สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิก
ขออนุญาตแยกออกมาอีก 1 กระทู้นะคะ เพราะตอนที่ 3 เขียนถึงโลโฟเทน ตอนที่ 3/1 จะเขียนต่อจากโลโฟเทน จะเดินทางต่อไปเมืองออสโล วอส ฟลาม เอวังเง่ และเบอร์เก้นค่ะ ตอนเดิมตามลิงค์นี้ค่ะ
https://ppantip.com/topic/39591998
จากตอนที่แล้วเช่ารถจากสนามบิน Leknes วันกลับก็จะต้องเอารถไปคืนที่สนามบิน Leknes โดยต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มก่อนถึงสนามบิน เอารถไปจอดในจุดเดิมที่รับรถตอนขามา ล็อครถให้เรียบร้อย ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในสนามบิน เอากุญแจรถหย่อนลงในกล่องที่บริษัทรถเช่าเตรียมไว้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในการคืนรถค่ะ หนูถิ่นบินไฟลท์เช้า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่บริษัทรถเช่ามาเลยค่ะ ไฟลท์ที่บินจะเป็นดังนี้ค่ะ
Leknes to Bodo by flight WF809 , Departure time 11.40 , Arrival time 12:05
Bodo to Oslo by flight SK4111 , Departure time 12:40 , Arrival time 14:10
ค่าตั๋วเครื่องบิน round trip ticket , Oslo - Bodo - Leknes - Oslo = Nok 5,443
เพื่อเป็นการประหยัดเวลา หนูถิ่นเลือกบินแทนนั่งเรือ เพราะนั่งเรืออ่านจากรีวิวท่านอื่นบอกว่าต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง จาก Leknes to Bodo แล้วจาก Bodo to Oslo อีกจะใช้เวลามาก แต่ถ้าบินจากโลโฟเทนมาออสโลเลย จะใช้เวลาไม่มาก แต่ก็แพงค่ะ
ออสโล - เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์
มาถึงอีกแล้วออสโล แต่อันนี้เป็นการบินในประเทศ ไม่ต้องตรวจพาสปอร์ต ไม่เหมือนตอนบินมาจากกรุงเทพค่ะ พอได้กระเป๋าแล้ว เดินออกมาซื้อตั๋วนั่งรถไฟเข้าเมือง Airport Express Flytoget ราคา Nok 196 ไปลงที่สถานี Nationaltheater การซื้อตั๋วรถไฟก็ไม่ยากค่ะ ซื้อกับตู้กดเลือกภาษาอังกฤษ และกดสถานีที่เราจะไป คนไม่เยอะ มีที่นั่งมากมาย แต่ค่ารถไฟก็แพงเอาการอยู่เหมือนกัน ยอมจ่ายเพราะขากลับหนูถิ่นไม่ต้องนั่งรถไฟกลับมาที่สนามบิน ก็เลยอยากลองนั่งดูว่า Airport Express เขาเป็นอย่างไร ก็ทันสมัยดีค่ะ
มาถึงสถานี Nationaltheater มีทางออกแค่ทางเดียว ไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ ที่เคยไป จะต้องออก Exit นั่นนี่ ออกมาปุ๊บก็เปิด Google map หาที่พักที่จะไป อยู่ที่ออสโล หนูถิ่นจองที่พักกับ Airbnb
Stay at Private room hosted by Wilhelm
Huitfeldts gate 5 , Sentrum , Oslo 0253 , Norway
พักที่นี่ 3 คืน ราคาคืนล่ะ 1,840 บาท
เป็นห้องส่วนตัว แต่ใช้ห้องน้ำรวมกับคนอื่น ก็สะดวกดีนะคะ ทำเลดี เดินทางสะดวก ห้องน้ำก็ไม่ต้องแย่งกันเลย มาถึงก็มืดแล้ว แค่เดินออกไปหาซื้อของทานที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พัก
