ก่อนอื่นต้องขอเกิ่นก่อนคะ เราทำโครงการจัดสรรเกี่ยวกับอาคารพาณิชย์อย่างเดียวเลย เปิดขายมาก็สักปีสองปีได้ค่ะ ยอดขายก็โอเคนะ 80% พอดีช่วงนั้นเศรษฐกิจมันดี ทุกวันนี้โครงการก็สร้างเกือบเสร็จเเล้วค่ะ เหลือโซนที่เปิดขายหลังๆ ที่ยังไม่เรียบร้อย ส่วนโซนติดถนนสาธารณะขายหมดเรียบ ประมาณ 60 ยูนิตค่ะ โซนด้านใน ในส่วนของถนนโครงการเองก็ 140 ยูนิตได้ค่ะ ขายไปประมาณ 60% พอดีเราขายไม่เเพง ถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกันนะค่ะ

ปัญหาที่เจอก็คือลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าเกร็งกำไร พากันมาซื้อเป็นกลุ่มๆ คนนึง สองห้องบ้าง สี่ห้องบ้าง ซึ่งพวกเค้าก็ไม่เปิดกิจการอะไรเลย (ตึกด้านนอก 60 ยูนิต มีเปิดร้านเเค่ 10 ห้องเองค่ะ ที่เหลือติดป้ายขายต่อกับปล่อยไว้เฉยๆ ส่วนด้านในมีเปิดร้านอยู่ 4-5 ร้านค่ะ) พอตึกด้านนอกมันเงียบ ข้างในไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ คือพยายามจะหาคนเช่าให้ก็เเล้ว เค้าก็ไม่เอาด้วย ไม่ก็เรียกค่าเช่าเเพงมาก หนักใจมากค่ะเพราะสงสารลูกค้าที่ซื้อตึกด้านในไว้เเล้วอยากเริ่มธุรกิจของตัวเอง เเต่ข้างนอกยังเงียบเลย ข้างในเค้าก็ไม่กล้าขยับกัน ทุกวันนี้จะเหมือนโครงการร้างอยู่เเล้วค่ะ

คือเราคิดว่าถ้าช่วยๆ กันเปิดกิจการ ขายของ ขายอาหาร หรืออะไรก็ตาม มูลค่าของที่ดินเเละทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นไวกว่า ทำให้มันเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีสีสรร เเต่ทุกวันนี้เงียบมากค่ะ ท้อเเท้มากค่ะ

อยากจะขอความคิดเห็นจากทุกๆ คน (มีประสบการณ์ ไม่มีประสบการณ์ได้หมดนะค่ะ) ว่าถ้าคุณเจออะไรเเบบนี้ คุณจะเเก้ปัญหายังไงดี จะไปคุยกับลูกค้าเป็นรายๆ ไป (เเต่ก็ไม่ค่อยมีใครฟังเรา) หรือเราควรจะทำอะไรด้วยตัวเองดีค่ะ