สวัสดีค่ะ
เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวดิฉันเอง อยากได้รับการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ หากประสบเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด
เท้าความก่อนนะคะ ดิฉันอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเอง ปกติอยู่กัน 5คน ชาย 2 หญิง 3 ปลูกบนที่ดิน
ของปู่ย่า ย่านชานเมืองของ กทม ซึ่งญาติท่านอื่นๆ ก็ปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน
ที่ดินบางส่วนเดิมเป็นสวน ตอนนี้เป็นที่ว่างเปล่ามีต้นไม้ขึ้นประปราย บ้านดิฉันมีรั้วรอบเตี้ยๆ ติดมุ้งลวด เหล็กดัด
หน้าต่างประตูทุกบาน ขณะที่บ้านญาติคนอื่นๆ ไม่มีรั้ว ทำให้โดยภาพรวม บริเวณที่อาศัยอยู่ดูเป็นพื้นที่เปิด
และค่อนข้างเงียบ แม้จะห่างจากซอยหลักไม่เกิน 100 เมตร หน้าปากซอย
คืนวันที่ 26 มีนาคม เราอยู่กันสามคนคือน้องสาว พี่ชายและตัวดิฉัน เราไปข้างนอกกลับบ้านมาค่อนข้างดึก
หน้าบ้านล็อคเรียบร้อยเหมือนปกติ ฝนกำลังจะตกดิฉันกับน้องสาว เป็นสองคนสุดท้ายที่ใช้ประตูหลังบ้าน
นออกกไปเก็บผ้า เดินเข้าออก หลายรอบ ประตูหลังบ้าน ค่อนข้างหนัก ต้องใช้แรงดึง เพื่อให้เข้าล็อค
ถ้าไม่เข้าล็อคแม้จะกดล็อค ก็ดึงประตูออกได้ ซึ่งวันนั้นอาจเป็นความสะเพร่าของเราสองคนเอง
ที่ต่างคนต่างคิดว่า อีกคนจะเป็นคนปิดประตูเหล็กดัด ประตูห้องนอนเป็นไม้หนา ปกติไม่ปิดจะแง้ม
ไว้ทุกห้อง เพราะสัญญาณwifi ไม่ทะลุมาในห้อง และด้วยคิดว่าหากมีใครไม่สบาย
หรือต้องการความช่วยเหลือจะร้องเรียกไม่ได้ยิน
เช้าวันที่ 27 มีนาคม 2560 เวลา ประมาณ 3 นาฬิกา ฝนยังคง
ตก ดิฉันเริ่มรู้สึกตัว ขยับตัวเพื่อพยายามหลับต่อ แต่ก็ต้อง
ตกใจตื่น เมื่อพบว่ามีชายไม่รู้จัก นอนไม่ใส่เสื้อ แต่ใส่กางเกง
อยู่บนเตียงด้วยเช่นกัน ประตูห้องปิด เลยพลิกตัวเพื่อลง
จากเตียง ชายคนนั้น โน้มตัวมาทับไว้ มือนึงปิดปาก
มือนึงบีบคอ ร้องยังไงก็เสียงไม่ออก พยายามดิ้น
จนตกมาที่พื้น แล้วชายคนนั้นก็วิ่งออกจากห้องไป
ดิฉันรีบลุกวิ่งมาหน้าห้อง เป็นจังหวะ พี่ชาย และน้องสาว
ตื่นออกมาพบพอดี พี่ชายวิ่งตามไปข้างล่างแต่ไม่พบใครแล้ว
ประตูหน้าบ้าน หลังบ้านปิดแบบไม่ได้ใส่กลอน
เรารีบติดต่อไป 191 เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น โทรไป 2 ครั้ง เกือบสี่สิบนาที ระหว่างรอก็เดินสำรวจร่องรอยการรื้อค้นในบ้าน แต่ไม่พบ โทรศัพท์มือถือในห้องนอนดิฉัน 2 เครื่องหายไป
พอสายตรวจมาถึง พี่ชาย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สายตรวจ
