เริ่มตอนด้วยการเล่าบันทึกของโคโคะว่า หลังจากที่ผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการฝึกเดินเรือมาได้ราวๆ 1 เดือนกว่า
ทางโรงเรียนกับบลูเมอร์เมดและกรรมการจัดการภาวะฉุกเฉินก็ได้หารือร่วมกัน ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ RATt สิ่งมีชีวิตที่เป็นต้นตอของปัญหา
และให้สถาบันเวชศาสตร์ทางทะเลจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญขึ้น
หลังการสอบสิ้นสุดลงทางโรงเรียนก็เข้าสู่ช่วงวันหยุด แต่ละคนต่างก็แยกย้ายไปทำกิจกรรมของตัวเอง
มีน่าเข้ามาทักทายโคโคะที่กำลังจดบันทึกการเดินเรืออยู๋ แม้ตอนนี้จะไม่ได้ออกเรือแล้วก็ตาม
และก็ชวนกันไปดูหนังแนวนินเคียว (แนวๆวิถีลูกผู้ชาย, แก๊งยากูซ่า) ที่ทั้งคู่ชอบกัน
ที่มีน่าติดใจหนังแนวนี้เพราะว่าใน Lorelei no ototmetachi
ระหว่างเดินทางมาญี่ปุ่น ช่วงที่อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เลโอนา ลูกเรือที่คลั่งไคล้วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้แนะนำภาพยนตร์ให้ดูเพื่อที่จะได้ศึกษาภาษาญี่ปุ่น
แต่พอเปิดให้ดูมีเพียงมีน่าคนเดียวเท่านั้นที่เห็นว่าตัวหนังมันเท่มากๆเลยเป็นจุดเริ่ีมต้นของการใช้ภาษาแบบแปลกๆของมีน่า
ระหว่างนั้นเทอาก็เข้ามาบอกให้มีน่าไปประชุมหลังพักกลางวันด้วยภาษาเยอรมัน แล้วก็จ้องไปที่โคโคะสักพักก่อนจะเดินจากไปเงียบๆ
ด้านฮาเระคาเสะที่จมไปก็ถูกกู้ขึ้นมาแล้ว แต่ยังคงเสียหายหนักมาก
มีน่าเล่าเรื่องข่าวลือที่จะยุบชั้นเรียนฮาเระคาเสะให้โคโคะฟัง โคโคะเองก็ตกใจบวกกับผู้การเรียกไปพบหลังจากนี้ด้วยเลยกลัวว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง
มีน่าก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆเพราะว่ายังไงเรื่องนี้คลี่คลายลงได้ก็เพราะการร่วมแรงร่วมใจกันของฮาเระคาเสะ ไม่น่าถูกยุบง่ายๆหรอก
มิเกะจัง ชิโระจัง โมกะจัง
ทั้ง 3 คนกำลังยุ่งอยู่กับการเขียนรายงานสำนึกผิดส่งทางโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตอนฝึกเดินเรืออยู่ที่ห้องสมุด
มิเกะจังซึ่งไม่ถนัดเขียนรายงานเลยสักนิดก็บ่นออกมาว่าไม่เข้าใจเลย โมกะจังเลยเสนอตัวว่าเอาไว้หลังจากของตัวเองเสร็จแล้วจะช่วย
ชิโระจังเองก็ไม่อยากให้โมกะสปอยผู้การของตัวเองมากนัก
โคโคะจังมาตามที่เรียกตัว และก็โล่งอกที่เรื่องที่คุยไม่ใช่การยุบชั้นเรียนแต่เป็นการวานให้เอาเอกสารคำสั่งจากโรงเรียนไปส่งให้ทุกคน
เมื่อพิจารณาที่ซองดีๆแล้วก็พบว่าเป็นซองปิดผนึกที่กำหนดวันที่และเวลาเปิดไว้ชัดเจนคือ
ห้ามเปิดก่อนวันที่ 13 มิ.ย. เวลา 9:00 น.
