สวัสดีครับ จขกท ได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนสมาชิกห้องนี้ในการจัดทริปอาหารโอนลี่ในโตเกียวตั้งแต่ปลาย2016ยันปลาย2017นี้เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ครับ
รายชื่อร้านที่ไปลองมาตลอดปีกว่าๆนี้ครับ
Sushi Saito (3 Michelin Stars)
Sushi Yoshitake (3 Michelin Stars)
Sukiyabashi Jiro Honten (3 Michelin Stars)
Nihonryuri Ryugin (3 Michelin Stars)
Quintessence (3 Michelin Stars)
Sukiyabashi Jiro Roppongi (2 Michelin Stars)
Hatsunezushi (2 Michelin Stars)
Tempura Kondo (2 Michelin Stars)
Kaishoku Michiba (Iron Chef Rokusaburo Michiba)
Shinsen Hanten (Iron Chef Chen Kenichi)
วันนี้ขอว่าด้วย Sushi Saito ก่อนแล้วกันนะครับ
Sushi Saito เป็นหนึ่งในสามของร้านซูชิที่ได้ Michelin 3 ดาวในโตเกียวครับ อีก2ร้านคือ Sushi Yoshitake, Sukibayashi Jiro Honten และอีกร้านที่เคยได้3ดาวแต่ปิดตัวไปแล้วคือ Sushi Mitsutani ครับ(อดกินเลย)
ปกติผมจะให้โรงแรม Tokyo Station Hotel เป็นคนจองร้านอาหารต่างๆให้ทั้งหมดแต่เฉพาะร้านนี้เค้าขอเลยว่าต้องบอกเค้าล่วงหน้า6เดือนไม่งั้นโอกาสได้ต่ำมากสมเป็นหนึ่งในร้านที่จองยากที่สุดในญี่ปุ่นถ้าเราไม่ได้เป็นลูกค้าเก่าเค้าครับ
เมนูมีเป็น Omakase คอรส์เท่านั้นครับ ผมไปช่วงเย็นราคาตกอยู่ที่22,XXX เยนครับถือว่าถูกที่สุดใน3เจ้าดังครับ
บรรยากาศในร้านครับ วันนี้โชคดีนั่งแท๊กซี่มาจอดใต้ตึกเดินเข้ามาเจอหน้าร้านเลยไม่งั้นเดินหากันมึนแน่ๆครับ
เพิ่งรู้ครับว่าที่ร้านนี้มี2ห้อง2เคาท์เตอร์ ห้องนึงไซโตะซังปั้นเองเลยกับห้องที่ผมนั่งมือหนึ่งเค้าชูซังเป็นคนปั้นครับ ทั้ง2ห้องเหมือนกันทุกอย่างขนาดเชฟใส่หมวกมาแล้วยังคล้ายกันเลยครับ ชูซังเฟรนด์ลี่มากๆไม่ได้คุยเล่นด้วยแต่เป๊ะมากและไม่กดดันเท่าอีกห้องครับ
คิรินต้องมาก่อนครับ
ทานเล่นจานแรก ชิราอุโอะในน้ำส้มครับ กรึบสดชื่นครับ
ชิราโกะราดปอนซึครับ มาคราวนี้ได้กินชิราโกะ3ครั้งเลยจากNihonryuri Ryugin กับ Hatsunezushi ของSaitoนี่ประทับใจที่สุดนุ่มครีมมากจนเข้าใจแล้วว่าทำไมคนญี่ปุ่นชอบ
ปลาหมึกไข่ซอสหวานครับ อันนี้ดีปกติแต่ไม่ว้าวครับ
อาวาบิต้มกับทาโกะต้มครับ นุ่มมากหวานมากเสียดายไม่มีซอสตับอาวาบิมาด้วย เป็นรองก็แค่Sushi Yoshitake ครับ
เคกานิ ปูขนจานที่3ของทริปนี้ครับ คลุกน้ำส้มมาด้วยนิดนึงอร่อยสดชื่นครับ
โรลปลาซาบะดองกำลังมา
