สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะเล่าประสบการณ์การเยี่ยมญาติเเบบใกล้ชิดภายในเรือนจำมาเเบ่งปันค่ะ
ขออนุญาตเรียกตัวเองว่า เรา นะคะ กระทู้นี้ยาว และไม่มีรูปค่ะ เพราเราไม่สามารถถ่ายรูปจากข้างในมาได้ รูปส่วนมากจะมาจากอินเทอร์เนต อาจจะไม่เหมือนแป๊ะ เเต่ก็เค้าโครงได้ค่ะ เราอาจจะเขียนไม่สนุกเท่าไหร่นะคะ ดักไว้ก่อน555555
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมญาติแบบใกล้ชิดในเรือนจำค่ะ ขั้นตอนแรกก่อนที่เราจะได้เข้าไปเยี่ยมนักโทษภายในเรือนจำ เราต้อลงทะเบียนจองคิวก่อนค่ะ ว่าเราจะได้เขาเยี่ยมตอนไหน วันที่อะไร ตามระยะเวลาที่เค้ากำหนดให้ ทางเรือนจำเค้าจะมีเวลาที่เปิดให้เยี่ยมแบบใกล้ชิดวันที่ไหนเท่าไหร่ไม่เหมือนกันค่ะ
เมื่อเราลงทะเบียนเสร็จแล้วทางเรือนจำจะมีใบมาให้ค่ะ เป็นกระดาษสีขาวๆออกน้ำตาลแล้วเขียนรายละเอียดให้เราตามวันที่เราจองค่ะ ข้อกำหนดในการเยี่ยมครั้งนี้คือญาติที่จะเข้าไปต้องไม่เดิน 10 คน ใบนี้สำคัญมากนะคะห้ามหายเด็ดขาด
และแล้ววันที่เราจะต้องเข้าไปเยี่ยมก็มาถึงค่ะคือวันที่ 26 ธันวาคม นั่นเอง ซี่งเป็นวันเยี่ยมวันสุดท้ายที่ทางเรือนจำเค้าเปิดให้การเยี่ยมแบบใกล้ชิดค่ะ เราก็อาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าเลยค่ะ พอไปถึงเขาก็ให้เราดูลำดับรายชื่อของนักโทษว่าลำดับที่อะไร แล้วให้จำลำดับนั้นเละนำใบไปยื่นที่โต๊ะที่เค้าจัดไว้คือการลงทะเบียนเข้าไปว่าญาติกี่คน เป็นหญิง ชาย เด็กชาย เด็กหญิงกี่คน และเขียนข้อมูลส่วนตัวคือ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ค่ะ ของที่ต้อง
เตรียมไปด้วยบัตรประชาชนตัวจริง และแบสำเนา (แต่เราไม่ได้เอาแบบเป็นสำเนาไป ทีนี้แหล่ะค่ะหาที่ถ่ายเอกสารกันหัวหมุนเลย55555) ทางเจ้าหน้าที่เค้าจะเก็บบัตรประชนตัวจริงขอเราไว้ค่ะ พอเสร็จจากจุดนั้นแล้ว ต่อไปก็คือการแลกคูปองเพื่อที่จะเข้าซื้ออาหารข้างใน การซื้อของข้างเรื่องจำนั้นจะต้องใช้แบบคูปองเท่านั้นค่ะ (แนะนำว่าแลกไปเผื่อเลยก็ได้ค่ะเพราสามารถแลกเป็นเงินคืนได้เมื่อเราออกมาแล้วค่ะ)
มาถึงของที่ต้องห้ามและห้ามนำเข้าไปมีหลายอย่างค่ะ เช่น ห้ามใส่ถุงเท้าให้ถอดไว้ข้างนอก ต่างหู เข็มขัด แหวน สร้อยทอง สร้อยพระก็ห้ามค่ะ โทรศัพท์ เงิน อาวุธและของผิดกฎหมายต่างๆ คือก็เข้าได้แต่ตัวนั้นแหล่ะค่ะ ของที่อนุโลมได้ก็คือ กุญแจรถ และกุญแจล็อกเกอร์ค่ะ (กุญเเจล็อคเกอร์ที่เราฝากของนั่นแหล่ะค่ะ)
