Dear White People [ Netflix ] ซีรีส์บอกเล่ามุมมองของคนผิวสี เรื่องราวการเหยียดสีผิว ที่ถูกมองข้าม
Dear White People คือซีรีส์ออริจินัลของ Netflix ที่สร้างมากจากหนังสือ Dear White People : A Guide to interracial harmony in “ post – racial “ America หนังสือบอกเล่าเรื่องราวสะท้อนสังคมของการเหยียดสีผิวในมหาวิทยาลัยในอเมริกา และ ยังมีภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือเรื่องนี้อีกในชื่อเดียวกันด้วย แต่ว่า ภาพยนตร์และซีรีส์แตกต่างกันอย่างสุดๆ ดูให้ถูกอันล่ะ
Dear White People คือเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ออกมาเคลื่อนไหว ออกมาประท้วงเมื่อมีการเหยียดสีผิวที่รุนแรงมากเกิดขึ้น ซึ่งก็คือปาร์ตี้ Black face ปาร์ตี้ฮาโลวีนที่ให้แต่งตัว แต่งหน้าเป็นคนผิวสี และหลังจากเหตุการณ์นั้น ก็ได้มีรายการวิทยุที่ถือกำเนิดขึ้นมาในมหาวิทยาลัย ชื่อรายการ Dear White People ที่จัดขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวมุมมองของคนผิวสี วัฒนธรรมของคนผิวสีเป็นอย่างไร และเพื่อส่งข้อความต่อสู้ว่า พวกเขาจะไม่ยอมเงียบสงบต่อคนขาวที่ชอบเหยียดสีผิวอีกต่อไป และร้องเรียกความเป็นธรรม
ในบทความนี้แนะนำตัวซีรีส์ มีให้รับชมผ่านทาง Netflix มี Sub ไทยด้วยนะ แต่การโปรโมทเงียบมาก ทั้งๆที่ซีรีส์เรื่องนี้มีด้านหลากหลายอย่างมากๆ เป็นซีรีส์ดีๆที่ถูกมองข้ามเป็นอย่างมาก
การดัดแปลง ปรับเปลี่ยนบทจากตัวหนังสือและภาพยนตร์
ในซีรีส์ที่มีความยาว จำนวน 10 ตอน ตอนล่ะราวๆ 1 ชม ทำให้ตัวซีรีส์มีเวลาที่จะขยายปม ลงรายละเอียดต่างๆได้เยอะกว่าตัวภาพยนตร์เป็นอย่างมาก และยังมีการปรับเปลี่ยนให้เรื่องราวเป็นในยุคปัจจุบันอีกด้วย เป็นยุคที่โซเชียลมีเดียมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก แถมยังลงรายละเอียดเยอะให้กับทุกๆตัวละครอีกด้วย เพิ่มมิติ เพิ่มมุมมองที่ขาดหายของบางตัวละครในเรื่อง หรือเติมเต็มมิติให้ตัวละครให้สมจริงยิ่งขึ้นและไม่งี่เง่าไร้เหตุผลมากจนเกินไป ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นการดัดแปลง ที่เคารพต้นฉบับแถมยังทำให้มันออกมาดีขึ้นมากๆอีกด้วย บทดราม่าดี แต่งเติมให้มีความสมจริงมากขึ้น
การดำเนินเรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละครในเรื่อง
ในซีรีส์เรื่องนี้ เราจะได้รับรู้เรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละคร เฉพาะเจาะจงไปที่แต่ล่ะตัวละคร เหมือนจิ๊กซอที่ในท้ายที่สุดเราจะต้องปะติดปะต่อกันเอาเอง การดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้บทดราม่าออกมาได้ยอดเยี่ยมมากเป็นพิเศษ มันเปิดเผยทั้งด้านดีและด้านไม่ดีของแต่ล่ะตัวละคร บางตัวละครที่ดูเหมือนเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอาจจะไม่ได้เห็นแก่ตัวอย่างที่คิด พวกเขามีเหตุผลการกระทำ พวกเขามีอดีต พวกเขามีเรื่องราวของตัวเองเหมือนกัน ซึ่งการดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้เราไม่ควรที่จะรีบไปด่วนตัดสินอะไรทั้งนั้น และมันสมจริง เพราะเหมือนชีวิตจริงๆ พวกเราทุกๆคนล้วนเป็นตัวเอกในเรื่องราวของตัวเอง ส่วนคนอื่นๆก็เหมือนตัวละครประกอบ หนึ่งในข้อความสำคัญที่ซีรีส์เรื่องนี้ส่งออกมาคือ “ อย่าด่วนตัดสินใคร ถ้าเราไม่รู้เรื่องราวของพวกเขาทั้งหมด.”
