อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ( เป็นกระทู้แรกของเรา เขียนผิดเขียนถูกอย่าว่ากันนะค่ะ )
ปล.ภาษาไทยอาจจะไม่ค่อยแข็งแรง ขอใช้ภาษาบ้านๆแล้วกันนะค่ะ มาเริ่มกันเลย....
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงไม่ได้แต่งขึ้นนะ
เรื่องนี้เกิดตอนสมัยที่เราอายุราวๆ 18 – 19 ปี เป็นช่วงที่ครอบครัวของเราย้ายมาอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด
เราก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึงซึ่งบ้านเราอยู่ติดกัน และต่อมาเราก็คบหากันเป็นเเฟน
เราไปเล่นบ้านแฟนบ่อยค่ะ ไปบ่อยจนสนิทกับคุณยายของแฟน
แกรักและเอ็นดูเราเป็นอย่างดีซึ่งทำให้เราสนิทกับยายของแฟนมาก
และต่อมาคุณยายเริ่มป่วย ทางบ้านของแฟนก็ต้องการหาคนมาดูแล
เราจึงอาสาดูแลแกเอง เราดูแลแกตั้งแต่หาข้าว หาน้ำให้กิน พาอาบน้ำและดูแลทุกๆอย่างที่เราทำได้
แต่ด้วยว่ายายแก่มากแถมยังโรคภัยรุมเร้า อาการเลยไม่สู้ดีเท่าไหร่
วันหนึ่งยายแกพูดขึ้นว่า "ถ้ากูตายกูจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้"
ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจความหมายว่าแกจะสื่ออะไร ?
ตายแล้วทำไมถึงกลับมาอยู่ที่บ้าน ?
เรารู้แค่ว่าบ้านที่ยายอยู่กับเราตอนนี้เป็นบ้านของลูกสาวแกที่ตอนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ และแกรักบ้านหลังนี้มาก
และมาอยู่วันหนึ่งอาการของแกก็แย่ลงเรื่อยๆ จนลูกๆส่งตัวแกไปรักษาที่โรงบาลในกรุงเทพ
ช่วงที่คุณยายไม่อยู่ เราก็อยู่บ้านกับแฟนสองคนค่ะ
คอยทำความสะอาด ดูแลบ้านรอยายกลับมา
ขอย้อนกลับสักนิดหนึ่งนะคะ
บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตกแต่งแบบสไตล์ฝรั่ง ทางเดินเข้าห้องครัวจะติดไฟแบบเปิดปิดอัตโนมัติ
คือประมาณเดินเข้าไปในห้องไฟจะติดเอง ไม่ต้องมีสวิทไฟให้เปิดปิด
และตรงที่เราปูที่นอนเวลาที่มาอยู่บ้านแฟนจะอยู่ใกล้ๆทางเดินเข้าห้องครัวค่ะ
และข้างที่นอนจะมีโซฟาอยู่ติดๆกัน ซึ่งโซฟาตัวนี้จะตรงกับทางเดินเข้าห้องครัวเลย
พอนึกออกใช่ไหมคะ ?
(เรื่องส่วนนี้เกิดขึ้นก่อนเรื่องคุณยายนะคะ)
ก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นคืนนั้นเราทะเลาะกับแฟนหนักค่ะ
อารมณ์ตอนนั้นคืองอนมาก มาง้อฉันสิ !
