อันดับแรก เวลาเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ แนะนำให้ถ่ายรูปพาสปอร์ตตัวจริง วีซ่าที่เราขอไว้ เก็บไว้ในมือถือหรือ e-mail บวกกับพวกสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านที่ระบุตัวเองไว้ใน mail พกรูปถ่าย 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว สักอย่างละสองใบติดตัวไว้ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้นำออกมาใช้ได้ แต่เราสองคนไม่ได้ทำในทริปนี้ เพราะคิดว่า ไม่น่าจะมีอะไรให้เป็นห่วง ไปแค่ 5 วันเอง จะเยอะไปไหน
เหตุที่หายคือวันเดินทางกลับ เรากับแฟนนั่งรถเมลล์ไปเที่ยวหอเทียนถาน ( temple of the Heaven) กัน มารู้ตัวอีกทีตอนลงมาจากรถแล้วจะซื้อตั๋วเข้าชม พบว่าซิปกระเป๋าสะพายหลังของแฟนเราโดนเปิดออก และกระเป๋าคาดเอวใบเล็กที่อยู่ในกระเป๋าสะพายหลังโดนหยิบออกไปจากกระเป๋า สำหรับเราไม่มีของหาย ส่วนของแฟนที่หายมี พาสปอร์ต เงิน 200 หยวน บัตรเครดิต 3 ใบ และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ โชคดีที่เงินส่วนใหญ่ที่นำมาเที่ยวอยู่ในกระเป๋าเรา
... เวลาพาสปอร์ตหายแล้วรู้ตัว อยากจะช็อก อยากจะตะโกน อยากทำอะไรก็ทำไป แต่ก็ควรจะทำใจว่ามันหายแล้ว และถ้าไม่มีทางได้คืนแน่ๆ คือ ต้องตั้งสติ และเริ่มคิดว่าจะทำยังไงได้บ้าง
ของเราเริ่มต้นจากการโทรหาสถานทูตไทยที่ปักกิ่งเป็นอันดับแรก หาเบอร์ที่หลังซองพาสปอร์ต เรามีซองพลาสติกที่มีเบอร์โทรสถานทูตทั่วโลก แต่พอโทรไปสายเป็นอัตโนมัติ แล้วหลุดตลอด เราก็เครียดกันมาก เลยตัดสินใจว่า จะเริ่มต้นจากโรงแรมที่พัก โชคดีเราเข้าพักที่โรงแรมนี้มาได้ 3 วัน และวันนี้กำลังเช็คเอาท์ โรงแรมจะมีสำเนาหน้าพาสปอร์ตเล่มที่หาย และสำเนาวีซ่าจีน เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจะเข้าพักในปักกิ่งได้นั้น โรงแรมต้องทำการลงทะเบียนนักท่องเที่ยวในระบบ เรานั่งรถแท็กซี่กลับไปโรงแรม ขอเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่าช่วย Print สำเนาหน้าพาสปอร์ตและวีซ่าจีนให้หน่อย และเราต้องทำยังไงกันบ้าง โรงแรมบอกว่า ไม่ต้องตกใจ ให้ไปแจ้งตำรวจท้องที่และไปหา PSB เราขอให้เขาเขียนภาษาจีน ว่าเราต้องการแจ้งความเนื่องจากพาสปอร์ตหาย เขาก็เขียนให้ พร้อมที่อยู่โรงแรม และคำว่าสถานีตำรวจ เป็นภาษาจีน