พอเราได้นำสิ่งของไปเก็บแล้ว (ทางผู้คุมเค้าเเนะนะให้เก็บในรถค่ะ แต่ทางเรื่อนจำก็มีล็อคเกอร์ไว้ฝากของค่ะ) เราก็ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่เรียกชื่อของนักโทษที่เข้าไปเยี่ยมค่ะเช่น ญาติของนาย............... แบบนี้ค่ะแล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้เราเข้าแถวรอปั้มตราที่แขนค่ะ ปั้มนี้ห้ามลบจนกว่าเราจะออกมา (นท.ชปั้มข้างขวา นท.ญปั้มข้าซ้ายค่ะ )พอปั้มแล้วเราก็จะได้เข้าไปแล้วค่า
เราจะได้เดินผ่านประตูทางเข้าเรือนจำ จำนวน 2 ประตู แล้วเราก็จะเจอเจ้าน้าที่ที่กำลังรอค้นตัวเราอยู่ค่ะ ทางเรือนจำก็จะมีป้ายที่ให้เรากลัดติดเสื้อให้ค่ะ(จนท.บอกเราว่าให้กลัดติดเสื้อตลอนนะ เพราะกล่องวงจรปิด ดูอยู่ตลอด) และจะค้นตัวของเราค่ะ จนท.ชายหญิงแบ่งไว้อย่างดีค่ะ ตอนที่เค้าค้นตัวค้นหาได้อย่างเนี้ยบค่ะ จนท.ก็จะให้เราปล่อยผม และค้นตัวเรา จับเสื้อชั้นในบริเวณหน้าอกแล้วเขย่าๆ ดูที่ชายเสื้อ กระเป๋ากางเกง ในรองเท้า และให้นำใบที่เราลงทะเบียนไว้เอาให้จนท.ค่ะ แล้วเราก็จะได้เข้าไปแล้วค่ะ
รูปประตูเเรกนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณรูปจาก google ค่ะ
เราเดินมาเรื่อยๆจนถึงประตูสุดท้ายที่จะเข้าไปข้างในเรือนจะ ก็จะเจอผู้ชายที่รอกำลังจะพาเราเข้าไปค่ะ(เรามารู้ทีหลังว่าเค้าเป็นนักโทษชั้นดี ที่ใกล้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทีเเรกนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่) (เค้าอาจจะมองผู้หญิงเเบบเเปลกๆหน่อยนะคะ เค้าบอกว่าไม่เจอผู้หญิงมานานมาก 55555555555555 ) พาเดินเค้าไป เค้าพูดจากับเราดีมากค่ะ ในกลุ่มที่เรามาพร้อมกับเราก็จะมีคุณยายอยู่1คน เค้าอายุ
90ว่าแล้ว พี่คนนั้นเค้าก็พายายเดินลัดไปก่อนค่ะ เราก็เดินตามทางที่เค้าเดินนำต่อไป บริเวณที่เราเข้าไปพบนักโทษ จะเป็นเหมือนโรงยิมแต่ไม่มีกำแพง แต่มีรั้วกั้นไว้ (เหมือนในทึวีเลย )
ประมาณนี้ค่ะ