โดยดิฉันและน้องสาว แจ้งสายตรวจว่าจะไปตรวจร่างกาย
แต่ ไม่ได้รับการแนะนำเลย ว่าควรทำอย่างไร
ดิฉันไปที่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อขอตรวจร่างกาย
ได้รับแจ้งว่าหากเป็นเรื่องคดีความ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลตำรวจ
ดิฉันก็ไปโรงพยาบาลตำรวจต่อ พอไปถึงห้องฉุกเฉิน
แจ้งว่าถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ถามหา เอกสารแจ้งความ ดิฉันแจ้งว่า
ยังไม่ได้แจ้ง ร้อนใจอยากตรวจร่างกาย กลัวโดนล่วงละเมิด
เจ้าหน้าที่ยังคงยืนยังเช่นเดิมว่าไม่สามารถทำให้ได้
และไม่สนใจใดๆ วินาทีนั้น แทบยืนไม่อยู่ ถูกทำร้าย
แต่เจ้าหน้าที่เพิกเฉย เหมือนโดนไล่ให้กลับมาแจ้งความ
ดิฉันเดินทางกลับไปแจ้งความ ถึง สน โคกคราม
ประมาณ 6 โมงกว่าๆ ก่อนออก จาก สน ถามร้อยเวร
ว่า เนื้อหาครอบคลุม สามารถยื่น โรงพยาบาลตำรวจ
ได้แล้วใช่หรือไม่ ร้อยเวรบอกว่าได้ ก็รีบกลับไป
โรงพยาบาลตำรวจ
7โมงเช้าวันจันทร์ ที่ฝนตกและรถติด ถึงโรงพยาบาล 9
โมงกว่า การเดินทาง ไป- กลับ 120 กิโลเมตร
กับเอกสารแจ้งความ
เมื่อยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ตรวจสอบแล้วบอกว่า
มีประกันสังคม อยู่รพ. จุฬา ฯให้ไปตรวจที่นั่น มือสั่น ใจสั่น
มาขนาดนี้แล้วยังให้ไปที่อื่น จึงถามว่า เพราะอะไร ถึงตรวจที่นี่
ไม่ได้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีประกันสังคมที่ไหนก็ไปตรวจที่นั่น
ประวัติการรักษาจะได้อยู่ที่เดียวกัน ไม่ต้องเสียค่าตรวจ ซึ่ง
แพงมาก
ดิฉันตอบว่า ดิฉันไม่เคยมีประวัติการตรวจรักษาที่ รพ. จุฬาฯ
ไม่เคยใช้ประกันสังคม ไม่ได้ติดปัญหาเรื่องค่ารักษา
มั่นใจว่า จ่ายได้ ถ้าค่ารักษาเป็นแสน เป็นล้าน ก็จะขายบ้าน
มาจ่ายให้
เจ้าหน้าที่ขอบัตรประชาชนไปทำสำเนาให้ดิฉัน
เซ็นรับรองว่า จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ทำหน้าแบบเสียไม่ได้ ดำเนินเรื่องให้
พอเจ้าหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉิน เรียกตรวจ
ขอดูใบส่งตัวจาก สน. ดูเสร็จก็บอกว่า ตรวจเท่าที่ตำรวจ
เขียนมา ดิฉันแจ้งว่า ขอตรวจเรื่องล่วงละเมิดเพิ่ม
พยาบาลแจ้งว่า ตรวจเท่าที่ ส่งมา อย่างอื่นขึ้นกับแพทย์ว่า
จะตรวจให้หรือไม่
เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ในห้องฉุกเฉิน
ปฏิบัติด้วยอย่างดี ส่งต่อไปแผนกสูตินรีเวช และดิฉันชำระ
ค่าตรวจร่างกาย 2750 บาท พอเข้าไปในห้องตรวจ พยาบาล