เราเดินหาป้อมตำรวจใกล้ที่สุด ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เนื่องจาก ถ้าดูภายนอกไม่เหมือนสถานีตำรวจเลย เป็น office เล็กๆ มากกว่า แถมถนนตรงที่เราพัก มีตรอกเล็กๆ มากมาย เอาชื่อป้อมตำรวจถามทางคนจีนแถวๆ นั้น ทุกคนช่วยชี้ทางให้ ชี้ให้งง จนหลงทางบ้าง เนื่องจากแถว Qianmen เป็นตรอกเล็กๆ เยอะ จนมีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินมาส่งจนถึงทางเข้าหน้าป้อมตำรวจ และบอกให้เราเข้าไปในนั้น เราหันไปขอบคุณ
เดินเข้าไปในป้อมตำรวจ พอถามว่ามีใครพูดอังกฤษได้ไหม ทุกคนส่ายหน้า เราเตรียมพร้อมไว้แล้ว เอากระดาษที่เขียนคำว่า เราถูกขโมยพาสปอร์ต เป็นภาษาจีนให้ทันที คุณตำรวจสูงอายุหน่อยพยักหน้า และชี้มือไปให้เรานั่งรอในป้อมทำงานของเขา ในป้อมตำรวจ ไม่น่าเชื่อว่า จะมีตู้ปลาทองเล็กๆ ไว้ด้วย ดูไปดูมามันก็น่ารักดี ในป้อมติดฮีทเตอร์ ทำให้ทั้งคนและปลาไม่หนาวในคราวเดียวกัน มีคิวแจ้งความก่อนหน้าเรา 3 คิว เรานั่งรอนานเหมือนกันนะ จริงๆ ก็แค่ 40 นาที แต่เราร้อนใจกันมากกว่า ทุกเวลาเลยดูเหมือนรีบเร่งไปหมด
พอถึงคิวเรา คุณตำรวจก็ต่อโทรศัพท์ไปยัง PSB ให้เราแจ้งข้อมูลว่าอะไรหายบ้าง แล้วเลขพาสปอร์ตอะไร มาจากไหน ชื่ออะไร เขาคุยภาษาอังกฤษได้ แนะนำเราว่าเอาใบแจ้งความที่หาย มาแจ้ง Loss Passport ที่ PSB นะ จากนั้น เขาขอคุยกับคุณตำรวจที่ป้อม และให้เขียนบันทึกประจำวัน เป็นภาษาจีน พอเขียนเสร็จ เขาส่งให้เราตรวจ ซึ่งเราอ่านภาษาจีนไม่ออกเลย
คุณตำรวจคนที่เขียนเอกสารก็ใจดีมาก เขาตะโกนบอกคุณตำรวจข้างหน้าป้อม ให้ไปตามเจ้าของร้านกาแฟ ที่ขายกาแฟตรงข้ามสถานีตำรวจมา คุณเจ้าของร้านขายกาแฟก็เดินมาถามเรา ว่า มีอะไรหายบ้าง และหายตรงไหน เวลาเท่าไร จากนั้นก็แปลให้คุณตำรวจฟัง พอได้เอกสารจากป้อมตำรวจ เจ้าของร้านกาแฟก็บอกให้เราไปติดต่อ PSB ที่สาขาใหญ่ที่สุดของเมือง ก็คือตรงสาขา Yonghegong - Lama Temple ให้เราไป subway ดังกล่าว แล้วถามทางคนแถวนั้นอีกที
เรานั่ง subway สาย 2 ไปที่ Yonghegong Lama Temple เดินออก exit B จากนั้นเดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1500 เมตร เราจะเจอตึกสีน้ำตาล หน้าตึกมีเสาธงชาติจีนขนาดใหญ่ เขียนว่า Exit&Entry Administration service center , Public security of bureau of Beijing เข้าไปสแกนกระเป๋าให้เรียบร้อย เดินขึ้นไปชั้น 2 ถามเจ้าหน้าที่ เราจะต้องไปแจ้งพาสปอร์ตหาย จะมีแบบฟอร์มให้กรอกเป็นภาษาอังกฤษ เขียนว่าอะไรหายบ้าง หายที่ไหน อย่างไร จากนั้น แนบใบแจ้งความที่เราได้จากป้อมตำรวจ + รูป 1 นิ้ว เจ้าหน้าที่ จะ print เอกสาร confirmation loss passport ให้
