เมื่อก่อนเรามีเพื่อนอยู่มากมายหลายรูปแบบมาก
เราตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะว่าเราเป็นคนชอบดูอะนิเมะญี่ปุ่น แต่เป็นพวกโคนัน วันพีชนะ สายโชเน็น ไม่ใช่สายอื่นที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา เพื่อนเราคนนั้นมันก็ว่า "หน้าตาก็ไม่ให้แล้วยังจะเรียน" เราก็คิดในใจ "หน้าไม่ให้แล้วไงว่ะ ไม่ได้ใช้หน้าตาเรียนสักหน่อย กูชอบของกูอ่ะ กูใช้สมองเรียน" แล้วเราก็เรียนไปค่ะ ไม่ได้สนใจคำพูดที่เพื่อนว่าสักเท่าไร ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กม.ปลายโลกสวยอยู่นะคะ
ในห้องเรียนก็นะ มีพวกคลั่งยุ่นคาวาอี้บ้าง มีพวกที่ไปเรียนเพื่อพักผ่อนบ้าง (แอบหลับ เพราะเซนเซใจดี) มีพวกโดดเรียนบ้าง แล้วก็มีพวกเข้าไปนั่งวาดรูป แล้วก็เพ้อเจ้อ ไม่ได้สนใจตำรา พาตัวเองไปอยู่ใรโลกของจินตนาการบ้างนะคะ (เรา)
แล้วก็มีเพื่อนอีกประเภท "เรียนทำไมว่ะ ยุ่น พวกยุ่นแม่ng...บลาๆๆๆๆ(ขอไม่บอกถึงรายละเอียด เอาเป็นว่าด้านลบ แต่ซึ่งมันก็เป็นความจริงส่วนหนึ่ง)" เราก็อธิบายไปว่า "กูเรียนยุ่นไม่ใช่เพราะกูชอบคนยุ่นนะเว้ย ที่กูเรียนเพราะกูชอบภาษา" แต่สุดท้ายตัวเพื่อนคนนั้นเองก็สารภาพมาว่า "ก็เคยไปเรียนยุ่นมาแล้วเหมือนกัน แต่สมองไม่ไป เรียนไม่รู้เรื่อง"
แล้วก็มีเพื่อนอีกประเภท "คนจริงเขาทำ เขาไม่เอาแต่พูดหรอกโว้ย"
เราก็งงอีกแล้ว กูพูดอะไรว่ะ? กูก็แค่เพ้อเจ้อ วาดรูป แล้วก็เขียนอะไรเพ้อๆ ถึงดารายุ่น จินตนาการบลาๆ อยู่ในโลกของตัวเอง (เฟสบุค) ไม่ได้อ้างอิงถึงใครทั้งนั้นแล้วอยู่ๆ มาว่ากูได้ยังไงว่ะเนี่ย วาดรูปก็เพราะชอบวาดรูป จะวาดรูปออกมาสวยหรือไม่สวย ก็ไม่ได้ตั้งหลักเกณฑ์อะไรไว้ ก็แค่วาดออกมาจากใจ
จะให้สวยถูกใจเพื่อนประเภทนั้นก็คงไม่ได้ อีกอย่างสายตาคนเรา "ความสวยของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว" การที่คุณจะมาว่าคนอื่นว่าวาดรูปไม่สวย ในความเป็นจริงคุณมีความตั้งใจที่จะวาดเท่าเขาหรือป่าว?
ผลสุดท้าย เพื่อนคนนั้นเรียนจบออกมา ไม่มีงานทำ ลอยแพตัวเอง ใช้เงินแม่ไปวันๆ
พอถามว่าทำไมไม่ไปสมัครงาน คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่กล้า" ถ้าคุณไม่กล้า ก็อย่ามาว่าคนอื่น... การที่คนอื่นวาดรูป แล้วโดนคนอย่างคุณติว่าวาดไม่เห็นจะสวย แล้วเขายังกล้าวาดต่อนี่ เขามีความกล้าของเขาอยู่ในตัวเอง กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองต่อให้ใครมาว่าเขาก็ตาม จนถึงจุดนี้ เพื่อนคนนั้นก็ยังไม่เลิกติคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีอะไร
แล้วก็มีเพื่อนอีกประเภท "ดูถูกการแต่งตัวของคนอื่น"
เวลาเห็นใครแต่งตัวเป็นยังไงก็มีแต่วิจารณ์เขาไปเรื่อย...