ลถามว่า ชำระเงินทำไม มีใบส่งตัวจาก สน. มา ดิฉันแจ้งว่า
ดิฉันไม่ทราบว่าอะไรคือสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ที่ได้รับความ
เดือดร้อน
ดิฉันสมัครใจจ่าย ใจบอบช้ำมาก อยากให้เรื่องมันจบเสียที
สิ่งที่อยากให้โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจง
1. ขั้นตอนการขอรับบริการในกรณีถูกทำร้ายร่างกาย
2. การที่ดิฉันต้องขับรถ ไปกลับ 120 กิโลเมตร
เพื่อเอาแจ้งความ และหนังสือส่งตัวมา แล้วมาบอก
ให้ดิฉันไปประกันสังคม
หากดิฉันไม่มีปัญญา กลับไป สน. แปลว่า ท่านจะปฏิเสธการ
รักษา
3. ในฐานะปุถุชนทั่วไป เมื่อมีเหตุร้าย สายตรวจอยู่ที่บ้าน
ท่านได้รับบาดเจ็บ ท่านจะคิดถึงเรื่อการไปโรงพยาบาล
หรือไป สน. ก่อน
ดิฉันบอกกับแพทย์ที่ทำการตรวจว่า ถ้าขั้นตอนก่อนให้
บริการเป็นแบบนี้ รอให้เสียชีวิต แล้วส่งมาชันสูตร คงง่ายกับ
โรงพยาบาลตำรวจมากกว่า
4. ถ้า มีผู้ประสบเหตุ ไม่มีเงินพอจ่ายค่ารักษา หรือ สน
. ที่เกิดเหตุไกลมาก ไม่มีรถกลับไป ท่านจะปฏิเสธการ
ให้ความช่วยเหลือใช่หรือไม่
5. อะไรคือสิ่งที่ประชาชนควรรู้ และ ปฏิบัติ ดิฉันไม่คิดว่า
จะมีใครซ้อมประสบเหตุ ทำให้ทราบว่าต้องทำอย่างไร
วันรุ่งขึ้น 28/3 ต้องไปฟังผลตรวจร่างกายบางส่วน
แพทย์ที่ตรวจรักษา ถาม ความคืบหน้าทางคดี ดิฉันแจ้งว่า
า ในวันเกิดเหตุ 27/3 ทางดิฉันแจ้ง 191 และ สายตรวจมา
ที่บ้าน ตำรวจเดินรอบบ้าน เราขอให้สายตรวจเก็บรายนิ้วมือแฝง
สายตรวจถามว่าติดกล้องไหม เราบอกว่าไม่ได้ติด
สายตรวจบอกว่า การเก็บรายนิ้วมือแฝง ต้องให้พิสูจน์หลัก
ฐานมา เก็บไปก็อาจจะหาคนผิดไม่ได้ ไม่มีกล้องด้วย แล้ว
ก็ไม่ได้แจ้งว่าเราต้องทำอย่างไรต่อ นอกจากแนะนำให้ติดตู้แดง
แพทย์ที่รักษาแจ้งว่า สายตรวจจะตอบเช่นนั้น ไม่ได้
ดิฉันก็แจ้งแพทย์โดยตรงว่า ดิฉันไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร
ร เมื่อสายตรวจแจ้งเช่นนั้นก็เป็นอย่างนั้น
แพทย์จึงแนะนำให้กลับ ไป สน.โคกคราม ไปสอบถามว่า
มีการรายงานใดๆ หรือไม่ มีการแจ้งงานพิสูจน์หลักฐาน
หรือไม่ ซึ่งท่านบอกว่า เรื่องเก็บหลักฐานควรทำทันทีที่
ทราบเรื่อง แม้จะผ่านไปหนึ่งวัน หลักฐานต่างๆ ก็จะหายาก
ขึ้นเรื่อยๆ
พอไปถึง แจ้งว่าอยากขอทราบความคืบหน้าคดี
โดยเอาสำเนาใบแจ้งความมาด้วย
ร้อยเวร ที่ปฏิบัติหน้าที่ แจ้งว่า ให้รอร้อยเวรที่รับเรื่อง
จะเข้าเวร ตอน 14 นาฬิกา พอ พบ ร้อยเวรแจ้งว่า
ช่วงเวลาที่รับแจ้งเป็นช่วงเปลี่ยนเวร ตนเองไม่ได้รับเรื่อง
งจากสายตรวจเลยไม่มั่นใจว่าสายตรวจมีการแจ้งมาที่ สน.
