ผมสนใจในการทำธุรกิจ เลยศึกษาตาม สใตล์ เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์
แต่มีคำพูดหนึ่งผมไม่เข้าใจครับ ตอนที่ ท่านเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ พูดว่า
หรือแม้แต่เรื่องการเกษตร เจ้าสัวธนินท์บอกว่ามีคนเข้าใจผิดว่าการเกษตรไม่ต้องใช้เทคโนโลยี แต่ความจริงยิ่งเกษตรกรมีความรู้น้อย ยิ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสูง “เมื่อ 40 ปีก่อน ผมส่งเสริมเลี้ยงไก่ 10,000 ตัว เกษตรกรไม่เคยเลี้ยงไก่ แต่พอเอาไก่ไปให้เลี้ยง พวกเขาเลี้ยงได้ ผมถามว่าเหนื่อยหรือไม่ พวกเขาบอกว่าเลี้ยงติดต่อกัน 16 ชั่วโมงยังไม่เหนื่อยเลย เพราะว่าเลี้ยงไก่ในร่ม ผมมีพัดลมให้ด้วย ทำให้เกษตรกรทำงานได้นานและไม่เหนื่อย เหมือนกับกล้องถ่ายรูป ผู้ผลิตผลิตด้วยเทคโนโลยี คนใช้กดอย่างเดียว ภาพออกมาอย่างกับช่างภาพที่เชี่ยวชาญ”
ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรประสบความสำเร็จก็ต้องใส่เทคโนโลยีเข้าไป “เกษตรกรไทยทุกวันนี้ 1 คนสามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ 150,000 ตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ตกใจของเมืองจีน จนมีคำถามตามมาว่าถ้าคนหนึ่งเลี้ยงไก่ไข่ได้มากขนาดนั้น เกษตรกรที่เหลือต้องตกงานแน่นอน ผมตอบว่าถ้าทำได้อย่างนี้จะมีเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่ากว่าๆ เพราะซีพีไม่ได้ส่งคนไปดูแลไก่ทุกคน แต่ส่งเข้าโรงงาน ส่งคนไปขับรถ ส่งคนไปขายไก่ย่าง 5 ดาว ดังนั้นต้นทุนจากการเลี้ยงไก่ต่ำ ก็จะทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไปได้ และฉุดกันขึ้นมา เมื่ออุตสาหกรรมเกษตรดีก็จะไปฉุดอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามขึ้นมา ดังนั้นคนที่เหลือที่มาเป็นคนงานและพนักงาน ย่อมจะมีรายได้สูงกว่าเกษตรกร” ธนินท์กล่าว
และท่อนที่สงสัยคือ
จนมีคำถามตามมาว่าถ้าคนหนึ่งเลี้ยงไก่ไข่ได้มากขนาดนั้น เกษตรกรที่เหลือต้องตกงานแน่นอน ผมตอบว่าถ้าทำได้อย่างนี้จะมีเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่ากว่าๆ เพราะซีพีไม่ได้ส่งคนไปดูแลไก่ทุกคน แต่ส่งเข้าโรงงาน ส่งคนไปขับรถ ส่งคนไปขายไก่ย่าง 5 ดาว ดังนั้นต้นทุนจากการเลี้ยงไก่ต่ำ ก็จะทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไปได้ และฉุดกันขึ้นมา เมื่ออุตสาหกรรมเกษตรดีก็จะไปฉุดอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามขึ้นมา ดังนั้นคนที่เหลือที่มาเป็นคนงานและพนักงาน ย่อมจะมีรายได้สูงกว่าเกษตรกร” ธนินท์กล่าว
เจ้าสัว ธนินท์ กล่าวว่า จะมีเกษตรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า นั้นเพิ่มยังไงครับ ในเมื่อ ถูกลดลงแค่ 1 คนเลี้ยงไก่ไข่ ได้ 150,000 ตัว
จำนวนคนก็ต้องลดลงใช่ใหมครับ
ไม่ทราบว่าเพิ่มอย่างไรครับ ท่านใดพอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยครับ ขอบคุณมากๆๆครับ
ที่มา