คือ คุณรู้หรือไม่ การแต่งตัวมันก็เป็นสไตล์ของคนๆ นั้น การที่เขาจะแต่งตัวแบบไหน ถ้ามันไม่ได้โป๊จนน่าเกลียด หรือแก้ผ้า ก็ไม่น่าไปดูถูกเขา นี่คุณยกย่องคนที่การแต่งตัวเท่านั้นเหรอ แน่นอนว่าเฟิร์สอิมเพชชั่นที่ใครๆ ว่ามา มันอาจจะสำคัญ แต่ก็ไม่ควรใช้คำพูดน่าเกลียดๆ ดูถูกคนอื่น ถ้าเขาแต่งตัวขัดหูขัดตาขัดใจ ทำไมคุณไม่เดินไปบอกเขาล่ะว่า "แต่งตัวแบบนี้ดูไม่เหมาะสมกับตัวผู้ใส่" ทำไมต้องมาเหยียดด้วยคำหยาบๆ? การพูดถึงคนอื่นในด้านลบกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมนี้ไปแล้วเหรอ?
แล้วก็มีคนรักอีกประเภท ต่อให้เราทำผิดอะไรนิดอะไรหน่อย แค่เพียงนิดเดียว เขาก็จะว่าเรา ดูถูกเรา ติเรา ไม่มีแม้กระทั่งคำปลอบโยน คำปลอบใจ ไม่มีแม้กระทั่งมือที่คอยช่วยเหลือ ซ้ำยังกลับทำให้มันแย่ไปอีก...
ใครที่กำลังโดนคนอื่นดูถูกอยู่ ขอให้รับรู้ไว้เลยว่า "ถ้าคุณไม่สนใจคำที่คนอื่นเขาดูถูก มันก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับชีวิตของคุณมากนัก"
คนที่รักเราจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาจะยื่นมือเข้ามาช่วย เขาจะช่วยเราหาจุดบกพร่อง ช่วยเราปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามจนทำให้เรารู้สึกไม่ดี ขาดความมั่นใจในตัวเอง เขาจะพูดปลอบใจเรา
ระบายแค่นี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบ
คำดูถูกมันก็แค่คำพูดลอยๆ ไม่มีผลกระทบต่อจิตใจ (กระทู้ระบาย)
เราตั้งใจเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะว่าเราเป็นคนชอบดูอะนิเมะญี่ปุ่น แต่เป็นพวกโคนัน วันพีชนะ สายโชเน็น ไม่ใช่สายอื่นที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา เพื่อนเราคนนั้นมันก็ว่า "หน้าตาก็ไม่ให้แล้วยังจะเรียน" เราก็คิดในใจ "หน้าไม่ให้แล้วไงว่ะ ไม่ได้ใช้หน้าตาเรียนสักหน่อย กูชอบของกูอ่ะ กูใช้สมองเรียน" แล้วเราก็เรียนไปค่ะ ไม่ได้สนใจคำพูดที่เพื่อนว่าสักเท่าไร ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กม.ปลายโลกสวยอยู่นะคะ
ในห้องเรียนก็นะ มีพวกคลั่งยุ่นคาวาอี้บ้าง มีพวกที่ไปเรียนเพื่อพักผ่อนบ้าง (แอบหลับ เพราะเซนเซใจดี) มีพวกโดดเรียนบ้าง แล้วก็มีพวกเข้าไปนั่งวาดรูป แล้วก็เพ้อเจ้อ ไม่ได้สนใจตำรา พาตัวเองไปอยู่ใรโลกของจินตนาการบ้างนะคะ (เรา)
แล้วก็มีเพื่อนอีกประเภท "เรียนทำไมว่ะ ยุ่น พวกยุ่นแม่ng...บลาๆๆๆๆ(ขอไม่บอกถึงรายละเอียด เอาเป็นว่าด้านลบ แต่ซึ่งมันก็เป็นความจริงส่วนหนึ่ง)" เราก็อธิบายไปว่า "กูเรียนยุ่นไม่ใช่เพราะกูชอบคนยุ่นนะเว้ย ที่กูเรียนเพราะกูชอบภาษา" แต่สุดท้ายตัวเพื่อนคนนั้นเองก็สารภาพมาว่า "ก็เคยไปเรียนยุ่นมาแล้วเหมือนกัน แต่สมองไม่ไป เรียนไม่รู้เรื่อง"
แล้วก็มีเพื่อนอีกประเภท "คนจริงเขาทำ เขาไม่เอาแต่พูดหรอกโว้ย"
เราก็งงอีกแล้ว กูพูดอะไรว่ะ? กูก็แค่เพ้อเจ้อ วาดรูป แล้วก็เขียนอะไรเพ้อๆ ถึงดารายุ่น จินตนาการบลาๆ อยู่ในโลกของตัวเอง (เฟสบุค) ไม่ได้อ้างอิงถึงใครทั้งนั้นแล้วอยู่ๆ มาว่ากูได้ยังไงว่ะเนี่ย วาดรูปก็เพราะชอบวาดรูป จะวาดรูปออกมาสวยหรือไม่สวย ก็ไม่ได้ตั้งหลักเกณฑ์อะไรไว้ ก็แค่วาดออกมาจากใจ
จะให้สวยถูกใจเพื่อนประเภทนั้นก็คงไม่ได้ อีกอย่างสายตาคนเรา "ความสวยของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว" การที่คุณจะมาว่าคนอื่นว่าวาดรูปไม่สวย ในความเป็นจริงคุณมีความตั้งใจที่จะวาดเท่าเขาหรือป่าว?