หรือไม่ แต่จะประสานงานเรื่องแจ้งพิสูจน์หลักฐานให้
เย็นๆ มี พิสูจน์หลักฐานมาที่บ้าน ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
พิสูจน์หลักฐานแจ้งว่าน่าจะแจ้งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ
หลักฐานส่วนมากอยู่ตามลูกบิดประตู ซึ่งหากมีการใช้งาน
ประตูต่างๆ ตามปกติ ลายนิ้วมือแฝงก็จะถูกทับไปเรื่อยๆ
ซึ่งวันนั้น พิสูจน์หลักฐานแทบจะเกิดอะไรไปไม่ได้เลย
สิ่งที่อยากให้ สน. โคกครามชี้แจง
1. ทำไมสายตรวจไม่แนะนำว่า ทางเราต้องทำอไรบ้าง
เช่น ก่อนไปโรงพยาบาล ให้แจ้งความ แนะนำไม่ให้ใช้
หรือเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุจนกว่าพิสูจน์หลักฐานจะมา
2. ทำไมสายตรวจเอามือจับลูกบิด แล้วบอกว่านี่ลายมือ
ผมนะ หลังจากแจ้งเราว่า เก็บลายนิ้วมือ อาจไม่ช่วย
3. ถ้าวันนั้น ไม่ไปตามเรื่องเอง แปลว่า เรื่องทุกอย่างก็จะ
จบแค่สายตรวจกลับใช่หรือไม่
4. ทำอย่างไร ให้ไม่เกิดปัญหา ช่วงเปลี่ยนเวร ในกรณีที่
ร้อยเวรที่รับเรื่องหยุดยาว แปลว่า เราก็ต้องรอ ร้อยเวร
ท่านนั้นกลับมา โดยร้อยเวรท่านอื่นไม่สามารถทำงาน
แทนได้เลยใช่หรือไม่
ดิฉันยอมรับ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดเพราะความประมาท
ของดิฉันเอง ดิฉันไม่ได้ต้องการแพะ หรือเงินค่ารักษา
พยาบาลคืน สิ่งที่เขียนนี้เพื่อสอบถามถึงขั้นตอนการปฏิบัติ
ที่ถูกต้อง เผื่อวันใดมีท่านประสบเหตุจะได้ทราบถึงขั้นตอน
ต่างๆ ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการชี้แจ้งจาก
ทั้งทางโรงพยาบาลตำรวจ และ สน.โคกคราม
ขอบคุณค่ะ
ขอคำชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สน.โคกคราม และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจ กรณีถูกทำร้าย
เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวดิฉันเอง อยากได้รับการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆ หากประสบเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิด
เท้าความก่อนนะคะ ดิฉันอาศัยอยู่ที่บ้านของตนเอง ปกติอยู่กัน 5คน ชาย 2 หญิง 3 ปลูกบนที่ดิน
ของปู่ย่า ย่านชานเมืองของ กทม ซึ่งญาติท่านอื่นๆ ก็ปลูกบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน
ที่ดินบางส่วนเดิมเป็นสวน ตอนนี้เป็นที่ว่างเปล่ามีต้นไม้ขึ้นประปราย บ้านดิฉันมีรั้วรอบเตี้ยๆ ติดมุ้งลวด เหล็กดัด
หน้าต่างประตูทุกบาน ขณะที่บ้านญาติคนอื่นๆ ไม่มีรั้ว ทำให้โดยภาพรวม บริเวณที่อาศัยอยู่ดูเป็นพื้นที่เปิด
และค่อนข้างเงียบ แม้จะห่างจากซอยหลักไม่เกิน 100 เมตร หน้าปากซอย
คืนวันที่ 26 มีนาคม เราอยู่กันสามคนคือน้องสาว พี่ชายและตัวดิฉัน เราไปข้างนอกกลับบ้านมาค่อนข้างดึก