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นนอนแต่เช้า เดินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ จนถึง Oslo Central Station หรือที่นี่เขาจะเรียกว่า Oslo S. ผ่าน National Theater , Winterland Christmas market , Stortinget , Karl Johans Gate Road เดินมาจนเจอเจ้าเสือตัวใหญ่หน้า Oslo S. วันนี้หนูถิ่นมีนัดกับช่างภาพ เพราะซื้อ Airbnb Experience "Private and Fun Photoshoot Day or Night" ราคา USD 99.23 ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ช่างภาพก็จะพาเราเดินไป คุยไป แล้วก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เขาก็จะสอนเราให้โพสต์ท่าถ่ายรูป ก็สนุกดีค่ะ เพราะช่างภาพชวนคุยสนุกมาก หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เขาจะคัดรูปส่งให้หนูถิ่นทางอีเมลล์ สักประมาณ 30 รูป และให้หนูถิ่นเลือกรูปที่ชอบที่สุด 1 รูป และเขาจะแต่งละเอียดให้ เป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ ได้เป็นนางแบบ 1 วัน การโพสต์ท่าเป็นนางแบบ ไม่ง่ายเลย เพราะหนูถิ่นไม่ได้มืออาชีพ ขำตัวเองซะมากกว่า คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มอง นางแบบอวบ ๆ ช่างภาพให้โพสต์ท่าแบบฟ้าใส เอามือจับหน้าตัวเอง เลยได้ภาพฟ้าใสตอนอวบ ๆ ค่ะ 555 ได้เทคนิคมาอีกอันนึง ที่ตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้ หันจมูกไปทางซ้าย และให้ปรายตามาทางขวาเพื่อมองกล้อง อันนี้ทำไม่ได้ค่ะ จมูกก็จะมาทางขวาด้วย ตอนถ่ายรูปกันสนุกสนานมาก เพลิน ๆ ดีค่ะ ที่ Oslo S. มีห้องน้ำสาธารณะให้เข้า แต่ต้องเสียตังค์ค่ะ ครั้งล่ะ Nok 20 ใช้เหรียญหยอดที่ประตูทางเข้า หนูถิ่นบ่นกับช่างภาพว่าเข้าห้องน้ำก็ต้องเสียตังค์ด้วย เขาเลยแนะนำให้ไปเข้าที่ Opera house ซึ่งเดินไปไม่ไกล อยู่ด้านหลัง Oslo S. และไม่เสียตังค์ค่ะ
วันต่อมาหนูถิ่นก็ออกแต่เช้าอีก แต่วันนี้หนูถิ่นมีตั๋ว one day pass ใช้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง นั่งรถบัส รถไฟ รถรางได้ทุกอย่าง ในราคา Nok 108
ตอนเช้านั่งรถไฟใต้ดินจาก Nationaltheatret มาลงที่ Oslo S. มาหาอาหารเช้าทานที่ Oslo S. และเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ที่ Opera house , Oslo Cathedral หลังจากนั้นนั่งรถรางสายอะไรจำไม่ได้ล่ะไปที่ Vigeland park ถ้าจะไปไหนแล้วไปไม่ถูก ให้ไปถามที่ Oslo visitor centre เขาจะแนะนำให้ทุกอย่าง พอไปถึงที่ Vigeland park ฟ้าก็สว่างพอดี ถ่ายรูปได้สวย ไปเช้า ๆ แบบนี้ ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมามาก ๆ ถ่ายรูปได้คนไม่เยอะ
ออกจากที่ Vigeland park หนูถิ่นก็ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์อีก 3 แห่ง นั่งรถบัสไปค่ะ มี Norsk Folkemuseum , Viking ship museum และ Fram museum ทั้ง 3 แห่งนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ อันที่จริงยังมีอีกหลายพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในบริเวณนี้ แต่ไม่มีเวลาเดินเที่ยวแล้ว เลยเดินได้แค่ 3 พิพิธภัณฑ์เท่านั้น หมดเวลาไปอีก 1 วันค่ะ ออสโลจึงเที่ยวได้แค่นี้ บอกตามตรงว่ายังเดินไม่ค่อยทั่วเลย จะหาโอกาสไปอีก ตอนเดินกลับที่พักแวะดินเนอร์ที่ Aker Brygg แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมืดแล้วและหนาวด้วยค่ะ
Big Tiger ด้านหน้า Oslo S.
ด้านใน Oslo S.
