13 Reason Why คือ มินิซีรีส์ ออริจินัลของ Netflix ที่สร้างมาจากหนังสือ 13 Reason Why ที่เขียนโดย เจย์ แอชเชอร์ (Jay Asher) โดยในครั้งแรกกำลังจะถูกสร้างเป็นหนังภาพยนตร์ที่วางตัว เซเลน่า โกเมส (Selena Gomez) มาแสดง แต่ต่อมาก็ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นซีรีส์แทน โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ เด็กสาวคนหนึ่ง แฮนน่าห์ เบคเกอร์ (รับบทโดย แคทเธอรีน แลงค์ฟอร์ด Katherine Langford ) ที่ได้ฆ่าตัวตาย แต่หลังจากเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ ชายหนุ่มที่แอบชอบเธออยู่ เคลย์ เจ็นเซ่น (รับบทโดย ดีแลน มิเน็ทเทอร์ Dylan Minnette ) ก็ได้รับเทป 13 เทปที่บันทึกเสียงของ แฮนน่าเด็กสาวที่ฆ่าตัวตายไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเธอบันทึกเสียงไว้ 13 เทป ซึ่งก็คือ คน 13 คนที่เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องฆ่าตัวตายและ เคลย์ ก็คือหนึ่งในนั้น เขาจะสืบหาความลับ อดีตอันดำมืดของคนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แฮนน่าห์เสียชีวิต และเขาจะสามารถสืบหาได้อย่างไรก็ติดตามรับชมได้ในซีรีส์ 13 Reason Why [Netflix ] ไม่ได้โฆษณาแต่มันดีเลยต้องมา

จุดประสงค์ของซีรีส์เรื่องนี้
" We wanted to do it in a way where it was honest and we wanted to make something that hopefully can help people, because suicide should not ever be an option.."
" พวกเราต้องการจะทำซีรีส์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่จริงใจ และหวังว่ามันจะสามารถช่วยผู้คนได้                       
  เพราะว่า การฆ่าตัวตายไม่ควรเป็นทางเลือกไม่ว่าอย่างไรก็ตาม."
   - Selena Gomez [ Executive Producer ]
" The whole issue of suicide is an uncomfortable thing to talk about but it happen so we have to talk about it and it's dangerous not to talk about it because it's always room for hope.."
" ปัญหาทั้งหมดเกี่ยวกับ การฆ่าตัวตายก็คือมันเป็นสิ่งที่ไม่สะดวกที่จะพูดถึงกัน แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามมันก็เกิดขึ้นอยู่ดี เพราะฉะนั้นพวกเราถึงยิ่งต้องพูดถึงมัน  มันจะเป็นอันตรายมากกว่าที่จะไม่พูดถึงมัน เพราะว่ายังไงก็จะมีพื้นที่สำหรับความหวังอยู่เสมอๆ."
-  Jay Asher [ Writer ]
โดยจุดประสงค์หลักๆของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการตีแผ่เกี่ยวกับ ปัญหา การฆ่าตัวตาย ว่าเพราะอะไรทำไมถึงเกิดสิ่งนี้ขึ้นมา โดยนอกจากเหล่านักเขียนและทางซีรีส์นี้ยังมีการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ จิตแพทย์มาช่วยทำให้เรื่องราวดูสมจริงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้นอีกด้วย ทำการบ้านมาดีจริงๆ