ห่อสาหร่ายแล้วกินเลย กรอบหอมเปรี้ยวหวานมันมาเต็มครับ
ของกินเล่นชุดสุดท้าย ทาจิอุโอะย่างกับผักดองแกล้มครับ
ระหว่างที่รอเราทานของกินเล่น ชูซังก็โชว์สเตปเทพแล่ปลาไปเรื่อยตามจำนวนคนแล้ววางโชว์ความเป๊ะในขนาดของทุกชิ้นรอปั้นครับ
เริ่มด้วยปลาไทครับ ความรู้สึกของซูชิที่นี่คือข้าวอุ่นนิดเดียวแล้วมีความกลมกลืนระหว่างข้าวกับเครื่องสูงมากครับ ต่างจาก Sushi Yoshitakeที่บางคำที่อร่อยน้ำตาไหลบางคำโอเคกับของปู่จิโร่ที่เราเหมือนถูกกระตุ้นให้อยากกินๆๆไปเรื่อยๆจนตอนใกล้จบมีเหนื่อยนิด ที่นี่ให้ความรู้สึกอยากกลับมาที่สุดครับ
อิวาชิครับ มีมันแทรกเข้าปากหายครับ
โคฮาดะ เปรี้ยวมันเข้าปากหายวับครับ
อากามิ
จูโทโระ
โอโทโระ 3สหายนี้มันไม่เยอะมากแต่นิ่มนวลกลมกลืนทุกคำครับ
อิกะ สดมากยังใสกิ๊งเลยแต่คำนี้Sushi Yoshitakeดีกว่าครับ
จริงๆระหว่างกินลุงกะป้าคู่นึงข้างๆผมคุยกันเสียงดังแถมไอไม่หยุดมาตั้งแต่ผมเริ่มกินจนจะทนไม่ไหวละ ปรากฎอยู่ดีๆแกหันมาคุยด้วยแล้วถามว่าเพิ่งมาครั้งแรกเหรอรู้จักที่นี่ได้ยังไงสรุปคุยไปคุยมาเป็นCEOกับประธานบริษัทอะไรซักอย่าง แลกนามบัตรถูกคอกันเค้าเลยสั่งสาเกมาเลี้ยงครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่เป็นปกติผมไม่กินสาเกแต่ขวดนี้เอาใจไปเลยครับ
ต่อด้วยคุรุมะเอบิ อันนี้ยังชอบที่จิโร่ที่สุดแต่ที่นี่ก็วับหายครับ
อันนี้ไม่แน่ใจจำชื่อไม่ได้แต่หายวับอีกเหมือนกันครับ
อุนิครับ หอมมันซะไม่มีอยากขออีก5จาน ข้างบนนั่นเป็นชื่อสาเกภาษาอังกฤษครับ
มิโสะซุปครับ
ปิดท้ายด้วยคัมเปียวมากิกับทามาโกะยากิครับ คัมเปียวนี่อร่อยมากๆๆๆๆจนขอสั่งเพิ่มอีกที่ครับ
ท่านประธานถามว่ายังกินได้อีกมั้ยแล้วสั่งเมนูลับเพิ่มให้เป็นจูโทโระมากิ ฉ่ำหวานสุดๆครับ
หลังจากเสร็จคอรส์นี้กลายเป็นsessionแลกนามบัตรคุยกันสนุกสนานกับแขกเกือบทุกคนในร้านเลยครับ ร้านรับลูกค้าได้8คนมี2คนกลับไปก่อนเพราะเข้าใจว่าคงมีภารกิจต่อแต่ ทุกคนถ่ายรูปร่วมกันพร้อมชูซังครับ เป็นการกินอาหารในร้าน3ดาวที่ประทับใจสุดๆครับ
Sushi Saito เป็นร้านที่สมคำร่ำลือครับถึงแม้คราวนี้ไม่ได้นั่งกับไซโตะซังเองแต่ชุซังก็เยี่ยมมากครับ ดีมากพอที่จะกลับมากินกับชูซังได้อีกรอบเลยแต่คราวหน้าเดือนพฤศจิการยน2560นี้ขอทางโรงแรมจองให้อีกรอบกับนั่งที่เค้าท์เตอร์ไซโตะซังให้แล้ว ตอนนี้reservation confirmเรียบร้อยเดี๋ยวมารีวิวอีกทีครับ
มื้อนี้มีคิรินอีก2ขวดกับคัมเปียวเพิ่ม1ที่ สาเกกับมากิไม่ต้องตกคนละ26,XXXเยนครับถ้าจำไม่ผิด
