ในที่สุดแล้ว..
รัฐบาลก็เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยและต่างชาติ ร่วมหุ้นส่วนพัฒนาลงทุนในประเทศไทยได้สำเร็จ
โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศเริ่มยื่นความสนใจเข้ามาแล้ว
เป็นเรื่องที่ดีๆต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยเรา
ติดตามข่าวกันค่ะ...
หอการค้าอเมริกันในไทยเข้าพบ “อุตตม” แจ้งข่าวดี 700 บริษัทสนใจลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ คอมพิวเตอร์ การบิน ย้ำกฎหมายคุมเข้มห้ามนั่งแค็บไม่กระทบขยายลงทุนรถกระบะในไทยแน่นอน
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังนายเจฟฟรีย์ ดี. ไนการ์ด (Mr. Jeffrey D.Nygaard) ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยได้ระบุว่านักลงทุนสหรัฐฯ ที่อยู่ในไทยกว่า 700 บริษัท มูลค่าการลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท สนใจที่จะเข้าลงทุนในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนอาทิ ยานยนต์แห่งอนาคต อุตฯการบิน และอุตฯ คอมพิวเตอร์
“มีหลายบริษัทแสดงความสนใจมากเช่น บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ที่พร้อมลงทุนเพิ่มในดิจิตอลปาร์ก (EECd), อุตฯ เคมีภัณฑ์ ฟอร์ด ฯลฯ ซึ่งได้สอบถามรายละเอียดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ ยินดีที่จะดึงหอการค้าสหรัฐฯ เข้าร่วมเป็นสมาชิกใน “กลุ่มประชารัฐ” ที่ตนเป็นกรรมการร่วมอยู่ คือ คณะนวัตกรรม คณะ SMEs และคณะ S-Curve ขณะที่ตัวแทนของหอการค้าอเมริกัน ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทแม่ของอเมริกาจำเป็นที่ต้องรับทราบแผนระยะยาวของไทยว่ามีความแน่นอนเพียงใด เนื่องจากนักลงทุนต้องกำหนดแผนลงทุนในอนาคตไว้ด้วย ส่วนใหญ่นักลงทุนจะถามถึงพื้นที่ใดจะใช้เริ่มใน EEC ซึ่งได้รับการยืนยันจาก นายอุตมมฯ ชัดเจนว่า จะเริ่มที่ จ.ฉะเชิงเทราก่อน และมีสนามบินอู่ตะเภาเป็นโครงการหลัก (Core Project) ใน EEC สำหรับโครงการในระยะแรก
สำหรับกรณีกฎหมายควบคุมการโดยสารรถยนต์กระบะ โดยเฉพาะการนั่งแค็บนั้นเชื่อว่าผู้ประกอบการอุตฯ ยานยนต์เข้าใจในเรื่องนี้ จะส่งผลดีต่อความปลอดภัยของประชาชน และยังมีความเชื่อมั่นในการผลิตรถกระบะต่อไป โดยแต่ละค่ายก็จะมีเทคโนโลยีแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์มาหารือทำความเข้าใจแต่อย่างใด
http://m.manager.co.th/Business/detail/9600000035615
((มาลาริน)) ^_^ "อีอีซี” กระหึ่ม! นักลงทุนสหรัฐฯ 700 บริษัทแจ้ง “อุตตม” สนใจลงทุนในพื้นที่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยนต์ ฯลฯ
รัฐบาลก็เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนไทยและต่างชาติ ร่วมหุ้นส่วนพัฒนาลงทุนในประเทศไทยได้สำเร็จ
โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศเริ่มยื่นความสนใจเข้ามาแล้ว
เป็นเรื่องที่ดีๆต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทยเรา
ติดตามข่าวกันค่ะ...
หอการค้าอเมริกันในไทยเข้าพบ “อุตตม” แจ้งข่าวดี 700 บริษัทสนใจลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ คอมพิวเตอร์ การบิน ย้ำกฎหมายคุมเข้มห้ามนั่งแค็บไม่กระทบขยายลงทุนรถกระบะในไทยแน่นอน
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังนายเจฟฟรีย์ ดี. ไนการ์ด (Mr. Jeffrey D.Nygaard) ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศไทยได้ระบุว่านักลงทุนสหรัฐฯ ที่อยู่ในไทยกว่า 700 บริษัท มูลค่าการลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท สนใจที่จะเข้าลงทุนในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนอาทิ ยานยนต์แห่งอนาคต อุตฯการบิน และอุตฯ คอมพิวเตอร์
“มีหลายบริษัทแสดงความสนใจมากเช่น บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ที่พร้อมลงทุนเพิ่มในดิจิตอลปาร์ก (EECd), อุตฯ เคมีภัณฑ์ ฟอร์ด ฯลฯ ซึ่งได้สอบถามรายละเอียดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ ยินดีที่จะดึงหอการค้าสหรัฐฯ เข้าร่วมเป็นสมาชิกใน “กลุ่มประชารัฐ” ที่ตนเป็นกรรมการร่วมอยู่ คือ คณะนวัตกรรม คณะ SMEs และคณะ S-Curve ขณะที่ตัวแทนของหอการค้าอเมริกัน ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทแม่ของอเมริกาจำเป็นที่ต้องรับทราบแผนระยะยาวของไทยว่ามีความแน่นอนเพียงใด เนื่องจากนักลงทุนต้องกำหนดแผนลงทุนในอนาคตไว้ด้วย ส่วนใหญ่นักลงทุนจะถามถึงพื้นที่ใดจะใช้เริ่มใน EEC ซึ่งได้รับการยืนยันจาก นายอุตมมฯ ชัดเจนว่า จะเริ่มที่ จ.ฉะเชิงเทราก่อน และมีสนามบินอู่ตะเภาเป็นโครงการหลัก (Core Project) ใน EEC สำหรับโครงการในระยะแรก
สำหรับกรณีกฎหมายควบคุมการโดยสารรถยนต์กระบะ โดยเฉพาะการนั่งแค็บนั้นเชื่อว่าผู้ประกอบการอุตฯ ยานยนต์เข้าใจในเรื่องนี้ จะส่งผลดีต่อความปลอดภัยของประชาชน และยังมีความเชื่อมั่นในการผลิตรถกระบะต่อไป โดยแต่ละค่ายก็จะมีเทคโนโลยีแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่จะต้องเรียกผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์มาหารือทำความเข้าใจแต่อย่างใด
http://m.manager.co.th/Business/detail/9600000035615