เมื่อเอาไปส่องกับแดดดูก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าพิมพ์อะไรไว้ เจ้าตัวก็เลยมโนว่าเพื่อป้องกันสปายที่แทรกซึมเข้ามา
ระหว่างที่กำลังมโนอยู่นั้นเอง พนักงานวิทยุสึกุจัง และพนักงานเรดาร์เมกุจังก็มาเจอเข้าพอดี
พอสึกุจังรู้เรื่องแล้วก็เลยอาสาช่วยแจกด้วยเพราะว่าตัวเองเป็นคนโยโกสุกะอยู่แล้ว หลังจากนี้ก็กำลังจะพาเมกุจังไปเดินเที่ยวอยู่พอดี
จากนั้นก็ทำการส่งเมล์หาทุกคนให้ช่วยบอกว่าอยู่ที่ไหนกันบ้าง
ที่แรกที่จะไปกันก็คือร้านมาจองอิริฟุเนะซึ่งอยู่ชั้น 3-4 ของตึกซาคาคุระ
พวกกลุ่มช่างกลเรือไปเล่นมาจอง (ไพ่นกกระจอกกันอยู่)
ในครั้งนี้ OVA เลยจับเอาความเอ๋อของลูนะมาเล่นเน้นๆ เพราะในมังงะถือเป็นตัวโจ๊กหลักเลย
ตั้งแต่มือไม่ครบ เขาต้องมีไพ่กันคนละ 13 ตัว ลูนะทำอีท่าไหนไม่รู้มีแค่ 12 แถมยังจะประกาศปงทั้งๆที่มือไม่ครบอีก
สุดท้ายแล้วกลายว่าแพ้ทุกตาจนโดนดีดหน้าผากระบม
วีรกรรมติงต๊องก่อนเข้าเรียนของลูนะ
- เกือบไม่ได้เข้าเรียนเพราะว่าสอบไม่ติด
- หลังจากที่หาเลขที่ของตัวเองบนบอร์ดไม่เจอก็เสียใจมากเลยบอกว่าจะไปเกิดใหม่เป็นปลาแล้วก็ไปกระโดดน้ำทะเล แต่ลืมไปว่าช่วงนั้นมันหน้าหนาวน้ำเย็นเฉียบก็เลยต้องตะโกนขอร้องให้คนมาช่วย
- มารู้อีกทีว่าโรงเรียนมีรายชื่อสำรองอยู่ พอไปตรวจดูก็พบว่าตัวเองติดสำรองจริงๆ และเป็นลำดับแรกของตัวสำรองด้วย สุดท้ายแล้วก็สามารถเข้าเรียนได้เพราะโชคดีที่ตัวจริงมีคนสละสิทธิ์ไป
พวกโคโคะมาหากลุ่มช่างกลได้เพราะมีเพียงเรโอะคนเดียวที่รู้ว่ามีเมล์เข้าเลยตอบไปว่าอยู่ที่ไหน
พอได้คำสั่งมาแล้วลูนะยังคงแสดงความติงต๊องต่อเนื่องจะแกะซองทันทีเลยไม่ได้อ่านก่อนว่าเขาให้เปิดตอนไหนเลยโดนโคโคะดุเข้า
สึกุจังเห็นว่ามารอนและคุโระจังไม่อยู่ เนื่องจากทั้งสองคนนัดไปฝึกกัน (ฝึกการซ่อมเครื่องกล)
เรโอะเลยอาสารับฝากไปให้เพราะว่าตอนเย็นนัดกินข้าวกันอยู่แล้ว
และบังเอิญมิคังเอาชาขึ้นมาเสริฟพอดีเลยรู้ว่า มิคัง และพี่น้องคิเนซากิมาทำขนมขายที่ร้านของญาติซึ่งอยู่ตึกนี้พอดี
พี่น้องคิเนซากิลองทำเอแคลร์ดูแล้วก็ให้พวกโคโคะจังลองชิม
แต่มีเพียงเมกุจังเท่านั้นที่พะอืดพะอมเนื่องจากว่าทั้งคู่ใส่อามะนัตโตะหรือถั่วเคลือบน้ำตาลเข้าไปด้วย
เพราะตามโปรไฟล์แล้วเธอไม่ถูกกับอามะนัตโตะครับ
(แต่น่าจะแค่ระดับที่ไม่ชอบเฉยๆไม่ถึงกับแพ้ถั่วไม่งั้นอาจจะเข้าโรงพยาบาลแล้ว)
