เราตกงานอยู่ แต่เราก็ยังเลือกงาน มีบริษัทหลายแห่งโทรมานัดสัมภาษณ์งาน แต่เราก็ปฏิเสธไปหลายที่ ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น
1. ต้องทำงานวันเสาร์ด้วย ได้หยุดสัปดาห์ละ 1 วัน
เราเคยทำงานที่มีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วันมาก่อน บางงานหยุดเดือนละ 2 วันด้วยซ้ำ แต่งานล่าสุดที่เคยทำมา เราได้หยุดสัปดาห์ละ 2 วัน มันจึงยากมากถ้าจะให้เราต้องกลับไปทำงานที่ได้หยุดสัปดาห์ละ 1 วันอีก เพราะขนาดวันหยุด 2 วันเรายังรู้สึกว่ามันน้อยเลย สำหรับลูกจ้างนะ (เพราะเราจะสมัครเป็นลูกจ้าง ไม่ใช่นายจ้าง) และจากที่เราดูๆมา งานที่ได้หยุดสัปดาห์ละ 1 วัน เงินเดือนไม่ได้มากไปกว่างานที่หยุดสัปดาห์ละ 2 วันเลย แล้วทำไมเราจะต้องทำงานให้ฟรี 1 วัน แถมต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มอีก 1 วันล่ะจริงไหม บางทีเราอยากเรียนต่อ ซึ่งมันก็ต้องเป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ (บางทีเราเผลอไปสมัครงานในที่ๆ มีวันหยุด 1 วัน เพราะเขาไม่ได้ระบุไว้ในเว็บว่าหยุด 1 วัน เราก็เลยคิดไปเองว่าคงหยุด 2 วัน)
2. การเดินทางไม่สะดวก
ปกติเราจะไม่สมัครงานที่เดินทางลำบากอยู่แล้ว (ยกเว้นบริษัทดังๆ) แต่บริษัทบางแห่งไปเอาประวัติเรามาจากเว็บหางานมั้ง แล้วก็ติดต่อเราให้ไปสัมภาษณ์ โดยที่เราไม่ได้สมัครงานไว้ สำหรับเราที่เพิ่งอยู่ กทม. ได้ปีกว่าๆ และไม่มีรถส่วนตัว การเดินทางที่สะดวกสำหรับเราคือ BTS, MRT แต่ถ้าบริษัทนั้นต้องนั่งรถเมล์ไป ถ้ามันอยู่ใกล้ที่พักเราก็โอเค แต่ถ้าไม่อยู่ใกล้ที่พัก เราไม่โอเค เพราะเราไม่ไว้ใจสภาพถนนช่วงเช้า กรุงเทพช่วงเช้ารถติดมาก กะเวลาเดินทางไม่ถูก อาจต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ ซึ่งมันก็เสียเวลาเรา บางงานเดินทางด้วย BTS แล้วต้องไปต่อ MRT อีก ทำให้มีค่าใช้จ่ายเดินทางเพิ่ม เราก็จะพิจารณาก่อนว่ามันมีค่าใช้จ่ายเยอะแค่ไหน ถ้าเทียบกับเงินเดือนแล้วไม่คุ้ม เราก็ไม่เอา กลับกัน...ถ้าเดินทางลำบากหน่อย แต่เงินเดือนดี เทียบกันแล้วคุ้มค่า ก็ค่อยน่าพิจารณาหน่อย เราอาจยอมย้ายหอพักไปอยู่ใกล้ๆที่ทำงานก็ได้ แต่คงต้องเป็นช่วงหลังจากที่ทำงานไปสักระยะจนเราตัดสินใจจะทำต่อไปนานๆ เพราะการจะย้ายหอมันไม่ใช่เรื่องง่าย หอพักก็หายาก แถมหอหลายที่ต้องจ่ายเงินประกันว่าต้องอยู่อย่างน้อย...เดือน จึงจะได้เงินประกันคืน
3. เงินเดือนน้อย
อันนี้เราเอาไว้เป็นปัจจัยรอง เพราะเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก (แต่มันก็สำคัญ) ขอแค่เงินเดือนไม่น้อยกว่าที่ๆทำมาก่อนหน้านี้ก็โอเคแล้ว และก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ 1.-2. ด้วย (แต่ถ้าเป็นงานที่เราอยากทำจริง ถ้าเงินเดือนจะน้อยลงนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร) เรามักไม่รู้ล่วงหน้าว่าแต่ละที่ให้เงินเดือนเท่าไหร่ ขนาดบางที่ไปสัมภาษณ์งานแล้ว ฝ่ายบุคคลก็ยังบอกไม่ได้เลยว่าเงินเดือนเท่าไหร่