มีหลังคา แล้วโต๊ะอยู่เต็มเลยค่ะ เราก็จะเจอญาติๆของนักโทษที่เข้าไปเยี่ยมค่ะ ในแต่ละช่วงเค้าจะให้เข้าไปครั้งละ 35 คน หมายถึงจำนวนนักโทษนะคะ บริเวณโต๊ะนั้น ก็จะเจอสาวเสริฟ (นักโทษที่เป็นสาวประเภทสอง) ใส่เสื้อสีเหลือง เเต่งหน้าสวยเช้ง คอยบริการเราอยู่ค่ะ เค้าก็จะเอารายการเมนูให้เราสั่ง แล้วเค้าจะเอามาเสิร์ฟ ตอนนี้นักโทษก็ทยอยจะออกมากาเราที่โต๊ะอาหาร ทุกคนไม่มีโซ่ตรวน หรือกุญแจมือนะคะ ออกมาแบบปกติคือ ผมเกรียน ใส่เสื้อสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีกรม แต่จะไม่ใส่รองเท้าค่ะ
เเบบนี้ค่ะ
เค้าก็จะทานอาหารกับเราได้ปกตินะคะ แต่ตัวนักโทษนั้นจะไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะเด็ดขาด เราสามารถพูดคุยได้ตามอัธยาศัย เราจะมีเวลาอยู่ข้างในนี้ 2 ชั่วโมงค่ะ บางโต๊ะครอบครัวเค้าก็พาลูกหลานของนักโทษมาค่ะ บางคนลูกก็ยังเล็กแบเบาะ และนักโทษบางคนก็อายุเยอะเช่นกันค่ะ ในตอนที่เราเข้าไปนะคะทางเรือนจำจะไม่อนุญาตให้นักโทษเดินออกมาเพ่นพ่าน แต่เราก็แอบเห็นว่านักโทษบางคนแอบยืนเกาะประตูรั้วมองอยู่ค่ะ ในบางครั้งเราก็จะเห็นนักโทษเดินเรียงแถวผ่านไป เราสอบถาม นักโทษเค้าบอกว่านั้นเป็นคนที่ตรวจฉี่แล้วเจอสีม่วง จะอยู่ในนี้ไม่นาน ประมาณ 45วัน และสักพักเราก็เห็นว่าทำไมมีรถบรรทุกเข้ามา เค้าก็ อธิบายว่าเป็นรถขนแข่ง (เพิ่มเติมนะคะ ในเรื่องจำจะมีการฝึกอาชีพให้ และมีการเรียนหนังสือด้วยค่ะ) สำหรับคูปองที่เราซื้อเข้ามา ถ้าเราซื้อไม่หมดเราสามารถซื้อให้นักโทษเข้าไปได้ เช่นกับข้าว ขนม ผลไม้ เค้าก็จะเอาไปให้เพื่อนที่ไม่มีญาติมายี่ยมบ้างประมาณนี้ และในบริเวณนั้นเราก็จะสังเกตเห็นเรือนนอน อยุ่ข้างๆ จะเป็นสองชั้น เป็นลูกกรงละมีมุ้งลวดติด
เราได้สอบถามว่าการนอนเป็นยังไง เค้าก็ตอบเราว่า จะได้ผ้าห่มคนละ 3 ผืน(เหมือนกับว่าเค้าออกกฎใหม่มาค่ะ) ตื่นตี 5 มาสวดมนต์ และจะเข้าโรงนอนอีกที ประมาณ 4โมงเย็นค่ะมีโทรทัศน์ให้ดูค่ะแต่จะปิดเวลา 3 ทุ่ม ในแต่ละห้องมีนักโทษนอนอยุ่เยอะทีเดียว ข้างในนี้ก็จะมีของซื้อขายตามปกติ แต่อาจจะแพงกว่าราคาข้างนอก เช่น ไฟเช็คอันละ 5 บาทข้างนอก ข้างในนั้นราคา อันละ 150บาท และในนี้เค้าใช้ “กาแฟ” แทนเงินกันค่ะ(ไม่รู้นะคะว่าที่อื่นใช้รึเปล่า)