ผลสุดท้าย เพื่อนคนนั้นเรียนจบออกมา ไม่มีงานทำ ลอยแพตัวเอง ใช้เงินแม่ไปวันๆ
พอถามว่าทำไมไม่ไปสมัครงาน คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่กล้า" ถ้าคุณไม่กล้า ก็อย่ามาว่าคนอื่น... การที่คนอื่นวาดรูป แล้วโดนคนอย่างคุณติว่าวาดไม่เห็นจะสวย แล้วเขายังกล้าวาดต่อนี่ เขามีความกล้าของเขาอยู่ในตัวเอง กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองต่อให้ใครมาว่าเขาก็ตาม จนถึงจุดนี้ เพื่อนคนนั้นก็ยังไม่เลิกติคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ดีอะไร
แล้วก็มีเพื่อนอีกประเภท "ดูถูกการแต่งตัวของคนอื่น"
เวลาเห็นใครแต่งตัวเป็นยังไงก็มีแต่วิจารณ์เขาไปเรื่อย...
คือ คุณรู้หรือไม่ การแต่งตัวมันก็เป็นสไตล์ของคนๆ นั้น การที่เขาจะแต่งตัวแบบไหน ถ้ามันไม่ได้โป๊จนน่าเกลียด หรือแก้ผ้า ก็ไม่น่าไปดูถูกเขา นี่คุณยกย่องคนที่การแต่งตัวเท่านั้นเหรอ แน่นอนว่าเฟิร์สอิมเพชชั่นที่ใครๆ ว่ามา มันอาจจะสำคัญ แต่ก็ไม่ควรใช้คำพูดน่าเกลียดๆ ดูถูกคนอื่น ถ้าเขาแต่งตัวขัดหูขัดตาขัดใจ ทำไมคุณไม่เดินไปบอกเขาล่ะว่า "แต่งตัวแบบนี้ดูไม่เหมาะสมกับตัวผู้ใส่" ทำไมต้องมาเหยียดด้วยคำหยาบๆ? การพูดถึงคนอื่นในด้านลบกลายเป็นเรื่องปกติในสังคมนี้ไปแล้วเหรอ?
แล้วก็มีคนรักอีกประเภท ต่อให้เราทำผิดอะไรนิดอะไรหน่อย แค่เพียงนิดเดียว เขาก็จะว่าเรา ดูถูกเรา ติเรา ไม่มีแม้กระทั่งคำปลอบโยน คำปลอบใจ ไม่มีแม้กระทั่งมือที่คอยช่วยเหลือ ซ้ำยังกลับทำให้มันแย่ไปอีก...
ใครที่กำลังโดนคนอื่นดูถูกอยู่ ขอให้รับรู้ไว้เลยว่า "ถ้าคุณไม่สนใจคำที่คนอื่นเขาดูถูก มันก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับชีวิตของคุณมากนัก"
คนที่รักเราจริงๆ ไม่เพียงแต่เขาจะยื่นมือเข้ามาช่วย เขาจะช่วยเราหาจุดบกพร่อง ช่วยเราปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ไม่ใช่คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามจนทำให้เรารู้สึกไม่ดี ขาดความมั่นใจในตัวเอง เขาจะพูดปลอบใจเรา
ระบายแค่นี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านจนจบ