ที่ยกตัวอย่างมา เป็นข้อความจากหนึ่งในโปรดิวเซอร์ของซีรีส์ เซเลน่า และจากนักเขียนหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับ 13 Reason Why และปัญหาการฆ่าตัวตาย ซีรีส์เรื่องนี้ทำการนำเสนอ 1  ในปัญหาที่สำคัญและรุนแรงนั้นก็คือ ปัญหา การฆ่าตัวตายของวัยรุ่น แต่ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เจาะจงกลุ่มเป้าหมายเพียงแค่เหล่าวัยรุ่นเท่านั้นแต่ยังเน้นเจาะจงไปที่เหล่าวัยคนหนุ่มสาว ถึงผู้ใหญ่ ถึงครอบครัวที่มีลูกเป็นวัยรุ่นอีกด้วย เพราะการดำเนินเนื้อหาเรื่องจะนำเสนอจากหลากหลายมุมมอง ทั้งมุมมองของวัยรุ่นที่เผชิญปัญหาและทำการฆ่าตัวตาย ก็คือแฮนน่าห์ ผู้บันทึกเทปเหตุผลที่ทำให้เธอทำเช่นนั้น , วัยรุ่นที่รู้สึกผิดและพยายามปะติปะต่อเรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้ แฮนน่าห์ฆ่าตัวตาย ผู้ดำเนินเรื่องราว เคลย์ , มุมมองของบุคคลอีกทั้ง 12 คนนอกจาก เคลย์ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ แฮนน่าห์ฆ่าตัวตาย , มุมมองของเหล่าคนรุ่นผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยม และมุมมองของผู้ปกครอง พ่อแม่ของเหล่าเด็กวัยรุ่นที่มีผลกระทบเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวได้หลากหลายมุมมองมาก ทำให้เรื่องราวดำเนินได้อย่างสนุก ดูแล้วจะต้องติด ดูแล้วจะอยากรู้เรื่องราวต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นซีรีส์ช่องอื่นคงต้องนั่งคิดรอๆไปอย่างน้อย 1 สัปดาห์แต่ที่นี้คือซีรีส์ Netflix เพราะฉะนั้นเราสามารถที่จะดูทั้ง 13 ตอนในวันเดียวเลยก็ได้ถ้าอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดเร็วๆ หรืออาจจะดูวันล่ะ ตอน 2 ตอนพอคลายความสงสัยพลางๆ แต่การันตีว่าการดำเนินเรื่องราวสนุกและน่าติดตามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่มีการนำเสนอผ่านหลายๆมุมมองนี้และ ทำให้มันดูสมจริงและน่าติดตาม

ประเด็นเรื่องราว การฆ่าตัวตายที่น่าสนใจ
การที่คนๆหนึ่งจะทำการฆ่าตัวตายนี้ คนนอกไม่สามารถที่จะรับรู้ได้เลยว่า คนๆนั้นน่ะเขารู้สึก เขาเจออะไรทั้งหมดกันมาบ้าง คนส่วนมากมักจะชอบรีบตัดสินว่า " เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้ใครตายหรอก." " ก็แค่พวกเรียกร้องความน่าสนใจ." "ชีวิตมันก็มีแต่ความเจ็บปวดงี้และ ทนๆเอา." "คนอื่นเขายังไม่เห็นเป็นอะไรเลย เลิกเวิ่นเว้อซักที." โดยคำพูดการตัดสินอย่างนี้จะมาจากเหล่าคนนอก หรือคนที่ไม่ได้อยู่ในเรื่องราว สายตาคนอื่นซึ่งก็คือนักเรียนในโรงเรียนที่มักจะมอง แฮนน่าห์แบบนั้น และแม้แต่พวกเขาที่เป็นคนนอกก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนๆหนึ่งฆ่าตัวตาย การตัดสินผู้อื่นก การเลือกปฏิบัติ การดูถูก และการกลั่นแกล้งทางโซเชียลมีเดีย (Cyber Bullying) สิ่งเหล่านั้นสามารถส่งผลกระทบต่อคนๆหนึ่งได้รุนแรงขนาดนั้น ซึ่งปัญหานี้ผู้ใหญ่ คนรุ่นก่อนไม่เคยพบมาก่อนและมักจะเพิกเฉยต่อปัญหานี้ คิดว่า มันก็แค่เล่นๆ ไม่ได้รุนแรงเดี๋ยวมันก็ผ่านๆไป แต่ปัญหาการกลั่นแกล้งทางโซเชียลมีเดีย (Cyber Bullying) มันไม่ได้จบลงเมื่อออกจากโรงเรียน  เมื่อเสียงสัญญาณบอกเลิกโรงเรียนดัง มันจะคงอยู่ไปตลอดจนนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหา หรือบางครั้งคนอื่นชอบคิดว่า พวกที่ฆ่าตัวตายมักจะเป็นคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือพวกที่เป็นโรคซึมเศร้าเท่านั้นถึงจะคิดอย่างนี้ ซึ่งนั้นเป็นความคิดที่ผิดมาก มันมีหลากหลายสาเหตุที่ทำให้คนๆหนึ่งตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตัวเอง ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้จะนำเสนอสิ่งนี้ออกมา เพื่อให้ผู้คน ได้รับรู้เรื่องราว ข้อมูลเกี่ยวกับ  ประเด็นนี้มากขึ้นและช่วยกันป้องกัน ระมัดระวังไม่ให้เกิดเรื่องราวอย่างนี้ขึ้นมาอีก ดูแล้วอยากฝากให้พยายามนำประเด็นต่างๆมาคิด เพราะซีรีส์เรื่องนี้ยิงคำถามที่ทำให้คนดูอย่างเราๆคิดกันเยอะมาก
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าได้ที่นี้ ขออนุญาติ Tied in ตรงๆเลย
https://allofimpulsion.wordpress.com/2017/01/22/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-l-what-is-major-depressive-disorder/


มุมมองของผู้ใหญ่และวัยรุ่นนั้นมันไม่เหมือนกัน
นอกจากจะเจาะจงไปที่เรื่องราวของวัยรุ่นแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังเจาะจงไปที่สถาบันครอบครัว  มุมมองของผู้ใหญ่อีกด้วย อย่าง  การพูดคุย การเลี้ยงดูลูกวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่เลี้ยงดูยากที่สุด และการมองโลก มุมมองความคิดของผู้ใหญ่และเหล่าวัยรุ่นเนี่ยมันคิดไม่เหมือนกัน อย่างครอบครัว พ่อแม่ของวัยรุ่นอาจจะมอง เรื่องการแกล้งกันว่า เป็นเรื่องเล่นๆไม่มีอะไรหรอก โตไปเดี๋ยวมันก็หายไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แต่เป็นมุมมองความคิดคนล่ะเรื่องกันกับวัยรุ่นที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่คิดโดยสิ้นเชิง สำหรับพวกเขา พวกเขารู้สึกว่าความเจ็บปวด เหตุการณ์สะเทือนใจเหล่านี้จะคงอยู่ติดตัวกับพวกเขาไปตลอดกาล และพวกเขาไม่อยากจะรู้สึกอะไรอีกเลยทั้งนั้น ครอบครัว ผู้ใหญ่ควรรับชมซีรีส์เรื่องนี้กันบ้างถ้ามีโอกาส เพราะมันนำเสนอมุมมองอีกมุมมองหนึ่งที่จะทำให้เข้าใจลูกวัยรุ่นมากขึ้น และให้วัยรุ่นเข้าใจพ่อแม่ได้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งน้อยเรื่องที่จะนำเสนอมุมมองของผู้ใหญ่และครอบครัวอย่างจริงจัง เพราะจะเน้นไปทางเรื่องราวของวัยรุ่นมากกว่าแต่ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอมุมมองผู้ใหญ่ ของครอบครัวได้ละเอียด ลงลึกมากขึ้นและทำออกมาได้ดีอีกด้วย โดยจะดำเนินเรื่องผ่าน แม่ของ แฮนน่าห์ที่ตามหาต้องการเหตุผลว่า ทำไมลูกสาวของเธอถึงฆ่าตัวตาย ทำไมทาง รร.ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย และครอบครัวของเคลย์ที่พยายามจะติดต่อ สร้างความสัมพันธ์กับลูกชายที่ห่างเหินและกำลังมีปัญหา กำลังเจอเรื่องราวที่สะเทือนใจอยู่

