[CR] ลุง Salaryman พาเที่ยวตอน : I believe I can fly to Lofoten, Norway


เคยไหมครับที่พอเวลาไปเจอรูปถ่ายในหนังสือหรือในอิเตอร์เนตแล้วบอกกับตัวเองว่าสักวันอยากจะไปให้ได้ ผมเป็นบ่อยเลย (อมยิ้ม) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปมาทุกที่ที่อยากไปหรอกนะครับ สำหรับ Lofoten เองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ผมสนใจมากๆ แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจของผมในการเดินทางครั้งนี้นอกเหนือไปจากการแลกไมล์นั่งเครื่องชั้นหนึ่ง แรกๆ ที่ผมหาข้อมูลผมรู้แค่ Lofoten อยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเกาะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการเดินทางไปนั้นต้องต่อเครื่องบินไม่มีไฟล์ทตรง หรือแม้แต่ว่าความสวยงามของเธอจะสวยเกินกว่าที่ผมคิดไว้มากมาย พอเริ่มหารีวิวมาอ่าน เริ่มหาข้อมูลอย่างละเอียดมากขึ้นถึงได้รู้ว่าการเดินทางไปหาเธอนั้นแอบยุ่งยากกว่าการไปไอซ์แลนด์นิดหน่อยเสียอีก เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้ผมไปกับเพื่อนอีกคน (ซึ่งจริงๆ แล้วตั้งใจว่าจะไปกันสี่คนแต่โดนเทด้วยความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของเพื่อนอีกสองคน...) เคยมาคุยกันมาว่าอยากที่ไหนกันบ้าง แน่นอนผมขอ Lofoten เป็นจุดหมายปลายทางบังคับ สรุปคือเราได้การเดินทางออกมาตามต่อไปนี้ ดูแล้วอาจจะบ้ามากๆ กับการบินถึง 10 sectors ภายในเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์

Sector 1: Bangkok - Munich by TG924  https://ppantip.com/topic/36396951
Sector 2: Munich - Oslo by SK4760
Sector 3: Oslo - Bodø by SK4122
Sector 4: Bodø - Leknes by WF818
Sector 5: Leknes - Bodø by WF813
Sector 6: Bodø - Oslo by SK4127

Sector 7: Oslo - Reykjavik
Sector 8: Reykjavik - Stockholm
Sector 9: Stockholm - Munich
Sector 10: Munich - Bangkok

Sector 1 นั้นผมได้เขียนรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าสนใจลองกดลิงก์ด้านบนเข้าไปอ่านกันได้ครับ เป็นการเดินที่แอบหรูนิดหน่อย (จากการแลกไมล์ ROP) แต่ประทับใจกับการบริการสุดๆ ของการบินไทยไฟล์ทขาไป สำหรับกระทู้นี้จะขอกล่าวถึง Sector 2 - 6 นะครับ ต้องขอโทษล่วงหน้าหากเขียนยาวไป รูปไม่สวยไม่ชัดหรือมีข้อผิดพลาดประการใดๆ นะครับ ไปเที่ยวเกาะสวรรค์แห่งนี้กันเลยครับ


หลังจากที่เครื่องได้มาถึงยังสนามบินมิวนิคประเทศเยอรมนีล่าช้าไปกว่ากำหนดการเดิมเกือบสองชั่วโมง พวกผมจึงไม่ได้เข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองแต่เปลี่ยนเป็นเดินเล่นรอบๆ ในบริเวณอาคารสนามบินแทน ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอย่างเรียบร้อย รับประเป๋า แล้วก็หาเสื้อกันหนาวมาใส่เพิ่ม อากาศตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ที่ราวๆ 6-7 องศาได้ เราทำการ Check in และโหลดกระเป๋าสำหรับไฟลท์ต่อไปที่บินจากมิวนิคไปยังกรุงออสโลเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์กันก่อนแล้วค่อยออกเดินเล่นครับ สายการบินจากมิวนิคไปออสโลนั้นผมใช้บริการของ SAS ที่เลือกเวลาได้เยอะหน่อยและเนื่องด้วยผมเป็นสาวกในเครือสตาร์อัลไลแลนซ์อยู่แล้ว การ check in และโหลดกระเป๋าสามารถทำได้เองเลยจากเครื่องอัตโนมัติไม่ยุ่งยากและซับซ้อนอะไรสำหรับที่นี่ ภายในอาคารผูโดยสารสนามบินมิวนิคนั้นค่อนข้างใหญ่และมีร้านต่างๆ อยู่มากมาย เดินเล่นถ่ายรูปด้านนอกสักพักก็เข้ามาด้านในเพื่อหาอะไรทานกัน สำหรับการ X-ray นั้นค่อนข้างเข้มงวดและละเอียดสุดๆ สำหรับที่นี่ ขนาดผมมีผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อ เครื่องยังตรวจเจอและเจ้าหน้าที่ให้เอาออกมาสแกนแยกต่างหาก... กล้องถ่ายรูปและเลนส์ก็ต้องเอาออกมาไม่รวมกับสิ่งของอื่นๆ เผื่อเวลาไว้หน่อยนิดนึงด้วยก็ดีนะครับสำหรับที่นี่ หาอะไรทานมื้อกลางวันกันแล้วก็รอแล้วก็รอเวลา boarding ครับ

