NOTE: ก่อนจะเริ่มอ่าน ควรเปิดฟังเสียงดนตรีนี้ไปด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศ เพิ่มอรรถรสในการอ่านครับ
====================================================================
ดอยแม่สลองมองไปในขุนเขา
โอ้ตัวเรามาอยู่นี่สามปีได้
หนีปัญหาสารพันอันวุ่นวาย
อยู่ผ่อนคลายที่นี่สุขีจริง
เริ่มเกลาขัดปฏิบัติธรรมนำดวงจิต
หวังชีวิตจะเปลี่ยนไปให้ดียิ่ง
นั่งยืนเดินเพลินไปไม่ประวิง
"พุทฺโธ" นิ่งนึกเอาภาวนา
ได้อาจารย์ท่านยายสาธยายธรรม
ผู้ชี้นำเป็นแม่ชีศรีสง่า
สั่งสอนย้ำพุทธธรรมตลอดมา
แก่ชราพรรษาเจ็ดสิบปี
กำหนดวันเบ็ดเสร็จ ยี่สิบเอ็ดวัน
ให้เราหมั่นปฏิบัติจัดเต็มที่
วันสุดท้ายให้เราเข้ากุฎี
สู่เอกีภาวะสะสมไป
จากยอดดอยตะวันคล้อยลอยลับตา
ความมืดมา ไฟฟ้า หามีไม่
หนาวเย็นเฉียบ เงียบงัน บีบคั้นใจ
จุดเทียนไข ให้สว่าง กลางกุฎี
นั่งตั้งกายให้ตรงแล้วปลงจิต
ภาวนาคิดในใจไปทุกที่
สัตว์ทั้งหลายตายเกิดกันบรรดามี
รับไปซี ส่วนบุญมาก จากเมตตา
ท่ามกลางความเงียบงัน ฉันสดับ
เสียงพึ่บพั่บขยับปีกแห่งปักษา
ได้ยินมันโผผินบินไปมา
ชั่วเวลาครู่หนึ่งจึงเงียบไป
แล้วมีเสียงยวบยอบดังกรอบแกรบ
เหมือนใครแอบหน้าประตูอยู่ใช่ไหม
แผ่เมตตาไปพลันตั้งมั่นใจ
ขอจงได้ไร้ทุกข์เป็นสุขเทอญ
เงียบสงบสงัดไปได้อีกครา
สวดคาถาท่องได้ไม่ห่างเหิน
พุทธคุณมากมายได้จำเริญ
บทสรรเสริญมิข้องขัดว่าชัดคำ
ล้มตัวนอนเพราะอ่อนล้ามาทั่วกาย
กำหนดหายใจเข้าออกเพื่อตอกย้ำ
พุทฺโธ พุทฺโธ ไป ให้น้อมนำ
จนดื่มด่ำดำดิ่งนิ่งนิทรา
ฝันเห็นเป็นเงาดำยืนค้ำอยู่
จ้องมองดูที่เรา เข้ามาหา
ผมยุ่งเหยิงกระเซิงขึ้งถลึงตา
กับดวงหน้าบานเบอะเลือดเกรอะกรัง
สติขาดมิอาจตั้งยั้งไม่อยู่
ดิ้นรนสู้สู้ไม่ได้ดั่งใจหวัง
ตื่นตระหนกตกใจเหลือกำลัง
แล้วก็พลั้งตะโกนโอ๊ยร้องโวยวาย
เหงื่อแตกพลั่กตัวหนักราวกับหิน
หูได้ยินถ้อยคำย้ำมุ่งหมาย
"พุทฺโธ!" เสียงเข้มมากจากคุณยาย
จึงผ่อนคลายภาวนาว่าตามไป
แล้วลุกขึ้นผวาลืมตานั่ง
เห็นจังๆ แดงส้มกลมไสว
จากหน้าต่างห่างคล้อยลอยออกไป
คือดวงไฟวิญญาณที่ผ่านมา
พร้อมกับกลิ่นลึกลับอับสาบสาง
ค่อยๆจางกับดวงไฟไปต่อหน้า
สองคนกับคุณยายได้ภาวนา
แผ่เมตตาตามไปให้สวัสดี
ครั้นอุษาฟ้ากระจ่างสว่างทั่ว
จึงเตรียมตัวลงเขาเศร้าเหลือที่
ก้มกราบลาอาจารย์คุณยายชี
ทุกวันนี้ ยังจำได้ ไม่ลืมเลือน