ตัวละครที่สมจริงและมีมิติ
ตัวละครทุกตัวละครในเรื่องนี้มีมิติ มีความสมจริงเป็นอย่างมาก  ไม่ได้มีใครที่แสนดีหรือเลวร้ายไปซะทั้งหมด ทุกๆคนมีด้านดีและด้านไม่ดีอยู่ในตัว แอบสงสารตัวร้ายในเรื่องหน่อยๆตอนท้ายๆ คือถ้ามองอีกมุมหนึ่งเขาก็ยังเป็นคนเหมือนเราๆไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด แต่พวกเขาเลือกที่จะแสดงออกมาแบบนั้นต้องติดตามดู ตัวละครไม่ได้งี่เง่าจนเกินไป ทุกตัวละครจะมีตอนที่ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง ว่าทำไมถึงทำเรื่องอย่างนี้ มีเหตุผลของตัวเองและเป็นการสร้างมิติให้ตัวละครให้สมจริงมากขึ้น โดยตัวละครหลักๆ 13 ตัวละครก็คือสาเหตุที่ทำให้แฮนน่าห์ฆ่าตัวตาย  ล้วนมีอดีต มีเหตุผลที่แตกต่างกันไปและทำให้แฮนน่าห์ฆ่าตัวตาย และอีกอย่างหนึ่งนักแสดงส่วนมากในซีรีส์เรื่องนี้เป็นนักแสดงหน้าใหม่ทั้งนั้นเลย ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตากันซักเท่าไร ยังมีผลงานการแสดงมาไม่มากนัก แต่ส่วนมากก็แสดงออกมาได้ดี ถึงบางคนอาจจะมีแสดงแข็งๆบ้าง อันนี้ก็ยวนๆกันไปเพราะเป็นเรื่องแรกของเขา แต่ภาพรวมแล้วก็แสดงกันได้ดีมาก แล้วก็ตัวละครผู้ใหญ่ พ่อแม่ก็ดีมากเหมือนกัน สงสาร แม่ของแฮนน่าห์มากๆ เข้าฉากทีไรเห็นความเจ็บปวดในดวงตาคนเป็นแม่ แสดงดี
[ขอชมเพิ่ม คือ ชอบที่เรื่องนี้ มีตัวละครหลากหลายเชื้อชาติดี มีทั้งเอเชีย คนผิวสี เปิดโอกาสให้นักแสดงมากขึ้น ]

ดราม่าหนักหน่วง เข้มข้น ปมตัวละครที่น่าติดตาม

ตัวละครทุกตัวหลัก ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ แฮนน่าห์ล้วนมีเรื่องราวของตัวเอง มีปมของตัวเอง ตั้งแต่ การไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นใคร การค้นหาตัวเองที่ยังหาไม่เจอ , การปกปิดตัวตนที่แท้จริง เรื่องเพศสภาพ  ,การต้องการยอมรับจากเพื่อน ชื่อเสียงจากสังคม , ปัญหาการติดสิ่งเสพติด , ปัญหาเรื่องการทารุณทางเพศ , ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และ การผิดหวังในความรัก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่วัยรุ่นล้วนต้องเคยเผชิญกันมาบ้างในสังคมโรงเรียนมัธยม Highschool ซึ่งตีแผ่ออกมาได้สมจริงมาก หรือบางอย่างที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่มันกลับสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงต่อใครซักคนเป็นอย่างมาก แม้แต่การกระทำเล็กๆน้อยๆ เพียงแค่มันเปลี่ยนไปจากเดิมนิดนึง หรือ ถ้าเกิดไม่ทำอย่างนั้น คนๆหนึ่งอาจจะไม่ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ความรู้สึกผิด เรื่องราวเล็กๆน้อยๆ การกระทำเล็กๆน้อยๆ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาไปตลอดกันและมันจะส่งผลอย่างไร  ต้องติดตามจริงๆ ไม่อยากสปอยแม้แต่นิดเดียวเลย เพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากเรื่องราวที่เล็กน้อยที่ส่งผลไปเป็นเหมือนลูกโซ่ที่ยิ่งใหญ่มาก สำหรับคนที่ชอบดราม่าเข้มข้น เรื่องนี้ตอบโจทย์มาก แต่ดราม่าก็ค่อนข้างหนักหน่วงมากเหมือนกัน ค่อนข้างมืดมน ก็เตรียมใจตรงนี้หน่อยสำหรับคนที่ยังดูดราม่าหนักๆไม่ได้ เพราะบางตอนดูจบแล้วก็ให้ความรู้สึก หดหู่ สิ้นหวังไปซักพักเหมือนกัน
ต่อ คห.ต่อไปนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ขอ Tied in ที่มาบทความเต็มๆ อ่านจากในเว็บไซต์นี้ก็ได้ครับ
https://allofimpulsion.wordpress.com/ หรือในเพจ Angels On The Moon พึ่งสร้างครับเลยต้องมาหาโฆษณาหน่อย
https://www.facebook.com/Engelsonthemoon/