ขนมจีบ-ห่อยังไงให้สวยงาม ไม่แห้ง ไม่แข็ง ไม่ดำ ไม่หลุด ที่สำคัญการเก็บรักษาไว้ทานได้นานมาก (ถ้าไม่หมดซะก่อน)

กระทู้สนทนา

สูตรไส้ขนมจีบอยู่ในคห.45

วิธีการห่อนี้ ไม่ต้อง ล้างแผ่น  ไม่ต้องขูดแป้ง ไม่ต้องทำใดๆ กับแผ่นทั้งสิ้นนอกจากตัดให้เป็นวงกลม ค่ะ  ถามว่าสี่เหลี่ยมทำได้ไหม ทำได้ แต่ส่วนเกี๊ยวที่เหลือๆ  เกินๆ ออกมา  ทำให้แข็ง แห้ง และดำ  บางครั้งเราอาจมองข้ามว่า เกี๊ยวไม่สำคัญ  ขอให้ไส้อร่อยเป็นใช้ได้  จริงๆแล้ว  ชนิดแผ่นเกี๊ยวหนา-บาง   มันมีผลต่อลักษณะสัมผัสเวลาเคี้ยวขนมจีบนะคะ  จขกท. ไม่ชอบขนมจีบแบบที่แป้งหุ้มไส้จนมิด  แบบนั้นต้องใช้วิธีต้ม(จะอร่อยหนึบหนับมากๆ)ถึงจะเข้ากันได้ดี แป้งเกี๊ยวต้องหนึบๆ  ไม่ใช่แข็งๆ เละๆ  ซึ่งในปัจจุบันถ้าจะรักษาสภาพเกี๊ยวให้อยู่ได้นาน ควรใช้วิธีห่อเพื่อนึ่ง (ใครชอบต้มก็ต้มได้เช่นกันแต่ต้มแค่พอกิน)  ก็เลยอยากทำกระทู้นำทางสำหรับท่านที่ไม่รู้จริงๆ บางคนห่อยังไงก็ห่อไม่ได้  เคยเป็นค่ะ พอทำได้แล้วเนี่ยคือ มันง่ายมาก ซึ่งวิธีการห่อขนมจีบนี้ที่หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญตรงนี้ไป  และวิธีการของ จขกท.ก็ทำให้เก็บรักษาขนมจีบไว้ทานได้นานๆ  เพราะทำครั้งนึง เราต้องเตรียมวัตถุดิบหลายอย่าง  ทำน้อยๆ ก็ไม่คุ้มค่า  จะทานให้หมดในครั้งเดียวก็จะเยอะเกินไป  เพราะฉะนั้น  จขกท.คิดว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆ  คน นะคะ  
                   แผ่นเกี๊ยว ถ้าเลือกได้ ใช้ชนิดบาง(มีผลกับรสชาติความอร่อยของขนมจีบ แผ่นหนาเคยห่อแล้วห่อสวยยังไง พอนึ่งเสร็จมันก็มีส่วนที่หลุดออกจากไส้ขนมจีบค่ะ) แผ่นเกี๊ยวถ้า สด ใหม่ ได้จะดีมากๆ ค่ะ ซื้อมาใหม่เกี๊ยวจะนิ่มก็ตัดไว้ให้หมดเลย ถ้าแช่เย็นแล้วตัด แผ่นจะต้องเพิ่มแรงกดหน่อยๆ   เวลาห่อควรเก็บเกี๊ยวไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด กันลมโกรกแผ่นแห้งแข็งแล้วจะห่อไม่สวย อย่าให้โดนพัดลมหรือลม หากต้องทิ้งช่วงการห่อก็ควรปิดฝาไว้  ห่อไม่หมด ปิดฝาเก็บแช่ตู้เย็นได้ค่ะ

     มาเริ่มทำตามขั้นตอนกันเลยดีกว่านะคะนานาโอเค

1.  ตัดแผ่นเกี๊ยวด้วยขอบแก้ว ในภาพใช้ขนาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 7 ซม. (ห่อเสร็จจะได้ ตัวขนม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. ความสูง ประมาณ 2.8 ซม. โดยเฉลี่ย)