หน้าบ้านล็อคเรียบร้อยเหมือนปกติ ฝนกำลังจะตกดิฉันกับน้องสาว เป็นสองคนสุดท้ายที่ใช้ประตูหลังบ้าน
นออกกไปเก็บผ้า เดินเข้าออก หลายรอบ ประตูหลังบ้าน ค่อนข้างหนัก ต้องใช้แรงดึง เพื่อให้เข้าล็อค
ถ้าไม่เข้าล็อคแม้จะกดล็อค ก็ดึงประตูออกได้ ซึ่งวันนั้นอาจเป็นความสะเพร่าของเราสองคนเอง
ที่ต่างคนต่างคิดว่า อีกคนจะเป็นคนปิดประตูเหล็กดัด ประตูห้องนอนเป็นไม้หนา ปกติไม่ปิดจะแง้ม
ไว้ทุกห้อง เพราะสัญญาณwifi ไม่ทะลุมาในห้อง และด้วยคิดว่าหากมีใครไม่สบาย
หรือต้องการความช่วยเหลือจะร้องเรียกไม่ได้ยิน
เช้าวันที่ 27 มีนาคม 2560 เวลา ประมาณ 3 นาฬิกา ฝนยังคง
ตก ดิฉันเริ่มรู้สึกตัว ขยับตัวเพื่อพยายามหลับต่อ แต่ก็ต้อง
ตกใจตื่น เมื่อพบว่ามีชายไม่รู้จัก นอนไม่ใส่เสื้อ แต่ใส่กางเกง
อยู่บนเตียงด้วยเช่นกัน ประตูห้องปิด เลยพลิกตัวเพื่อลง
จากเตียง ชายคนนั้น โน้มตัวมาทับไว้ มือนึงปิดปาก
มือนึงบีบคอ ร้องยังไงก็เสียงไม่ออก พยายามดิ้น
จนตกมาที่พื้น แล้วชายคนนั้นก็วิ่งออกจากห้องไป
ดิฉันรีบลุกวิ่งมาหน้าห้อง เป็นจังหวะ พี่ชาย และน้องสาว
ตื่นออกมาพบพอดี พี่ชายวิ่งตามไปข้างล่างแต่ไม่พบใครแล้ว
ประตูหน้าบ้าน หลังบ้านปิดแบบไม่ได้ใส่กลอน
เรารีบติดต่อไป 191 เพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น โทรไป 2 ครั้ง เกือบสี่สิบนาที ระหว่างรอก็เดินสำรวจร่องรอยการรื้อค้นในบ้าน แต่ไม่พบ โทรศัพท์มือถือในห้องนอนดิฉัน 2 เครื่องหายไป
พอสายตรวจมาถึง พี่ชาย เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สายตรวจ
โดยดิฉันและน้องสาว แจ้งสายตรวจว่าจะไปตรวจร่างกาย
แต่ ไม่ได้รับการแนะนำเลย ว่าควรทำอย่างไร
ดิฉันไปที่โรงพยาบาลเอกชน เพื่อขอตรวจร่างกาย
ได้รับแจ้งว่าหากเป็นเรื่องคดีความ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลตำรวจ
ดิฉันก็ไปโรงพยาบาลตำรวจต่อ พอไปถึงห้องฉุกเฉิน
แจ้งว่าถูกทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ถามหา เอกสารแจ้งความ ดิฉันแจ้งว่า
ยังไม่ได้แจ้ง ร้อนใจอยากตรวจร่างกาย กลัวโดนล่วงละเมิด
เจ้าหน้าที่ยังคงยืนยังเช่นเดิมว่าไม่สามารถทำให้ได้
และไม่สนใจใดๆ วินาทีนั้น แทบยืนไม่อยู่ ถูกทำร้าย
แต่เจ้าหน้าที่เพิกเฉย เหมือนโดนไล่ให้กลับมาแจ้งความ
ดิฉันเดินทางกลับไปแจ้งความ ถึง สน โคกคราม
ประมาณ 6 โมงกว่าๆ ก่อนออก จาก สน ถามร้อยเวร
ว่า เนื้อหาครอบคลุม สามารถยื่น โรงพยาบาลตำรวจ
ได้แล้วใช่หรือไม่ ร้อยเวรบอกว่าได้ ก็รีบกลับไป
โรงพยาบาลตำรวจ
7โมงเช้าวันจันทร์ ที่ฝนตกและรถติด ถึงโรงพยาบาล 9
โมงกว่า การเดินทาง ไป- กลับ 120 กิโลเมตร
กับเอกสารแจ้งความ