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=640018
ช่วยอธิบาย คำนี้ของ เจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ ให้หน่อยครับ
แต่มีคำพูดหนึ่งผมไม่เข้าใจครับ ตอนที่ ท่านเจ้าสัว ธนินท์ เจียรวนนท์ พูดว่า
หรือแม้แต่เรื่องการเกษตร เจ้าสัวธนินท์บอกว่ามีคนเข้าใจผิดว่าการเกษตรไม่ต้องใช้เทคโนโลยี แต่ความจริงยิ่งเกษตรกรมีความรู้น้อย ยิ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสูง “เมื่อ 40 ปีก่อน ผมส่งเสริมเลี้ยงไก่ 10,000 ตัว เกษตรกรไม่เคยเลี้ยงไก่ แต่พอเอาไก่ไปให้เลี้ยง พวกเขาเลี้ยงได้ ผมถามว่าเหนื่อยหรือไม่ พวกเขาบอกว่าเลี้ยงติดต่อกัน 16 ชั่วโมงยังไม่เหนื่อยเลย เพราะว่าเลี้ยงไก่ในร่ม ผมมีพัดลมให้ด้วย ทำให้เกษตรกรทำงานได้นานและไม่เหนื่อย เหมือนกับกล้องถ่ายรูป ผู้ผลิตผลิตด้วยเทคโนโลยี คนใช้กดอย่างเดียว ภาพออกมาอย่างกับช่างภาพที่เชี่ยวชาญ”
ดังนั้น เพื่อให้เกษตรกรประสบความสำเร็จก็ต้องใส่เทคโนโลยีเข้าไป “เกษตรกรไทยทุกวันนี้ 1 คนสามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ 150,000 ตัว ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่ตกใจของเมืองจีน จนมีคำถามตามมาว่าถ้าคนหนึ่งเลี้ยงไก่ไข่ได้มากขนาดนั้น เกษตรกรที่เหลือต้องตกงานแน่นอน ผมตอบว่าถ้าทำได้อย่างนี้จะมีเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่ากว่าๆ เพราะซีพีไม่ได้ส่งคนไปดูแลไก่ทุกคน แต่ส่งเข้าโรงงาน ส่งคนไปขับรถ ส่งคนไปขายไก่ย่าง 5 ดาว ดังนั้นต้นทุนจากการเลี้ยงไก่ต่ำ ก็จะทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไปได้ และฉุดกันขึ้นมา เมื่ออุตสาหกรรมเกษตรดีก็จะไปฉุดอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามขึ้นมา ดังนั้นคนที่เหลือที่มาเป็นคนงานและพนักงาน ย่อมจะมีรายได้สูงกว่าเกษตรกร” ธนินท์กล่าว
และท่อนที่สงสัยคือ จนมีคำถามตามมาว่าถ้าคนหนึ่งเลี้ยงไก่ไข่ได้มากขนาดนั้น เกษตรกรที่เหลือต้องตกงานแน่นอน ผมตอบว่าถ้าทำได้อย่างนี้จะมีเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่ากว่าๆ เพราะซีพีไม่ได้ส่งคนไปดูแลไก่ทุกคน แต่ส่งเข้าโรงงาน ส่งคนไปขับรถ ส่งคนไปขายไก่ย่าง 5 ดาว ดังนั้นต้นทุนจากการเลี้ยงไก่ต่ำ ก็จะทำให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องไปได้ และฉุดกันขึ้นมา เมื่ออุตสาหกรรมเกษตรดีก็จะไปฉุดอุตสาหกรรมอื่นๆ ตามขึ้นมา ดังนั้นคนที่เหลือที่มาเป็นคนงานและพนักงาน ย่อมจะมีรายได้สูงกว่าเกษตรกร” ธนินท์กล่าว
เจ้าสัว ธนินท์ กล่าวว่า จะมีเกษตรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า นั้นเพิ่มยังไงครับ ในเมื่อ ถูกลดลงแค่ 1 คนเลี้ยงไก่ไข่ ได้ 150,000 ตัว
จำนวนคนก็ต้องลดลงใช่ใหมครับ
ไม่ทราบว่าเพิ่มอย่างไรครับ ท่านใดพอธิบายให้ผมเข้าใจหน่อยครับ ขอบคุณมากๆๆครับ
ที่มา
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=640018