เราเดินหนีแฟนไปตรงทางเดินเข้าห้องครัว กะว่าจะทำเป็นเก็บของตึงตัง ให้แฟนรีบมาง้อ
ซึ่งพอเท้าเหยียบลงตรงทางเดินไฟก็ติด แล้วเราก็แกล้งเก็บของไป บ่นไปซักพักใหญ่ๆ เขาก็ไม่ตามมาซักที
เราก็หันไปมองทางโซฟาว่าแฟนเราตามมาหรือยัง ( จริงๆตอนนั้นปิดไฟนะคะ แต่ว่ามีแสงไฟจากข้างนอกสาดเข้ามาทำให้ไม่ได้มืดมาก )
เรามองเห็นเงาดำ
เงาดำสนิท ไม่เห็นหน้าตา ไม่เห็นอะไรเลย ทั้งๆที่ไฟสาดเข้ามา
เงานั้นนั่งตรงโซฟาแล้วหันหน้ามาจ้องเรา
ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นแฟนเราค่ะ
ด้วยความโมโหให้แฟนอยู่เลยพูดขึ้นว่า "จะนั่งจ้องทำไม ?" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
เราก็ยืนมองแบบไม่พอใจ (อารมณ์ตอนนั้นคือ จะไม่มาง้อตรูเลยใช่ไหม)
พอจ้องไปจ้องมา ก็เริ่มรู้สึกๆแปลก ๆ ทำไมเงานั่งตรงนิ่ง ไม่ขยับหรือพูดบ้างเลย
เราขยี้ตาแล้วมองไปอีกรอบแต่เงาก็นั่งที่เดิมและท่าเดิม
ทีนี้เริ่มกลัวแล้ว ในใจก็นึกว่าผีหรือเปล่าวะ
แล้วไฟตรงทางเดินห้องควรที่เรายืนอยู่ก็ดับลง
เราตกใจรีบกระทืบเท้าเพื่อให้ไฟติดแล้วก็เงยหน้ามองหลอดไฟ แต่ไฟก็ไม่ยอมติด
พอหันหน้ากลับไปทางโซฟาเงาก็หายไปแล้ว
ตอนทั้งกลัวทั้งโมโห คิดว่าโดนแฟนแกล้งแน่ๆ
เราเลยเดินกลับไปหาแฟนตรงที่นอน ไปเขย่าตัวเขาแล้วด่าว่า
"มานั่งตรงโซฟาจ้องหน้าทำไม พูดด้วยก็ไม่ตอบ!"
แต่ปรากฎว่าไม่ใช่อย่างที่คิด แฟนเรานอนหลับค่ะ
งัวเงียตื่นขึ้นมา โมหาด่าเราว่าเป็นบ้าอะไรถึงมาเขย่าตัว
เราเล่าเหตุการณ์ให้แฟนฟัง ซึ่งแฟนก็ยืนยันว่าเขานอนหลับไม่รู้เรื่องจริงๆ เราคงตาฝาดไปเอง
เราไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย กลัวหนักกว่าเดิม
ในใจก็ตั้งคำถาม ถามตัวเองซ้ำๆ "แล้วใครมานั่งตรงโซฟา?"
ผ่านไปซักพักเราก็ใจเย็นลง เลยกะว่าจะนอนแล้วเหมือนกัน
ระหว่างที่ลุกขึ้นไปตรงที่ เราปูที่นอนไว้ ตาก็เหลือบไปตรงทางเดินเข้าห้องครัว
ทีนี้ตาค้างเลยค่ะ
เงาที่เราเห็นนั่งตรงโซฟาก่อนหน้านี้
ไปยืนตรงนั้นหันมาทางเรา จ้องหน้าเราสักพัก แล้วเดินหายไปในความมืด
เรารีบคลุมโปงกอดแฟนแน่น นอนกลัวจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
จากนั้นเป็นต้นมาทุกๆวันที่เราเปิดประตูบ้านเข้ามา
เราจะเห็นเงาดำรูปร่างคล้ายผู้ชาย เดินผ่านและหายไปตรงทางเดิน
ตอนแรกๆกลัว กลัวมาก แต่นานๆไป เห็นทุกๆวันก็เริ่มชิน
(ลืมบอก เราเห็นผีตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ เห็นบ่อย จะเรียกว่าชินก็ได้มั้งคะ ? แต่เราไม่อยากชินเลย)
คืนที่เกิดเหตุเรื่องคุณยายนะค่ะ
ญาติของแฟนที่ไปดูแลยายที่กรุงเทพ โทรมาบอกว่าอาการคุณยายแย่มาก
ให้ทางเราเก็บทำความสะอาดบ้านและปูที่นอนที่คุณยายนอนประจำรอไว้
เพราะทุกคนคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว และจะพายายกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด ให้แกมาตายที่บ้าน
เราก็จัดที่นอนรอและทำความสะอาดบ้านตามที่ญาติบอก
พอตกเย็นๆแฟนเราก็ชวน เพื่อน กับ แฟนของเพื่อน(ชื่อ พี่ปลา) มาทานข้าวที่บ้าน
และชวนกันไปซื้อกับข้าวที่ตลาดมากิน
หลังจากไปตลาดเสร็จ พอมาถึงบ้านเราก็เปิดประตูบ้านตามปกติ
และเราก็เห็นเงาดำเดินผ่านเหมือนเช่นเคย
ตอนนั้นเราเริ่มชินแล้ว เราก็ถอดรองเท้าก้าวเข้าบ้านปกติพร้อมกับพี่ปลา (แฟนของเพื่อนแฟนเรา)
แต่ตอนที่ก้าวเข้าบ้าน พี่ปลาก็พนมมือขึ้นแล้วยืนสั่น
เราถามพี่ปลาเห็นเหรอ
พี่ปลาหันหน้ามาแบบซีดๆ มาทางเราแล้วก็ถามกลับด้วยเสียงสั่นๆ ว่า "แกเห็นเหรอ ?"
