ลดน้ำหนักจาก 80 เหลือ 50 กิโล พิสูจน์แล้วอยู่ที่ไหนก็ลดได้ (ลดที่เยอรมนี) เผยทุกเคล็ดลับที่ใช้! เราทำได้คุณก็ได้

สวัสดีค่ะทุกท่านน ชื่อหมวยค่า ปัจจุบันอายุ 23 ปีค่ะ วันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยามดีที่จะมารีวิววิธีการลดน้ำหนักจาก 80 กิโลกรัม เหลือ 50 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 6-7 เดือน (ต้องบอกว่าเป็นการลดแบบยั่งยืนค่ะ เพราะว่าเคยลดแบบอดอาหารตอนมอปลายแล้วมันโยโย่ค่ะ) ที่บอกว่าฤกษ์งามยามดีเนื่องจากว่า เพิ่งเดินทางกลับจากเยอรมนีหลังจากได้ทุนไปแลกเปลี่ยนค่ะ ก็เลยแบบว่ามีเพื่อนๆหลายคนรีเควส ก็เพิ่งจะว่างได้เขียนนน ฝากขอโทษที่ทำให้รอด้วยค่า

โอเคค่าก่อนที่จะบอกวิธีและที่มาและทุกๆอย่างที่ใช้ในการลดน้ำหนัก เรามาดูรูปประกอบกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเราจะอ้วนขนาดไหน อ้วนเบอร์ไหน คือต้องบอกว่าหนัก 80 เนี่ยสูง 155 นะคะ 55555555555555555 ฉะนั้นหมายความว่าตอนนี้ก็ยังลดต่อไปค่า แต่ถ้าจะมารีวิวช้ากว่านี้เพื่อนจะด่า โดนทวงเช้าเย็น แล้วอีกอย่างหมวยรู้สึกว่ามันดีจริงๆนะคะ ลดได้เหมือนได้ชีวิตใหม่เลย แล้วลดที่เยอรมนีเลยนะคะทุกคนนนนน เมืองที่มีแต่ของอ้วน ร้านคลีนก็ไม่มี แต่หมวยพิศุจน์ให้แล้วนะคะว่าจะลดนำหนักอยู่ที่ใจเท่านั้นค่ะ อยู่ที่ไหนไม่สำคัญเลย




และเพื่อเป็นการยืนยันว่าลดน้ำหนักที่เยอรมนีจริงๆ คือได้ทุน Erasmus ไปแลกเปลี่ยนช่วงเดือน มีนา 2016- สิ้นเดือนกุมภา 2017 ค่ะนี่คือรูปตอนที่เราอยู่ที่เยอรมันแล้วนะ อันนี้เป็นช่วงที่มีงาน Frühlingsfest มันเป็นงาน Oktoberfest เวอร์ชันหน้าร้อนของที่มิวนิคค่ะ ช่วงปลายเดือนเมษาค่ะ แต่เราเริ่มลดจริงๆจังปลายเดือนกรกฏาคมค่ะ นี่คือรูปประกอบค่ะ




คือต้องบอกว่าเป็นช่วงที่อ้วนที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ อ้วนแบบมันกำลังจะพุ่งขึ้นอย่างเดียวแบบ It's gonna hit 100 kg! แล้วคือเราก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ (ปีนี้จะ24แล้วค่ะ) ถ้าจะลดช้ากว่านี้คงจะลดยากแล้ว คือแต่ต้องบอกว่าตอนแรกไม่ได้มีความคิดจะลดเลยนะคะ แมคนรอบข้างจะแบบลดเถิด แม่นี่ด่าเช้าเย็นค่ะ แบบไม่อยากสวยหรอ (คืออย่างที่บอกค่ะว่าช่วงนึงตอนมอปลายเคยลดได้จาก 57 เหลือ 44 แบบว่าผอมเลย หน้าหายหมวยเลยตาโตจมูกพุ่งจนคนทักว่าไปศัลยกรรมมาหรอ แต่ตอนนั้นลดผิดวิธีนะคะ อดอาหารมันโยโย่ค่ะ เจ๊งมาจนถึงปัจจุบันจนมันมาหนัก 80 นี่แหละค่ะ) ไม่แนะนำอดอาหารเลยนะคะ เพราะว่าพอจะมาลดใหม่เนี่ยตอนแรกๆยากมากกกกกกกกกก เหมือนระบบมันพังสะสมมานาน บวกกับนิสัยการกินที่แย่มานานแล้วด้วยสรุปคือพังพังพังค่ะ  อันนี้คือรูปตอนหนัก 44 ค่ะช่วงตอนมอ5 ค่ะ