การนำเสนอประเด็นที่สำคัญและไม่ควรถูกเพิกเฉย การเหยียดสีผิว
ประเด็นสำคัญ แก่นสารของเรื่องนี้คือ การเหยียดสีผิว การเปิดเผย การนำเสนอมุมมองของคนผิวสี อย่างกรณีที่รุนแรงมากที่สุด คือ การที่คนผิวสี ถูกยิง ถูกทำร้ายโดยตำรวจผิวขาวในอเมริกามากมาย พวกเขาถูกฆ่า ถูกแบ่งแย่ง มาเป็นเวลานานกว่า 200 ปีและสิ่งเหล่านี้มันก็ยังไม่หมดไป มันยังมีอยู่ในสังคมปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเพิกเฉย มันเป็นเรื่องที่ควรได้รับการใส่ใจ สนใจมากขึ้น อย่างน้อยๆ คือการรับรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหารุนแรงไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เพิกเฉย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ การนำเสนอประเด็นนี้อาจจะไม่ได้เจาะลึก รุนแรงมากนัก แต่นับว่าเป็นการนำเสนอออกมาได้น่าสะเทือนใจ สมจริงสุดๆ
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ถูกมองข้ามเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่มันก็เป็นซีรีส์ดีๆเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราว มุมมองของคนผิวสีออกมาได้สมจริง ทำให้เราเปิดมุมมองที่เรามีต่อคนผิวสีมากขึ้นและเห็นว่าพวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง เจอปัญหาอย่างไรบ้าง การเหยียดสีผิวที่รุนแรง ที่น่ากลัว ประเด็นสังคมเรื่องนี้เป็นซึ่งที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไรก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจสุดๆอยู่ดี ซีรีส์เรื่องนี้ทำออกมาได้สมจริง บทดราม่าดี การเล่าเรื่องที่ทำให้เข้าใจมุมมองของตัวละครมากขึ้น เหมือนต่อจิ๊กซอ ปะติดปะต่อชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อในท้ายที่สุดแล้วเราก็จะได้เห็นภาพที่มันสื่อความหมาย ถ้ามีเวลาก็อยากให้ลองดูกัน ผ่านทาง Netflix มี Sub ไทยด้วย
ตอนแรกก็ว่างๆเลยกะว่าจะลองดูซักตอนสองตอน จากที่เคยดูแบบภาพยนตร์มาแล้ว ปรากฏว่าดูๆไปแล้วก็ติดจนสุดท้ายดูหมดทุกตอนในวันเดียว ชอบ และอินมาก แต่ถึงแม้เรื่องนี้ในตอนแรกจะมีกระแสต่อต้านที่รุนแรงมากๆว่ามันเป็นการเหยียดสีผิว มันเหยียดคนผิวขาว แต่จริงๆแล้วถ้าได้รับชมตัวซีรีส์จริงๆ มันไม่ได้เหยียดคนผิวขาวมากขนาดนั้นเลย เป็นแค่การนำเสนอมุมมองของคนผิวสีเท่านั้นเอง การนำเสนอประเด็นการเหยียดสีผิว ไม่ใช่ซีรีส์ที่สร้างมาจากความเกลียดชัง หรือโทษคนผิวขาวทุกๆอย่างขนาดนั้น จริงๆแล้วมันเป็นซีรีส์ที่ดีมาก แต่ผู้คนมากมายตัดสินว่ามันเป็นซีรีส์ที่เหยียดผิว ซีรีส์แห่งความเกลียดชัง จึงทำให้มันถูกมองข้าม น่าเสียดายจริงๆ แอบหวังว่าจะได้สร้างซีซั่น 2 ต่อ
มีใครที่ดูซีรีส์เรื่องนี้กันบ้างครับมาคุยกันได้นะครับ คนยังดูเรื่องนี้น้อยมากขนาดใน ตปท. ยังหาคนคุยยาก เลยมาเขียนแนะนำชวนดูครับ สำหรับใครที่มีสมาชิก Netflix อยากหาซีรีส์ดูแนะนำลองรับชมเรื่องนี้ก็ได้ครับ มันดีกว่าที่คิดเพลินๆดี ภาพสวยเหมือนภาพยนตร์ด้วยทั้ง 10 ตอน
