ปีศาจ....

กระทู้สนทนา
ปีศาจ


ลายลิขิต

ฉันกำลังนั่งฟังพล็อตนิยายเรื่องใหม่ของสามีคนใหม่อยู่ เป็นพล็อตนิยายที่แปลกประหลาดพิศดาร หลุดโลกเต็มไปด้วยจินตนาการ เขาชื่นชมความเป็นอัจฉริยะของตัวเอง เล่าสิ่งที่คิดให้ฟังด้วยดวงตาเป็นประกาย
"ผมจะให้คนทั้งโลกทึ่งไปกับนิยายของผม มันจะต้องกลายเป็นนิยายระดับ เบส เซลเลอร์ภายในปีนี้ ยอดขายถล่มทะลายไปทั่วโลก คุณเชื่อผมไหม"
เขาหยุดโอ่ความเก่งกาจด้านการประพันธ์ของตัวเองแล้วถามขึ้น ฉันละมือจากบีบนวดคลายเส้นแถวต้นคอกับไหล่สองข้างของเขาชั่วคราว ชะโงกหน้าข้ามไหล่มามองสันหน้าเข้มของสามี
"ฉันเชื่อมั่นในความตั้งใจและฝีมือการเขียนนิยายของคุณค่ะ คุณทำได้แน่ ไม่มีปัญหา"
ฉันพูดให้กำลังใจ และไม่ได้พูดเกินความจริง สามีฉันเขียนนิยายเก่ง จินตนาการลึกล้ำเหนือจักรวาล ที่แม้แต่มนุษย์นอกโลกยังต้องฉงน
"อืม ผมต้องทำสำเร็จ อีกเรื่องที่เขียนจบไปแล้วผมยังทำได้เลย ได้รางวัลปากกาทองตั้งสามปีซ้อน"
"อ๋อ เรื่องนั้นน่ะเหรอ เรื่องที่นางเอกเป็นปีศาจ แอบมาใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์ธรรมดาอย่างเรา ฉันอ่านแล้วยังงงๆ กับวิธีคิดของนางเอก ทำไมต้องรอจนพระเอกรักเสียก่อน ถึงค่อยกินเขา"
"คุณจะเข้าใจได้ยังไง คุณไม่ใช่ปีศาจ" เขาหันมาหัวเราะให้ ใบหน้าภูมิใจในพล็อตนิยายของตัวเอง
"เรื่องนี้ฉันยอมรับว่าหัวไม่ถึงค่ะ อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจชีวิตของนางเอก" ฉันยอมรับกับความคิดอันแสนมหัศจรรย์ของสามีตัวเอง
"เพราะคุณไม่ใช่นักเขียนไง ถึงจินตนาการไปไม่ถึง ไม่อยากเสียเวลาอธิบาย  ยังไงคุณก็คงไม่เข้าใจ ผมจะเริ่มลงมือเขียนเรื่องใหม่แล้ว ไว้ผมเขียนจบแล้วค่อยอ่าน ผมเบื่ออธิบาย..."
เขาว่า ฉันไม่อยากขัดคอเขา ปล่อยให้เขาเพ้อฝันไปคนเดียว เข้าครัวไปทำอาหารมาให้เขากินดีกว่า
สามีฉันเป็นพ่อหม้ายเมียตาย ไม่หล่อแบบพระเอกในนิยายที่เขาเขียน แต่ก็น่ารัก มีพุงแก้มยุ้ย เนื้อตัวจ้ำม่ำ ฉันชอบแบบนี้ดูแล้วมีน้ำมีนวลดี เงินทองเป็นของนอกกาย เราสองคนไม่ค่อยฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม รายได้จากเงินเกษียณของเขาไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้เราลำบาก เขาชอบเขียนนิยาย ส่วนฉันก็ชอบคนเขียนนิยาย เราเลยปิ๊งกันแม้วัยจะต่างกัน 
เขานั่งเขียนนิยายตั้งแต่เช้า ตกบ่ายก็นอน เย็นลุกมานั่งเขียนต่อจนดึกดื่น ยกเว้นวันศุกร์ที่จะออกไปสังสรรค์ข้างนอกบ้าง ซึ่งวันนั้นฉันปล่อยเขาอิสระเต็มที่ จะไปขัดใจทำไมก็เขาชอบชีวิตแบบนี้ นับวันความสุขจึงเปล่งกระจาย ฉาบตามหน้าตาให้มีสีสัน ไม่ซีดเซียวเหี่ยวแห้งอย่างคนสิ้นหวัง แม้ไม่มีลูกเต้าให้เขาอีก แต่ฉันก็ทำหน้าที่ของเมียที่ดีได้สมกับความตั้งใจ
ฉันกำลังรอเวลาด้วยความมุ่งมั่นบางอย่าง หลังเขาเขียนนิยายเรื่องนี้จบลงคงสมหวังเสียที

