เชื่อว่า นักชิม นักเดินทางทั้งหลาย คงคุ้นหูคุ้นตากับมิชลินไกด์กันมาบ้าง ซึ่งมิชลินไกด์จะแนะนำทั้งที่พักและร้านอาหารตามเส้นทางต่างๆ แต่ที่โดดเด่นคงเป็นเรื่องการจัดอันดับร้านอาหารโดยการให้ดาว ถ้าเชฟคนไหนได้ดาวมิชลินก็จะถือว่ามีความเก่งกาจ เป็นที่นับหน้าถือตาในปฐพีการทำอาหาร
และเป็นข่าวดีของคนไทย เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา มิชลิน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แถลงข่าวประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ หรือ MICHELIN Guide Bangkok โดยประเทศไทยจะเป็นเมืองที่ 29 ของโลก หรือที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คู่มือ Michelin Guide Bangkok ฉบับแรก คาดว่าจะออกได้ในช่วงปลายปีนี้ค่ะ ส่วนปีต่อๆไปอาจจะได้เห็น Michelin Guide จังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต บ้างก็ได้นะคะ
ความพิเศษคือ มิชลินจะมีการจัดทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านอาหารไทยโดยเฉพาะ เนื่องจากอาหารไทยมีความละเมียดละไม มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนอาหารที่อื่น ทาง ททท.หวังว่า การจัดทำมิชลินไกด์จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของไทยในหลายระดับ ทั้งการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายด้านอาหารต่อหัวมากขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้ธุรกิจร้านอาหารในไทยต้องพัฒนาความเป็นเลิศทั้งด้านคุณภาพอาหารและบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เรามารู้จักกับมิชลินให้ดียิ่งขี้นกันดีกว่าค่ะ
มิชลินไกด์คืออะไร?
คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ให้ข้อมูลแก่ผู้อ่านในการเลือกร้านอาหารและที่พัก ในแต่ละปี คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ จะคัดเลือกร้านอาหารและที่พักหลากหลายประเภทจำแนกตามราคาและความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรู ที่พักแบบดั้งเดิม ภัตตาคารขนาดใหญ่ หรือร้านอาหารขนาดเล็ก สำหรับร้านอาหาร มิชลินจะมีการจัดอันดับให้รางวัลด้วย แต่รางวัลดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของรางวัลทั้งหมดที่มีการจัดอันดับอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’
มิชลินมีกี่ดาวกันแน่?
มิชลินให้รางวัลร้านอาหารโดยแบ่งเป็น 3 ดาวทั้งหมด โดยดาว 3 ดวงคือดีที่สุด ความหมายของดาวแต่ละดวงตามนี้เลยค่ะ
3 ดาว = ร้านอาหารที่อร่อยยอดเยี่ยมและโดดเด่น ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
2 ดาว = ร้านอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษ คุ้มค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
1 ดาว = ร้านอาหารที่อร่อยมากเมื่อเทียบกับร้านประเภทเดียวกัน
Bib Gourmand (บิบ กูร์มองด์)
นอกจากการให้ดาวแล้ว มิชลินมีการมอบรางวัลร้านอาหารสำหรับ อาหารสูตรดั้งเดิมที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันและราคาเป็นกันเอง รางวัลนี้เรียกว่า Bib Gourmand ที่เป็นรูปสัญลักษณ์มิชลินแมนทำท่าเลียริมฝีปาก
L` Assiette Michelin (Michelin Plate)
ในปี 2016 มิชลินได้มีการเพิ่มรางวัลอีกประเภท ที่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปจานและช้อนส้อม โดยจะมอบให้กับ ร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบและมีการปรุงอาหารที่ดี แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ได้ดาว
มิชลินมีการให้คะแนนหรือเกณฑ์การให้รางวัลอย่างไร?
ผู้ตรวจสอบของมิชลินจะประเมินคุณภาพของร้านอาหารโดยใช้หลักเกณฑ์ 5 ประการที่มิชลินกำหนดขึ้นเอง ได้แก่
1 คุณภาพสินค้า
2 การจัดเตรียมและรสชาติ
3 ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อผ่านอาหารที่ปรุง
4 ความคุ้มค่าสมราคา
5 ความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติอาหาร
ต้องร้านอาหารแพงๆใช่มั้ยถึงจะได้ดาว?
มิชลินบอกว่า “ดาวมิชลินมาจากสิ่งที่อยู่ในจานเท่านั้น” เพราะฉะนั้น เราจะเห็นบางร้านที่เป็นร้านที่เข้าถึงได้ ราคาไม่แพง ก็สามารถได้รับดาวมิชลินเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ร้าน Hill Street Tai Hwa Pork Noodle และร้าน Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice & Noodle ที่สิงคโปร์ รวมไปถึงร้าน Tim Ho Wan ที่ฮ่องกง
ใครเป็นคนมาชิมและให้ดาว?