โอเคค่ะ คือที่เมนชันไปถึงตอนที่หนักแค่ 44 สาเหตุคืออยากจะบอกว่าอย่าอดอาหารเด็ดขาดค่ะ มันโยโย่ระบบพังแล้วระยะยาวมันแย่มากๆค่ะ ลำบากมากกว่าจะฟื้นฟูได้ค่ะ ทีนี้เรามาดูภาพปัจจุบันกันดีกว่าค่าาาาาา จากเสื้อไซส์ XL ในวันนั้น วันนี้ใส่เสื้อ H&M ไซส์ XS ได้แล้วนะคะ จุดพลุค่าาาาา แต่อย่างไรก็ดีจะยังลดต่อไปนะคะ เป้าหมายคือจะกลับไป 44 เท่าเดิมแบบยั่งยืนไม่โยโย่ค่ะ ^^

แท่นแท้นนนนนนนนนน



ปล : รูปในลิฟต์หน้าสดนะคะ555555 แต่คือว่าหารูปช่วงที่เห็นช่วงตัวชัดๆไม่ได้เลย ที่ชั่งน้ำหนักแล้วหนัก 50 แน่ๆคือรูปนี้เลยค่ะ


โอเคค่ะหลังจากดู Before and After กันไปแล้วเราก็มาดูวิธีและระยะเวลาที่ใช้กันบ้างนะคะ จะพยายามเขียนให้ละเอียดเท่าที่จะทำได้ค่ะ

อันดับแรกเลยนะคะ อย่างที่หมวยบอกไปตอนต้นว่า การลดน้ำหนักมันอยู่ที่ใจมากๆนะคะ เพราะถ้าเราไม่ได้อยากจะลดจริงๆเนี่ย อะไรมาฉุดก็เอาไม่อยู่หรอกค่ะ พูดไปสิบล้านรอบก็เท่านั้นค่ะ ของเราทั้งแม่ทั้งญาติทั้งเพื่อนก็เอาไม่อยู่ค่ะ ลดๆแล้วก็แตกค่ะ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราอยากบอกว่ามันสำคัญมากที่สุดเลยนะคะ คือการหา motivation ในการลดน้ำหนักค่ะ เพราะมนุษย์ถือเป็นสัตว์ชนิดนึงที่มีเหตุผลค่ะ เพราะฉะนั้นเวลาเราทำอะไรสักพักเราจะเริ่มตั้งคำถามว่า เราทำอะไรอยู่ ทำทำไม และทำไปเพื่ออะไร ถ้า motivation หรือว่าแรงกระตุ้น แรงผลักดันของเรามีไม่มากพอมันก็ค่อนข้างยากที่เราจะ reach the goal ได้ค่ะ ทีนี้ก็หลังจากที่หมวยสามารถหา motivation และ inspiration ที่สตรองได้แล้วคราวนี้เราก็มากันที่ขั้นตอนต่อไปเลยค่ะ