แต่ด้วยความที่ไม่รู้ส่วนผสมก็เลยกินเข้าไปเต็มๆ
ตัวอย่างอามะนัตโตะ
ตัดไปทางเมทามะที่เพิ่งขึ้นจากออนเซ็น
สำหรับที่ต่อไป ยังไม่มีใครตอบเมล์มาเพิ่ม แต่โคโคะมีที่ซึ่งคิดในใจอยู่แล้ว และก็พบกับมัจจิที่ยืนอยู่บนเสาวิทยุบนภูเขาคินุกาสะ
สึกุจังบอกว่าที่นี่สัญญาณ(วิทยุ)ดีมาก
และบังเอิญได้เจออีก 3 คนคือมีมี่ที่ตามมาถ่ายรูปมัจจิ โมโมะก็วาดรูปมัจจิอยู่ ฮิเมะก็ต่อเรืออยู่
เสริมเรื่องวาดภาพของโมโมะจัง
จริงๆแล้วโมโมะจังมักจะวาดรูปอยู่บ่อยๆแล้วก็ชอบจับเอาคนใกล้ตัวมาเป็นตัวเอกในมังงะที่วาดครับ
ขนาดอิโซโรคุเธอยังเคยกะจะวาดมังงะให้เป็นตัวเอกมาแล้ว
ในมังงะ Peaceful Diary ตอนที่ 3
ก่อนที่จะเข้าเรียนที่โยโกสุกะเธออาศัยอยู่กับฮิเมะจังแค่สองคน รับทำงานฝีมือต่างๆ
ฮิเมะทำพวกงานช่างไม้ ทำของชิ้นใหญ่ๆ โมโมะทำงานฝีมือ เช่นงานเย็บปัก (คนที่ทำเสื้อฮัปปิให้มารอนก็คือโมโมะนี่แหละ)
เพราะงั้นที่ผ่านมาเลยวาดแต่มังงะโดยมีฮิเมะจังเป็นตัวเอกมาตลอด
ทางด้านฮิเมะจังเองก็บอกให้เลิกเอาตัวเองไปวาดสักที
แต่โมโมะจังก็ให้เหตุผลว่าถ้าวาดโดยมีตัวจริงเป็นต้นแบบมันวาดออกมาได้ง่ายกว่า
ทุกคนกำลังคุยกันว่าแล้วจากนี้ไปจะทำยังไงต่อ เรือก็ไม่มีให้ใช้แล้วแปลว่าเทอมหน้าอาจมีแค่ห้องนี้ที่ต้องอยู่บนฝั่ง
ในตอนนั้นเองมัจจิก็สังเกตเห็นว่ามีอู่ลอยมาเก็บฮาเระคาเสะเข้าไป
อธิบายเสริมที่มัจจิต้องคอยถอดแว่นเวลามองระยะไกลตลอดเพราะตามโปรไฟล์แล้วเป็นคนที่สายตาดีมาก
แต่เนื่องจากสายตายาวเวลาปกติที่ไม่ได้มองไกลๆเลยต้องใส่แว่นเอาไว้
นอกจากนี้ยังมีงานอดิเรกคือการดูดาว และชอบวิชาดาราศาสตร์เป็นพิเศษ
ใน Peaceful Diary ก็เคยอธิบายเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน
เกี่ยวกับอู่ลอย (Floating dock) จะมีประโยชน์ในการใช้ซ่อมเรือที่เสียหายโดยการที่เอาตัวอู่เข้าไปหาเรือเอง
แทนที่จะต้องลากจูงเรือไปเข้าอู่แห้ง ตัวอู่ลอยนั้นสามารถปรับให้จมหรือลอยก็ได้
เมื่อตัวอู่ครอบเรือที่จะซ่อมเสร็จแล้วก็จะทำการลอยขึ้นเพื่อให้หมอนรองที่อยู่ด้านล่างสามารถยกตัวเรือขึ้นมาจากน้ำได้
แล้วก็ทำการปล่อยน้ำออกให้หมด จากนั้นก็จะไม่ต่างอะไรจากการเอาเรือเข้าอู่แห้งครับ
ภาพจาก
http://navy.81.cn/
เมื่อทั้ง 3 พากันไปดูที่ท่าเรือก็พบคุณมาริโคจิพร้อมกับชายที่น่าจะเป็นคนขับรถไม่ก็พ่อบ้านเรียกเธอว่าคุณหนู