เราก็หัวเราะในคอแล้วบอกว่า เห็นจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
พี่ปลาแกเลยยื่นถุงกับข้าวให้เราแล้วบอกว่า "งั้นพี่ฝากเอาไปแกะใส่จานนะพี่ไม่เข้าไปแล้ว"
แล้วแกก็รีบเดินหนีไปนั่งหน้าบ้านแทน
เราก็เข้าบ้านไปตามปกติ แกะกับข้าวแล้วก็ยกมานั่งกินกันหน้าบ้าน
พี่ปลากินข้าวแบบก้มหน้าก้มตา จนเราต้องถามแกว่า "พี่โอเคไหม ?"
แกก็ถามเรากลับว่าเราอยู่ที่นี่ไปได้อย่างไร
ตอนนั้นเราตอบแกไปว่า ชินแล้ว คงเป็นเจ้าที่เจ้าทาง
หลังจากกินเสร็จเราก็นั่งคุยกันจนเลย 5 ทุ่ม เกือบๆจะเที่ยงคืน พี่ปลากับแฟนเลยขอตัวกลับ
หลังจากลากันแล้ว เราก็เก็บถ้วยชาม กะว่าจะยกเข้าไปล้างหลังครัว
(ด้านนอกครัวจะเป็นบริเวณหลังบ้านค่ะ เป็นลานกว้างแบบโล่งๆ
และตรงอ่างล้างจานจะมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ )
และเราก็เห็นเงาตะคลุ่มวิ่งผ่านไปมาใต้ประตู
เราตะโกนเรียกแฟนว่าไปดูหลังบ้านให้หน่อยเห็นเงาวิ่งไปมากลัวจะเป็นโจรเข้าบ้าน
แฟนเปิดประตูออกไป เปิดไฟ เดินดูรอบๆ
แล้วก็กลับเข้ามาในบ้าน พร้อมบอกเราว่าเราคิดเยอะ อาจจะเป็นหมาแมวก็ได้
เราย้อนแฟนว่า หมาแมวบ้าอะไรวิ่งไปๆมาๆแบบนั้น
ซึ่งแฟนเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเดินออกไปทางหน้าบ้าน ส่วนเราก็ล้างจานอยู่หลังบ้านไป
เราก็ก้มหน้าล้างจานไปเรื่อยๆ จนเกือบจะเสร็จแล้ว
แล้วเราก็เงยหน้ามองตรงออกไปทางหน้าต่าง สิ่งที่เห็นทำเอาตกใจจนจานแทบหลุดมือ !
เราเห็นคุณยาย ยืนอยู่นอกหน้าต่างในระดับที่สูงกว่าเรา และจ้องมาที่เรา เหมือนตัวแกลอยอยู่อะคะ
(ไม่ได้จ้องมาแบบหน้ากลัวนะคะ)
เราตกใจจนจานลื่นจะหลุดออกจากมือ เลยหันมาดูจาน
พอเงยหน้าขึ้นอีกรอบแกก็หายไปแล้ว...