ขั้นตอนที่สอง อย่าใจร้อนค่ะ อย่าเพิ่งแบบโอ้ยชั้นต้องออกกำลังกาย ต้องลดอาหารนั่นนี่ อันนี้อาจจะโอเคสำหรับคนที่อยากลดแค่แบบ 2-3 กิโลหรือแบบลดนิดๆหน่อยๆอะไรแบบนี้ค่ะ แต่คนที่ต้องลดเยอะๆแบบหมวย แบบ 10,20,30 กิโลเนี่ยยย สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จและยั่งยืนในระยะยาว อย่างที่หมวยบอกคือใจ และนิสัยการกินค่ะ ก่อนจะเริ่มลดลองถามตัวเอง ลองสำรวจตัวเองถึงปัญหาและต้นตอที่เราอ้วนก่อนค่ะ  สำคัญมากๆนะคะ เพราะแต่ละคนเนี่ยจะลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน จะก้อปปี้วิธีของคนอื่นมาเลยหมวยบอกเลยนะคะ ว่ามันไม่เวิร์คหรอกกก เพราะคนเรามันไม่เหมือนกันค่ะ เราต้องถามตัวเองว่าทำไมเราถึงอ้วน เรากินเยอะ? กินจุบจิบ? ไม่ออกกำลังกาย? ชอบกินแต่ของมันๆ ของหวาน ของทอด บลาๆนานาสาเหตุค่ะ อย่างกรณีหมวยหมวยพบว่าเป็นคนกินไม่เยอะ แต่กินจุบจิบค่ะ กินขนม กินไอติม กินน้ำอัดลม คุกกี้นี่ของชอบมากกกกกก เบเกอร์รี่ แล้วของพวกนี้อ้วนมากๆค่ะ ประจบกับหมวยเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกายด้วย อีกทั้งพออ้วนก็เหนื่อยง่ายก็ไม่ค่อยอยากจะออกกำลังกาย ทีนี้สิ่งที่หมวยทำคือต้องปรับนิสัยการกินที่จะทำให้เราอ้วนค่ะ อย่างที่บอกหมวยชอบกินขนม หมวยก็ปรับเลยค่ะ กินน้อยลงค่อยๆลด จนเปลี่ยนเป็นซอยมื้อจนอิ่มตลอด ทำให้ไม่อยากกินขนม หรือเปลี่ยนเป็นกินอย่างอื่น ค่อนข้างยากมากนะคะช่วงนี้ ต้องใช้เวลานานสักนิดนะคะ ค่อยๆทำไปค่ะ ไม่ได้ก็ลองใหม่ แต่อย่าอดจนทรมานนะคะ เน้นเป็นการค่อยๆปรับลดดีกว่าค่ะ บอกเลยว่าหมวยใช้เวลาเป็นเดือนนะคะ กว่าจะมาลดจริงๆจัง ในการปรับนิสัยการกินและทำให้ตัวเองยอมรับการลดน้ำหนักได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่เฝ้ารอวันชีทที่จะกินๆๆๆๆๆ เพราะสักวันคุณจะตบะแตกแน่นอนค่ะ (เราลองมาแล้วค่า5555555555555555555)


ขั้นตอนที่สามก็คือขั้นตอนการลดน้ำหนักแล้วค่า
ใครขยันก็แนะนำทำอาหารเองเลยค่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นหมวยอยู่เยอรมันตอนนั้น ต้องทำอาหารเองอยู่แล้วเพราะประหยัดด้วยแล้วก็ลดน้ำหนักด้วยค่ะ เพราะอาหารคลีนอะไรไม่มีค่ะ 0% อะไรไม่มีทั้งนั้นค่ะ เพื่อนก็ชวนกินแต่เบียร์ กินchipงี้ pretzel งี้อื้อหืออออ้วนหมดค่ะ
แนะนำทำอาหารทานเองค่ะ ดีไซนืเมนูตามอาหารที่ชอบเลยค่ะ คือเราไม่อยากให้ก็อปอาหารที่เรากิน เพราะแต่ละคนชอบอะไรไม่เหมือนกัน อย่างเราเรายกตัวอย่างนะคะ เป็นคนที่เคยชอบกินพิซซ่ามากค่ะ เราทำไงเราอยากผอมแต่ก็อยากมีความสุขด้วย เราไปซื้อแป้งตอติย่ามา เช็คแคลค่ะโอเคแผ่นละ 100 แคล ใส่ชีทแผ่นไขมันต่ำ 60 แคล โอเคใส่ทูน่า 3ช้อน เกลี่ยๆ 40 แคล กุ้งนิดนึงหั่นๆ สัก 30 แคล (คำนวนจากแคลที่ผลิตภัณฑ์เลยค่ะ) ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนคงสัก 10 แคล สับประรด2ช้อนเอามาหั่นๆให้เล็ก น่าจะสัก 40 แคล ทำไงเอาแป้งวางบนกระทะทาซอสใส่ปลาใส่สับประรด รอยชีทปิดท้ายแล้วฝาปิดกระทะ รอชีทละลายเอามีทหั่น อร้อยแล้วค่ะ แบ่งทานได้ด้วยตอบโจทยนิสัยการกินของหมวยอีกต่างหาก หมวยเคยมีรูปแนบมาประกอบด้วยค่ะ เผื่อใครเอาไปทำตามหมวยก็ยินดีนะคะ เห็นไหมคะได้พิซซ่า 240 แคลแล้วค่ะ น้ำก็แนะนำน้ำเปล่านะคะ แต่อยู่ที่ไทยทางเลือกเยอะมาก มีน้ำอร่อยๆคลีนๆให้ดื่มเยอะมากกกกกกก แต่ตอนนั้นหมวยดื่มน้ำแบบมีก๊าซค่ะอยู่ที่นั่นติดน้ำก๊าซ มันเลยทำให้อิ่มด้วยมั้งคะ แนบรูปมาประกอบค่า555555