ผู้ตรวจสอบของมิชลินทำงานโดยไม่เปิดเผยตัว และจะปฎิบัติตัวเหมือนเป็นลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง ต้องจองโต๊ะในร้านอาหารล่วงหน้า สั่งอาหาร ทานอาหารโดยไม่ได้จดบันทึกข้อมูลใดๆ ระหว่างรับประทานอาหาร รวมถึงชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
มิชลินไกด์เชื่อถือได้จริงเหรอ?
เอาเป็นว่าเวลาเดินทางไปต่างประเทศ เราเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการเสาะหาร้านอาหารอร่อยไม่ว่าถูกหรือแพง เรามักจะค้นหาข้อมูลก่อนไป และมิชลินก็เป็นแหล่งข้อมูลหลักของเราเหมือนกัน แต่ถามว่าอร่อยทุกร้านที่ไปมั้ย ก็ไม่นะ ส่วนตัวเท่าที่เคยไปกินร้านที่ได้มิชลินมาเป็นสิบร้านทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกา คิดว่าถ้าเป็น 2-3 ดาวก็อร่อยแน่นอน แต่ร้านหนึ่งดาว บางทีก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้น ไม่เห็นความแตกต่างชัดเจน แต่ก็มีบางกรณี ร้านหนึ่งดาวบางที่ อร่อยมากจนสงสัยว่า เฮ้ย! แค่หนึ่งดาวจริงเหรอ
มิชลินไกด์จะมีผลอะไรกับวงการร้านอาหารเมืองไทยบ้าง?
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ข้อดีแน่ๆคือธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหารน่าจะมีการเติบโตขึ้น มีนักท่องเที่ยวหรือนักชิมบางกลุ่ม ที่ยอมเดินทาง ยอมจ่ายเพื่อมาลองร้านมิชลินโดยเฉพาะ นอกจากนั้นคิดว่า ร้านอาหารต่างๆคงมีการตื่นตัวและพัฒนาเรื่องต่างๆให้ดีขึ้น
ส่วนข้อที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องคนและราคาค่ะ คิดว่า ร้านไหนที่ได้เนี่ยคงคนเยอะแน่นอน เรื่องราคาไม่แน่ใจว่าจะมีการขึ้นราคาหรือไม่ ถ้าดูตามหลักเศรษฐกิจ ก็ไม่แปลกใจค่ะ เป็นเรื่องของอุปสงค์ อุปทาน โดยปกติที่เคยไปร้านมิชลินหลายๆประเทศมา ร้านหนึ่งดาว จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 พันบาทต่อมื้อต่อคน ถ้าสองดาวจะอยู่ที่ 5-6 พัน และ 3 ดาวขึ้นไปเตรียมจ่ายหลักหมื่นค่ะ รอดูกันต่อไปค่ะ แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนค่ะ
คิดว่าร้านไหนในเมืองไทยน่าจะได้มิชลินบ้าง?
ความคิดเห็นส่วนตัวอีกเหมือนกัน จากที่ไปชิมๆมา คาดว่า L’atelier de Joel Robuchon น่าจะได้แน่นอนค่ะ เพราะเป็นเครือร้านอาหารที่ได้ดาวเยอะที่สุดในโลก และจากที่ไปชิมมา 2 ครั้งทั้ง มื้อกลางวันและมื้อเย็น ประทับใจทั้งเรื่อง วัตถุดิบ การปรุงอาหาร รสชาติ รวมไปถึงการบริการ
อีกร้านที่คิดว่าไม่น่าพลาดคือ Gaggan ร้านแนว Progressive Indian ที่ได้อันดับหนึ่ง Asia’s Best Restaurant in Asia และอันดับ 7 World’s Best Restaurant
ส่วนร้านอาหารไทย ขอจับตามองร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ที่โรงแรม Siam Kempinski และ Nahm ที่โรงแรม Como Metropolitan ค่ะ จากที่ไปชิมมา Sra Bua มีลักษณะแบบที่มิชลินน่าจะชอบ วัตถุดิบดี มีการปรุงและนำเสนอที่แปลกใหม่ แต่ยังคงรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆได้อยู่ ส่วน Nahm ถ้าไม่ได้จะค่อนข้างแปลกใจ เพราะเป็นหนึ่งในร้านที่ติดอันดับ Asia’s Best Restaurant โดยปีล่าสุดอยู่ที่อันดับที่ 5
เรามารอดูกันค่ะ
[กินแหลก Daekหรู] Michelin จะมาเมืองไทยแล้ว มิชลินคืออะไร วัดจากอะไร ดาวกี่ดวงกันแน่ ใครเป็นคนให้ดาว พบคำตอบที่นี่เลยค่ะ
และเป็นข่าวดีของคนไทย เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา มิชลิน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้แถลงข่าวประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการเปิดตัวคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับกรุงเทพฯ หรือ MICHELIN Guide Bangkok โดยประเทศไทยจะเป็นเมืองที่ 29 ของโลก หรือที่ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คู่มือ Michelin Guide Bangkok ฉบับแรก คาดว่าจะออกได้ในช่วงปลายปีนี้ค่ะ ส่วนปีต่อๆไปอาจจะได้เห็น Michelin Guide จังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต บ้างก็ได้นะคะ