Dear White People [ Netflix ] ซีรีส์บอกเล่ามุมมองของคนผิวสี เรื่องราวการเหยียดสีผิว ที่ถูกมองข้าม
Dear White People คือซีรีส์ออริจินัลของ Netflix ที่สร้างมากจากหนังสือ Dear White People : A Guide to interracial harmony in “ post – racial “ America หนังสือบอกเล่าเรื่องราวสะท้อนสังคมของการเหยียดสีผิวในมหาวิทยาลัยในอเมริกา และ ยังมีภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือเรื่องนี้อีกในชื่อเดียวกันด้วย แต่ว่า ภาพยนตร์และซีรีส์แตกต่างกันอย่างสุดๆ ดูให้ถูกอันล่ะ
Dear White People คือเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ออกมาเคลื่อนไหว ออกมาประท้วงเมื่อมีการเหยียดสีผิวที่รุนแรงมากเกิดขึ้น ซึ่งก็คือปาร์ตี้ Black face ปาร์ตี้ฮาโลวีนที่ให้แต่งตัว แต่งหน้าเป็นคนผิวสี และหลังจากเหตุการณ์นั้น ก็ได้มีรายการวิทยุที่ถือกำเนิดขึ้นมาในมหาวิทยาลัย ชื่อรายการ Dear White People ที่จัดขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวมุมมองของคนผิวสี วัฒนธรรมของคนผิวสีเป็นอย่างไร และเพื่อส่งข้อความต่อสู้ว่า พวกเขาจะไม่ยอมเงียบสงบต่อคนขาวที่ชอบเหยียดสีผิวอีกต่อไป และร้องเรียกความเป็นธรรม
ในบทความนี้แนะนำตัวซีรีส์ มีให้รับชมผ่านทาง Netflix มี Sub ไทยด้วยนะ แต่การโปรโมทเงียบมาก ทั้งๆที่ซีรีส์เรื่องนี้มีด้านหลากหลายอย่างมากๆ เป็นซีรีส์ดีๆที่ถูกมองข้ามเป็นอย่างมาก
ในซีรีส์ที่มีความยาว จำนวน 10 ตอน ตอนล่ะราวๆ 1 ชม ทำให้ตัวซีรีส์มีเวลาที่จะขยายปม ลงรายละเอียดต่างๆได้เยอะกว่าตัวภาพยนตร์เป็นอย่างมาก และยังมีการปรับเปลี่ยนให้เรื่องราวเป็นในยุคปัจจุบันอีกด้วย เป็นยุคที่โซเชียลมีเดียมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก แถมยังลงรายละเอียดเยอะให้กับทุกๆตัวละครอีกด้วย เพิ่มมิติ เพิ่มมุมมองที่ขาดหายของบางตัวละครในเรื่อง หรือเติมเต็มมิติให้ตัวละครให้สมจริงยิ่งขึ้นและไม่งี่เง่าไร้เหตุผลมากจนเกินไป ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นการดัดแปลง ที่เคารพต้นฉบับแถมยังทำให้มันออกมาดีขึ้นมากๆอีกด้วย บทดราม่าดี แต่งเติมให้มีความสมจริงมากขึ้น
ในซีรีส์เรื่องนี้ เราจะได้รับรู้เรื่องราวผ่านมุมมองของตัวละคร เฉพาะเจาะจงไปที่แต่ล่ะตัวละคร เหมือนจิ๊กซอที่ในท้ายที่สุดเราจะต้องปะติดปะต่อกันเอาเอง การดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้บทดราม่าออกมาได้ยอดเยี่ยมมากเป็นพิเศษ มันเปิดเผยทั้งด้านดีและด้านไม่ดีของแต่ล่ะตัวละคร บางตัวละครที่ดูเหมือนเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอาจจะไม่ได้เห็นแก่ตัวอย่างที่คิด พวกเขามีเหตุผลการกระทำ พวกเขามีอดีต พวกเขามีเรื่องราวของตัวเองเหมือนกัน ซึ่งการดำเนินเรื่องแบบนี้ทำให้เราไม่ควรที่จะรีบไปด่วนตัดสินอะไรทั้งนั้น และมันสมจริง เพราะเหมือนชีวิตจริงๆ พวกเราทุกๆคนล้วนเป็นตัวเอกในเรื่องราวของตัวเอง ส่วนคนอื่นๆก็เหมือนตัวละครประกอบ หนึ่งในข้อความสำคัญที่ซีรีส์เรื่องนี้ส่งออกมาคือ “ อย่าด่วนตัดสินใคร ถ้าเราไม่รู้เรื่องราวของพวกเขาทั้งหมด.”