4. สภาพของที่ทำงาน
ด้วยความที่เราหางานในเว็บ บริษัทหลายแห่งเรายังเคยเห็นหน้าตาของสถานที่ทำงานมาก่อน พอเดินทางไปสัมภาษณ์ ได้เห็นสถานที่แล้วแบบว่า บอกตรงๆว่าบางที่ดูทรุดโทรม ดูโกโรโกโส ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนบริษัท ดูแล้วไม่ค่อยน่าเข้าไป (ไม่นับบริษัทที่อยู่ในอาคารเช่าสำนักงานนะ อันนั้นยังดูดี) เราก็จะไม่เลือก เพราะเราคิดว่าความรู้สึกรักและภาคภูมิใจในตัวองค์กร มันมีผลต่อการทำงาน
จริงๆ มันมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น ลักษณะงาน ถ้าเราชอบทำงานเอกสาร เราก็จะไม่สมัครงานที่ต้องขายของหรือพูดจาโน้มน้าวคน , เราชอบงานที่เลิกงานเป็นเวลา เราก็จะไม่สมัครงานที่ต้องเข้ากะ เราก็รู้สึกนะว่าเราน่ะเรื่องมาก สร้างเงื่อนไขขึ้นมาเยอะ ไม่ใช่คิดว่าตัวเองเก่งเลือกได้ (เพราะถึงไม่เก่งก็เลือกอยู่ดี) แต่ก็เป็นเพราะเราอยากเลือกที่ๆดีที่สุดสำหรับเรา เราไม่ได้คิดว่าเราจะเข้าไปทำงานที่ใดที่หนึ่งเพียงแค่แป๊บเดียวแล้วจากไป เราทำงานที่ใด เราก็อยากจะอยู่ไปนานๆ (แม้ว่าจริงๆแล้วเราจะยังไม่เคยอยู่ที่ใดได้นานๆเลยสักครั้งก็ตาม ลาออกเพราะปัญหาเรื่องคนตลอด)
อยากรู้ว่าคนอื่นๆ เป็นไงบ้าง เลือกเยอะเหมือนเราไหม
เวลาคุณตกงาน คุณยังเลือกงานไหม แล้วเลือกงานจากปัจจัยใดบ้าง
1. ต้องทำงานวันเสาร์ด้วย ได้หยุดสัปดาห์ละ 1 วัน
เราเคยทำงานที่มีวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วันมาก่อน บางงานหยุดเดือนละ 2 วันด้วยซ้ำ แต่งานล่าสุดที่เคยทำมา เราได้หยุดสัปดาห์ละ 2 วัน มันจึงยากมากถ้าจะให้เราต้องกลับไปทำงานที่ได้หยุดสัปดาห์ละ 1 วันอีก เพราะขนาดวันหยุด 2 วันเรายังรู้สึกว่ามันน้อยเลย สำหรับลูกจ้างนะ (เพราะเราจะสมัครเป็นลูกจ้าง ไม่ใช่นายจ้าง) และจากที่เราดูๆมา งานที่ได้หยุดสัปดาห์ละ 1 วัน เงินเดือนไม่ได้มากไปกว่างานที่หยุดสัปดาห์ละ 2 วันเลย แล้วทำไมเราจะต้องทำงานให้ฟรี 1 วัน แถมต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มอีก 1 วันล่ะจริงไหม บางทีเราอยากเรียนต่อ ซึ่งมันก็ต้องเป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ (บางทีเราเผลอไปสมัครงานในที่ๆ มีวันหยุด 1 วัน เพราะเขาไม่ได้ระบุไว้ในเว็บว่าหยุด 1 วัน เราก็เลยคิดไปเองว่าคงหยุด 2 วัน)
2. การเดินทางไม่สะดวก