พบกันใหม่คราวหน้ากับ Sushi Yoshitake นะครับ
[CR] กินเพื่อการศึกษา1: Sushi Saito - 3 Michelin Stars
รายชื่อร้านที่ไปลองมาตลอดปีกว่าๆนี้ครับ
Sushi Saito (3 Michelin Stars)
Sushi Yoshitake (3 Michelin Stars)
Sukiyabashi Jiro Honten (3 Michelin Stars)
Nihonryuri Ryugin (3 Michelin Stars)
Quintessence (3 Michelin Stars)
Sukiyabashi Jiro Roppongi (2 Michelin Stars)
Hatsunezushi (2 Michelin Stars)
Tempura Kondo (2 Michelin Stars)
Kaishoku Michiba (Iron Chef Rokusaburo Michiba)
Shinsen Hanten (Iron Chef Chen Kenichi)
วันนี้ขอว่าด้วย Sushi Saito ก่อนแล้วกันนะครับ
Sushi Saito เป็นหนึ่งในสามของร้านซูชิที่ได้ Michelin 3 ดาวในโตเกียวครับ อีก2ร้านคือ Sushi Yoshitake, Sukibayashi Jiro Honten และอีกร้านที่เคยได้3ดาวแต่ปิดตัวไปแล้วคือ Sushi Mitsutani ครับ(อดกินเลย)
ปกติผมจะให้โรงแรม Tokyo Station Hotel เป็นคนจองร้านอาหารต่างๆให้ทั้งหมดแต่เฉพาะร้านนี้เค้าขอเลยว่าต้องบอกเค้าล่วงหน้า6เดือนไม่งั้นโอกาสได้ต่ำมากสมเป็นหนึ่งในร้านที่จองยากที่สุดในญี่ปุ่นถ้าเราไม่ได้เป็นลูกค้าเก่าเค้าครับ
เมนูมีเป็น Omakase คอรส์เท่านั้นครับ ผมไปช่วงเย็นราคาตกอยู่ที่22,XXX เยนครับถือว่าถูกที่สุดใน3เจ้าดังครับ
บรรยากาศในร้านครับ วันนี้โชคดีนั่งแท๊กซี่มาจอดใต้ตึกเดินเข้ามาเจอหน้าร้านเลยไม่งั้นเดินหากันมึนแน่ๆครับ
เพิ่งรู้ครับว่าที่ร้านนี้มี2ห้อง2เคาท์เตอร์ ห้องนึงไซโตะซังปั้นเองเลยกับห้องที่ผมนั่งมือหนึ่งเค้าชูซังเป็นคนปั้นครับ ทั้ง2ห้องเหมือนกันทุกอย่างขนาดเชฟใส่หมวกมาแล้วยังคล้ายกันเลยครับ ชูซังเฟรนด์ลี่มากๆไม่ได้คุยเล่นด้วยแต่เป๊ะมากและไม่กดดันเท่าอีกห้องครับ
คิรินต้องมาก่อนครับ
ทานเล่นจานแรก ชิราอุโอะในน้ำส้มครับ กรึบสดชื่นครับ
ชิราโกะราดปอนซึครับ มาคราวนี้ได้กินชิราโกะ3ครั้งเลยจากNihonryuri Ryugin กับ Hatsunezushi ของSaitoนี่ประทับใจที่สุดนุ่มครีมมากจนเข้าใจแล้วว่าทำไมคนญี่ปุ่นชอบ
ปลาหมึกไข่ซอสหวานครับ อันนี้ดีปกติแต่ไม่ว้าวครับ
อาวาบิต้มกับทาโกะต้มครับ นุ่มมากหวานมากเสียดายไม่มีซอสตับอาวาบิมาด้วย เป็นรองก็แค่Sushi Yoshitake ครับ
เคกานิ ปูขนจานที่3ของทริปนี้ครับ คลุกน้ำส้มมาด้วยนิดนึงอร่อยสดชื่นครับ
โรลปลาซาบะดองกำลังมา
ห่อสาหร่ายแล้วกินเลย กรอบหอมเปรี้ยวหวานมันมาเต็มครับ
ของกินเล่นชุดสุดท้าย ทาจิอุโอะย่างกับผักดองแกล้มครับ