สภาพแวดล้อมก็จะมีอาคารๆเยอะๆค่ะ ความสะอาดในบริเวณที่เราอยู่นั้นก็สะอาดดี น้ำข้างในนี้จะเป็นเหมือนน้ำบาดาลจะเป็นสีเหลืองๆเหมือนสีสนิม กำแพงก็จะมีลวดหนามติดอยุ่ตลอด ข้างในก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นบอลบ้าง ตะกร้อบ้าง ในนี้ใครไม่มีเงินเรียกว่าลำบากได้เลย กับข้าวหากไม่กินของที่เรือนจำทำไว้ให้เราก็สามารถซื้อกินได้ค่ะ เข้าเรื่องต่อนะคะ ถ้าเวลาใกล้จะหมดก็จะมีประกาศ ว่าเวลาจะหมด ช่างนี้เป็นช่วงที่นักโทษแต่ละคนจะไว้พ่อแม่เค้าหรือญาติ บางคนก็ร้องไห้ เราบังเอิญได้ยินนักโทษคนนึงคุยกับลูกของเค้าเค้าบอกว่า “ ถ้าแหมสองปี๋เดียวป้อจะได้ไปส่งไปโฮงเฮียนละ” บางคนก็กำลังป้อนนมลูก ขอโทษในสิ่งที่เรากับพ่อแม่ไว้ มันทำให้เราสะอึกเลยค่ะ เมื่อเวลาหมด จนท.จะให้ญาตินั่งอยู่กับที่แต่จะให้นักโทษเดินไปแยกอีกที่แล้วเช็คชื่อให้ขานรับ แล้วตรวจของที่เอาเข้าไป แล้วก็ทยอยเข้าไปข้างในค่ะ พอนักโทษเข้าไปแล้วจนท.ก็จะเรียกชื่อชองนักโทษเพื่อให้ญาติทยอยออกไปเพื่อไม่ให้ชุลมุนค่ะ ต่อมาก็จะมีนักโทษที่เดินนำเราออกมาส่งที่ประตูทางออก ตอนที่เราจะออกเราก็จะได้คืนป้ายที่กลัดหน้าอกเราออก และจนท.ก็จะคืนบัตรประชาชนเราให้ค่ะ ก็เป็นการจบเบบงงเเบบสั้นๆคะ
เรื่องนี่เราเล่ามานี้อาจจะมีอะไรคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย เรื่องที่เราเล่าก็เป็นเรื่องที่นักโทษเล่าให้เราฟัง และเป็นส่วนหนึ่งที่เราเห็นจากข้างใน
เเละขอบคุณมากๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ เราอยากเล่าประสบการณ์ที่เราเจอมา
ขอบคุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.reviewchiangmai.com/1230-p/
https://prachatai.com/journal/2014/04/52559
เรื่องเล่าจากในเรือนจำ
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมญาติแบบใกล้ชิดในเรือนจำค่ะ ขั้นตอนแรกก่อนที่เราจะได้เข้าไปเยี่ยมนักโทษภายในเรือนจำ เราต้อลงทะเบียนจองคิวก่อนค่ะ ว่าเราจะได้เขาเยี่ยมตอนไหน วันที่อะไร ตามระยะเวลาที่เค้ากำหนดให้ ทางเรือนจำเค้าจะมีเวลาที่เปิดให้เยี่ยมแบบใกล้ชิดวันที่ไหนเท่าไหร่ไม่เหมือนกันค่ะ
เมื่อเราลงทะเบียนเสร็จแล้วทางเรือนจำจะมีใบมาให้ค่ะ เป็นกระดาษสีขาวๆออกน้ำตาลแล้วเขียนรายละเอียดให้เราตามวันที่เราจองค่ะ ข้อกำหนดในการเยี่ยมครั้งนี้คือญาติที่จะเข้าไปต้องไม่เดิน 10 คน ใบนี้สำคัญมากนะคะห้ามหายเด็ดขาด