Opera House
National Theater
Stortinget (Norwegian Parliament)
Winterland Christmas market
Vigeland park
Norsk Folkemuseum
Fram museum
Dinner at Aker Brygg
REVIEW : หญิงเดี่ยว 50+ ลุยต่างแดน ตอนที่ 3/1 หนูถิ่นอินนอร์เวย์ (โลโฟเทน ออสโล วอส ฟลาม เอวังเง่ เบอร์เก้น)
ขออนุญาตแยกออกมาอีก 1 กระทู้นะคะ เพราะตอนที่ 3 เขียนถึงโลโฟเทน ตอนที่ 3/1 จะเขียนต่อจากโลโฟเทน จะเดินทางต่อไปเมืองออสโล วอส ฟลาม เอวังเง่ และเบอร์เก้นค่ะ ตอนเดิมตามลิงค์นี้ค่ะ https://ppantip.com/topic/39591998
จากตอนที่แล้วเช่ารถจากสนามบิน Leknes วันกลับก็จะต้องเอารถไปคืนที่สนามบิน Leknes โดยต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มก่อนถึงสนามบิน เอารถไปจอดในจุดเดิมที่รับรถตอนขามา ล็อครถให้เรียบร้อย ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในสนามบิน เอากุญแจรถหย่อนลงในกล่องที่บริษัทรถเช่าเตรียมไว้ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยในการคืนรถค่ะ หนูถิ่นบินไฟลท์เช้า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่บริษัทรถเช่ามาเลยค่ะ ไฟลท์ที่บินจะเป็นดังนี้ค่ะ
Leknes to Bodo by flight WF809 , Departure time 11.40 , Arrival time 12:05
Bodo to Oslo by flight SK4111 , Departure time 12:40 , Arrival time 14:10
ค่าตั๋วเครื่องบิน round trip ticket , Oslo - Bodo - Leknes - Oslo = Nok 5,443
เพื่อเป็นการประหยัดเวลา หนูถิ่นเลือกบินแทนนั่งเรือ เพราะนั่งเรืออ่านจากรีวิวท่านอื่นบอกว่าต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง จาก Leknes to Bodo แล้วจาก Bodo to Oslo อีกจะใช้เวลามาก แต่ถ้าบินจากโลโฟเทนมาออสโลเลย จะใช้เวลาไม่มาก แต่ก็แพงค่ะ
ออสโล - เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์
มาถึงอีกแล้วออสโล แต่อันนี้เป็นการบินในประเทศ ไม่ต้องตรวจพาสปอร์ต ไม่เหมือนตอนบินมาจากกรุงเทพค่ะ พอได้กระเป๋าแล้ว เดินออกมาซื้อตั๋วนั่งรถไฟเข้าเมือง Airport Express Flytoget ราคา Nok 196 ไปลงที่สถานี Nationaltheater การซื้อตั๋วรถไฟก็ไม่ยากค่ะ ซื้อกับตู้กดเลือกภาษาอังกฤษ และกดสถานีที่เราจะไป คนไม่เยอะ มีที่นั่งมากมาย แต่ค่ารถไฟก็แพงเอาการอยู่เหมือนกัน ยอมจ่ายเพราะขากลับหนูถิ่นไม่ต้องนั่งรถไฟกลับมาที่สนามบิน ก็เลยอยากลองนั่งดูว่า Airport Express เขาเป็นอย่างไร ก็ทันสมัยดีค่ะ
มาถึงสถานี Nationaltheater มีทางออกแค่ทางเดียว ไม่เหมือนประเทศอื่น ๆ ที่เคยไป จะต้องออก Exit นั่นนี่ ออกมาปุ๊บก็เปิด Google map หาที่พักที่จะไป อยู่ที่ออสโล หนูถิ่นจองที่พักกับ Airbnb
Stay at Private room hosted by Wilhelm
Huitfeldts gate 5 , Sentrum , Oslo 0253 , Norway
พักที่นี่ 3 คืน ราคาคืนล่ะ 1,840 บาท
เป็นห้องส่วนตัว แต่ใช้ห้องน้ำรวมกับคนอื่น ก็สะดวกดีนะคะ ทำเลดี เดินทางสะดวก ห้องน้ำก็ไม่ต้องแย่งกันเลย มาถึงก็มืดแล้ว แค่เดินออกไปหาซื้อของทานที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พัก