หลังออกใบ confirm loss passport ให้ คุณ PSB แนะนำให้เราไปสถานทูต เราจึงเดินอีก 1.5 กม. กลับไปหารถไฟฟ้า จากนั้นนั่งสาย 2 ไปเปลี่ยนที่สถานี Dongdan เป็นสาย 1 ไปที่ Yong’anli ออกที่ประตู C ออกที่ตึก LG ขึ้นไปชั้น 15 ฝั่ง WEST เพื่อไปดำเนินการขอใบ CI ไปถึงเราก็พบข่าวร้ายว่า คนเซ็นใบ CI ให้เราได้ไม่อยู่ เราต้องทิ้งเอกสารไว้ และมารับวันพรุ่งนี้ตอน 11.00 น. นั่นแปลว่าเราตกเครื่อง 1,000,000 เปอร์เซ็นต์
เอกสารที่ต้องนำมา 1. เอกสารที่แสดงตัวตนว่าเป็นคนไทย อาจจะเป็นสำเนาก็ได้ อย่างของแฟนเราไม่มีอะไรซักอย่าง จึงได้แค่สำเนาทะเบียนบ้านที่น้องสาวส่ง e-mail จากไทยเข้าเครื่องที่สถานทูต , สำเนาพาสปอร์ตเล่มที่หาย รูป 2 นิ้ว จำนวนสองรูป สามารถถ่ายรูปได้ที่ใต้ตึก LG ชั้นใต้ดิน ราคา 4 ใบ 50 หยวน
หลังจากที่ฝากเอกสารไว้ ใบ confirm loss Passport ที่เป็นกระดาษ A4 ก็สำคัญมาก เราพึ่งมารู้ตอนหลังว่าสำคัญที่สุด สามารถเอาเข้าพัก และลงทะเบียนในโรงแรมของกรุงปักกิ่งที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ เราจอง โรงแรม King’s Joy แถวๆ Qianmen ผ่าน booking จอง 3 คืน เนื่องจากคืนที่ 31 ธค. โรงแรมเต็ม เรามีแผนว่าถ้าพรุ่งนี้ได้ความจาก PSB ยังไงค่อยตัดสินใจอีกที
มาถึง โรงแรม พนักงานก็ขอ Passport เราก็ให้ของเรา ส่วนของแฟนนั้นใช้ใบ confirmation of loss passport แทน ตอนแรกดูไม่มีปัญหาอะไร ผ่านไป 2 ชั่วโมง มีคนมาเคาะห้องพักเรา พูดภาษาจีนไม่รู้เรื่อง เราก็งงกัน ตอนแรกเราปิดประตูใส่เพราะนึกว่ามาเคาะห้องผิด สุดท้าย คนมาเคาะ พยายามโบกไม้โบกมือว่าเราต้องลงไป lobby พอลงไป lobby เจ้าของโรงแรมขอดูใบ confirm loss passport และพยายามเปรียบเทียบตรา PSB ที่ปั๊มจางๆ กับตรายางต่างๆ ที่ได้ถ่ายรูปไว้ พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่พอเดาได้ว่าถามเราว่า เราไปเอาเอกสารนี่จากไหนมา เราเลยเปิดมือถือ ให้ดูรูปป้าย PSB เขาก็เข้าใจ และให้เราเข้าพักได้
คืนนั้นนอนหลับกันไปด้วยความเหนื่อย เพลีย เรามีนัดที่สถานทูตตอน 11 โมงเพื่อไปรับใบ CI (Certificate Identity) เพื่อนำไปทำ exit VISA ที่ PSB เช้ามา เรารีบกินข้าว นั่งรถไฟฟ้าไปหอเทียนถานเนื่องจากเมื่อวานพาสปอร์ตหายเลยไม่ได้เข้าชม ถ่ายรูปฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง 9.30 น. เราก็นั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่ตึก LG อีกครั้งเพื่อรอรับใบ CI ตอน 11.00 น.