ตอนนั้นเราตกใจนะ
แต่ก็ยืนคิดอยู่เงียบๆพักใหญ่ว่า อะไรกันยายแกยังไม่เสียสักหน่อย
ตอนนั้นดึกมากแล้ว เรากำลังจะเตรียมตัวเข้านอน
ซึ่งก่อนไปอาบน้ำเราก็เดินไปเปิดประตูห้องนอนของยายไว้
กะว่าพอญาติๆพาแกกลับมาถึงบ้าน จะได้อุ้มแกเข้าห้องได้เลย
แล้วเราก็ปูที่นอน อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนตามปกติ
แต่เราไม่ได้บอกแฟนเรื่องที่เราเห็นยายมายืนตรงหน้าต่าง
พอถึงเวลาใกล้จะนอน แฟนเราก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ
แต่พอเดินออกมาจากห้องน้ำ
แฟนเราก็ส่ายหัว แล้วก้มหน้าเดินมาตรงที่นอน
ทำทีท่าแปลกๆ
พอเราถามเป็นอะไร เขาก็บอกแค่ว่าไม่มีอะไร แล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างเรา
นอนเล่นกันไปสักพัก เราเริ่มง่วงจัดๆ กะว่าจะนอนแล้ว
แต่แฟนเราท่าทีแปลก นอนกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
เราก็พยายามถามว่า เป็นอะไร
แฟนก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ
สักพักแฟนก็ลุกไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ
และรอบนี้เสร็จออกมาก็มีทีท่ากระวนกระวายแปลกๆ เหมือนรอบแรก
แล้วเราก็ถามอีกรอบว่า เป็นอะไร
แต่ครั้งนี้แฟนบอกเราว่า "ลุกขึ้นไปนอนบ้านป้ากันเถอะ"
ตอนนั้นเราก็งงว่า อ้าวจะไปนอนบ้านป้าทำไม ?
แต่เขาไม่ได้อธิบายอะไร รีบลุกไปเปิดไฟทุกดวงในบ้าน
แล้วพาเราออกไปบ้านป้า ทั้งๆที่เปิดไฟทิ้งไว้
พอถึงบ้านป้า
แฟนเราก็ยอมพูดให้ฟังว่าทำไมเขามีท่าทางแปลกๆ
เขาบอกว่า รอบแรกหลังจากเข้าห้องน้ำ ตอนเดินกลับมาตรงที่นอน มันต้องเดินผ่านห้องนอนของยายที่เราประตูเปิดไว้
ตอนที่เดินกำลังจะผ่านห้องยาย แฟนเราก็เห็นยายแกนอนอยู่ในนั้น
รอบแรกนึกว่าตัวเองตาฝาดเลยพยายามไม่สนใจอะไร
แต่พอเห็นรอบสองเลยทนไม่ได้ เขารู้สึกกลัวมาก จึงชวนเราไปนอนบ้านป้า
ตอนนั้นเราเลยเล่าให้ฟังว่า
ตอนหลังเที่ยงคืนที่เรายืนล้างจาน
เราก็เห็นแกยืนตรงหน้าต่างเหมือนเข้าบ้านไม่ได้...
เรามองหน้ากันสักพักแล้วก็พูดขึ้นพร้อมกันว่า
"ยายยังไม่ตายนี่ จะเป็นไปได้อย่างไร? "
เวลานั้นตอนนั้นก็ราวๆตีสามแล้วค่ะ เราก็พากันข่มตานอน
นอนไปได้สักพักเสียงโทรศัพท์ดัง เป็นลุงของแฟนโทรมาจากกรุงเทพ
"ยายเสียแล้วนะ จะพากลับบ้านเร็วๆนี้ แต่จะจัดงานศพที่บ้านป้านะ"
คำถามแรกที่เราถามกลับไป คือ "แล้วยายเสียตอนกี่โมง?"
ลุงตอบกลับมาว่า ราวๆเที่ยงคืน....
เท่านั้นแหละ เรากับแฟนนั่งมองหน้ากัน ในใจคิดว่าที่เราเห็น คือ ยายแน่ๆ
เหมือนที่แกเคยพูดไว้ว่าถ้ากูตายกูจะกลับมาที่นี่...
เรื่องราวของคุณยายยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวเรามาต่อค่ะ
ปล.ขอโทษนะคะที่เราอาจจะพิมพ์เว้นวรรคตอนไม่ค่อยดีและใช้ภาษาไม่ถูก เราจะปรับปรุงเรื่อยๆค่ะ
คุณยายบอกว่าถ้าตายไปแล้วจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้
ปล.ภาษาไทยอาจจะไม่ค่อยแข็งแรง ขอใช้ภาษาบ้านๆแล้วกันนะค่ะ มาเริ่มกันเลย....