หนึ่งปีผ่านไป
นิยายของเขาจบลงพร้อมความสำเร็จอันงดงาม เขากลายเป็นนักเขียนชื่อดัง ผู้คนต่างทึ่ง เล่าลือกันถึงนิยายประหลาด สามีฉันมามีชื่อเสียงเอาตอนแก่ซึ่งดูเขาจะดีใจมาก แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเมียของเขาดีใจกว่ามากมายหลายเท่านัก ฉันสมหวังในสิ่งที่รอคอย
ค่ำคืนพิเศษสุดนี้ ฉันจึงแยกส่วนหัวตัวเองออกเป็นสองซีก  พุ่งลิ้นยาวเหยียดปักเข้าไปในปากของร่างอ้วนล่ำที่กำลังนอนหลับฝันดีอยู่ข้างตัว สำราญกับเสียงสำลักเลือดขลุกขลักในลำคอและอาการสั่นเร่าระริกไหวไปทั้งตัว ปลายลิ้นเรียวเล็กแตกแยกออกชอนไชขึ้นไปหาสมองเนียนนุ่ม แล้วดูดกินอย่างหิวกระหาย

อร่อย...นึกภาพใบหน้าตัวเองไม่ออกเลย ว่ามีแววปลาบปลื้มขนาดไหนขณะกัดกินสุดที่รักอย่างเต็มอิ่ม ถัดจากสมองอ่อนนุ่ม ฉันจะตัดชิ้นส่วนของเขาเก็บใส่กล่องยัดตู้เย็นเอาไว้กิน ฉันกินตามความรักที่มีให้สามีแต่ละคน ถ้ารักมากก็ยิ่งกินเร็วมาก ส่วนกลางลำตัวคือส่วนโอชาที่สุด นุ่นมักเก็บไว้กินทีหลัง เหมือนเรากินก๋วยเตี๋ยวแล้วเก็บลูกชิ้นไว้กินหลังสุด
อยากลิ้มรสสมองนักเขียนมานานแล้ว ผัวคนที่หนึ่งเป็นหมอ สมองอร่อยใช้ได้ คนถัดๆมาก็แล้วแต่ว่าอยากกินสมองคนแบบไหน สมองห่วยที่สุดคือสมองคนพเนจรไร้บ้าน พวกเขาสิ้นหวังสูญเสียความฝัน สมองเมื่อกินจึงทั้งขมทั้งขื่น 
จะให้อร่อยต้องขุนให้อ้วนพี สมองเอิบอาบความคิดวิจิตรบรรเจิด เริ่ดหลุดออกไปนอกจิตมนุษย์ ยิ่งคิดพิศดารเท่าไหร่ยิ่งอร่อย ฉันชอบสมองคิดแปลกจนร่องสมองขับสารย้อมเนื้อสมองมันเยิ้ม...ซึ่งมันแสนจะโอชะ
ถอนลิ้นออกจากช่องปากของเขา จุมพิตแผ่วเบาลงบนหน้าผาก ก่อนหันไปหยิบมีดขาววับขึ้นมา ก่อนจรดมันลงแก่นกลางลำตัวของสุดที่รัก....

จบค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่