เมื่อยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ตรวจสอบแล้วบอกว่า
มีประกันสังคม อยู่รพ. จุฬา ฯให้ไปตรวจที่นั่น มือสั่น ใจสั่น
มาขนาดนี้แล้วยังให้ไปที่อื่น จึงถามว่า เพราะอะไร ถึงตรวจที่นี่
ไม่ได้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีประกันสังคมที่ไหนก็ไปตรวจที่นั่น
ประวัติการรักษาจะได้อยู่ที่เดียวกัน ไม่ต้องเสียค่าตรวจ ซึ่ง
แพงมาก
ดิฉันตอบว่า ดิฉันไม่เคยมีประวัติการตรวจรักษาที่ รพ. จุฬาฯ
ไม่เคยใช้ประกันสังคม ไม่ได้ติดปัญหาเรื่องค่ารักษา
มั่นใจว่า จ่ายได้ ถ้าค่ารักษาเป็นแสน เป็นล้าน ก็จะขายบ้าน
มาจ่ายให้
เจ้าหน้าที่ขอบัตรประชาชนไปทำสำเนาให้ดิฉัน
เซ็นรับรองว่า จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ทำหน้าแบบเสียไม่ได้ ดำเนินเรื่องให้
พอเจ้าหน้าที่หน้าห้องฉุกเฉิน เรียกตรวจ
ขอดูใบส่งตัวจาก สน. ดูเสร็จก็บอกว่า ตรวจเท่าที่ตำรวจ
เขียนมา ดิฉันแจ้งว่า ขอตรวจเรื่องล่วงละเมิดเพิ่ม
พยาบาลแจ้งว่า ตรวจเท่าที่ ส่งมา อย่างอื่นขึ้นกับแพทย์ว่า
จะตรวจให้หรือไม่
เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ในห้องฉุกเฉิน
ปฏิบัติด้วยอย่างดี ส่งต่อไปแผนกสูตินรีเวช และดิฉันชำระ
ค่าตรวจร่างกาย 2750 บาท พอเข้าไปในห้องตรวจ พยาบาล
ลถามว่า ชำระเงินทำไม มีใบส่งตัวจาก สน. มา ดิฉันแจ้งว่า
ดิฉันไม่ทราบว่าอะไรคือสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ที่ได้รับความ
เดือดร้อน
ดิฉันสมัครใจจ่าย ใจบอบช้ำมาก อยากให้เรื่องมันจบเสียที
สิ่งที่อยากให้โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจง
1. ขั้นตอนการขอรับบริการในกรณีถูกทำร้ายร่างกาย
2. การที่ดิฉันต้องขับรถ ไปกลับ 120 กิโลเมตร
เพื่อเอาแจ้งความ และหนังสือส่งตัวมา แล้วมาบอก
ให้ดิฉันไปประกันสังคม
หากดิฉันไม่มีปัญญา กลับไป สน. แปลว่า ท่านจะปฏิเสธการ
รักษา
3. ในฐานะปุถุชนทั่วไป เมื่อมีเหตุร้าย สายตรวจอยู่ที่บ้าน
ท่านได้รับบาดเจ็บ ท่านจะคิดถึงเรื่อการไปโรงพยาบาล
หรือไป สน. ก่อน
ดิฉันบอกกับแพทย์ที่ทำการตรวจว่า ถ้าขั้นตอนก่อนให้
บริการเป็นแบบนี้ รอให้เสียชีวิต แล้วส่งมาชันสูตร คงง่ายกับ
โรงพยาบาลตำรวจมากกว่า
4. ถ้า มีผู้ประสบเหตุ ไม่มีเงินพอจ่ายค่ารักษา หรือ สน
. ที่เกิดเหตุไกลมาก ไม่มีรถกลับไป ท่านจะปฏิเสธการ
ให้ความช่วยเหลือใช่หรือไม่
5. อะไรคือสิ่งที่ประชาชนควรรู้ และ ปฏิบัติ ดิฉันไม่คิดว่า
จะมีใครซ้อมประสบเหตุ ทำให้ทราบว่าต้องทำอย่างไร
วันรุ่งขึ้น 28/3 ต้องไปฟังผลตรวจร่างกายบางส่วน
แพทย์ที่ตรวจรักษา ถาม ความคืบหน้าทางคดี ดิฉันแจ้งว่า
า ในวันเกิดเหตุ 27/3 ทางดิฉันแจ้ง 191 และ สายตรวจมา
ที่บ้าน ตำรวจเดินรอบบ้าน เราขอให้สายตรวจเก็บรายนิ้วมือแฝง