โดยทั้ง 2 คนคุยกันว่าใกล้จะได้เวลากลับแล้ว แต่มาริโคจิบอกว่าขอเวลาอีกนิด ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวจะบอก
ทุกคนก็พอรู้อยู่ว่าเป็นคุณหนูแต่ไม่คาดคิดว่าจะสุดยอดขนาดนี้
มาริโคจิบอกว่ารู้ตัวว่าถูกทั้ง 3 คนแอบดูอยู่เลยบอกให้ออกมาได้
โคโคะจังได้ยินเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้ว่าจะให้กลับนี่หมายความว่าอย่างไร
มาริโคจิเลยอธิบายให้ฟังว่าจริงๆแล้วก่อนหน้านี้ก็ถูกท่านพ่อเรียกตัวกลับไปหลายครั้งแล้ว
ตัดฉากมาที่เมทามะ ทั้งคู่นั่งโขกหมากรุกกันอยู่ ทามะจังโดนไล่ต้อนอยู่ฝ่ายเดียว
พวกโคโคะพักกินเบอร์เกอร์ที่ร้าน Navy Burger ระหว่างนั้นก็คุยกันว่าฮาเระคาเสะเข้าอู่ลอยไปแล้วอีกเดี๋ยวคงถูกจับแยกชิ้นส่วนแน่เลย
ในตอนนั้นเองทางคาโยะจังก็ตอบเมล์มาพอดี
พวกฝ่ายการอาวุธอยู่ที่ลานโบว์ลิ่ง
กลุ่มอาวุธใต้น้ำเล่นโบว์ลิ่งกันอยู่ คาโยะจังสามารถเก็บพินที่เหลืออยู่ทั้งซ้ายและขวาฝั่งละ 1 ตัวได้ในการโยนครั้งเดียว
สร้างความตกตะลึงให้กับพวกการปืนเป็นอย่างมาก
[Spoil] High School Fleet OVA part 1 - โนสะ โคโคะ อยู่ในวิกฤต
ทางโรงเรียนกับบลูเมอร์เมดและกรรมการจัดการภาวะฉุกเฉินก็ได้หารือร่วมกัน ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ RATt สิ่งมีชีวิตที่เป็นต้นตอของปัญหา
และให้สถาบันเวชศาสตร์ทางทะเลจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญขึ้น
หลังการสอบสิ้นสุดลงทางโรงเรียนก็เข้าสู่ช่วงวันหยุด แต่ละคนต่างก็แยกย้ายไปทำกิจกรรมของตัวเอง
มีน่าเข้ามาทักทายโคโคะที่กำลังจดบันทึกการเดินเรืออยู๋ แม้ตอนนี้จะไม่ได้ออกเรือแล้วก็ตาม
และก็ชวนกันไปดูหนังแนวนินเคียว (แนวๆวิถีลูกผู้ชาย, แก๊งยากูซ่า) ที่ทั้งคู่ชอบกัน
ที่มีน่าติดใจหนังแนวนี้เพราะว่าใน Lorelei no ototmetachi
ระหว่างเดินทางมาญี่ปุ่น ช่วงที่อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เลโอนา ลูกเรือที่คลั่งไคล้วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้แนะนำภาพยนตร์ให้ดูเพื่อที่จะได้ศึกษาภาษาญี่ปุ่น
แต่พอเปิดให้ดูมีเพียงมีน่าคนเดียวเท่านั้นที่เห็นว่าตัวหนังมันเท่มากๆเลยเป็นจุดเริ่ีมต้นของการใช้ภาษาแบบแปลกๆของมีน่า
