ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าธนาคารเป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยมีธนาคารกลางเป็นตัวควบคุมการเงินในประเทศนั้นๆ โดยธนาคารกลางมีอำนาจในการควบคุมการไหลเข้าออก นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดนโยบายอ่อน-แข็งค่าของค่าเงินได้ด้วย ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่อาศัยผลประโยชน์ทางกฏหมายของประเทศในการผูกขาดธุรกิจสินเชื่อโดยมีการเพิ่มส่วนดอกเบี้ยเพื่อทำกำไรในธุรกิจของธนาคาร
ที่นี้ในการที่ประกอบอาชีพในยุคสมัยนี้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อต้องการขยายกิจการเราก็มีความจำเป็นที่จะกู้ธนาคาร ซึ่งต้นทุนก็คือภาระดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกับเรา และนโยบายการปล่อยกู้ของธนาคารก็นิยมปล่อยกู้คนที่มีเงินจำนวนเยอะอยู่แล้ว (คนที่ไม่ค่อยอยากกู้) ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยมาก บางครั้งมีการแถมโปรโมชั่นให้ด้วย แต่กับคนที่มีเงินจำนวนน้อยอยู่แล้วต้องการขยายกิจการกลับต้องกู้ธนาคารในอัตราดอกเบี้ยที่แทบจะสูงสุดเกือบชนเพดาน ด้วยเหตุแบบนี้จึงทำให้เกิดช่องว่าในสังคมมากขึ้น
เพราะถ้าทำธุรกิจที่คล้ายๆกัน ธุรกิจขนาดใหญ่หรือคนรวย จะมีความได้เปรียบ ธุรกิจขนาดเล็กหรือคนจนมาก จนบางครั้งรายใหญ่แค่ใช้นโยบายทุ่มตลาดก็สามารถชนะได้แล้ว แล้วพอธุรกิจขนาดเล็กตายก็ค่อยมากินทีหลังเพื่อเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
คิดเหมือนผมหรือเปล่าว่า "ธนาคารเป็นตัวการทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมที่เพิ่มขึ้น"
ที่นี้ในการที่ประกอบอาชีพในยุคสมัยนี้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อต้องการขยายกิจการเราก็มีความจำเป็นที่จะกู้ธนาคาร ซึ่งต้นทุนก็คือภาระดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดกับเรา และนโยบายการปล่อยกู้ของธนาคารก็นิยมปล่อยกู้คนที่มีเงินจำนวนเยอะอยู่แล้ว (คนที่ไม่ค่อยอยากกู้) ในอัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยมาก บางครั้งมีการแถมโปรโมชั่นให้ด้วย แต่กับคนที่มีเงินจำนวนน้อยอยู่แล้วต้องการขยายกิจการกลับต้องกู้ธนาคารในอัตราดอกเบี้ยที่แทบจะสูงสุดเกือบชนเพดาน ด้วยเหตุแบบนี้จึงทำให้เกิดช่องว่าในสังคมมากขึ้น
เพราะถ้าทำธุรกิจที่คล้ายๆกัน ธุรกิจขนาดใหญ่หรือคนรวย จะมีความได้เปรียบ ธุรกิจขนาดเล็กหรือคนจนมาก จนบางครั้งรายใหญ่แค่ใช้นโยบายทุ่มตลาดก็สามารถชนะได้แล้ว แล้วพอธุรกิจขนาดเล็กตายก็ค่อยมากินทีหลังเพื่อเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรม