อ่านแค่หัวข้อ ทุกคนอาจจะคิดว่า เมื่อไม่ใช่ก็หยุดสิ จะฝืนเรียนต่อทำไม แต่กรณีเรามันมีรายละเอียดที่ทำให้รู้สึกลังเลอยู่ค่ะ
ตอนนี้เราเรียน ป.โท เทอม2แล้วค่ะ เราเป็นเด็กทุน ได้รับการยกเว้นในเรื่องของค่าเทอม และมีรายเดือนให้อีกในแต่ละเดือน
แต่ทั้งนี้ มันมีเงื่อนไขว่า เราต้องจบภายใน2ปี ได้เกรดเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่าที่ทาง ม. กำหนดไว้ และต้องทำวิทยานิพนธ์เท่านั้น (ไม่ให้ทำISค่ะ)
ในตอนแรก การเรียนในภาคการศึกษาแรก ก็พอโอเค คือพอไหว เพราะมันเป็นตัวที่ทางคณะกำหนดให้เราต้องเรียนอยู่แล้ว
แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เหมือนตอนเรานั่งอ่านรายละเอียดหลักสูตร พอมาลงเรียนรู้แต่ละรายวิชาแล้วมันอะไรไม่รู้ค่ะ
หลายๆอย่างมันใช้ต่อยอดความรู้ตอนป.ตรีได้น้อยมาก การสอนคือแบบ..... อาจารย์ที่นี่เก่งนะคะ จบเมืองนอกส่วนใหญ่ แต่การถ่ายทอดมีเพียงไม่กี่ท่านที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรามาหาความรู้แล้วเราได้ความรู้จริงๆ เอาง่ายๆคือมันไม่ใช่ แต่ช่วงเทอมแรกคิดว่าเรียนไหว ทนได้ มันไม่ได้กดดันอะไรมากแต่ถามว่าชอบมั้ย อินมั้ย ก็ไม่
และที่เราเลือกที่จะเรียนต่อไปตอนนั้น เพราะหากเราออกกระทันหัน เรียนไม่จบ เราต้องจ่ายคืนทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งเรื่องนี้คือปัญหาหลักบวกกับคิดว่าคงทนได้
พอมาเทอม2 มันเป็นเทอมที่ต้องเลือกวิชาเอก แล้วรุ่นเราก็เลือกเรียนเอกเดียวกันทั้งหมด เราก็โอเค เพราะไม่ได้อินกับคณะสาขาวิชาอะไรอยู่แล้ว คิดว่าเรียนได้แค่ให้มันจบๆไป
พอลงเรียนลึกๆ ในวิชาเอก เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เลย แรงกดดันมันมากขึ้น เราเครียด ทุกวันที่ตื่นไปเรียนเราไม่มีความสุขเลย
เราพูดกับใครไม่ได้ ปรึกษาใครไม่ได้ แม่ก็ฝากความหวังไว้มาก เราเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว
เวลาอาจารย์สั่งงานอะไรมา เราไม่อยากทำ มันไม่มีความสุข มันไม่ใช่เรื่องและประเด็นที่เราสนใจ
จะออกเราก็ต้องคืนเงิน ซึ่งตั้งแต่มาเรียนเราไม่มีเงินเก็บ จำนวนเงินตอนนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วค่ะ เรารู้สึกปรึกษาใครไม่ได้ เพราะทุกคนคิดว่า เราไหว เราทนได้ แต่ไม่เคยมีใครถามเลยว่า จริงๆแล้วเราไหวไหม
เราควรต้องทนต่อไปดีมั้ยคะ แต่เรายังไม่มีเงินจ่ายคืน เราเสียเวลาในการทำงานไปเกือบปี
แต่ถ้าเราทน เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไหวไหม
เราทำอย่างเดียวคือ พยายามให้กำลังใจตัวเองว่า ไม่ใช่เราไม่เก่ง แต่เราแค่ไม่ถนัด แต่มันกล้ำกลืนฝืนทนมากๆ ไม่กล้าทำร้ายความรู้สึกความหวังของแม่เลยค่ะ
ทั้งเครียดทั้งกดดัน เรารู้ว่าเราพลาดแต่ไม่รู้ว่าทางไหนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดจริงๆค่ะ
เรียนในสิ่งที่ไม่ใช่ ควรหยุดหรือไปต่อดีคะ?