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงไม่ได้แต่งขึ้นนะ
เรื่องนี้เกิดตอนสมัยที่เราอายุราวๆ 18 – 19 ปี เป็นช่วงที่ครอบครัวของเราย้ายมาอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด
เราก็ได้รู้จักกับผู้ชายคนนึงซึ่งบ้านเราอยู่ติดกัน และต่อมาเราก็คบหากันเป็นเเฟน
เราไปเล่นบ้านแฟนบ่อยค่ะ ไปบ่อยจนสนิทกับคุณยายของแฟน
แกรักและเอ็นดูเราเป็นอย่างดีซึ่งทำให้เราสนิทกับยายของแฟนมาก
และต่อมาคุณยายเริ่มป่วย ทางบ้านของแฟนก็ต้องการหาคนมาดูแล
เราจึงอาสาดูแลแกเอง เราดูแลแกตั้งแต่หาข้าว หาน้ำให้กิน พาอาบน้ำและดูแลทุกๆอย่างที่เราทำได้
แต่ด้วยว่ายายแก่มากแถมยังโรคภัยรุมเร้า อาการเลยไม่สู้ดีเท่าไหร่
วันหนึ่งยายแกพูดขึ้นว่า "ถ้ากูตายกูจะกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้"
ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจความหมายว่าแกจะสื่ออะไร ?
ตายแล้วทำไมถึงกลับมาอยู่ที่บ้าน ?
เรารู้แค่ว่าบ้านที่ยายอยู่กับเราตอนนี้เป็นบ้านของลูกสาวแกที่ตอนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ และแกรักบ้านหลังนี้มาก
และมาอยู่วันหนึ่งอาการของแกก็แย่ลงเรื่อยๆ จนลูกๆส่งตัวแกไปรักษาที่โรงบาลในกรุงเทพ
ช่วงที่คุณยายไม่อยู่ เราก็อยู่บ้านกับแฟนสองคนค่ะ
คอยทำความสะอาด ดูแลบ้านรอยายกลับมา
ขอย้อนกลับสักนิดหนึ่งนะคะ
บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ตกแต่งแบบสไตล์ฝรั่ง ทางเดินเข้าห้องครัวจะติดไฟแบบเปิดปิดอัตโนมัติ
คือประมาณเดินเข้าไปในห้องไฟจะติดเอง ไม่ต้องมีสวิทไฟให้เปิดปิด
และตรงที่เราปูที่นอนเวลาที่มาอยู่บ้านแฟนจะอยู่ใกล้ๆทางเดินเข้าห้องครัวค่ะ
และข้างที่นอนจะมีโซฟาอยู่ติดๆกัน ซึ่งโซฟาตัวนี้จะตรงกับทางเดินเข้าห้องครัวเลย
พอนึกออกใช่ไหมคะ ?
(เรื่องส่วนนี้เกิดขึ้นก่อนเรื่องคุณยายนะคะ)
ก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นคืนนั้นเราทะเลาะกับแฟนหนักค่ะ
อารมณ์ตอนนั้นคืองอนมาก มาง้อฉันสิ !
