สมัยที่ยังใช้ม้าอยู่นั่น มีวิธีรับมือทหารม้ายังไงในแต่ละยุคบ้างครับ?

เอาเท่าที่ผมรู้ เท่าที่ผมเข้าใจก่อนนะครับ   
    สมัยก่อนช่วงยุคกรีก โรมัน บทบาททหารม้ามีอยู่ แม้ว่าจะไม่มีโกลเหยียบเหมือนจีน อย่าง กองทัพม้าปาเธียน ที่สวมเกราะทั้งคน ทั้งม้า แถมยังละลาย กองทัพโรมัน ที่นำโดย แม่ทัพแครสซุส แม้ว่าช่วงนั้นจะไม่ใช่ช่วงที่รุ่งเรืองของโรมัน และ ตัวแม่ทัพเองก็วางแผนการรบผิดพลาดก็เถอะ (แครสซุส นี้ใช่คนที่ทำหน้าที่ไล่ล่า สปาต้าคัส ทาสนักสู้คนนั้นรึเปล่าครับสงสัย?) เห็นเคยอ่าน เว็บ คู่ศึกสะท้านโลก จักรวรรดิโรมันปะทะจักรวรรดิฮั่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้  มีคนหนึ่งเขียนว่า มีบันทึกที่กองพลทหารราบโรมันสามารถตั้งรับการชาร์จของกองทหารม้าหนักซามาร์เธียนได้สำเร็จ เมื่อครั้งที่โรมันทำศึกกับพวกดาเซียน พันธมิตรของซามาร์เธียน นั่นแสดงว่า กองทหารโรมันในยุครุ่งเรืองที่สุด น่าจะแข็งแกร่งพอต้านทานขบวนทหารม้าหนักได้ระดับหนึ่ง ไม่ทราบว่าตรงจุดนี้เป็นเพราะภูมิประเทศที่เป็นต่อ หรือเป็นเพราะกองทัพโรมันใช้กระบวนทัพอะไรครับ

    ต่อมาช่วงที่ยุโรปนำโกลนเข้า ไม่รู้ตอนช่วงไหน แม้ว่า โกลนม้านี่จะดูพื้นๆ แต่ก็เป็นจุดเปลี่ยที่สำคัญ เหมือนกับคันธนูมองโกลที่เป็นธนูผสมก็มิปาน ทหารม้าเริ่มมีบทบาทมากขึ้น และทางยุโรปก็พัฒนาอุปกรณ์ที่ไว้ต่อกรกับทหารบนหลังม้า พร้อมสวมชุดเกราะอัศวิน โดยมีวิธีรับมือ คือ การรวมกลุ่มกันเป็นก้อน ถือหอกยาว (pike) หรือไม่ก็ใช้หอกขวาน (halberd) ที่สามารถแทง เกี่ยว ลากทหารม้าอัศวินลงมาทหารราบแบบนี้จะมีการยืนเรียงกันแบบกองทัพกรีกโบราณ เพื่อมาสู้กับทหารม้าอัศวินผู้ถือหอกยักษ์ (Lance) ที่น่าเกรงขาม ผู้ซึ่งต่อสู้ด้วยการรวมกลุ่มกับอัศวินคนอื่น ๆ แล้วพุ่งเข้าชน (charge) กองทัพฝ่ายตรงข้ามผลคือ กองทัพทหารราบชนะได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับการมาของปืน และปืนใหญ่ ทำให้ต่อมากองทัพทหารม้าสวมเกราะอัศวินเสื่อม และถูกลดบทบาท

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



   ยุคประมาณ ซาร์ปีเตอร์มหาราช เฟรดเดอนิก และนโปเลียน
   ยุคนี้บทบาททหารม้าถูกทำหน้าที่แทนปะทะซึ่งๆ ม้าด้วยทหารม้าก่อน กลายเป็นแต่เดิมเป็นกองหน้าปะทะ เปลี่ยนเป็นกองลาดตระเวน กองทัพเคลื่อนที่เร็ว ไม่ก็ค่อยโจมตีฉาบฉวงแทน ในยุคปีเตอร์แห่งรัสเซีย หรือ เฟรดเดอนิก เป็นยุคที่ทหาราบเปลี่ยไปใส่ชุดสีสันเด่น พร้อมแบกปืนคาบศิลาแทนดาบ หอกยาว แต่ในช่วงนี้ยังมีปัญหาอยู่ เนื่องจากยุคที่ใช้ปืนคาบศิลานั่นดาบปลายปืนยังเป็นแบบต้องใส่ลงในปากกระบอกปืนทำให้ประสิทธิภาพของปืนคาบศิลาหมดไปเลย วิธีที่พวกเขารับมือในกรณีปกติทหารม้าจะไม่โจมตีทันที แต่จะตีหลังจากทัพอีกฝ่ายเริ่มแตกแถว ไม่ก็แถวแตกไปแล้ว ซึ่งหน้าที่นี้เป็นของทหารม้าที่เปลี่ยนจากการใส่เกราะเป็นการสวมชุดผ้าเบาๆ แทนเพื่อความคล่องตัว และรวดเร็วในการรบ และการโจมตีแบบฉาบฉวง แต่ในกรณีที่ทหารม้าพุ่งใส่โจมตีโดยตรง  พวกเขาจะรับมือด้วยกระบวนทัพสี่เหลี่ยมจตุรัสที่ทหารทุกคนรวมกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ ต่างคนต่างหันกระบอกปืนไปทุกทิศ นับเป็นกลยุทธ์วิธีที่รับมือทหารม้าได้ดีมาก แต่ก็มีจุดด้อยคือ กระบวนทัพสี่เหลี่ยมนี่ต้องใช้ทหารที่มีระเบียบวินัยในระดับหนึ่ง หรือสูง ถึงจะสามารถจัดแถวได้ ซึ่งก็ช้า และไม่สามารถจัดได้ทุกสภาพพื้นที่
เช่น ไอแซนด์ลวานา สงครามระหว่างอังกฤษ กับซูลู กองทัพอังกฤษตั้งขบวนแนวรบรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อรับศึก ทว่าความกะทันหันของเหตุการณ์ที่พวกซูลูเข้าตีอย่างรวดเร็วประกอบกับสภาพขรุขระของพื้นที่ทำให้การจัดขบวนทำได้ลำบาก
จะเห็นได้ว่าการตั้งกระบวนทัพนี่ต้องใช้เวลาอยู่พอควร ดังนั้นมีโอกาศที่ทหารม้าจะพุ่งใส่ละลายทัพก่อนที่จะตั้งขบวนเสร็จเสียอีก ถ้ากะจังหวะตั้งไม่ถูก แถมกระบวนทัพนี้ก็ต้องหยุดอยู่กับที่เคลื่อนไหวไม่ได้ เป็นเป้าล้อให้ปืนใหญ่ และจะเสียเปรียบถ้าหากถูกอีกฝ่ายใช้แถวหน้ากระดานยิงใส่ เพราะขนวนนี้แม้จะยิงได้ทุกมุม แต่ไม่มีประสิทธิภาพในการยิงใส่ทหารที่อยู่กันเป็นแถวยาวได้ แถมดาบปลายปืนต้องยัดใส่ในปากกระบอกปืนทำให้มันไม่แตกต่างอะไรกับหอกสั้นๆ แค่นั้น