ประเด็นสำคัญ แก่นสารของเรื่องนี้คือ การเหยียดสีผิว การเปิดเผย การนำเสนอมุมมองของคนผิวสี อย่างกรณีที่รุนแรงมากที่สุด คือ การที่คนผิวสี ถูกยิง ถูกทำร้ายโดยตำรวจผิวขาวในอเมริกามากมาย พวกเขาถูกฆ่า ถูกแบ่งแย่ง มาเป็นเวลานานกว่า 200 ปีและสิ่งเหล่านี้มันก็ยังไม่หมดไป มันยังมีอยู่ในสังคมปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมาก มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเพิกเฉย มันเป็นเรื่องที่ควรได้รับการใส่ใจ สนใจมากขึ้น อย่างน้อยๆ คือการรับรู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นปัญหารุนแรงไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เพิกเฉย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ การนำเสนอประเด็นนี้อาจจะไม่ได้เจาะลึก รุนแรงมากนัก แต่นับว่าเป็นการนำเสนอออกมาได้น่าสะเทือนใจ สมจริงสุดๆ
ตอนแรกก็ว่างๆเลยกะว่าจะลองดูซักตอนสองตอน จากที่เคยดูแบบภาพยนตร์มาแล้ว ปรากฏว่าดูๆไปแล้วก็ติดจนสุดท้ายดูหมดทุกตอนในวันเดียว ชอบ และอินมาก แต่ถึงแม้เรื่องนี้ในตอนแรกจะมีกระแสต่อต้านที่รุนแรงมากๆว่ามันเป็นการเหยียดสีผิว มันเหยียดคนผิวขาว แต่จริงๆแล้วถ้าได้รับชมตัวซีรีส์จริงๆ มันไม่ได้เหยียดคนผิวขาวมากขนาดนั้นเลย เป็นแค่การนำเสนอมุมมองของคนผิวสีเท่านั้นเอง การนำเสนอประเด็นการเหยียดสีผิว ไม่ใช่ซีรีส์ที่สร้างมาจากความเกลียดชัง หรือโทษคนผิวขาวทุกๆอย่างขนาดนั้น จริงๆแล้วมันเป็นซีรีส์ที่ดีมาก แต่ผู้คนมากมายตัดสินว่ามันเป็นซีรีส์ที่เหยียดผิว ซีรีส์แห่งความเกลียดชัง จึงทำให้มันถูกมองข้าม น่าเสียดายจริงๆ แอบหวังว่าจะได้สร้างซีซั่น 2 ต่อ
มีใครที่ดูซีรีส์เรื่องนี้กันบ้างครับมาคุยกันได้นะครับ คนยังดูเรื่องนี้น้อยมากขนาดใน ตปท. ยังหาคนคุยยาก เลยมาเขียนแนะนำชวนดูครับ สำหรับใครที่มีสมาชิก Netflix อยากหาซีรีส์ดูแนะนำลองรับชมเรื่องนี้ก็ได้ครับ มันดีกว่าที่คิดเพลินๆดี ภาพสวยเหมือนภาพยนตร์ด้วยทั้ง 10 ตอน