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นนอนแต่เช้า เดินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ จนถึง Oslo Central Station หรือที่นี่เขาจะเรียกว่า Oslo S. ผ่าน National Theater , Winterland Christmas market , Stortinget , Karl Johans Gate Road เดินมาจนเจอเจ้าเสือตัวใหญ่หน้า Oslo S. วันนี้หนูถิ่นมีนัดกับช่างภาพ เพราะซื้อ Airbnb Experience "Private and Fun Photoshoot Day or Night" ราคา USD 99.23 ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ช่างภาพก็จะพาเราเดินไป คุยไป แล้วก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ เขาก็จะสอนเราให้โพสต์ท่าถ่ายรูป ก็สนุกดีค่ะ เพราะช่างภาพชวนคุยสนุกมาก หลังจากถ่ายรูปเสร็จ เขาจะคัดรูปส่งให้หนูถิ่นทางอีเมลล์ สักประมาณ 30 รูป และให้หนูถิ่นเลือกรูปที่ชอบที่สุด 1 รูป และเขาจะแต่งละเอียดให้ เป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ ได้เป็นนางแบบ 1 วัน การโพสต์ท่าเป็นนางแบบ ไม่ง่ายเลย เพราะหนูถิ่นไม่ได้มืออาชีพ ขำตัวเองซะมากกว่า คนเดินผ่านไปผ่านมาก็มอง นางแบบอวบ ๆ ช่างภาพให้โพสต์ท่าแบบฟ้าใส เอามือจับหน้าตัวเอง เลยได้ภาพฟ้าใสตอนอวบ ๆ ค่ะ 555 ได้เทคนิคมาอีกอันนึง ที่ตอนนี้ก็ยังทำไม่ได้ หันจมูกไปทางซ้าย และให้ปรายตามาทางขวาเพื่อมองกล้อง อันนี้ทำไม่ได้ค่ะ จมูกก็จะมาทางขวาด้วย ตอนถ่ายรูปกันสนุกสนานมาก เพลิน ๆ ดีค่ะ ที่ Oslo S. มีห้องน้ำสาธารณะให้เข้า แต่ต้องเสียตังค์ค่ะ ครั้งล่ะ Nok 20 ใช้เหรียญหยอดที่ประตูทางเข้า หนูถิ่นบ่นกับช่างภาพว่าเข้าห้องน้ำก็ต้องเสียตังค์ด้วย เขาเลยแนะนำให้ไปเข้าที่ Opera house ซึ่งเดินไปไม่ไกล อยู่ด้านหลัง Oslo S. และไม่เสียตังค์ค่ะ
วันต่อมาหนูถิ่นก็ออกแต่เช้าอีก แต่วันนี้หนูถิ่นมีตั๋ว one day pass ใช้ได้ภายใน 24 ชั่วโมง นั่งรถบัส รถไฟ รถรางได้ทุกอย่าง ในราคา Nok 108
ตอนเช้านั่งรถไฟใต้ดินจาก Nationaltheatret มาลงที่ Oslo S. มาหาอาหารเช้าทานที่ Oslo S. และเดินเล่นไปเรื่อย ๆ ที่ Opera house , Oslo Cathedral หลังจากนั้นนั่งรถรางสายอะไรจำไม่ได้ล่ะไปที่ Vigeland park ถ้าจะไปไหนแล้วไปไม่ถูก ให้ไปถามที่ Oslo visitor centre เขาจะแนะนำให้ทุกอย่าง พอไปถึงที่ Vigeland park ฟ้าก็สว่างพอดี ถ่ายรูปได้สวย ไปเช้า ๆ แบบนี้ ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมามาก ๆ ถ่ายรูปได้คนไม่เยอะ
ออกจากที่ Vigeland park หนูถิ่นก็ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์อีก 3 แห่ง นั่งรถบัสไปค่ะ มี Norsk Folkemuseum , Viking ship museum และ Fram museum ทั้ง 3 แห่งนี้จะอยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ อันที่จริงยังมีอีกหลายพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในบริเวณนี้ แต่ไม่มีเวลาเดินเที่ยวแล้ว เลยเดินได้แค่ 3 พิพิธภัณฑ์เท่านั้น หมดเวลาไปอีก 1 วันค่ะ ออสโลจึงเที่ยวได้แค่นี้ บอกตามตรงว่ายังเดินไม่ค่อยทั่วเลย จะหาโอกาสไปอีก ตอนเดินกลับที่พักแวะดินเนอร์ที่ Aker Brygg แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมืดแล้วและหนาวด้วยค่ะ
Big Tiger ด้านหน้า Oslo S.
ด้านใน Oslo S.
Opera House
National Theater
Stortinget (Norwegian Parliament)
Winterland Christmas market
Vigeland park
Norsk Folkemuseum
Fram museum
Dinner at Aker Brygg