**เจ้าชายในฝัน : ตอนที่ 1 (3 - จบตอน)**

กระทู้สนทนา
ดอกไม้ดอกไม้


เจ้าชายเซติเสด็จเลียบเข้าพระตำหนักใหญ่เพื่อผ่านไปยังส่วนพักผ่อนของพระองค์ โดยมีเฮรเซฟที่รู้พระทัยดีพอจะเดินตามโดยทิ้งระยะห่างให้รู้สึกราวกับอยู่ตามลำพัง น่าแปลกดีที่บรรยากาศอันครึกครื้นของงานฉลองที่อยู่ไม่ไกล กลับส่งให้พระตำหนักส่วนในดูเงียบสงบได้กว่าที่เคยเป็น

เมื่อเจ้าชายหนุ่มเสด็จขึ้นระเบียงชั้นสองของพระตำหนักใหญ่ซึ่งเป็นทางเดินยาวไปยังบันไดด้านหลังฝีพระบาทก็พลันชะงัก เมื่อเสด็จมาถึงตรงหน้าพระแกลบานใหญ่ทางด้านทิศตะวันออกซึ่งปิดไว้ด้วยไม้สลักยาวจากพื้นจรดศีรษะ เมื่อทรงมองออกไปด้านนอกผ่านลวดลายฉลุก็ระลึกถึงภาพความทรงจำอันเด่นชัดแรกสุดของชีวิตเมื่อครั้นยังทรงเป็นเจ้าชายเซติน้อย ...น้อยเสียจนยังสามารถให้พระมารดาอุ้มไว้แนบอกได้

ในตอนนั้น ที่หน้าบานพระแกลสลักบานนี้ พระองค์ ...เซติน้อย ที่น่าจะอยู่ในวัยสองหรือสามชันษา ยังอยู่ในอ้อมแขนของพระมารดาที่ยืนอุ้มพระองค์อยู่โดยมีเจ้าชายเมรเรนเรที่เจริญพระชนม์ราวเจ็ดหรือแปดปีประทับยืนอยู่ข้าง ๆ สายพระเนตรทุกคู่ล้วนมองฝ่าแสงตะวันที่ยังไม่เจิดจ้า หากส่องเป็นเพียงประกายสีทองให้แสงสลัวของยามเช้าตรู่ดูอบอุ่นและนุ่มนวล ทว่าบรรยากาศที่ยังติดในความทรงจำนั้นกลับเต็มไปด้วยความเงียบเหงาและโหยหา

‘พ่อของพวกเจ้าจะต้องกลับมา’

รับสั่งนั้นของพระมารดายังแจ่มชัด เจ้าชายเซติจำได้ว่าตอนนั้นพระองค์หันไปเห็นเพียงพระพักต์ด้านข้างของเสด็จแม่ที่สะท้อนแสงสีทองของอาทิตย์อุทัย ...งดงาม แต่อ้างว้าง เต็มไปด้วยความหวังที่แสนอาวรณ์

เมื่อทรงเจริญวัยขึ้นมา จึงปะติดปะต่อใจความได้ว่า ในวันแห่งความทรงจำนั้น คือช่วงเวลาที่ฟาโรห์เมรเรนฮอร์ซีซิสผู้เป็นพระบิดากำลังนำทัพอียิปต์ตีไปทางตะวันออกไกลจนเกินกว่าคาเดช เกือบประชิดดินแดนที่เป็นของฮิตไทต์ ฟาโรห์จะกลับมาได้แล้วหากกษัตริย์ของฮิตไทต์มินำทัพใหญ่มาประชิดชายแดน เป็นการศึกอันน่าแปลกประหลาด ฮิตไทต์ไม่ให้อียิปต์ตี แต่ไม่ยอมให้ถอยเช่นกัน ศึกในตอนนั้นผู้ที่ร่วมรบยังเล่าขาน

‘หากเราถอย ฮิตไทต์จะต่อตี แต่หากเราสู้ ฮิตไทต์จะถอยร่น’

ฟาโรห์แห่งอียิปต์มิได้ปรารถนาจะเดินหน้า... ‘ดินแดนของเรามีพอแล้ว’ ว่ากันว่านั่นคือสิ่งที่ทรงปรารถ และที่สุด ทรงรู้ดีว่าฮิตไทต์ก็มิได้ต้องการจะสู้ แต่เพียงกดดันเพื่ออะไรบางอย่าง และสิ่งนั้นก็แจ่มแจ้งเมื่อกษัตริย์แห่งฮิตไทต์ส่งสาส์นเจริญสัมพันธไมตรีและสงบศึก

ในสาส์นนั้นระบุ ด้วยองค์ชายรัชทายาทแห่งฮิตไทต์คือลูกคนที่สามขององค์กษัตริย์ ฮิตไทต์จึงจะขอ หากลูกคนที่สามของฟาโรห์แห่งอียิปต์เป็นชาย ขอให้รับเจ้าหญิงแห่งฮิตไทต์เป็นชายา แต่หากเป็นหญิง ขอให้มาเป็นชายาขององค์รัชทายาท เป็นราชินีแห่งฮิตไทต์สืบไป

เป็นข้อตกลงที่ทุกฝ่ายมีโอกาสชนะ และสำหรับทัพอียิปต์ที่อยู่ในสภาพกรำศึกมานาน นักรบผู้อ่อนล้าทุกคนปรารถนาจะกลับสู่มาตุภูมิ ฟาโรห์เมรเรนฮอร์ซีซิสจึงลงพระนามตอบรับข้อเสนอนั้นเพื่อสงบศึกและกลับบ้าน ...กลับบ้าน ตามที่พระอรรคชายาเคยบอกพระโอรสไว้

แล้วสองปีหลังจากนั้น เจ้าหญิงเมริตนีธ ก็มีพระประสูติกาล

ท้ายสุด อียิปต์กลับต้องเป็นฝ่ายเสียเจ้าหญิงผู้เป็นดวงใจไป ...แต่ใครว่าอย่างไรได้ หรือนี่มิใช่โชคชะตากำหนด

คิดถึงตรงนี้ เจ้าชายเซติทรงถอนพระปัสสาสะ ‘น้องหญิงเนต’ นางเป็นดวงใจของทุกคนโดยแท้ สวย สดใส น่ารัก ฉลาด และเฉลียว นางเกิดมาพร้อมภาระ ...ไม่สิ ภาระและตำแหน่งนั้น มารอตั้งแต่ก่อนนางเกิดด้วยซ้ำ

พระเชษฐา คือเจ้าชายเมรเรนเร ทรงเกิดมาเป็นรัชทายาทเพื่อเติบโตเป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์ พระน้องนาง คือเจ้าหญิงเมริตนีธก็มาเพื่อรับตำแหน่งราชินีแห่งฮิตไทต์ ...ทุกคนเกิดมาพร้อมเส้นทางชีวิตและหน้าที่อันชัดเจน

...แล้วพระองค์เล่า - ‘เจ้าชายเซติ’
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่