เราเดินหนีแฟนไปตรงทางเดินเข้าห้องครัว กะว่าจะทำเป็นเก็บของตึงตัง ให้แฟนรีบมาง้อ
ซึ่งพอเท้าเหยียบลงตรงทางเดินไฟก็ติด แล้วเราก็แกล้งเก็บของไป บ่นไปซักพักใหญ่ๆ เขาก็ไม่ตามมาซักที
เราก็หันไปมองทางโซฟาว่าแฟนเราตามมาหรือยัง ( จริงๆตอนนั้นปิดไฟนะคะ แต่ว่ามีแสงไฟจากข้างนอกสาดเข้ามาทำให้ไม่ได้มืดมาก )
เรามองเห็นเงาดำ
เงาดำสนิท ไม่เห็นหน้าตา ไม่เห็นอะไรเลย ทั้งๆที่ไฟสาดเข้ามา
เงานั้นนั่งตรงโซฟาแล้วหันหน้ามาจ้องเรา
ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นแฟนเราค่ะ
ด้วยความโมโหให้แฟนอยู่เลยพูดขึ้นว่า "จะนั่งจ้องทำไม ?" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ
เราก็ยืนมองแบบไม่พอใจ (อารมณ์ตอนนั้นคือ จะไม่มาง้อตรูเลยใช่ไหม)
พอจ้องไปจ้องมา ก็เริ่มรู้สึกๆแปลก ๆ ทำไมเงานั่งตรงนิ่ง ไม่ขยับหรือพูดบ้างเลย
เราขยี้ตาแล้วมองไปอีกรอบแต่เงาก็นั่งที่เดิมและท่าเดิม
ทีนี้เริ่มกลัวแล้ว ในใจก็นึกว่าผีหรือเปล่าวะ
แล้วไฟตรงทางเดินห้องควรที่เรายืนอยู่ก็ดับลง
เราตกใจรีบกระทืบเท้าเพื่อให้ไฟติดแล้วก็เงยหน้ามองหลอดไฟ แต่ไฟก็ไม่ยอมติด
พอหันหน้ากลับไปทางโซฟาเงาก็หายไปแล้ว
ตอนทั้งกลัวทั้งโมโห คิดว่าโดนแฟนแกล้งแน่ๆ
เราเลยเดินกลับไปหาแฟนตรงที่นอน ไปเขย่าตัวเขาแล้วด่าว่า
"มานั่งตรงโซฟาจ้องหน้าทำไม พูดด้วยก็ไม่ตอบ!"
แต่ปรากฎว่าไม่ใช่อย่างที่คิด แฟนเรานอนหลับค่ะ
งัวเงียตื่นขึ้นมา โมหาด่าเราว่าเป็นบ้าอะไรถึงมาเขย่าตัว
เราเล่าเหตุการณ์ให้แฟนฟัง ซึ่งแฟนก็ยืนยันว่าเขานอนหลับไม่รู้เรื่องจริงๆ เราคงตาฝาดไปเอง
เราไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย กลัวหนักกว่าเดิม
ในใจก็ตั้งคำถาม ถามตัวเองซ้ำๆ "แล้วใครมานั่งตรงโซฟา?"
ผ่านไปซักพักเราก็ใจเย็นลง เลยกะว่าจะนอนแล้วเหมือนกัน
ระหว่างที่ลุกขึ้นไปตรงที่ เราปูที่นอนไว้ ตาก็เหลือบไปตรงทางเดินเข้าห้องครัว
ทีนี้ตาค้างเลยค่ะ
เงาที่เราเห็นนั่งตรงโซฟาก่อนหน้านี้
ไปยืนตรงนั้นหันมาทางเรา จ้องหน้าเราสักพัก แล้วเดินหายไปในความมืด
เรารีบคลุมโปงกอดแฟนแน่น นอนกลัวจนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้
จากนั้นเป็นต้นมาทุกๆวันที่เราเปิดประตูบ้านเข้ามา
เราจะเห็นเงาดำรูปร่างคล้ายผู้ชาย เดินผ่านและหายไปตรงทางเดิน
ตอนแรกๆกลัว กลัวมาก แต่นานๆไป เห็นทุกๆวันก็เริ่มชิน
(ลืมบอก เราเห็นผีตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ เห็นบ่อย จะเรียกว่าชินก็ได้มั้งคะ ? แต่เราไม่อยากชินเลย)
คืนที่เกิดเหตุเรื่องคุณยายนะค่ะ
ญาติของแฟนที่ไปดูแลยายที่กรุงเทพ โทรมาบอกว่าอาการคุณยายแย่มาก
ให้ทางเราเก็บทำความสะอาดบ้านและปูที่นอนที่คุณยายนอนประจำรอไว้
เพราะทุกคนคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว และจะพายายกลับบ้านที่ร้อยเอ็ด ให้แกมาตายที่บ้าน
เราก็จัดที่นอนรอและทำความสะอาดบ้านตามที่ญาติบอก
พอตกเย็นๆแฟนเราก็ชวน เพื่อน กับ แฟนของเพื่อน(ชื่อ พี่ปลา) มาทานข้าวที่บ้าน
และชวนกันไปซื้อกับข้าวที่ตลาดมากิน
หลังจากไปตลาดเสร็จ พอมาถึงบ้านเราก็เปิดประตูบ้านตามปกติ
และเราก็เห็นเงาดำเดินผ่านเหมือนเช่นเคย
ตอนนั้นเราเริ่มชินแล้ว เราก็ถอดรองเท้าก้าวเข้าบ้านปกติพร้อมกับพี่ปลา (แฟนของเพื่อนแฟนเรา)
แต่ตอนที่ก้าวเข้าบ้าน พี่ปลาก็พนมมือขึ้นแล้วยืนสั่น
เราถามพี่ปลาเห็นเหรอ
พี่ปลาหันหน้ามาแบบซีดๆ มาทางเราแล้วก็ถามกลับด้วยเสียงสั่นๆ ว่า "แกเห็นเหรอ ?"