10.45 เรามาถึงสถานทูตไทยตรงตึก LG เจ้าหน้าที่ดีมาก บอกว่าให้เรานั่งรอ เนื่องจากเอกสารของเราครบหมดแล้ว ระหว่างจะไปนั่ง มีไกด์สาวชาวจีนที่มาทำวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวในกรุ๊ปเพื่อเดินทางไปประเทศไทย เข้ามาถาม น่าจะสงสัยว่ามันเป็นใบอะไร เราก็ตอบว่าเราทำพาสปอร์ตหาย ต้องมาขอใบ CI และไปขอ visa exit เพื่อเดินทางกลับประเทศ นางก็บอกว่า ไม่แปลกหรอกที่โดนขโมยช่วงนี้ เป็นช่วงก่อนปีใหม่ ขโมยก็จะต้องทำยอด เพื่อหาเงินกลับบ้าน นางก็บ่นต่อว่ามาดมควันปักกิ่งทำไม ที่นี่ไม่เห็นน่าสนใจเลย เราได้ที ถามนางต่อว่านางแนะนำให้ไปเที่ยวที่ไหน นางก็บอกว่า อากาศหนาวๆแบบนี้ก็ไปเล่นหิมะที่ฮาร์บิ้นสิ ...
ขณะนั่งรอ ก็มีนักศึกษาชาวไทย ที่เดินทางมาจากต่างเมืองเพื่อมาขอต่ออายุพาสปอร์ต น้องบอกว่า ต้องระวังให้ดี ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ คนจีนที่เป็นขโมยมีเยอะ ไปไหนมาไหนอย่าพกเงินเยอะ และ พยายามไปกันเป็นกลุ่ม
สักพัก เจ้าหน้าที่ก็ยื่นใบ CI ที่กรอกข้อมูลให้เราเรียบร้อย ดังภาพ พร้อมกำชับว่า ให้ไปลงทะเบียนที่โรงแรมก่อนค่อยมาติดต่อ PSB แต่เราเห็นว่าเวลายังพอเหลือ PSB ปิดเที่ยง เลยคิดว่าจะไปติดต่อ PSB ก่อน หากต้องไปโรงแรม ก็ยังมีช่วงPSB ปิดทำการ คือตอน 12.00-14.30 นั่นเอง
[CR] เมื่อพาสปอร์ตหายที่ประเทศจีน ทำอย่างไร?
เหตุที่หายคือวันเดินทางกลับ เรากับแฟนนั่งรถเมลล์ไปเที่ยวหอเทียนถาน ( temple of the Heaven) กัน มารู้ตัวอีกทีตอนลงมาจากรถแล้วจะซื้อตั๋วเข้าชม พบว่าซิปกระเป๋าสะพายหลังของแฟนเราโดนเปิดออก และกระเป๋าคาดเอวใบเล็กที่อยู่ในกระเป๋าสะพายหลังโดนหยิบออกไปจากกระเป๋า สำหรับเราไม่มีของหาย ส่วนของแฟนที่หายมี พาสปอร์ต เงิน 200 หยวน บัตรเครดิต 3 ใบ และบัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ โชคดีที่เงินส่วนใหญ่ที่นำมาเที่ยวอยู่ในกระเป๋าเรา
... เวลาพาสปอร์ตหายแล้วรู้ตัว อยากจะช็อก อยากจะตะโกน อยากทำอะไรก็ทำไป แต่ก็ควรจะทำใจว่ามันหายแล้ว และถ้าไม่มีทางได้คืนแน่ๆ คือ ต้องตั้งสติ และเริ่มคิดว่าจะทำยังไงได้บ้าง