ตอนนี้เราเรียน ป.โท เทอม2แล้วค่ะ เราเป็นเด็กทุน ได้รับการยกเว้นในเรื่องของค่าเทอม และมีรายเดือนให้อีกในแต่ละเดือน
แต่ทั้งนี้ มันมีเงื่อนไขว่า เราต้องจบภายใน2ปี ได้เกรดเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่าที่ทาง ม. กำหนดไว้ และต้องทำวิทยานิพนธ์เท่านั้น (ไม่ให้ทำISค่ะ)
ในตอนแรก การเรียนในภาคการศึกษาแรก ก็พอโอเค คือพอไหว เพราะมันเป็นตัวที่ทางคณะกำหนดให้เราต้องเรียนอยู่แล้ว
แต่เราก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เหมือนตอนเรานั่งอ่านรายละเอียดหลักสูตร พอมาลงเรียนรู้แต่ละรายวิชาแล้วมันอะไรไม่รู้ค่ะ
หลายๆอย่างมันใช้ต่อยอดความรู้ตอนป.ตรีได้น้อยมาก การสอนคือแบบ..... อาจารย์ที่นี่เก่งนะคะ จบเมืองนอกส่วนใหญ่ แต่การถ่ายทอดมีเพียงไม่กี่ท่านที่ทำให้เรารู้สึกว่าเรามาหาความรู้แล้วเราได้ความรู้จริงๆ เอาง่ายๆคือมันไม่ใช่ แต่ช่วงเทอมแรกคิดว่าเรียนไหว ทนได้ มันไม่ได้กดดันอะไรมากแต่ถามว่าชอบมั้ย อินมั้ย ก็ไม่
และที่เราเลือกที่จะเรียนต่อไปตอนนั้น เพราะหากเราออกกระทันหัน เรียนไม่จบ เราต้องจ่ายคืนทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งเรื่องนี้คือปัญหาหลักบวกกับคิดว่าคงทนได้
พอมาเทอม2 มันเป็นเทอมที่ต้องเลือกวิชาเอก แล้วรุ่นเราก็เลือกเรียนเอกเดียวกันทั้งหมด เราก็โอเค เพราะไม่ได้อินกับคณะสาขาวิชาอะไรอยู่แล้ว คิดว่าเรียนได้แค่ให้มันจบๆไป
พอลงเรียนลึกๆ ในวิชาเอก เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่เลย แรงกดดันมันมากขึ้น เราเครียด ทุกวันที่ตื่นไปเรียนเราไม่มีความสุขเลย
เราพูดกับใครไม่ได้ ปรึกษาใครไม่ได้ แม่ก็ฝากความหวังไว้มาก เราเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว
เวลาอาจารย์สั่งงานอะไรมา เราไม่อยากทำ มันไม่มีความสุข มันไม่ใช่เรื่องและประเด็นที่เราสนใจ
จะออกเราก็ต้องคืนเงิน ซึ่งตั้งแต่มาเรียนเราไม่มีเงินเก็บ จำนวนเงินตอนนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วค่ะ เรารู้สึกปรึกษาใครไม่ได้ เพราะทุกคนคิดว่า เราไหว เราทนได้ แต่ไม่เคยมีใครถามเลยว่า จริงๆแล้วเราไหวไหม
เราควรต้องทนต่อไปดีมั้ยคะ แต่เรายังไม่มีเงินจ่ายคืน เราเสียเวลาในการทำงานไปเกือบปี
แต่ถ้าเราทน เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไหวไหม
เราทำอย่างเดียวคือ พยายามให้กำลังใจตัวเองว่า ไม่ใช่เราไม่เก่ง แต่เราแค่ไม่ถนัด แต่มันกล้ำกลืนฝืนทนมากๆ ไม่กล้าทำร้ายความรู้สึกความหวังของแม่เลยค่ะ
ทั้งเครียดทั้งกดดัน เรารู้ว่าเราพลาดแต่ไม่รู้ว่าทางไหนจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดจริงๆค่ะ