ปกติเราจะไม่สมัครงานที่เดินทางลำบากอยู่แล้ว (ยกเว้นบริษัทดังๆ) แต่บริษัทบางแห่งไปเอาประวัติเรามาจากเว็บหางานมั้ง แล้วก็ติดต่อเราให้ไปสัมภาษณ์ โดยที่เราไม่ได้สมัครงานไว้ สำหรับเราที่เพิ่งอยู่ กทม. ได้ปีกว่าๆ และไม่มีรถส่วนตัว การเดินทางที่สะดวกสำหรับเราคือ BTS, MRT แต่ถ้าบริษัทนั้นต้องนั่งรถเมล์ไป ถ้ามันอยู่ใกล้ที่พักเราก็โอเค แต่ถ้าไม่อยู่ใกล้ที่พัก เราไม่โอเค เพราะเราไม่ไว้ใจสภาพถนนช่วงเช้า กรุงเทพช่วงเช้ารถติดมาก กะเวลาเดินทางไม่ถูก อาจต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆ ซึ่งมันก็เสียเวลาเรา บางงานเดินทางด้วย BTS แล้วต้องไปต่อ MRT อีก ทำให้มีค่าใช้จ่ายเดินทางเพิ่ม เราก็จะพิจารณาก่อนว่ามันมีค่าใช้จ่ายเยอะแค่ไหน ถ้าเทียบกับเงินเดือนแล้วไม่คุ้ม เราก็ไม่เอา กลับกัน...ถ้าเดินทางลำบากหน่อย แต่เงินเดือนดี เทียบกันแล้วคุ้มค่า ก็ค่อยน่าพิจารณาหน่อย เราอาจยอมย้ายหอพักไปอยู่ใกล้ๆที่ทำงานก็ได้ แต่คงต้องเป็นช่วงหลังจากที่ทำงานไปสักระยะจนเราตัดสินใจจะทำต่อไปนานๆ เพราะการจะย้ายหอมันไม่ใช่เรื่องง่าย หอพักก็หายาก แถมหอหลายที่ต้องจ่ายเงินประกันว่าต้องอยู่อย่างน้อย...เดือน จึงจะได้เงินประกันคืน
3. เงินเดือนน้อย
อันนี้เราเอาไว้เป็นปัจจัยรอง เพราะเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก (แต่มันก็สำคัญ) ขอแค่เงินเดือนไม่น้อยกว่าที่ๆทำมาก่อนหน้านี้ก็โอเคแล้ว และก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ 1.-2. ด้วย (แต่ถ้าเป็นงานที่เราอยากทำจริง ถ้าเงินเดือนจะน้อยลงนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร) เรามักไม่รู้ล่วงหน้าว่าแต่ละที่ให้เงินเดือนเท่าไหร่ ขนาดบางที่ไปสัมภาษณ์งานแล้ว ฝ่ายบุคคลก็ยังบอกไม่ได้เลยว่าเงินเดือนเท่าไหร่
4. สภาพของที่ทำงาน
ด้วยความที่เราหางานในเว็บ บริษัทหลายแห่งเรายังเคยเห็นหน้าตาของสถานที่ทำงานมาก่อน พอเดินทางไปสัมภาษณ์ ได้เห็นสถานที่แล้วแบบว่า บอกตรงๆว่าบางที่ดูทรุดโทรม ดูโกโรโกโส ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนบริษัท ดูแล้วไม่ค่อยน่าเข้าไป (ไม่นับบริษัทที่อยู่ในอาคารเช่าสำนักงานนะ อันนั้นยังดูดี) เราก็จะไม่เลือก เพราะเราคิดว่าความรู้สึกรักและภาคภูมิใจในตัวองค์กร มันมีผลต่อการทำงาน
จริงๆ มันมีปัจจัยอื่นด้วย เช่น ลักษณะงาน ถ้าเราชอบทำงานเอกสาร เราก็จะไม่สมัครงานที่ต้องขายของหรือพูดจาโน้มน้าวคน , เราชอบงานที่เลิกงานเป็นเวลา เราก็จะไม่สมัครงานที่ต้องเข้ากะ เราก็รู้สึกนะว่าเราน่ะเรื่องมาก สร้างเงื่อนไขขึ้นมาเยอะ ไม่ใช่คิดว่าตัวเองเก่งเลือกได้ (เพราะถึงไม่เก่งก็เลือกอยู่ดี) แต่ก็เป็นเพราะเราอยากเลือกที่ๆดีที่สุดสำหรับเรา เราไม่ได้คิดว่าเราจะเข้าไปทำงานที่ใดที่หนึ่งเพียงแค่แป๊บเดียวแล้วจากไป เราทำงานที่ใด เราก็อยากจะอยู่ไปนานๆ (แม้ว่าจริงๆแล้วเราจะยังไม่เคยอยู่ที่ใดได้นานๆเลยสักครั้งก็ตาม ลาออกเพราะปัญหาเรื่องคนตลอด)
อยากรู้ว่าคนอื่นๆ เป็นไงบ้าง เลือกเยอะเหมือนเราไหม