ของเราเริ่มต้นจากการโทรหาสถานทูตไทยที่ปักกิ่งเป็นอันดับแรก หาเบอร์ที่หลังซองพาสปอร์ต เรามีซองพลาสติกที่มีเบอร์โทรสถานทูตทั่วโลก แต่พอโทรไปสายเป็นอัตโนมัติ แล้วหลุดตลอด เราก็เครียดกันมาก เลยตัดสินใจว่า จะเริ่มต้นจากโรงแรมที่พัก โชคดีเราเข้าพักที่โรงแรมนี้มาได้ 3 วัน และวันนี้กำลังเช็คเอาท์ โรงแรมจะมีสำเนาหน้าพาสปอร์ตเล่มที่หาย และสำเนาวีซ่าจีน เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจะเข้าพักในปักกิ่งได้นั้น โรงแรมต้องทำการลงทะเบียนนักท่องเที่ยวในระบบ เรานั่งรถแท็กซี่กลับไปโรงแรม ขอเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่าช่วย Print สำเนาหน้าพาสปอร์ตและวีซ่าจีนให้หน่อย และเราต้องทำยังไงกันบ้าง โรงแรมบอกว่า ไม่ต้องตกใจ ให้ไปแจ้งตำรวจท้องที่และไปหา PSB เราขอให้เขาเขียนภาษาจีน ว่าเราต้องการแจ้งความเนื่องจากพาสปอร์ตหาย เขาก็เขียนให้ พร้อมที่อยู่โรงแรม และคำว่าสถานีตำรวจ เป็นภาษาจีน
เราเดินหาป้อมตำรวจใกล้ที่สุด ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง เนื่องจาก ถ้าดูภายนอกไม่เหมือนสถานีตำรวจเลย เป็น office เล็กๆ มากกว่า แถมถนนตรงที่เราพัก มีตรอกเล็กๆ มากมาย เอาชื่อป้อมตำรวจถามทางคนจีนแถวๆ นั้น ทุกคนช่วยชี้ทางให้ ชี้ให้งง จนหลงทางบ้าง เนื่องจากแถว Qianmen เป็นตรอกเล็กๆ เยอะ จนมีผู้หญิงคนหนึ่ง เดินมาส่งจนถึงทางเข้าหน้าป้อมตำรวจ และบอกให้เราเข้าไปในนั้น เราหันไปขอบคุณ
เดินเข้าไปในป้อมตำรวจ พอถามว่ามีใครพูดอังกฤษได้ไหม ทุกคนส่ายหน้า เราเตรียมพร้อมไว้แล้ว เอากระดาษที่เขียนคำว่า เราถูกขโมยพาสปอร์ต เป็นภาษาจีนให้ทันที คุณตำรวจสูงอายุหน่อยพยักหน้า และชี้มือไปให้เรานั่งรอในป้อมทำงานของเขา ในป้อมตำรวจ ไม่น่าเชื่อว่า จะมีตู้ปลาทองเล็กๆ ไว้ด้วย ดูไปดูมามันก็น่ารักดี ในป้อมติดฮีทเตอร์ ทำให้ทั้งคนและปลาไม่หนาวในคราวเดียวกัน มีคิวแจ้งความก่อนหน้าเรา 3 คิว เรานั่งรอนานเหมือนกันนะ จริงๆ ก็แค่ 40 นาที แต่เราร้อนใจกันมากกว่า ทุกเวลาเลยดูเหมือนรีบเร่งไปหมด
พอถึงคิวเรา คุณตำรวจก็ต่อโทรศัพท์ไปยัง PSB ให้เราแจ้งข้อมูลว่าอะไรหายบ้าง แล้วเลขพาสปอร์ตอะไร มาจากไหน ชื่ออะไร เขาคุยภาษาอังกฤษได้ แนะนำเราว่าเอาใบแจ้งความที่หาย มาแจ้ง Loss Passport ที่ PSB นะ จากนั้น เขาขอคุยกับคุณตำรวจที่ป้อม และให้เขียนบันทึกประจำวัน เป็นภาษาจีน พอเขียนเสร็จ เขาส่งให้เราตรวจ ซึ่งเราอ่านภาษาจีนไม่ออกเลย