ระหว่างนั้นเทอาก็เข้ามาบอกให้มีน่าไปประชุมหลังพักกลางวันด้วยภาษาเยอรมัน แล้วก็จ้องไปที่โคโคะสักพักก่อนจะเดินจากไปเงียบๆ
ด้านฮาเระคาเสะที่จมไปก็ถูกกู้ขึ้นมาแล้ว แต่ยังคงเสียหายหนักมาก
มีน่าเล่าเรื่องข่าวลือที่จะยุบชั้นเรียนฮาเระคาเสะให้โคโคะฟัง โคโคะเองก็ตกใจบวกกับผู้การเรียกไปพบหลังจากนี้ด้วยเลยกลัวว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง
มีน่าก็ได้แต่บอกให้ใจเย็นๆเพราะว่ายังไงเรื่องนี้คลี่คลายลงได้ก็เพราะการร่วมแรงร่วมใจกันของฮาเระคาเสะ ไม่น่าถูกยุบง่ายๆหรอก
มิเกะจัง ชิโระจัง โมกะจัง
ทั้ง 3 คนกำลังยุ่งอยู่กับการเขียนรายงานสำนึกผิดส่งทางโรงเรียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นตอนฝึกเดินเรืออยู่ที่ห้องสมุด
มิเกะจังซึ่งไม่ถนัดเขียนรายงานเลยสักนิดก็บ่นออกมาว่าไม่เข้าใจเลย โมกะจังเลยเสนอตัวว่าเอาไว้หลังจากของตัวเองเสร็จแล้วจะช่วย
ชิโระจังเองก็ไม่อยากให้โมกะสปอยผู้การของตัวเองมากนัก
โคโคะจังมาตามที่เรียกตัว และก็โล่งอกที่เรื่องที่คุยไม่ใช่การยุบชั้นเรียนแต่เป็นการวานให้เอาเอกสารคำสั่งจากโรงเรียนไปส่งให้ทุกคน
เมื่อพิจารณาที่ซองดีๆแล้วก็พบว่าเป็นซองปิดผนึกที่กำหนดวันที่และเวลาเปิดไว้ชัดเจนคือ
ห้ามเปิดก่อนวันที่ 13 มิ.ย. เวลา 9:00 น.
เมื่อเอาไปส่องกับแดดดูก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าพิมพ์อะไรไว้ เจ้าตัวก็เลยมโนว่าเพื่อป้องกันสปายที่แทรกซึมเข้ามา
ระหว่างที่กำลังมโนอยู่นั้นเอง พนักงานวิทยุสึกุจัง และพนักงานเรดาร์เมกุจังก็มาเจอเข้าพอดี
พอสึกุจังรู้เรื่องแล้วก็เลยอาสาช่วยแจกด้วยเพราะว่าตัวเองเป็นคนโยโกสุกะอยู่แล้ว หลังจากนี้ก็กำลังจะพาเมกุจังไปเดินเที่ยวอยู่พอดี
จากนั้นก็ทำการส่งเมล์หาทุกคนให้ช่วยบอกว่าอยู่ที่ไหนกันบ้าง
ที่แรกที่จะไปกันก็คือร้านมาจองอิริฟุเนะซึ่งอยู่ชั้น 3-4 ของตึกซาคาคุระ
พวกกลุ่มช่างกลเรือไปเล่นมาจอง (ไพ่นกกระจอกกันอยู่)
ในครั้งนี้ OVA เลยจับเอาความเอ๋อของลูนะมาเล่นเน้นๆ เพราะในมังงะถือเป็นตัวโจ๊กหลักเลย
ตั้งแต่มือไม่ครบ เขาต้องมีไพ่กันคนละ 13 ตัว ลูนะทำอีท่าไหนไม่รู้มีแค่ 12 แถมยังจะประกาศปงทั้งๆที่มือไม่ครบอีก
สุดท้ายแล้วกลายว่าแพ้ทุกตาจนโดนดีดหน้าผากระบม
วีรกรรมติงต๊องก่อนเข้าเรียนของลูนะ
- เกือบไม่ได้เข้าเรียนเพราะว่าสอบไม่ติด