ท่านไหนชอบลองเอาไปทำตามได้นะคะ อร่อยและไม่อ้วน โซเดียมต่ำด้วยค่ะบอกเลย จริงๆหมวยมีเมนูครีเอทๆเยอะนะคะ แต่คงลงหมดไม่ไหวแต่ว่ามีสร้างเพจใน facebook ไว้แล้วค่ะอยากเป็นกำลังใจให้หลายๆคนที่กำลังลดน้ำหนักแชร์เทคนิคการออกกำลังกาย และเมนูแจ่มๆ เดี๋ยวยังไงจะฝากเพจให้ท่านที่สนใจติดตามไว้ท้ายกระทุ้นะคะ


ขั้นตอนต่อไป มีอาหารแล้วก็ต้องมีการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยค่ะ เพื่อความยั่งยืนนะคะ เพราะเราจะไม่อดอาหารเด็ดขาดนะคะทุกคน แป้งห้ามงดเลยนะคะะะะะ บอกเลยยยยยยย พอดีว่าบ้านเราอยู่ข้างสวนสาธารณะใหญ่มาก (Olympia Park) เราเลยไม่ได้ไปสมัครฟิตเนสที่โน่น เลยวิ่งค่ะ วิ่งทุกวัน แต่ต้องบอกว่าช่วงแรกที่น้ำหนักยังเยอะอยู่ใช้วิธีการดูคลิป work out ในยูทูปค่ะจนเหลือราวๆ 75 เลยออกไปวิ่งแต่คือ(แมร่ง)ทรมานมากค่าาาาา แบบคนอ้วนอะค่ะ เหนื่อยมาก วิ่งแรกๆคือแบบไม่อยากวิ่งแล้วโว้ยยย เมื่อไหร่จะผอมซะที นี่แหละค่ะหมวยถึงบอกว่าข้อ1 มันสำคัญมากกกกกกก ถ้า motivation เราสตรองไม่พอรับรองค่ะ ไม่มีทางไปรอดเลย เพราะอ้วนมากๆบอกเลยว่าอะไรก็ลำบากค่ะ แต่สิ่งนึงที่โชคดีคือตอนที่หมวยลดน้ำหนักมันอยู่หน้าร้อนที่โน่นพอดี ซึ่งอากาศโอเคค่ะ เลยวิ่งทุกวัน วิ่งวันละ 4-8 กิโลเมตรค่ะแล้วแต่วัน แล้วก็กลับมากระโดดเชือก (ล่องหน) คือกระโดดแบบสมมติว่ามีเชือกค่ะ แล้วก็กระโดดตบ อันนี้แล้วแต่ไหวค่ะประมาณ 1000-5000 ครั้งแล้วแต่ค่ะ ทีนี้ก็พยายามมีวินัยมีการเวทไปด้วยแต่ไม่เยอะนะคะ หมวยยกขวดน้ำเอา แล้วก็มีเวทตามในยูทูป หาในอินเตอร์เน็ต แต่ไม่ได้แบบว่าเคร่งมากนะคะ แต่พยายามเวทไปด้วยเฉยๆ เพราะกลัวเรื่องหนังเหี่ยวมากกกก แต่โชคดีมากๆค่ะไม่มีปัญหาเลย หมวยว่าถ้าปล่อยไปอีกนิดเริ่มเสี่ยงแล้วล่ะค่ะ TT เพื่อนๆคนไหนน้ำหนักเยอะๆแล้ว รีบลดเถอะนะคะเพื่อสุขภาพของเราเอง พอมันผอมลงสุขภาพมันดีขึ้นมากๆจริงๆนะคะ ชีวิตใหม่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอช่วงหลังที่เป็นหน้าหนาวหิมะตก หมวยก็ยังออกมาวิ่งนะคะ อาจจะไม่บ่อยแต่ก็พยายามวิ่งสม่ำเสมอ แล้วพบว่าสุขภาพเราดีขึ้นมากกกกกกกก ดีใจมากๆค่ะ คืออยากบอกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องบุคลิกภาพนะคะ แต่มันเพื่อสุขภาพของเราด้วยนะคะ