ความพิเศษคือ มิชลินจะมีการจัดทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านอาหารไทยโดยเฉพาะ เนื่องจากอาหารไทยมีความละเมียดละไม มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนอาหารที่อื่น ทาง ททท.หวังว่า การจัดทำมิชลินไกด์จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของไทยในหลายระดับ ทั้งการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายด้านอาหารต่อหัวมากขึ้น รวมถึงกระตุ้นให้ธุรกิจร้านอาหารในไทยต้องพัฒนาความเป็นเลิศทั้งด้านคุณภาพอาหารและบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เรามารู้จักกับมิชลินให้ดียิ่งขี้นกันดีกว่าค่ะ
มิชลินไกด์คืออะไร?
คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ให้ข้อมูลแก่ผู้อ่านในการเลือกร้านอาหารและที่พัก ในแต่ละปี คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ จะคัดเลือกร้านอาหารและที่พักหลากหลายประเภทจำแนกตามราคาและความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรู ที่พักแบบดั้งเดิม ภัตตาคารขนาดใหญ่ หรือร้านอาหารขนาดเล็ก สำหรับร้านอาหาร มิชลินจะมีการจัดอันดับให้รางวัลด้วย แต่รางวัลดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 ของรางวัลทั้งหมดที่มีการจัดอันดับอยู่ในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’
มิชลินมีกี่ดาวกันแน่?
มิชลินให้รางวัลร้านอาหารโดยแบ่งเป็น 3 ดาวทั้งหมด โดยดาว 3 ดวงคือดีที่สุด ความหมายของดาวแต่ละดวงตามนี้เลยค่ะ
3 ดาว = ร้านอาหารที่อร่อยยอดเยี่ยมและโดดเด่น ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง
2 ดาว = ร้านอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษ คุ้มค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม
1 ดาว = ร้านอาหารที่อร่อยมากเมื่อเทียบกับร้านประเภทเดียวกัน
Bib Gourmand (บิบ กูร์มองด์)
นอกจากการให้ดาวแล้ว มิชลินมีการมอบรางวัลร้านอาหารสำหรับ อาหารสูตรดั้งเดิมที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันและราคาเป็นกันเอง รางวัลนี้เรียกว่า Bib Gourmand ที่เป็นรูปสัญลักษณ์มิชลินแมนทำท่าเลียริมฝีปาก
L` Assiette Michelin (Michelin Plate)
ในปี 2016 มิชลินได้มีการเพิ่มรางวัลอีกประเภท ที่ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปจานและช้อนส้อม โดยจะมอบให้กับ ร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบและมีการปรุงอาหารที่ดี แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ได้ดาว
มิชลินมีการให้คะแนนหรือเกณฑ์การให้รางวัลอย่างไร?
ผู้ตรวจสอบของมิชลินจะประเมินคุณภาพของร้านอาหารโดยใช้หลักเกณฑ์ 5 ประการที่มิชลินกำหนดขึ้นเอง ได้แก่
1 คุณภาพสินค้า
2 การจัดเตรียมและรสชาติ
3 ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อผ่านอาหารที่ปรุง
4 ความคุ้มค่าสมราคา
5 ความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติอาหาร
ต้องร้านอาหารแพงๆใช่มั้ยถึงจะได้ดาว?
มิชลินบอกว่า “ดาวมิชลินมาจากสิ่งที่อยู่ในจานเท่านั้น” เพราะฉะนั้น เราจะเห็นบางร้านที่เป็นร้านที่เข้าถึงได้ ราคาไม่แพง ก็สามารถได้รับดาวมิชลินเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ร้าน Hill Street Tai Hwa Pork Noodle และร้าน Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice & Noodle ที่สิงคโปร์ รวมไปถึงร้าน Tim Ho Wan ที่ฮ่องกง
ใครเป็นคนมาชิมและให้ดาว?