และแล้ววันที่เราจะต้องเข้าไปเยี่ยมก็มาถึงค่ะคือวันที่ 26 ธันวาคม นั่นเอง ซี่งเป็นวันเยี่ยมวันสุดท้ายที่ทางเรือนจำเค้าเปิดให้การเยี่ยมแบบใกล้ชิดค่ะ เราก็อาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าเลยค่ะ พอไปถึงเขาก็ให้เราดูลำดับรายชื่อของนักโทษว่าลำดับที่อะไร แล้วให้จำลำดับนั้นเละนำใบไปยื่นที่โต๊ะที่เค้าจัดไว้คือการลงทะเบียนเข้าไปว่าญาติกี่คน เป็นหญิง ชาย เด็กชาย เด็กหญิงกี่คน และเขียนข้อมูลส่วนตัวคือ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ค่ะ ของที่ต้อง
เตรียมไปด้วยบัตรประชาชนตัวจริง และแบสำเนา (แต่เราไม่ได้เอาแบบเป็นสำเนาไป ทีนี้แหล่ะค่ะหาที่ถ่ายเอกสารกันหัวหมุนเลย55555) ทางเจ้าหน้าที่เค้าจะเก็บบัตรประชนตัวจริงขอเราไว้ค่ะ พอเสร็จจากจุดนั้นแล้ว ต่อไปก็คือการแลกคูปองเพื่อที่จะเข้าซื้ออาหารข้างใน การซื้อของข้างเรื่องจำนั้นจะต้องใช้แบบคูปองเท่านั้นค่ะ (แนะนำว่าแลกไปเผื่อเลยก็ได้ค่ะเพราสามารถแลกเป็นเงินคืนได้เมื่อเราออกมาแล้วค่ะ)
มาถึงของที่ต้องห้ามและห้ามนำเข้าไปมีหลายอย่างค่ะ เช่น ห้ามใส่ถุงเท้าให้ถอดไว้ข้างนอก ต่างหู เข็มขัด แหวน สร้อยทอง สร้อยพระก็ห้ามค่ะ โทรศัพท์ เงิน อาวุธและของผิดกฎหมายต่างๆ คือก็เข้าได้แต่ตัวนั้นแหล่ะค่ะ ของที่อนุโลมได้ก็คือ กุญแจรถ และกุญแจล็อกเกอร์ค่ะ (กุญเเจล็อคเกอร์ที่เราฝากของนั่นแหล่ะค่ะ)
พอเราได้นำสิ่งของไปเก็บแล้ว (ทางผู้คุมเค้าเเนะนะให้เก็บในรถค่ะ แต่ทางเรื่อนจำก็มีล็อคเกอร์ไว้ฝากของค่ะ) เราก็ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่เรียกชื่อของนักโทษที่เข้าไปเยี่ยมค่ะเช่น ญาติของนาย............... แบบนี้ค่ะแล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้เราเข้าแถวรอปั้มตราที่แขนค่ะ ปั้มนี้ห้ามลบจนกว่าเราจะออกมา (นท.ชปั้มข้างขวา นท.ญปั้มข้าซ้ายค่ะ )พอปั้มแล้วเราก็จะได้เข้าไปแล้วค่า
เราจะได้เดินผ่านประตูทางเข้าเรือนจำ จำนวน 2 ประตู แล้วเราก็จะเจอเจ้าน้าที่ที่กำลังรอค้นตัวเราอยู่ค่ะ ทางเรือนจำก็จะมีป้ายที่ให้เรากลัดติดเสื้อให้ค่ะ(จนท.บอกเราว่าให้กลัดติดเสื้อตลอนนะ เพราะกล่องวงจรปิด ดูอยู่ตลอด) และจะค้นตัวของเราค่ะ จนท.ชายหญิงแบ่งไว้อย่างดีค่ะ ตอนที่เค้าค้นตัวค้นหาได้อย่างเนี้ยบค่ะ จนท.ก็จะให้เราปล่อยผม และค้นตัวเรา จับเสื้อชั้นในบริเวณหน้าอกแล้วเขย่าๆ ดูที่ชายเสื้อ กระเป๋ากางเกง ในรองเท้า และให้นำใบที่เราลงทะเบียนไว้เอาให้จนท.