ระหว่างที่รอเราทานของกินเล่น ชูซังก็โชว์สเตปเทพแล่ปลาไปเรื่อยตามจำนวนคนแล้ววางโชว์ความเป๊ะในขนาดของทุกชิ้นรอปั้นครับ
เริ่มด้วยปลาไทครับ ความรู้สึกของซูชิที่นี่คือข้าวอุ่นนิดเดียวแล้วมีความกลมกลืนระหว่างข้าวกับเครื่องสูงมากครับ ต่างจาก Sushi Yoshitakeที่บางคำที่อร่อยน้ำตาไหลบางคำโอเคกับของปู่จิโร่ที่เราเหมือนถูกกระตุ้นให้อยากกินๆๆไปเรื่อยๆจนตอนใกล้จบมีเหนื่อยนิด ที่นี่ให้ความรู้สึกอยากกลับมาที่สุดครับ
อิวาชิครับ มีมันแทรกเข้าปากหายครับ
โคฮาดะ เปรี้ยวมันเข้าปากหายวับครับ
อากามิ
จูโทโระ
โอโทโระ 3สหายนี้มันไม่เยอะมากแต่นิ่มนวลกลมกลืนทุกคำครับ
อิกะ สดมากยังใสกิ๊งเลยแต่คำนี้Sushi Yoshitakeดีกว่าครับ
จริงๆระหว่างกินลุงกะป้าคู่นึงข้างๆผมคุยกันเสียงดังแถมไอไม่หยุดมาตั้งแต่ผมเริ่มกินจนจะทนไม่ไหวละ ปรากฎอยู่ดีๆแกหันมาคุยด้วยแล้วถามว่าเพิ่งมาครั้งแรกเหรอรู้จักที่นี่ได้ยังไงสรุปคุยไปคุยมาเป็นCEOกับประธานบริษัทอะไรซักอย่าง แลกนามบัตรถูกคอกันเค้าเลยสั่งสาเกมาเลี้ยงครับ ผมก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่เป็นปกติผมไม่กินสาเกแต่ขวดนี้เอาใจไปเลยครับ
ต่อด้วยคุรุมะเอบิ อันนี้ยังชอบที่จิโร่ที่สุดแต่ที่นี่ก็วับหายครับ
อันนี้ไม่แน่ใจจำชื่อไม่ได้แต่หายวับอีกเหมือนกันครับ
อุนิครับ หอมมันซะไม่มีอยากขออีก5จาน ข้างบนนั่นเป็นชื่อสาเกภาษาอังกฤษครับ
มิโสะซุปครับ
ปิดท้ายด้วยคัมเปียวมากิกับทามาโกะยากิครับ คัมเปียวนี่อร่อยมากๆๆๆๆจนขอสั่งเพิ่มอีกที่ครับ
ท่านประธานถามว่ายังกินได้อีกมั้ยแล้วสั่งเมนูลับเพิ่มให้เป็นจูโทโระมากิ ฉ่ำหวานสุดๆครับ
หลังจากเสร็จคอรส์นี้กลายเป็นsessionแลกนามบัตรคุยกันสนุกสนานกับแขกเกือบทุกคนในร้านเลยครับ ร้านรับลูกค้าได้8คนมี2คนกลับไปก่อนเพราะเข้าใจว่าคงมีภารกิจต่อแต่ ทุกคนถ่ายรูปร่วมกันพร้อมชูซังครับ เป็นการกินอาหารในร้าน3ดาวที่ประทับใจสุดๆครับ
Sushi Saito เป็นร้านที่สมคำร่ำลือครับถึงแม้คราวนี้ไม่ได้นั่งกับไซโตะซังเองแต่ชุซังก็เยี่ยมมากครับ ดีมากพอที่จะกลับมากินกับชูซังได้อีกรอบเลยแต่คราวหน้าเดือนพฤศจิการยน2560นี้ขอทางโรงแรมจองให้อีกรอบกับนั่งที่เค้าท์เตอร์ไซโตะซังให้แล้ว ตอนนี้reservation confirmเรียบร้อยเดี๋ยวมารีวิวอีกทีครับ
มื้อนี้มีคิรินอีก2ขวดกับคัมเปียวเพิ่ม1ที่ สาเกกับมากิไม่ต้องตกคนละ26,XXXเยนครับถ้าจำไม่ผิด
พบกันใหม่คราวหน้ากับ Sushi Yoshitake นะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น