คุณตำรวจคนที่เขียนเอกสารก็ใจดีมาก เขาตะโกนบอกคุณตำรวจข้างหน้าป้อม ให้ไปตามเจ้าของร้านกาแฟ ที่ขายกาแฟตรงข้ามสถานีตำรวจมา คุณเจ้าของร้านขายกาแฟก็เดินมาถามเรา ว่า มีอะไรหายบ้าง และหายตรงไหน เวลาเท่าไร จากนั้นก็แปลให้คุณตำรวจฟัง พอได้เอกสารจากป้อมตำรวจ เจ้าของร้านกาแฟก็บอกให้เราไปติดต่อ PSB ที่สาขาใหญ่ที่สุดของเมือง ก็คือตรงสาขา Yonghegong - Lama Temple ให้เราไป subway ดังกล่าว แล้วถามทางคนแถวนั้นอีกที
เรานั่ง subway สาย 2 ไปที่ Yonghegong Lama Temple เดินออก exit B จากนั้นเดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 1500 เมตร เราจะเจอตึกสีน้ำตาล หน้าตึกมีเสาธงชาติจีนขนาดใหญ่ เขียนว่า Exit&Entry Administration service center , Public security of bureau of Beijing เข้าไปสแกนกระเป๋าให้เรียบร้อย เดินขึ้นไปชั้น 2 ถามเจ้าหน้าที่ เราจะต้องไปแจ้งพาสปอร์ตหาย จะมีแบบฟอร์มให้กรอกเป็นภาษาอังกฤษ เขียนว่าอะไรหายบ้าง หายที่ไหน อย่างไร จากนั้น แนบใบแจ้งความที่เราได้จากป้อมตำรวจ + รูป 1 นิ้ว เจ้าหน้าที่ จะ print เอกสาร confirmation loss passport ให้
หลังออกใบ confirm loss passport ให้ คุณ PSB แนะนำให้เราไปสถานทูต เราจึงเดินอีก 1.5 กม. กลับไปหารถไฟฟ้า จากนั้นนั่งสาย 2 ไปเปลี่ยนที่สถานี Dongdan เป็นสาย 1 ไปที่ Yong’anli ออกที่ประตู C ออกที่ตึก LG ขึ้นไปชั้น 15 ฝั่ง WEST เพื่อไปดำเนินการขอใบ CI ไปถึงเราก็พบข่าวร้ายว่า คนเซ็นใบ CI ให้เราได้ไม่อยู่ เราต้องทิ้งเอกสารไว้ และมารับวันพรุ่งนี้ตอน 11.00 น. นั่นแปลว่าเราตกเครื่อง 1,000,000 เปอร์เซ็นต์
เอกสารที่ต้องนำมา 1. เอกสารที่แสดงตัวตนว่าเป็นคนไทย อาจจะเป็นสำเนาก็ได้ อย่างของแฟนเราไม่มีอะไรซักอย่าง จึงได้แค่สำเนาทะเบียนบ้านที่น้องสาวส่ง e-mail จากไทยเข้าเครื่องที่สถานทูต , สำเนาพาสปอร์ตเล่มที่หาย รูป 2 นิ้ว จำนวนสองรูป สามารถถ่ายรูปได้ที่ใต้ตึก LG ชั้นใต้ดิน ราคา 4 ใบ 50 หยวน
หลังจากที่ฝากเอกสารไว้ ใบ confirm loss Passport ที่เป็นกระดาษ A4 ก็สำคัญมาก เราพึ่งมารู้ตอนหลังว่าสำคัญที่สุด สามารถเอาเข้าพัก และลงทะเบียนในโรงแรมของกรุงปักกิ่งที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ เราจอง โรงแรม King’s Joy แถวๆ Qianmen ผ่าน booking จอง 3 คืน เนื่องจากคืนที่ 31 ธค. โรงแรมเต็ม เรามีแผนว่าถ้าพรุ่งนี้ได้ความจาก PSB ยังไงค่อยตัดสินใจอีกที
