วันที่ 25 เมษายน 2560 นายสำออย วงศ์เณร ประธานสภาเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากราคาสับปะรดส่งโรงงานแปรรูปเพื่อการส่งออก กำหนดราคารับซื้อหน้าแผงเพียงกิโลกรัม ( กก.) ละ 3 บาท ทำให้เกษตรกรในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ปลูกสับปะรดส่งโรงงานมากที่สุดภายในประเทศกว่า 4 แสนไร่ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากราคาขายไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิต ทั้งที่เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2559 มีการรับซื้อผลผลิตทุกขนาดราคาสูงถึง กก.ละ 14 บาท แต่ล่าสุดเหลือเพียง 3 บาทและมีการคัดคุณภาพสินค้า ทำให้เกษตรกรต้องนำไปแปรรูปเป็นสับปะรดกวน ถือว่ากลไกลการตลาดมีความผิดปกติ ไม่น่าจะเกิดจากปัจจัยโรงงานสับปะรดกระป๋องซึ่งเดิมผลิตวันละ 700-800 ตัน แต่ปัจจุบันเหลือ300- 400 ตัน อ้างว่ามีปัญหาจากการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
“ก่อนหน้านี้ช่วงผลผลิตมีราคาดี โรงงานมีการทำสัญญาประกันราคาจะรับซื้อผลผลิตไม่ต่ำกว่า กก.ละ 6.60 บาท ล่าสุดเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตจากการประท้วงปิดถนนเพชรเกษมเมื่อปี 2555 สภาเกษตรกรได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเร่งรัดให้มีการเชิญประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเป็นมาตรการเร่งด่วน เนื่องจากฤดูสับปะรดปีช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้ จะมีผลผลิตออกมาจำนวนมาก ทำให้ราคาตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบการเกษตรส่วนหนึ่งไม่มาลงทะเบียนทำให้มีผลผลิตส่วนเกินนอกระบบอีกจำนวนมาก“ นายสำออย กล่าว
ประธานสภาเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า จากเดิมมีเกษตรกรในประเทศปลูกสับปะรดส่งโรงงานเพียง 13 จังหวัดแต่ปัจจุบันหลังจากก่อนหน้านี้สับปะรดมีราคาสูงมีการปลูกเพิ่มเป็น 25 จังหวัด และเมื่อราคาตกต่ำทำให้เกษตรกรรายใหม่ในจังหวัดต่างๆ ต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีโรงงานสับปะรดกระป๋องมากที่สุดในประเทศ กว่า 18 แห่ง มีการรับซื้อผลผลิตเพียง กก.ละ 3 บาทและจะมีแนวโน้มลดลง นอกจากนั้นหลังจากราคาผลผลิตตกต่ำแผงรับซื้อสับปะรดบางแห่งได้ทยอยปิดแผงแล้ว เนื่องจากโรงงานมีข้อจำกัดในการรับซื้อ “ นายสำออย กล่าว
JJNY : เสดตะกิดดี๊ดี...ซี้จุกสูญ ปธ.สภาเกษตรประจวบฯจี้พ่อเมืองเรียกถกแก้สับปะรดราคาตกต่ำ ก่อนเจอปิดถนนประท้วง
“ก่อนหน้านี้ช่วงผลผลิตมีราคาดี โรงงานมีการทำสัญญาประกันราคาจะรับซื้อผลผลิตไม่ต่ำกว่า กก.ละ 6.60 บาท ล่าสุดเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตจากการประท้วงปิดถนนเพชรเกษมเมื่อปี 2555 สภาเกษตรกรได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเร่งรัดให้มีการเชิญประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเป็นมาตรการเร่งด่วน เนื่องจากฤดูสับปะรดปีช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้ จะมีผลผลิตออกมาจำนวนมาก ทำให้ราคาตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบการเกษตรส่วนหนึ่งไม่มาลงทะเบียนทำให้มีผลผลิตส่วนเกินนอกระบบอีกจำนวนมาก“ นายสำออย กล่าว
ประธานสภาเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า จากเดิมมีเกษตรกรในประเทศปลูกสับปะรดส่งโรงงานเพียง 13 จังหวัดแต่ปัจจุบันหลังจากก่อนหน้านี้สับปะรดมีราคาสูงมีการปลูกเพิ่มเป็น 25 จังหวัด และเมื่อราคาตกต่ำทำให้เกษตรกรรายใหม่ในจังหวัดต่างๆ ต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีโรงงานสับปะรดกระป๋องมากที่สุดในประเทศ กว่า 18 แห่ง มีการรับซื้อผลผลิตเพียง กก.ละ 3 บาทและจะมีแนวโน้มลดลง นอกจากนั้นหลังจากราคาผลผลิตตกต่ำแผงรับซื้อสับปะรดบางแห่งได้ทยอยปิดแผงแล้ว เนื่องจากโรงงานมีข้อจำกัดในการรับซื้อ “ นายสำออย กล่าว