หนัง waterloo 1970 กองทัพทหารม้าฝรั่งเศสนำโดยจอมพลเนร์ แต่ถูกกระบวนทัพสี่เหลี่ยมสกัดทำอะไรไม่ได้เลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



  ในยุคนโปเลียปืนคาบศิลาตรงดาบปลายปืนเปลี่ยนเป็นแบบติดเงื้องๆ ออกจากปืนอย่างที่เห็นในหนัง ซึ่งเป็นการพร้อมประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็มีบางศึกที่กองทัพทหารม้าฝรั่งเศสพุ่งเข้าชาร์ตทัพข้าศึกตรงๆ ในกระบวนทัพแถวหน้ากระบาน พุ่งใส่ตรงแถวหน้ากระดานแตกได้ อย่าง Bataille d'Eylau [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


   หลังจากนั้นจนถึงช่วงที่มีการสร้างปืนกลบทบาทของทหารม้าถูกลดลงอย่างมาก ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากเป็นพาหนะคอยลากเกวียน ปืนใหญ่ อะไรทำนองนี้
หนังม้าศึกจารึกโลก
  คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


  แต่ก็มีบางศึกที่ทหารม้ายังชนะปืนกลได้ ตรงนี้น่าจะเป็นจากเทคโนโลยีปืนกลที่ไม่ได้ไปไกลมาก เนื่องจากยังต้องใช้น้ำในการระบายความร้อน กับปืนกลแบบพกได้บางรุ่นเป็นแบบป้อนกระสุนแบบเปิดซึ่งทำให้กระสุนเปื้อนดิน โคลนทำให้ติดขัดได้
The Lighthorsemen (1987)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


   ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงมีอยู่ เช่นโปแลนด์ อิตาลี รัสเซีย รวมถึงเยอรมันแต่จะทำหน้าที่ในการขนส่ง ลากเกวียน และอื่นๆ มากขึ้นไม่มีบทบาทการต่อสู้มากนัก เท่าที่เจอมีแค่
    อิตาลี : วีรกรรมที่กล้าหาญที่แปลกกว่าทหารชาติอื่นตอนสงครามโลกคงเป็นการรบในสตาลินกราด กองทหารม้าอิตาเลี่ยน 700 เข้าชาร์ตทหารโซเวียต 2,000 นาย และตีทหารโซเวียตแตกยับเยินโดยทหารม้าส่วนใหญ่ใช้ดาบและระเบิดมือ ทหารม้าอิตาเลี่ยนตาย 32 นาย ทหารโซเวียตตาย 150 นาย ยอมแพ้ 600 เป็นการโจมตีครั้งท้ายๆของทหารม้าที่ประสบความสำเร็จ ส่วนครั้งสุดท้ายที่การชาร์จของทหารม้าสำเร็จคือทหารม้าโปแลนด์ตีแนวทหารเยอรมันแตก เดือนท้ายๆของสงครามโลก ข้อมูลนี้มาจากกระทู้ อยากทราบครับว่ามีศึกครั้งไหนที่อิตาลีชนะแบบจริงจังด้วยตนเองตั้งแต่รวมประเทศมา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้  ที่คุณ สมาชิกหมายเลข 776044 ตอบไว้   ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่า
   ตรงของโปแลนด์น่าเศร้าหน่อย มีบันทึกที่น่าเศร้าว่า กองทหารของโปแลนด์ชนิดนี้ได้รบในสงครามโลกครั้งที่2 โดยได้เข้าจู่โจมรถถังเยอรมันหุ้มเกราะ  และในบันทึกเขียนไว้ว่า     "ภายในไม่กี่นาที กองทหารทั้งกองทัพก็ล้มด้าวดิ้นลงในกองควัน เสียงครวญครางดังระงม ตับไตใส้พุงเกลื่อนกลาด" ข้อมูลจาก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ที่ผมเขียนอธิบายไปคือเรื่องที่ผมเข้าใจ และรู้จากการอ่านเว็บต่างๆ ซึ่งอาจผิดถูกประการใดช่วยอธิบาย และชี้แนะด้วยครับ กราบพระคุณอย่างสูงสำหรับคนที่เข้ามาอ่านทุกท่านครับ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่