ค่ะ แล้วเราก็จะได้เข้าไปแล้วค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเดินมาเรื่อยๆจนถึงประตูสุดท้ายที่จะเข้าไปข้างในเรือนจะ ก็จะเจอผู้ชายที่รอกำลังจะพาเราเข้าไปค่ะ(เรามารู้ทีหลังว่าเค้าเป็นนักโทษชั้นดี ที่ใกล้ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทีเเรกนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่) (เค้าอาจจะมองผู้หญิงเเบบเเปลกๆหน่อยนะคะ เค้าบอกว่าไม่เจอผู้หญิงมานานมาก 55555555555555 ) พาเดินเค้าไป เค้าพูดจากับเราดีมากค่ะ ในกลุ่มที่เรามาพร้อมกับเราก็จะมีคุณยายอยู่1คน เค้าอายุ
90ว่าแล้ว พี่คนนั้นเค้าก็พายายเดินลัดไปก่อนค่ะ เราก็เดินตามทางที่เค้าเดินนำต่อไป บริเวณที่เราเข้าไปพบนักโทษ จะเป็นเหมือนโรงยิมแต่ไม่มีกำแพง แต่มีรั้วกั้นไว้ (เหมือนในทึวีเลย )
มีหลังคา แล้วโต๊ะอยู่เต็มเลยค่ะ เราก็จะเจอญาติๆของนักโทษที่เข้าไปเยี่ยมค่ะ ในแต่ละช่วงเค้าจะให้เข้าไปครั้งละ 35 คน หมายถึงจำนวนนักโทษนะคะ บริเวณโต๊ะนั้น ก็จะเจอสาวเสริฟ (นักโทษที่เป็นสาวประเภทสอง) ใส่เสื้อสีเหลือง เเต่งหน้าสวยเช้ง คอยบริการเราอยู่ค่ะ เค้าก็จะเอารายการเมนูให้เราสั่ง แล้วเค้าจะเอามาเสิร์ฟ ตอนนี้นักโทษก็ทยอยจะออกมากาเราที่โต๊ะอาหาร ทุกคนไม่มีโซ่ตรวน หรือกุญแจมือนะคะ ออกมาแบบปกติคือ ผมเกรียน ใส่เสื้อสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีกรม แต่จะไม่ใส่รองเท้าค่ะ
เค้าก็จะทานอาหารกับเราได้ปกตินะคะ แต่ตัวนักโทษนั้นจะไม่ได้ลุกออกจากโต๊ะเด็ดขาด เราสามารถพูดคุยได้ตามอัธยาศัย เราจะมีเวลาอยู่ข้างในนี้ 2 ชั่วโมงค่ะ บางโต๊ะครอบครัวเค้าก็พาลูกหลานของนักโทษมาค่ะ บางคนลูกก็ยังเล็กแบเบาะ และนักโทษบางคนก็อายุเยอะเช่นกันค่ะ ในตอนที่เราเข้าไปนะคะทางเรือนจำจะไม่อนุญาตให้นักโทษเดินออกมาเพ่นพ่าน แต่เราก็แอบเห็นว่านักโทษบางคนแอบยืนเกาะประตูรั้วมองอยู่ค่ะ ในบางครั้งเราก็จะเห็นนักโทษเดินเรียงแถวผ่านไป เราสอบถาม นักโทษเค้าบอกว่านั้นเป็นคนที่ตรวจฉี่แล้วเจอสีม่วง จะอยู่ในนี้ไม่นาน ประมาณ 45วัน และสักพักเราก็เห็นว่าทำไมมีรถบรรทุกเข้ามา เค้าก็ อธิบายว่าเป็นรถขนแข่ง (เพิ่มเติมนะคะ ในเรื่องจำจะมีการฝึกอาชีพให้ และมีการเรียนหนังสือด้วยค่ะ) สำหรับคูปองที่เราซื้อเข้ามา ถ้าเราซื้อไม่หมดเราสามารถซื้อให้นักโทษเข้าไปได้ เช่นกับข้าว ขนม ผลไม้ เค้าก็จะเอาไปให้เพื่อนที่ไม่มีญาติมายี่ยมบ้างประมาณนี้ และในบริเวณนั้นเราก็จะสังเกตเห็นเรือนนอน อยุ่ข้างๆ จะเป็นสองชั้น เป็นลูกกรงละมีมุ้งลวดติด