พอออกมานอกตัวอาคารผู้โดยสารก็จะเจอลานกว้างแบบนี้ครับ
รถแท๊กซี่จอดอย่างหรู
เดินเล่นไปเจอร้านนี้เข้า แฟนบอลคงชอบ
หน้าจอตารางบินครับ ด้านขวาจะเห็นเครื่องเชคอินอัตโนมัติ
หลังผ่านการตรวจแล้วเข้ามาเจอคันนี้อย่างงามเลย
จืดไปหน่อย แต่อิ่มมากๆ
รอขึ้นเครื่อง
พร้อมออกเดินทางแล้วครับ

เครื่องออกตามเวลา SAS จะไม่เสิร์ฟอาหาร ของว่างหรือเครื่องดื่มสำหรับชั้นประหยัดไฟลท์สั้นๆ ต้องซื้อเพิ่มเองนะครับ เครื่องลงจอดที่สนามบิน Oslo Garermoen ตามเวลา สังเกตุได้ว่าตัวอาคารภายนอกของสนามบินนี้น่าสนใจมากเรียบๆ แต่แอบเก๋ ยิ่งพอผมลงจากเครื่องแล้วเดินเข้ามาข้างใน สุดยอดมากครับ เป็นอาคารผู้โดยสารที่โปร่งสว่างและดูเรียบหรูเก๋ๆ ตามสไตล์สแกนดิเนเวีย เนื่องจากซื้อตั๋วแยกกันผมเลยออกมาเอากระเป๋าก่อนและเนื่องจากเป็นประเทศในกลุ่มเชงเก้นเหมือนกันเยอรมนีเลยไม่มีพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอีก รับกระเป๋าเสร็จก็ออกมาแล้วขึ้นไปชั้นบน departure floor ใช้เครื่อง check in และโหลดกระเป๋าอัตโนมัติอีกแล้ว แต่ที่นี่ tag ติดกระเป๋ามันงงๆ นิดหน่อยเลยถามเจ้าหน้าที่ พวกผมไม่มีอะไรทำกันเลยเข้าแถว security check แล้วเข้าไปด้านในเลย คนเยอะกว่าที่คิดครับ อาจจะเป็นเพราะเราเดินทางในประเทศนอร์เวย์พื้นที่เลยดูเหมือนจะไม่พอเท่าไรกับจำนวนผู้ดดยสารที่แออัดที่นั่งรอหน้าเกทเต็มเกือบทุกที่ แต่ชอบตรงที่มีเต้าเสียบให้ชาร์ตไฟได้ด้วยตามที่นั่ง ตั้งแต่เข้าวันจันทร์ที่ 3 เมษายน ออกไปทำงานจนมาถึงตรงนี้ผมก็ยังแทบไม่ได้นอนเลยคำนวนไปคำนวนมาน่าจะราวๆ กว่า 36 ชั่วโมงได้แล้ว ง่วงสุดๆ เริ่มพูดจากับเพื่อนไม่ค่อยรู้เรื่อง (อะๆ) คราวนี้ก็บินกับ SAS เหมือนเดิมครับ เรานั่งจาก Oslo ไปลง Bodø แล้วต่อเครื่องจาก Bodø ไปลง Leknes ซึ่งเป็นสนามบินที่อยู่บนเกาะ Lofoten นั่นเอง (ฟังดูเหนื่อยดีไหมล่ะ จะไปดินแดนที่สวยเหมือนสวรรค์ทั้งที)
มาถึงแล้วครับ สนามบินเก๋มาก
ร้านค้าภายในสนามบิน
ใช้แสงลงตัวมากๆ (ส่วนตัวคือชอบมากๆ)
มีป้ายไปกรุงเทพด้วย เจ๋งไหมครับ
ไฟลท์ต่อไป Bodø ครับ
เครื่องนี้แหละ
ใกล้ถึง Bodø  แล้ว

สนามบินที่ Bodø นั้นเป็นสนามบินที่มีขนาดเล็กครับ แต่ในสนามบินมีร้านอาหารและร้านขายของอยู่บ้างพอสะดวกกำลังดี พวกผมก็อาศัยทานอาหารเย็นกันที่นี่ไปเลย พอไปถึงที่พักจะได้อาบน้ำนอนสลบยาวๆ กันเสียที ลืมเล่าไปว่าเครื่องบินจาก Bodø ไปยัง Leknes นั้นเป็นเครื่องบินแบบใบพักครับ ตื่นเต้นมากๆ ไม่เคยนั่ง ไม่มีการกำหนดที่นั่งนะครับใครขึ้นก่อนได้เลือกที่นั่งก่อน อารมณ์รถทัวร์อย่างไรอย่างนั้นเลย (แต่มีการแจกช็อคโกแลตให้ด้วย) ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุดหมายปลายทางแรกของเราครับ Lofoten Islands, Norway!!!
มื้อเย็นฝากท้องกับร้านในสนามบิน
อร่อยใช้ได้
รอขึ้นเครื่องครับ (อีกนิดนึงน่า ใกล้จะถึงจุดหมายแรกแล้ว)
เป็นการนั่งเครื่องบินเล็กครั้งแรก สนุกตื่นเต้นไปอีกแบบครับ
เห็นแล้ววววว Lofoten!!!
Finally arrived!!!
ยิ้มยิ้มยิ้ม
ชื่อสินค้า:   Lofoten Island, Norway
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่