กระทู้นี้ขอระบายนะค่ะ...เเละขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

เรื่องนี้เราเคยเอามาตั้งกระทู้เเล้วนะค่ะ มันเป็นปัญหาเกี่ยวกับ " บ้าน "
กระทู้ก่อนเราเคยบ่นๆไปเเล้วเรื่องบ้าน ตอนนี้เราไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นเเล้วค่ะพอดีน้าที่กลับมาจากที่ญี่ปุ่นเขาให้เราออกมาอยู่กันข้างนอกเพราะปัญหามันเยอะเเละบ้านเขาเละมาก คือบ้านมัน20ปีเเล้วไงค่ะ มันก็เลยโทรมไปตามกาลเวลา พวกเราก็ยอมรับว่าอยู่กันก็เเค่ทำความสะอาดไม่ค่อยได้ดูเเล เราเลยย้ายออก เเต่ก็ยังอยู่ในหมู่บ้านเดิมอีกซอยเเค่นั้น เเล้วเราก็ได้บ้านมาหลังหนึ่ง สวยนะค่ะ เขาทาสีใหม่ เข้ามาดูในบ้านคือโล่งไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไร ไม่มีแอร์ ตอนเเรกเราก็ไม่อยากเอา เเต่เราไม่มีเวลาเเล้วไงค่ะ เพราะน้องสาวเเฟนเล่นเก็บของให้เราหมดเลยทั้งๆที่เรายังไม่ได้บอกว่าจะออกวันไหนเเน่นอน เเถมยังพูดว่า ถ้าเขาไม่เก็บให้พวกเราก็ไม่ยอมออก เรารู้สึกเเย่กับคำพูดนี้มากเราเลยรีบย้ายออกเเล้วไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีก เเต่พอมาอย่คือค่าเช่าบ้านมันเเพงมากค่ะ เราเลยเอาเพื่อนมาหารค่าเช่าบ้านด้วย1คน ตอนเเรกมันก็ตกลงค่ะ บอกเดี่ยวรอเงินออกวันที่5 จะให้ค่าเช่าบ้าน1000 บาท เราก็โอเค ถือว่าช่วยๆกัน ส่วนที่เหลือเราออกเอง ค่าบาท 4500 นะค่ะ ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ พอวันที่5 เราก็ไปถามเพื่อน มันก็อ้างนู้นอ้างนี้ จนเเฟนเราโมโห คือถ้าไม่ช่วยจ่าค่าบ้านไม่เป็นไร ไม่อยู่ไม่เป็นไรเเต่ขอให้บอกกันดีๆๆ พวกเราจะได้ทำตัวถูกว่าต้องจัดการกันยังไง สุดท้ายทั้งเราทั้งเเฟนหักกับเพื่อนคนนั้นไปค่ะ
    ที่นี้เเฟนมาบอกว่ามีเพื่อน(เเทนว่าพี่mเเล้วกันนะค่ะ) ของเเฟนเราเนี้ยขอมาเช่าอยู่ด้วยเพราะบ้านที่เก่าคนอยู่เยอะเเล้วไม่ช่วยเรื่องค่าน้ำค่าไฟ เขาต้องจัดการคนเดียว เขาไม่ไหว เราก็เลยตกลงเพราะสงสารเเฟน เเฟนทำงานคนเดียว เราเป็นเเม่บ้าน  เงินเดือนเเฟนก็ไม่ได้เยอะอะไร เเละอีกอย่างเราก็รู้จักพี่m อยู่เเล้วเราเลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากมาย พี่เขาก็เป็นผู้ใหญ่เเล้ว เเต่...

    ไม่เลยค่ะ !!! พี่เขาพึ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้2วัน สร้างความรำคาญให้เรามากกกกกก ก.ไก้ล้านตัว ตัวอย่าง
- ตอนเช้า 8โมง เปิดเพลงเสียงดังมากกกกก คือเปิดไม่เกรงใจใคร ปรกติซอยบ้านที่เราอยู่เขาจะอยู่กันเเบบเงียบๆ เเต่นี้คือเหมือนเปิดคอนเสิร์ตอ่ะ
- พาเพื่อนเขามานอนที่บ้าน เเล้วคือเราเป็นผู้หญิงคนเดียวในบ้านไง เเฟนเราก็ไม่อยู่บ้าน เราต้องเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง เเค่จะออกไปเข้าห้องน้ำยังไม่กล้าเลยย
- ขับรถเข้า - ออกบ่อยมากกกกก เเล้วรถมันเสียงดังไงเสียงท่ออ่ะ

เเล้วประเด็นหลักๆเลยก็คือ เราทำกับข้าวหน้าบ้าน คือก็รู้ว่าไม่ควรทำกับข้าวหน้าบ้านอ่ะนะ เเต่หลังบ้านมันน่ากลัวจริงๆมันติดป่า เเล้วคนที่เคยเช่าก่อนหน้าเราเขาก็บอกว่า หลังบ้านงูเข้าบ่อยมาก เราเลยขอเจ้าของบ้านว่าทำกับข้าวหน้าบ้านได้ไหม เขาก็บอกตกลง เเล้วมัก็เป็นเเบบนั้นมาตลอดจนกระทั่ง...พี่mเข้ามาอยู่ด้วย ตอนเเรกเขาก็มาคุยนะว่าขอให้ทำกับข้าวหลังบ้านได้ไหม เขาจะทำให้มันดีๆ เราเลยบอกถ้าเขาทำให้มันดูปลอดภัยเราก็โอเค
เเต่คือมันยังไม่ได้ทำห่าไรเลย เมื่อกี้นี้มันย้ายเครื่องครัวเราไปไว้หลังบ้านเรียบร้อย!!!
เราเลยเงียบเลือกที่จะไม่พูด...เเต่เราก็มีไปคุยกับเเฟนเเหละว่าถ้าบังคับเราไปทำกับข้าวหลังบ้านโดยที่มันยังเป็นเเบบนี้อยู่เรา ยอมเลิกกับเเฟนให้เเฟนอยู่กับพี่ M ไปเหอะ เราไม่ไหวหรอก เพราะคนที่ต้องไปอยู่ที่จุดๆนั้นมันคือกูไง ถามกูสักคำไหม พอกูพูดไปเชื่อกูบ้างไหม ในบ้านเนี้ยเป็นชื่อกูเเท้ๆ เเต่กูพูดอะไรได้มั่ง ค่ามัดจำบ้านมีก็เงินกู กูต้องมาคอยนั่งเกรงใจใช่ไหม กูต้องทนใช่ไหม ??
เเบบนี้ไปอยู่คนเดียวดีกว่า

ปล.1 จริงๆเราอยากไปอยู่ห้องเช่ามากกว่า เเต่ติดที่เราเลี้ยงหมาที่นั้นไม่ได้ (เราเลี้ยงมานานเเล้วนะ ก่อนที่จะย้ายบ้าน)เเล้วเพื่อนคนเเรกที่จะมาเช่ากับเราเป็นคนหาบ้านมาให้เรา เเล้วบอกว่าอยากอยู่หลังนี้เราเลยเลือก เเต่ไม่รู้ พอเซ็นสัญญา ย่ายของเข้ามาอยู่เเล้วสันดานมันจะเป็นเเบบนี้
ปล.2 เราควรทำไงดีค่ะ เราพูดไปเขาก็ไม่ฟัง พูดกับเเฟนไปก็ลำบากใจเขาเเค่เรื่องงานเขาก็ปวดหัวจะตายเเล้ว เราก็ประสาทจะกินเเล้วค่ะ เสียงดังมากก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่