ผู้ตรวจสอบของมิชลินทำงานโดยไม่เปิดเผยตัว และจะปฎิบัติตัวเหมือนเป็นลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง ต้องจองโต๊ะในร้านอาหารล่วงหน้า สั่งอาหาร ทานอาหารโดยไม่ได้จดบันทึกข้อมูลใดๆ ระหว่างรับประทานอาหาร รวมถึงชำระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
มิชลินไกด์เชื่อถือได้จริงเหรอ?
เอาเป็นว่าเวลาเดินทางไปต่างประเทศ เราเป็นคนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการเสาะหาร้านอาหารอร่อยไม่ว่าถูกหรือแพง เรามักจะค้นหาข้อมูลก่อนไป และมิชลินก็เป็นแหล่งข้อมูลหลักของเราเหมือนกัน แต่ถามว่าอร่อยทุกร้านที่ไปมั้ย ก็ไม่นะ ส่วนตัวเท่าที่เคยไปกินร้านที่ได้มิชลินมาเป็นสิบร้านทั้งในเอเชีย ยุโรป อเมริกา คิดว่าถ้าเป็น 2-3 ดาวก็อร่อยแน่นอน แต่ร้านหนึ่งดาว บางทีก็ไม่ได้อร่อยขนาดนั้น ไม่เห็นความแตกต่างชัดเจน แต่ก็มีบางกรณี ร้านหนึ่งดาวบางที่ อร่อยมากจนสงสัยว่า เฮ้ย! แค่หนึ่งดาวจริงเหรอ
มิชลินไกด์จะมีผลอะไรกับวงการร้านอาหารเมืองไทยบ้าง?
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ข้อดีแน่ๆคือธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหารน่าจะมีการเติบโตขึ้น มีนักท่องเที่ยวหรือนักชิมบางกลุ่ม ที่ยอมเดินทาง ยอมจ่ายเพื่อมาลองร้านมิชลินโดยเฉพาะ นอกจากนั้นคิดว่า ร้านอาหารต่างๆคงมีการตื่นตัวและพัฒนาเรื่องต่างๆให้ดีขึ้น
ส่วนข้อที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องคนและราคาค่ะ คิดว่า ร้านไหนที่ได้เนี่ยคงคนเยอะแน่นอน เรื่องราคาไม่แน่ใจว่าจะมีการขึ้นราคาหรือไม่ ถ้าดูตามหลักเศรษฐกิจ ก็ไม่แปลกใจค่ะ เป็นเรื่องของอุปสงค์ อุปทาน โดยปกติที่เคยไปร้านมิชลินหลายๆประเทศมา ร้านหนึ่งดาว จะอยู่ที่ประมาณ 1-3 พันบาทต่อมื้อต่อคน ถ้าสองดาวจะอยู่ที่ 5-6 พัน และ 3 ดาวขึ้นไปเตรียมจ่ายหลักหมื่นค่ะ รอดูกันต่อไปค่ะ แต่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนค่ะ
คิดว่าร้านไหนในเมืองไทยน่าจะได้มิชลินบ้าง?
ความคิดเห็นส่วนตัวอีกเหมือนกัน จากที่ไปชิมๆมา คาดว่า L’atelier de Joel Robuchon น่าจะได้แน่นอนค่ะ เพราะเป็นเครือร้านอาหารที่ได้ดาวเยอะที่สุดในโลก และจากที่ไปชิมมา 2 ครั้งทั้ง มื้อกลางวันและมื้อเย็น ประทับใจทั้งเรื่อง วัตถุดิบ การปรุงอาหาร รสชาติ รวมไปถึงการบริการ
อีกร้านที่คิดว่าไม่น่าพลาดคือ Gaggan ร้านแนว Progressive Indian ที่ได้อันดับหนึ่ง Asia’s Best Restaurant in Asia และอันดับ 7 World’s Best Restaurant
ส่วนร้านอาหารไทย ขอจับตามองร้าน Sra Bua by Kiin Kiin ที่โรงแรม Siam Kempinski และ Nahm ที่โรงแรม Como Metropolitan ค่ะ จากที่ไปชิมมา Sra Bua มีลักษณะแบบที่มิชลินน่าจะชอบ วัตถุดิบดี มีการปรุงและนำเสนอที่แปลกใหม่ แต่ยังคงรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆได้อยู่ ส่วน Nahm ถ้าไม่ได้จะค่อนข้างแปลกใจ เพราะเป็นหนึ่งในร้านที่ติดอันดับ Asia’s Best Restaurant โดยปีล่าสุดอยู่ที่อันดับที่ 5
เรามารอดูกันค่ะ