เราก็หัวเราะในคอแล้วบอกว่า เห็นจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
พี่ปลาแกเลยยื่นถุงกับข้าวให้เราแล้วบอกว่า "งั้นพี่ฝากเอาไปแกะใส่จานนะพี่ไม่เข้าไปแล้ว"
แล้วแกก็รีบเดินหนีไปนั่งหน้าบ้านแทน
เราก็เข้าบ้านไปตามปกติ แกะกับข้าวแล้วก็ยกมานั่งกินกันหน้าบ้าน
พี่ปลากินข้าวแบบก้มหน้าก้มตา จนเราต้องถามแกว่า "พี่โอเคไหม ?"
แกก็ถามเรากลับว่าเราอยู่ที่นี่ไปได้อย่างไร
ตอนนั้นเราตอบแกไปว่า ชินแล้ว คงเป็นเจ้าที่เจ้าทาง
หลังจากกินเสร็จเราก็นั่งคุยกันจนเลย 5 ทุ่ม เกือบๆจะเที่ยงคืน พี่ปลากับแฟนเลยขอตัวกลับ
หลังจากลากันแล้ว เราก็เก็บถ้วยชาม กะว่าจะยกเข้าไปล้างหลังครัว
(ด้านนอกครัวจะเป็นบริเวณหลังบ้านค่ะ เป็นลานกว้างแบบโล่งๆ
และตรงอ่างล้างจานจะมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ )
และเราก็เห็นเงาตะคลุ่มวิ่งผ่านไปมาใต้ประตู
เราตะโกนเรียกแฟนว่าไปดูหลังบ้านให้หน่อยเห็นเงาวิ่งไปมากลัวจะเป็นโจรเข้าบ้าน
แฟนเปิดประตูออกไป เปิดไฟ เดินดูรอบๆ
แล้วก็กลับเข้ามาในบ้าน พร้อมบอกเราว่าเราคิดเยอะ อาจจะเป็นหมาแมวก็ได้
เราย้อนแฟนว่า หมาแมวบ้าอะไรวิ่งไปๆมาๆแบบนั้น
ซึ่งแฟนเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเดินออกไปทางหน้าบ้าน ส่วนเราก็ล้างจานอยู่หลังบ้านไป
เราก็ก้มหน้าล้างจานไปเรื่อยๆ จนเกือบจะเสร็จแล้ว
แล้วเราก็เงยหน้ามองตรงออกไปทางหน้าต่าง สิ่งที่เห็นทำเอาตกใจจนจานแทบหลุดมือ !
เราเห็นคุณยาย ยืนอยู่นอกหน้าต่างในระดับที่สูงกว่าเรา และจ้องมาที่เรา เหมือนตัวแกลอยอยู่อะคะ
(ไม่ได้จ้องมาแบบหน้ากลัวนะคะ)
เราตกใจจนจานลื่นจะหลุดออกจากมือ เลยหันมาดูจาน
พอเงยหน้าขึ้นอีกรอบแกก็หายไปแล้ว...