2.ตักไส้ใส่แผ่น(ประมาณ 20 กรัม) เกลี่ยให้ทั่วทั้งแผ่นตามภาพ  เกลี่ยแล้ววางเรียงใส่ถาดทิ้งไว้ ประมาณ 5-10 นาที หรือจนกว่าแผ่นเกี๊ยวจะนิ่ม  ความนิ่มนี้ได้จากความชื้นของไส้ขนมจีบ เป็นเคล็ดลับทำให้ห่อง่าย จัดทรงได้สวย  เวลานึ่ง แป้งเกี๊ยว ไม่แห้ง แข็ง ดำ  ทุกส่วนของแป้งต้องติดกับไส้ขนมนะคะ  แผ่นแป้งจะไม่หลุดตอนนึ่งหรือตอนจับจีบ



พักไว้ก่อนประมาณ 15-20 นาที

3. ลงมือจัดทรงขนมจีบตามภาพ 3.1  ใช้นิ้วโป้ง กับชี้ (นิ้วอื่นๆ ด้วยก็ได้) ของทั้งสองมือ  ดันใต้ฐานเกี๊ยว
  
   3.1
  
แล้วดันฐานรวบขึ้นให้เป็นจีบ 4 จีบ ทรงขนมทองหยิบ ดันขึ้นจากด้านล่างนะคะ ไม่ใช่จับจีบจากด้านบนขนม ตามภาพ 3.2
  
   3.2
  
แล้วใช้นิ้วสองข้างดันกลีบทั้งสี่เข้าหากัน ตรงตำแหน่งกลีบทั้งสี่คล้ายจะแบ่งเป็น 8 กลีบ แต่ดันเข้าหากันแล้วตกแต่งให้เป็นทรงกระบอกตามภาพ 3.3
  
   3.3
  
เมื่อได้ทรงกลมๆ แล้ว ใช้ง่ามนิ้วโป้งและชี้ข้างที่ถนัด  คลึงๆ   ที่ลำตัวขนมจีบ โดยใช้นิ้วอีก 3 นิ้วที่เหลือ คลึงในลักษณะกำๆ เบาๆ รอบๆ ขนม แล้วใช้ช้อนตกแต่งหน้าขนมจีบให้สวยงาม เกลี่ยแครอทโปะๆ ด้านบนเพื่อเพิ่มสีสัน ให้ได้ตามภาพ 3.4

  3.4
   คลึงด้วยง่ามนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง
  
   
   จับฐานมนๆ เคาะๆ ที่ฝ่ามือ

   
   จะได้ทรงตามภาพล่างนี้ค่ะ

   
เสร็จแล้วพักวางใส่กล่องหรือใส่ถาดแล้วแต่ค่ะ  ในภาพด้านล่างนี้คือ ทำเก็บแช่ช่องฟรีชค่ะ  เก็บได้นานหลายเดือน ห้ามให้ละลายนะคะ  จะละลายก็ต่อเมื่อ จะนึ่งรับประทานเลยทีเดียว  เวลาเก็บ ห่อ ปิดฝาให้สนิท ไม่งั้นขนมจะมีกลิ่นแปลกปลอมและหน้าตาไม่สวยงาม
  
3.5
    
4. เวลาจะนึ่งรับประทาน  ก็จับขนมจีบเอาฐานขนมจุ่มน้ำมันพืชเล็กน้อยพอไม่ให้ติดหม้อนึ่ง  วางเรียงๆ ตามภาพ  ใช้เวลานึ่ง 15 นาที หม้อไฟฟ้า  ส่วนนึ่งบนเตาแก๊ส หลังจากน้ำเดือดแล้วค่อยเอาซึ้งขึ้นนึ่ง ใช้เวลา 15 นาที เช่นกัน  ไม่ต้องพรมน้ำ ไม่ต้องปิดผ้า ใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ  

ในภาพเป็นขนมนึ่งสดๆ   ส่วนขนมแช่แข็งไม่ต้องละลาย เอาออกมาทั้งแข็งๆ เลย จุ่มทาน้ำมันเช่นกัน แล้ววางในหม้อนึ่ง อาจใช้เวลา 15-20 นาที  ถ้านึ่งแช่แข็งด้วยเตาแก๊สก็ใส่ตั้งหม้อนึ่งตอนเริ่มเปิดไฟเลยก็ได้ค่ะ(สำหรับแช่แข็งนะ)