<<< THE SHOCK POEM : บทกวีสยอง ตอนที่ 2 = ดวงไฟวิญญาณไพร (คำเตือน คนขวัญอ่อน ห้ามอ่านคนเดียวยามราตรี) >>>
NOTE: ก่อนจะเริ่มอ่าน ควรเปิดฟังเสียงดนตรีนี้ไปด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศ เพิ่มอรรถรสในการอ่านครับ
====================================================================
ดอยแม่สลองมองไปในขุนเขา
โอ้ตัวเรามาอยู่นี่สามปีได้
หนีปัญหาสารพันอันวุ่นวาย
อยู่ผ่อนคลายที่นี่สุขีจริง
เริ่มเกลาขัดปฏิบัติธรรมนำดวงจิต
หวังชีวิตจะเปลี่ยนไปให้ดียิ่ง
นั่งยืนเดินเพลินไปไม่ประวิง
"พุทฺโธ" นิ่งนึกเอาภาวนา
ได้อาจารย์ท่านยายสาธยายธรรม
ผู้ชี้นำเป็นแม่ชีศรีสง่า
สั่งสอนย้ำพุทธธรรมตลอดมา
แก่ชราพรรษาเจ็ดสิบปี
กำหนดวันเบ็ดเสร็จ ยี่สิบเอ็ดวัน
ให้เราหมั่นปฏิบัติจัดเต็มที่
วันสุดท้ายให้เราเข้ากุฎี
สู่เอกีภาวะสะสมไป
จากยอดดอยตะวันคล้อยลอยลับตา
ความมืดมา ไฟฟ้า หามีไม่
หนาวเย็นเฉียบ เงียบงัน บีบคั้นใจ
จุดเทียนไข ให้สว่าง กลางกุฎี
นั่งตั้งกายให้ตรงแล้วปลงจิต
ภาวนาคิดในใจไปทุกที่
สัตว์ทั้งหลายตายเกิดกันบรรดามี
รับไปซี ส่วนบุญมาก จากเมตตา
ท่ามกลางความเงียบงัน ฉันสดับ
เสียงพึ่บพั่บขยับปีกแห่งปักษา
ได้ยินมันโผผินบินไปมา
ชั่วเวลาครู่หนึ่งจึงเงียบไป
แล้วมีเสียงยวบยอบดังกรอบแกรบ
เหมือนใครแอบหน้าประตูอยู่ใช่ไหม
แผ่เมตตาไปพลันตั้งมั่นใจ
ขอจงได้ไร้ทุกข์เป็นสุขเทอญ
เงียบสงบสงัดไปได้อีกครา
สวดคาถาท่องได้ไม่ห่างเหิน
พุทธคุณมากมายได้จำเริญ
บทสรรเสริญมิข้องขัดว่าชัดคำ
ล้มตัวนอนเพราะอ่อนล้ามาทั่วกาย
กำหนดหายใจเข้าออกเพื่อตอกย้ำ
พุทฺโธ พุทฺโธ ไป ให้น้อมนำ
จนดื่มด่ำดำดิ่งนิ่งนิทรา
ฝันเห็นเป็นเงาดำยืนค้ำอยู่
จ้องมองดูที่เรา เข้ามาหา
ผมยุ่งเหยิงกระเซิงขึ้งถลึงตา
กับดวงหน้าบานเบอะเลือดเกรอะกรัง
สติขาดมิอาจตั้งยั้งไม่อยู่
ดิ้นรนสู้สู้ไม่ได้ดั่งใจหวัง
ตื่นตระหนกตกใจเหลือกำลัง
แล้วก็พลั้งตะโกนโอ๊ยร้องโวยวาย
เหงื่อแตกพลั่กตัวหนักราวกับหิน
หูได้ยินถ้อยคำย้ำมุ่งหมาย
"พุทฺโธ!" เสียงเข้มมากจากคุณยาย
จึงผ่อนคลายภาวนาว่าตามไป
แล้วลุกขึ้นผวาลืมตานั่ง
เห็นจังๆ แดงส้มกลมไสว
จากหน้าต่างห่างคล้อยลอยออกไป
คือดวงไฟวิญญาณที่ผ่านมา
พร้อมกับกลิ่นลึกลับอับสาบสาง
ค่อยๆจางกับดวงไฟไปต่อหน้า
สองคนกับคุณยายได้ภาวนา
แผ่เมตตาตามไปให้สวัสดี
ครั้นอุษาฟ้ากระจ่างสว่างทั่ว
จึงเตรียมตัวลงเขาเศร้าเหลือที่
ก้มกราบลาอาจารย์คุณยายชี
ทุกวันนี้ ยังจำได้ ไม่ลืมเลือน