่กำลังมองหาตู้เย็นไว้ใช้ ถ้าไม่อยากเจออย่างผมก็ห่างๆ ยี่ห้อนี้ไว้ครับ