หมวยแนบรูปประกอบไว้บ้างค่ะ เท่าที่ยังเหลือๆค่ะ



อากาศลบ7 เราก็ไม่หวั่นค่ะ5555555555 มือถือดับก่อนวิ่งครบด้วยค่ะ

ขั้นตอนสุดท้าย มี cheat meal ให้ร่างกายได้สดชื่นบ้างค่ะ แบบว่านานๆที 2weekครั้งก็ได้ค่ะ คืออย่างหมวยเนี่ยกินจนชินก็ไม่ได้อยากกินอะไรพิเศษมากนักหรือบ่อยนัก แต่ว่าถ้าไม่มีเลยมันไม่ดีนะคะ ร่างกายจะจำว่าเราทานน้อยและจะปรับตัวลดการเผาผลาญ ฉะนั้นการมี cheat meal ที่คอยกระตุ้นระบบนั้นดีกว่าไม่มีมากๆนะคะ หมวยเคยลองแบบช่วงแรกที่ชินกับนิสัยการกินที่ปรับมา ก็เลยไม่มีชีทเลย กับตอนหลังมาศึกษาแล้วลองมี cheat meal มันดีกว่าจริงๆค่ะ อันนี้รับรองเลย แต่ว่าจะ day ก็ได้นะคะแต่คุมแคลนิดนึงไม่เกิน 1800 ค่ะ

สุดท้ายหมวยก็ใช้เวลาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม2016ถึงสิ้นเดือนกุมภา2017 ลดน้ำหนักจาก 80 กิโลเหลือ 50 กิโลได้สำเร็จค่ะ แน่นอนว่าระหว่างนั้นก็มี cheat meal มีไปเที่ยวไม่ได้ทานอาหารลดน้ำหนักตลอดเวลานะคะ ข้อสำคัญมากที่อยากบอกคือ อย่าอดนะคะ มันลดเร็วแต่ระบบพังมากค่ะ และส่งผลเสียต่อร่างกายมหาศาลในระยะยาวนะคะ ใช้ความอดทนและวินัยดีกว่าค่ะ ยั่งยืนกว่ามากๆค่ะ เชื่อหมวยนะคะ ลองมาแล้วโยโย่มาแล้วค่ะ

สุดท้ายจริงๆแล้วค่ะ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ เป็นเทคนิคเป็นแรงบันดาลใจดีๆให้กับคนที่กำลังจะลด อยากจะลดน้ำหนักนะคะ หมวยทำได้ทุกคนก็ทำได้ค่ะะะ ตีแผ่ขนาดนี้แล้ว สู้ๆนะคะ อ่ออออแล้วก็หมวยมีทำเพจ facebook ค่ะตั้งใจมากว่าอยากจะแชร์อะไรดีๆ แชร์เมนูอาหารที่หมวยกินทั้งหมด วิธีออกกำลังกายที่มันเป็นเทคนิคต่างๆ คือมันลงพันทิพไม่ไหวจริงๆค่ะ เลยสร้างเพจไว้ใครสนใจก็กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จะอัพเดทเรื่อยๆแน่นอนค่าาาา ชื่อเพจคือ Goodbye my overweight ค่ะ https://www.facebook.com/goodbyemyoverweight/?fref=ts

ก่อนจากกันไป มาดู Before Vs After กันค่ะ ผอมแล้วเนี่ยออกจากบ้านหน้าสดก็ไม่กลัวนะคะ5555555555555




ขอบคุณทุกๆคนมากๆที่อ่านมาจนจบนะคะ อมยิ้ม17
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่