- หลังจากที่หาเลขที่ของตัวเองบนบอร์ดไม่เจอก็เสียใจมากเลยบอกว่าจะไปเกิดใหม่เป็นปลาแล้วก็ไปกระโดดน้ำทะเล แต่ลืมไปว่าช่วงนั้นมันหน้าหนาวน้ำเย็นเฉียบก็เลยต้องตะโกนขอร้องให้คนมาช่วย
- มารู้อีกทีว่าโรงเรียนมีรายชื่อสำรองอยู่ พอไปตรวจดูก็พบว่าตัวเองติดสำรองจริงๆ และเป็นลำดับแรกของตัวสำรองด้วย สุดท้ายแล้วก็สามารถเข้าเรียนได้เพราะโชคดีที่ตัวจริงมีคนสละสิทธิ์ไป
พวกโคโคะมาหากลุ่มช่างกลได้เพราะมีเพียงเรโอะคนเดียวที่รู้ว่ามีเมล์เข้าเลยตอบไปว่าอยู่ที่ไหน
พอได้คำสั่งมาแล้วลูนะยังคงแสดงความติงต๊องต่อเนื่องจะแกะซองทันทีเลยไม่ได้อ่านก่อนว่าเขาให้เปิดตอนไหนเลยโดนโคโคะดุเข้า
สึกุจังเห็นว่ามารอนและคุโระจังไม่อยู่ เนื่องจากทั้งสองคนนัดไปฝึกกัน (ฝึกการซ่อมเครื่องกล)
เรโอะเลยอาสารับฝากไปให้เพราะว่าตอนเย็นนัดกินข้าวกันอยู่แล้ว
และบังเอิญมิคังเอาชาขึ้นมาเสริฟพอดีเลยรู้ว่า มิคัง และพี่น้องคิเนซากิมาทำขนมขายที่ร้านของญาติซึ่งอยู่ตึกนี้พอดี
พี่น้องคิเนซากิลองทำเอแคลร์ดูแล้วก็ให้พวกโคโคะจังลองชิม
แต่มีเพียงเมกุจังเท่านั้นที่พะอืดพะอมเนื่องจากว่าทั้งคู่ใส่อามะนัตโตะหรือถั่วเคลือบน้ำตาลเข้าไปด้วย
เพราะตามโปรไฟล์แล้วเธอไม่ถูกกับอามะนัตโตะครับ
(แต่น่าจะแค่ระดับที่ไม่ชอบเฉยๆไม่ถึงกับแพ้ถั่วไม่งั้นอาจจะเข้าโรงพยาบาลแล้ว)
แต่ด้วยความที่ไม่รู้ส่วนผสมก็เลยกินเข้าไปเต็มๆ
ตัวอย่างอามะนัตโตะ
ตัดไปทางเมทามะที่เพิ่งขึ้นจากออนเซ็น
สำหรับที่ต่อไป ยังไม่มีใครตอบเมล์มาเพิ่ม แต่โคโคะมีที่ซึ่งคิดในใจอยู่แล้ว และก็พบกับมัจจิที่ยืนอยู่บนเสาวิทยุบนภูเขาคินุกาสะ
สึกุจังบอกว่าที่นี่สัญญาณ(วิทยุ)ดีมาก
และบังเอิญได้เจออีก 3 คนคือมีมี่ที่ตามมาถ่ายรูปมัจจิ โมโมะก็วาดรูปมัจจิอยู่ ฮิเมะก็ต่อเรืออยู่
เสริมเรื่องวาดภาพของโมโมะจัง
จริงๆแล้วโมโมะจังมักจะวาดรูปอยู่บ่อยๆแล้วก็ชอบจับเอาคนใกล้ตัวมาเป็นตัวเอกในมังงะที่วาดครับ
ขนาดอิโซโรคุเธอยังเคยกะจะวาดมังงะให้เป็นตัวเอกมาแล้ว
ในมังงะ Peaceful Diary ตอนที่ 3
ก่อนที่จะเข้าเรียนที่โยโกสุกะเธออาศัยอยู่กับฮิเมะจังแค่สองคน รับทำงานฝีมือต่างๆ
ฮิเมะทำพวกงานช่างไม้ ทำของชิ้นใหญ่ๆ โมโมะทำงานฝีมือ เช่นงานเย็บปัก (คนที่ทำเสื้อฮัปปิให้มารอนก็คือโมโมะนี่แหละ)
เพราะงั้นที่ผ่านมาเลยวาดแต่มังงะโดยมีฮิเมะจังเป็นตัวเอกมาตลอด
ทางด้านฮิเมะจังเองก็บอกให้เลิกเอาตัวเองไปวาดสักที
