ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Sheffield เผยผลวิจัยในการประชุมประจำปีของ Royal Economic Society ในเมืองบริสโทล โดยระบุว่า เด็กที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแชตบนเฟซบุ๊ก (Facebook) สแนปแชท (Snapchat) วอทสแอป (WhatsApp) และอินสตาแกรม (Instagram) นั้น มีความสุขไม่มากนักในเรื่องทางวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงเรียน เรื่องภาพลักษณ์ เรื่องครอบครัว และเรื่องชีวิตส่วนตัว โดยนักวิจัยพบว่า สิ่งที่เด็กมีความสุขมีเรื่องเดียว คือ เรื่องสัมพันธภาพกับเพื่อน
นักเศรษฐศาสตร์พบว่า การใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อวันบนโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น สามารถทำลายความสุขที่เด็กๆ ควรจะมีกับชีวิตของตนเองลงไปประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ขณะที่การสำรวจขององค์กรอื่นๆ ก็ให้ผลไปในทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น การสำรวจของ BBC ที่พบว่า มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปีที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือข้อมูลของ Ofcom ได้เคยรายงานเอาไว้พบว่า เด็กที่มีอายุระหว่าง 8-11 ปี และ 12-15 ปีนั้น มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน โดยคิดเป็นจำนวนชั่วโมงเฉลี่ยที่ 3.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และแซงหน้าการดูทีวีไปแล้วด้วย
นักวิจัยได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า การเข้าโลกออนไลน์ได้ทำให้เด็กๆ เกิดการเปรียบเทียบทางสังคม และรู้สึกไม่ดีกับคนอื่นได้
“ปัญหาของการใช้งานสื่อออนไลน์ คือ ผู้คนพยายามนำเสนอตนเองในด้านที่ดีเลิศ หรือภาพในเชิงบวก ซึ่งทำให้คนที่เข้ามาดูรู้สึกว่า คนที่โพสต์ข้อมูลเหล่านั้น มีความสุขมากกว่าตนเอง” ฟิลิป โพเวลล์ (Philip Powell) หนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์ผู้ร่วมทำงานวิจัยชิ้นนี้เผย “ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ขาดความเชื่อมั่น ผลกระทบนี้จะยิ่งร้ายแรง”
“การกลั่นแกล้งกันบนโลกไซเบอร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของเด็กที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย โดยมีการพบว่า เด็กที่ใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากมักจะตกเป็นเหยื่อของ Cyberbullying มากขึ้น” ฟิลิป โพเวลล์กล่าวสรุป
บทความจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000036361
วิจัยชี้โซเชียลมีเดีย ตัวการบั่นทอนความสุขของเด็กวัยรุ่น
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Sheffield เผยผลวิจัยในการประชุมประจำปีของ Royal Economic Society ในเมืองบริสโทล โดยระบุว่า เด็กที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการแชตบนเฟซบุ๊ก (Facebook) สแนปแชท (Snapchat) วอทสแอป (WhatsApp) และอินสตาแกรม (Instagram) นั้น มีความสุขไม่มากนักในเรื่องทางวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงเรียน เรื่องภาพลักษณ์ เรื่องครอบครัว และเรื่องชีวิตส่วนตัว โดยนักวิจัยพบว่า สิ่งที่เด็กมีความสุขมีเรื่องเดียว คือ เรื่องสัมพันธภาพกับเพื่อน
นักเศรษฐศาสตร์พบว่า การใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงต่อวันบนโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น สามารถทำลายความสุขที่เด็กๆ ควรจะมีกับชีวิตของตนเองลงไปประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ขณะที่การสำรวจขององค์กรอื่นๆ ก็ให้ผลไปในทางเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น การสำรวจของ BBC ที่พบว่า มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปีที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือข้อมูลของ Ofcom ได้เคยรายงานเอาไว้พบว่า เด็กที่มีอายุระหว่าง 8-11 ปี และ 12-15 ปีนั้น มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อน โดยคิดเป็นจำนวนชั่วโมงเฉลี่ยที่ 3.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และแซงหน้าการดูทีวีไปแล้วด้วย
นักวิจัยได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า การเข้าโลกออนไลน์ได้ทำให้เด็กๆ เกิดการเปรียบเทียบทางสังคม และรู้สึกไม่ดีกับคนอื่นได้
“ปัญหาของการใช้งานสื่อออนไลน์ คือ ผู้คนพยายามนำเสนอตนเองในด้านที่ดีเลิศ หรือภาพในเชิงบวก ซึ่งทำให้คนที่เข้ามาดูรู้สึกว่า คนที่โพสต์ข้อมูลเหล่านั้น มีความสุขมากกว่าตนเอง” ฟิลิป โพเวลล์ (Philip Powell) หนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์ผู้ร่วมทำงานวิจัยชิ้นนี้เผย “ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ขาดความเชื่อมั่น ผลกระทบนี้จะยิ่งร้ายแรง”
“การกลั่นแกล้งกันบนโลกไซเบอร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาของเด็กที่ใช้งานโซเชียลมีเดีย โดยมีการพบว่า เด็กที่ใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากมักจะตกเป็นเหยื่อของ Cyberbullying มากขึ้น” ฟิลิป โพเวลล์กล่าวสรุป
บทความจาก : MGR Online
http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000036361