ตอนนั้นเราตกใจนะ
แต่ก็ยืนคิดอยู่เงียบๆพักใหญ่ว่า อะไรกันยายแกยังไม่เสียสักหน่อย
ตอนนั้นดึกมากแล้ว เรากำลังจะเตรียมตัวเข้านอน
ซึ่งก่อนไปอาบน้ำเราก็เดินไปเปิดประตูห้องนอนของยายไว้
กะว่าพอญาติๆพาแกกลับมาถึงบ้าน จะได้อุ้มแกเข้าห้องได้เลย
แล้วเราก็ปูที่นอน อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนตามปกติ
แต่เราไม่ได้บอกแฟนเรื่องที่เราเห็นยายมายืนตรงหน้าต่าง
พอถึงเวลาใกล้จะนอน แฟนเราก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ
แต่พอเดินออกมาจากห้องน้ำ
แฟนเราก็ส่ายหัว แล้วก้มหน้าเดินมาตรงที่นอน
ทำทีท่าแปลกๆ
พอเราถามเป็นอะไร เขาก็บอกแค่ว่าไม่มีอะไร แล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างเรา
นอนเล่นกันไปสักพัก เราเริ่มง่วงจัดๆ กะว่าจะนอนแล้ว
แต่แฟนเราท่าทีแปลก นอนกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
เราก็พยายามถามว่า เป็นอะไร
แฟนก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ
สักพักแฟนก็ลุกไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ
และรอบนี้เสร็จออกมาก็มีทีท่ากระวนกระวายแปลกๆ เหมือนรอบแรก
แล้วเราก็ถามอีกรอบว่า เป็นอะไร
แต่ครั้งนี้แฟนบอกเราว่า "ลุกขึ้นไปนอนบ้านป้ากันเถอะ"
ตอนนั้นเราก็งงว่า อ้าวจะไปนอนบ้านป้าทำไม ?
แต่เขาไม่ได้อธิบายอะไร รีบลุกไปเปิดไฟทุกดวงในบ้าน
แล้วพาเราออกไปบ้านป้า ทั้งๆที่เปิดไฟทิ้งไว้
พอถึงบ้านป้า
แฟนเราก็ยอมพูดให้ฟังว่าทำไมเขามีท่าทางแปลกๆ
เขาบอกว่า รอบแรกหลังจากเข้าห้องน้ำ ตอนเดินกลับมาตรงที่นอน มันต้องเดินผ่านห้องนอนของยายที่เราประตูเปิดไว้
ตอนที่เดินกำลังจะผ่านห้องยาย แฟนเราก็เห็นยายแกนอนอยู่ในนั้น
รอบแรกนึกว่าตัวเองตาฝาดเลยพยายามไม่สนใจอะไร
แต่พอเห็นรอบสองเลยทนไม่ได้ เขารู้สึกกลัวมาก จึงชวนเราไปนอนบ้านป้า
ตอนนั้นเราเลยเล่าให้ฟังว่า
ตอนหลังเที่ยงคืนที่เรายืนล้างจาน
เราก็เห็นแกยืนตรงหน้าต่างเหมือนเข้าบ้านไม่ได้...
เรามองหน้ากันสักพักแล้วก็พูดขึ้นพร้อมกันว่า
"ยายยังไม่ตายนี่ จะเป็นไปได้อย่างไร? "
เวลานั้นตอนนั้นก็ราวๆตีสามแล้วค่ะ เราก็พากันข่มตานอน
นอนไปได้สักพักเสียงโทรศัพท์ดัง เป็นลุงของแฟนโทรมาจากกรุงเทพ
"ยายเสียแล้วนะ จะพากลับบ้านเร็วๆนี้ แต่จะจัดงานศพที่บ้านป้านะ"
คำถามแรกที่เราถามกลับไป คือ "แล้วยายเสียตอนกี่โมง?"
ลุงตอบกลับมาว่า ราวๆเที่ยงคืน....
เท่านั้นแหละ เรากับแฟนนั่งมองหน้ากัน ในใจคิดว่าที่เราเห็น คือ ยายแน่ๆ
เหมือนที่แกเคยพูดไว้ว่าถ้ากูตายกูจะกลับมาที่นี่...
เรื่องราวของคุณยายยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวเรามาต่อค่ะ
ปล.ขอโทษนะคะที่เราอาจจะพิมพ์เว้นวรรคตอนไม่ค่อยดีและใช้ภาษาไม่ถูก เราจะปรับปรุงเรื่อยๆค่ะ