เราได้สอบถามว่าการนอนเป็นยังไง เค้าก็ตอบเราว่า จะได้ผ้าห่มคนละ 3 ผืน(เหมือนกับว่าเค้าออกกฎใหม่มาค่ะ) ตื่นตี 5 มาสวดมนต์ และจะเข้าโรงนอนอีกที ประมาณ 4โมงเย็นค่ะมีโทรทัศน์ให้ดูค่ะแต่จะปิดเวลา 3 ทุ่ม ในแต่ละห้องมีนักโทษนอนอยุ่เยอะทีเดียว ข้างในนี้ก็จะมีของซื้อขายตามปกติ แต่อาจจะแพงกว่าราคาข้างนอก เช่น ไฟเช็คอันละ 5 บาทข้างนอก ข้างในนั้นราคา อันละ 150บาท และในนี้เค้าใช้ “กาแฟ” แทนเงินกันค่ะ(ไม่รู้นะคะว่าที่อื่นใช้รึเปล่า)
สภาพแวดล้อมก็จะมีอาคารๆเยอะๆค่ะ ความสะอาดในบริเวณที่เราอยู่นั้นก็สะอาดดี น้ำข้างในนี้จะเป็นเหมือนน้ำบาดาลจะเป็นสีเหลืองๆเหมือนสีสนิม กำแพงก็จะมีลวดหนามติดอยุ่ตลอด ข้างในก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นบอลบ้าง ตะกร้อบ้าง ในนี้ใครไม่มีเงินเรียกว่าลำบากได้เลย กับข้าวหากไม่กินของที่เรือนจำทำไว้ให้เราก็สามารถซื้อกินได้ค่ะ เข้าเรื่องต่อนะคะ ถ้าเวลาใกล้จะหมดก็จะมีประกาศ ว่าเวลาจะหมด ช่างนี้เป็นช่วงที่นักโทษแต่ละคนจะไว้พ่อแม่เค้าหรือญาติ บางคนก็ร้องไห้ เราบังเอิญได้ยินนักโทษคนนึงคุยกับลูกของเค้าเค้าบอกว่า “ ถ้าแหมสองปี๋เดียวป้อจะได้ไปส่งไปโฮงเฮียนละ” บางคนก็กำลังป้อนนมลูก ขอโทษในสิ่งที่เรากับพ่อแม่ไว้ มันทำให้เราสะอึกเลยค่ะ เมื่อเวลาหมด จนท.จะให้ญาตินั่งอยู่กับที่แต่จะให้นักโทษเดินไปแยกอีกที่แล้วเช็คชื่อให้ขานรับ แล้วตรวจของที่เอาเข้าไป แล้วก็ทยอยเข้าไปข้างในค่ะ พอนักโทษเข้าไปแล้วจนท.ก็จะเรียกชื่อชองนักโทษเพื่อให้ญาติทยอยออกไปเพื่อไม่ให้ชุลมุนค่ะ ต่อมาก็จะมีนักโทษที่เดินนำเราออกมาส่งที่ประตูทางออก ตอนที่เราจะออกเราก็จะได้คืนป้ายที่กลัดหน้าอกเราออก และจนท.ก็จะคืนบัตรประชาชนเราให้ค่ะ ก็เป็นการจบเบบงงเเบบสั้นๆคะ
เรื่องนี่เราเล่ามานี้อาจจะมีอะไรคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย เรื่องที่เราเล่าก็เป็นเรื่องที่นักโทษเล่าให้เราฟัง และเป็นส่วนหนึ่งที่เราเห็นจากข้างใน
เเละขอบคุณมากๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ เราอยากเล่าประสบการณ์ที่เราเจอมา
ขอบคุณค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้