แต่โมโมะจังก็ให้เหตุผลว่าถ้าวาดโดยมีตัวจริงเป็นต้นแบบมันวาดออกมาได้ง่ายกว่า
ทุกคนกำลังคุยกันว่าแล้วจากนี้ไปจะทำยังไงต่อ เรือก็ไม่มีให้ใช้แล้วแปลว่าเทอมหน้าอาจมีแค่ห้องนี้ที่ต้องอยู่บนฝั่ง
ในตอนนั้นเองมัจจิก็สังเกตเห็นว่ามีอู่ลอยมาเก็บฮาเระคาเสะเข้าไป
อธิบายเสริมที่มัจจิต้องคอยถอดแว่นเวลามองระยะไกลตลอดเพราะตามโปรไฟล์แล้วเป็นคนที่สายตาดีมาก
แต่เนื่องจากสายตายาวเวลาปกติที่ไม่ได้มองไกลๆเลยต้องใส่แว่นเอาไว้
นอกจากนี้ยังมีงานอดิเรกคือการดูดาว และชอบวิชาดาราศาสตร์เป็นพิเศษ
ใน Peaceful Diary ก็เคยอธิบายเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน
เกี่ยวกับอู่ลอย (Floating dock) จะมีประโยชน์ในการใช้ซ่อมเรือที่เสียหายโดยการที่เอาตัวอู่เข้าไปหาเรือเอง
แทนที่จะต้องลากจูงเรือไปเข้าอู่แห้ง ตัวอู่ลอยนั้นสามารถปรับให้จมหรือลอยก็ได้
เมื่อตัวอู่ครอบเรือที่จะซ่อมเสร็จแล้วก็จะทำการลอยขึ้นเพื่อให้หมอนรองที่อยู่ด้านล่างสามารถยกตัวเรือขึ้นมาจากน้ำได้
แล้วก็ทำการปล่อยน้ำออกให้หมด จากนั้นก็จะไม่ต่างอะไรจากการเอาเรือเข้าอู่แห้งครับ
ภาพจาก http://navy.81.cn/
เมื่อทั้ง 3 พากันไปดูที่ท่าเรือก็พบคุณมาริโคจิพร้อมกับชายที่น่าจะเป็นคนขับรถไม่ก็พ่อบ้านเรียกเธอว่าคุณหนู
โดยทั้ง 2 คนคุยกันว่าใกล้จะได้เวลากลับแล้ว แต่มาริโคจิบอกว่าขอเวลาอีกนิด ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวจะบอก
ทุกคนก็พอรู้อยู่ว่าเป็นคุณหนูแต่ไม่คาดคิดว่าจะสุดยอดขนาดนี้
มาริโคจิบอกว่ารู้ตัวว่าถูกทั้ง 3 คนแอบดูอยู่เลยบอกให้ออกมาได้
โคโคะจังได้ยินเรื่องที่คุยกันเมื่อกี้ว่าจะให้กลับนี่หมายความว่าอย่างไร
มาริโคจิเลยอธิบายให้ฟังว่าจริงๆแล้วก่อนหน้านี้ก็ถูกท่านพ่อเรียกตัวกลับไปหลายครั้งแล้ว
ตัดฉากมาที่เมทามะ ทั้งคู่นั่งโขกหมากรุกกันอยู่ ทามะจังโดนไล่ต้อนอยู่ฝ่ายเดียว
พวกโคโคะพักกินเบอร์เกอร์ที่ร้าน Navy Burger ระหว่างนั้นก็คุยกันว่าฮาเระคาเสะเข้าอู่ลอยไปแล้วอีกเดี๋ยวคงถูกจับแยกชิ้นส่วนแน่เลย
ในตอนนั้นเองทางคาโยะจังก็ตอบเมล์มาพอดี
พวกฝ่ายการอาวุธอยู่ที่ลานโบว์ลิ่ง
กลุ่มอาวุธใต้น้ำเล่นโบว์ลิ่งกันอยู่ คาโยะจังสามารถเก็บพินที่เหลืออยู่ทั้งซ้ายและขวาฝั่งละ 1 ตัวได้ในการโยนครั้งเดียว
สร้างความตกตะลึงให้กับพวกการปืนเป็นอย่างมาก