  
คลิปการห่อตามวิธีที่กล่าวมาค่ะ  วิดิโอดูพอรู้เรื่องหลังจากอ่านข้างบนแล้วก็ทำตามไม่ยากเลยค่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
5. นึ่งเสร็จหน้าตาที่ได้จะออกมาแบบนี้เลย  สูตรไม่ราดน้ำมันเจียว  โรยแค่กระเทียมเจียวแห้งๆ เท่านั้น เกี๊ยวไม่แห้ง แข็ง ดำ ติดกัน หลังจากนึ่งแล้ว ก็แค่ใส่ภาชนะปิดฝา ทานขณะเย็นอุณหภูมิปกติ ก็อร่อย   ทานไม่หมด ใส่กล่องพลาสติกปิดฝา แช่ตู้เย็น  อุ่นทานวันต่อไปได้ นึ่งแล้วเก็บได้ 2-3 วัน คุณภาพไม่ด้อยลงเท่าไหร่  ตู้เย็นควรเย็นสม่ำเสมอ  





การห่ออีกวิธี คือการต้มขนมจีบ แบบนี้จะได้ทานเกี๊ยวที่ห่อไส้ขนมจีบจนมิด  และไม่ทำให้เกี๊ยว แห้ง แข็ง ดำ  แต่จะหนึบหนับ อร่อยไปอีกแบบตักไส้ประมาณ 16-18 กรัมค่ะ ถ้าเยอะกว่านี้จะห่อยากค่ะ


รวบแผ่นเกี๊ยวขึ้นทำให้เป็นทรงคล้ายๆ ถุงค่ะ


รวบปลายให้เป็นจุกๆ คล้ายๆ จุกแห้ว


ขมวดปมให้สวยงาม


ต้มในน้ำที่เดือดแล้ว (เหยาะน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อยไม่ให้แป้งเละ และเพิ่มความเงาของขนม) ต้ม ประมาณ 8 นาที (เช็คสุกเองได้นะคะ) ระหว่างที่หย่อนขนมลงในน้ำ  อย่าให้เยอะแน่นหม้อค่ะ เหลือพื้นที่เพื่อให้ขนมจีบลอยตัวได้ เอาขนมลงไปแล้วก็คอยเขี่ยๆ เบาๆ มือ ไม่ให้ขนม ติดก้นหม้อ  เมื่อขนมจีบสุกจะเริ่มลอยขึ้นข้างบน


ต้มสุกแล้วจ้า


โรยกระเทียมเจียวก่อนรับประทาน


    ห่อแบบแรกก็ต้มได้เช่นกันค่ะ (ตามภาพด้านล่างเลย)  ใช้เวลาเท่ากัน  แต่ไม่ต้องใส่น้ำมันพืชตอนต้มค่ะ หรือจะใส่ก็ได้ไม่เป็นไร  ต้มสุกแล้วก็พักให้สะเด็ดน้ำ โรยกระเทียมตอนจะทาน  ไม่ทานก็ใส่กล่องเรียงๆ ไว้ ปิดฝาไว้



เคล็ดลับก่อนห่อ เพิ่มเติมค่ะ
                   การตักไส้ ถ้าหนาเกินไปเวลาห่อไส้จะล้นเกินไป  หากเกลี่ยบางไป เวลาห่อข้างในจะหลวม(ปริมาณไส้ขึ้นอยู่กับขนาดแผ่นเล็กใหญ่ด้วย) ขนมจีบจะจัดทรงได้ยากค่ะ ขนาด 18-20-22 กรัม กำลังพอดีนะคะ หรือ ขณะตักไส้และเกลี่ยบนแป้งเสร็จแล้วจะลองห่อดูเลยก็ได้ว่าจะห่อและจัดทรงได้ประมาณไหน(แต่ทำยากกว่าพักไว้ค่ะ) เกี๊ยวที่จะจัดทรงได้พอดีต้องไม่นิ่มจนติดมือและไม่แข็งเหมือนตอนเกลี่ยหมูเสร็จใหม่ๆ นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่