สายตรวจถามว่าติดกล้องไหม เราบอกว่าไม่ได้ติด
สายตรวจบอกว่า การเก็บรายนิ้วมือแฝง ต้องให้พิสูจน์หลัก
ฐานมา เก็บไปก็อาจจะหาคนผิดไม่ได้ ไม่มีกล้องด้วย แล้ว
ก็ไม่ได้แจ้งว่าเราต้องทำอย่างไรต่อ นอกจากแนะนำให้ติดตู้แดง
แพทย์ที่รักษาแจ้งว่า สายตรวจจะตอบเช่นนั้น ไม่ได้
ดิฉันก็แจ้งแพทย์โดยตรงว่า ดิฉันไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร
ร เมื่อสายตรวจแจ้งเช่นนั้นก็เป็นอย่างนั้น
แพทย์จึงแนะนำให้กลับ ไป สน.โคกคราม ไปสอบถามว่า
มีการรายงานใดๆ หรือไม่ มีการแจ้งงานพิสูจน์หลักฐาน
หรือไม่ ซึ่งท่านบอกว่า เรื่องเก็บหลักฐานควรทำทันทีที่
ทราบเรื่อง แม้จะผ่านไปหนึ่งวัน หลักฐานต่างๆ ก็จะหายาก
ขึ้นเรื่อยๆ
พอไปถึง แจ้งว่าอยากขอทราบความคืบหน้าคดี
โดยเอาสำเนาใบแจ้งความมาด้วย
ร้อยเวร ที่ปฏิบัติหน้าที่ แจ้งว่า ให้รอร้อยเวรที่รับเรื่อง
จะเข้าเวร ตอน 14 นาฬิกา พอ พบ ร้อยเวรแจ้งว่า
ช่วงเวลาที่รับแจ้งเป็นช่วงเปลี่ยนเวร ตนเองไม่ได้รับเรื่อง
งจากสายตรวจเลยไม่มั่นใจว่าสายตรวจมีการแจ้งมาที่ สน.
หรือไม่ แต่จะประสานงานเรื่องแจ้งพิสูจน์หลักฐานให้
เย็นๆ มี พิสูจน์หลักฐานมาที่บ้าน ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
พิสูจน์หลักฐานแจ้งว่าน่าจะแจ้งตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ
หลักฐานส่วนมากอยู่ตามลูกบิดประตู ซึ่งหากมีการใช้งาน
ประตูต่างๆ ตามปกติ ลายนิ้วมือแฝงก็จะถูกทับไปเรื่อยๆ
ซึ่งวันนั้น พิสูจน์หลักฐานแทบจะเกิดอะไรไปไม่ได้เลย
สิ่งที่อยากให้ สน. โคกครามชี้แจง
1. ทำไมสายตรวจไม่แนะนำว่า ทางเราต้องทำอไรบ้าง
เช่น ก่อนไปโรงพยาบาล ให้แจ้งความ แนะนำไม่ให้ใช้
หรือเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุจนกว่าพิสูจน์หลักฐานจะมา
2. ทำไมสายตรวจเอามือจับลูกบิด แล้วบอกว่านี่ลายมือ
ผมนะ หลังจากแจ้งเราว่า เก็บลายนิ้วมือ อาจไม่ช่วย
3. ถ้าวันนั้น ไม่ไปตามเรื่องเอง แปลว่า เรื่องทุกอย่างก็จะ
จบแค่สายตรวจกลับใช่หรือไม่
4. ทำอย่างไร ให้ไม่เกิดปัญหา ช่วงเปลี่ยนเวร ในกรณีที่
ร้อยเวรที่รับเรื่องหยุดยาว แปลว่า เราก็ต้องรอ ร้อยเวร
ท่านนั้นกลับมา โดยร้อยเวรท่านอื่นไม่สามารถทำงาน
แทนได้เลยใช่หรือไม่
ดิฉันยอมรับ ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดเพราะความประมาท
ของดิฉันเอง ดิฉันไม่ได้ต้องการแพะ หรือเงินค่ารักษา
พยาบาลคืน สิ่งที่เขียนนี้เพื่อสอบถามถึงขั้นตอนการปฏิบัติ
ที่ถูกต้อง เผื่อวันใดมีท่านประสบเหตุจะได้ทราบถึงขั้นตอน
ต่างๆ ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับการชี้แจ้งจาก
ทั้งทางโรงพยาบาลตำรวจ และ สน.โคกคราม
ขอบคุณค่ะ