มาถึง โรงแรม พนักงานก็ขอ Passport เราก็ให้ของเรา ส่วนของแฟนนั้นใช้ใบ confirmation of loss passport แทน ตอนแรกดูไม่มีปัญหาอะไร ผ่านไป 2 ชั่วโมง มีคนมาเคาะห้องพักเรา พูดภาษาจีนไม่รู้เรื่อง เราก็งงกัน ตอนแรกเราปิดประตูใส่เพราะนึกว่ามาเคาะห้องผิด สุดท้าย คนมาเคาะ พยายามโบกไม้โบกมือว่าเราต้องลงไป lobby พอลงไป lobby เจ้าของโรงแรมขอดูใบ confirm loss passport และพยายามเปรียบเทียบตรา PSB ที่ปั๊มจางๆ กับตรายางต่างๆ ที่ได้ถ่ายรูปไว้ พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่พอเดาได้ว่าถามเราว่า เราไปเอาเอกสารนี่จากไหนมา เราเลยเปิดมือถือ ให้ดูรูปป้าย PSB เขาก็เข้าใจ และให้เราเข้าพักได้
คืนนั้นนอนหลับกันไปด้วยความเหนื่อย เพลีย เรามีนัดที่สถานทูตตอน 11 โมงเพื่อไปรับใบ CI (Certificate Identity) เพื่อนำไปทำ exit VISA ที่ PSB เช้ามา เรารีบกินข้าว นั่งรถไฟฟ้าไปหอเทียนถานเนื่องจากเมื่อวานพาสปอร์ตหายเลยไม่ได้เข้าชม ถ่ายรูปฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึง 9.30 น. เราก็นั่งรถไฟฟ้ากลับไปที่ตึก LG อีกครั้งเพื่อรอรับใบ CI ตอน 11.00 น.
10.45 เรามาถึงสถานทูตไทยตรงตึก LG เจ้าหน้าที่ดีมาก บอกว่าให้เรานั่งรอ เนื่องจากเอกสารของเราครบหมดแล้ว ระหว่างจะไปนั่ง มีไกด์สาวชาวจีนที่มาทำวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวในกรุ๊ปเพื่อเดินทางไปประเทศไทย เข้ามาถาม น่าจะสงสัยว่ามันเป็นใบอะไร เราก็ตอบว่าเราทำพาสปอร์ตหาย ต้องมาขอใบ CI และไปขอ visa exit เพื่อเดินทางกลับประเทศ นางก็บอกว่า ไม่แปลกหรอกที่โดนขโมยช่วงนี้ เป็นช่วงก่อนปีใหม่ ขโมยก็จะต้องทำยอด เพื่อหาเงินกลับบ้าน นางก็บ่นต่อว่ามาดมควันปักกิ่งทำไม ที่นี่ไม่เห็นน่าสนใจเลย เราได้ที ถามนางต่อว่านางแนะนำให้ไปเที่ยวที่ไหน นางก็บอกว่า อากาศหนาวๆแบบนี้ก็ไปเล่นหิมะที่ฮาร์บิ้นสิ ...
ขณะนั่งรอ ก็มีนักศึกษาชาวไทย ที่เดินทางมาจากต่างเมืองเพื่อมาขอต่ออายุพาสปอร์ต น้องบอกว่า ต้องระวังให้ดี ช่วงนี้ใกล้ปีใหม่ คนจีนที่เป็นขโมยมีเยอะ ไปไหนมาไหนอย่าพกเงินเยอะ และ พยายามไปกันเป็นกลุ่ม
สักพัก เจ้าหน้าที่ก็ยื่นใบ CI ที่กรอกข้อมูลให้เราเรียบร้อย ดังภาพ พร้อมกำชับว่า ให้ไปลงทะเบียนที่โรงแรมก่อนค่อยมาติดต่อ PSB แต่เราเห็นว่าเวลายังพอเหลือ PSB ปิดเที่ยง เลยคิดว่าจะไปติดต่อ PSB ก่อน หากต้องไปโรงแรม ก็ยังมีช่วงPSB ปิดทำการ คือตอน 12.00-14.30 นั่นเอง